ยา Clopidogrel (โคลพิโดเกรล) เป็นยาต้านเกล็ดเลือด (Antiplatelet drug) ซึ่งจะออกฤทธิ์ยับยั้งไม่ให้เกล็ดเลือดจับตัวกัน และป้องกันไม่ให้ก่อตัวเป็นลิ่มเลือดที่อันตรายต่อร่างกาย ทำให้เลือดไหลเวียนไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายได้อย่างคล่องตัว ใช้สำหรับป้องกันโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด และป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ (เพิ่งมีอาการกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด) เพิ่งเป็นโรคหลอดเลือดสมอง หรือเป็นโรคเกี่ยวกับการไหลเวียนเลือด (โรคของหลอดเลือดส่วนปลาย หรือ Peripheral vascular disease)
สารบัญ
สรรพคุณของยา Clopidogrel
การใช้ยา Clopidogrel อย่างถูกต้องและต่อเนื่อง สามารถช่วยรักษาและลดความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ป้องกันการเกิดลิ่มเลือด: ใช้ในการป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในผู้ป่วยที่มีภาวะหลอดเลือดหัวใจอุดตัน เช่น โรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หลอดเลือดหัวใจตีบ และกล้ามเนื้อหัวใจตาย
- ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดสมอง: ใช้เพื่อป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน และภาวะสมองขาดเลือดชั่วคราว
- ใช้ร่วมกับการรักษาอื่นๆ: สามารถใช้ร่วมกับยาต้านเกล็ดเลือด เช่น แอสไพริน ในการป้องกันการเกิดลิ่มเลือดหลังการผ่าตัดเปิดหลอดเลือดหัวใจ หรือหลังการใส่ขดลวดในหลอดเลือดหัวใจ
ยา Clopidogrel สามารถใช้ร่วมกับยา Aspirin เพื่อรักษาอาการเจ็บหน้าอกที่เกิดขึ้นใหม่ หรืออาการเจ็บหน้าอกที่แย่ลงจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด หรือจากอาการเจ็บหน้าอกแบบ Unstable angina และช่วยให้หลอดเลือดมีการไหลเวียนที่ดี ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตันภายหลังการรักษาด้วยวิธีการทางการแพทย์ เช่น การใส่ขดลวดเพื่อขยายหลอดเลือดหัวใจ (Cardiac stent)
กลไกการออกฤทธิ์ของยา Clopidogrel
กลไกการออกฤทธิ์ของยาคือ โคลพิโดเกรล เป็นยาในกลุ่มต้านการแข็งตัวของเลือด โคลพิโดเกรลยับยั้งอะดีโนซีน ไดฟอสเฟต (adenosine diphosphate) ในการจับกับตัวรับเกร็ดเลือด P2Y12 อย่างจำเพาะรวมไปถึงตัวกระตุ้นการแข็งตัวของเลือดอื่นอันเป็นผลมาจากไกลโคโปรตีนคอมเพลกซ์ (glycoproteincomplex) ชนิด GPIIb/IIIa ส่งผลให้เกิดการลดการเกาะกลุ่มกันของเกร็ดเลือด
วิธีใช้ยา Clopidogrel
การใช้ยานี้ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
วิธีการรับประทาน
- รับประทานยาตามปริมาณที่แพทย์สั่ง โดยทั่วไปคือ วันละ 1 ครั้ง
- สามารถรับประทานพร้อมอาหารหรือท้องว่างก็ได้
- รับประทานยาพร้อมน้ำเปล่า ห้ามบดหรือเคี้ยวยา
ปริมาณการใช้ยา
- ปริมาณยาที่ใช้โดยทั่วไปคือ 75 มก.ต่อวัน
- ในบางกรณี เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบเฉียบพลัน อาจเริ่มด้วยขนาดยา 300 มก. (โหลดโดส) ในวันแรก และตามด้วยขนาด 75 มก.ต่อวัน
สิ่งที่ควรทำระหว่างใช้ยาและสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
- ใช้ยาต่อเนื่องตามที่แพทย์กำหนด แม้จะไม่มีอาการผิดปกติ
- หลีกเลี่ยงการหยุดยาเองโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือด
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ในระหว่างที่ใช้ยา เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดเลือดออกในกระเพาะอาหาร
- หลีกเลี่ยงยาหรือผลิตภัณฑ์ที่อาจรบกวนการทำงานของเกล็ดเลือด เช่น ยา NSAIDs หรือ Aspirin (ยกเว้นกรณีที่แพทย์แนะนำให้ใช้ร่วมกัน)
- ห้ามหยุดยาด้วยตัวเอง โดยเฉพาะในผู้ที่เคยมีประวัติหลอดเลือดอุดตัน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ
ผลข้างเคียงของยา Clopidogrel
- อาการข้างเคียงที่อาจเกิดจากการใช้ยา Clopidogrel ได้แก่ เลือดออกง่าย ผิวหนังช้ำง่าย ปวดท้อง ท้องเสีย และท้องผูก ถ้าอาการเหล่านี้ไม่ดีขึ้น หรือมีอาการแย่ลง ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที
- โปรดจำไว้ว่า การที่แพทย์สั่งยานี้ให้กับคุณ เพราะว่าแพทย์ได้ประเมินแล้วว่าคุณจะได้รับประโยชน์จากยานี้มากกว่าความเสี่ยงต่อการเกิดอาการข้างเคียง ผู้ป่วยหลายรายที่ใช้ยานี้ไม่เกิดอาการข้างเคียงร้ายแรงจากยา
- ปฏิกิริยาการแพ้ยานี้ เป็นเรื่องที่พบได้น้อย อย่างไรก็ตามถ้าเกิดอาการใดๆ ของการแพ้ยาให้รีบไปพบแพทย์ทันที ได้แก่ ผื่น คัน/บวม (โดยเฉพาะที่หน้า ลิ้น คอ) เวียนศีรษะรุนแรง หายใจลำบาก
- อาการข้างเคียงที่กล่าวไว้ข้างต้นไม่ใช่อาการข้างเคียงทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นถ้าคุณมีอาการผิดปกติใดๆ ที่ไม่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
อาจเกิดภาวะเลือดออกอย่างร้ายแรงในกระเพาะอาหาร ลำไส้ ตา หรือสมองได้ แม้ว่าจะพบได้น้อยก็ตาม และยังอาจทำให้เกิดโรคเลือดอย่างร้ายแรงได้เช่นกัน (Thrombotic thrombocytopenic purpura-TTP) ซึ่งอาการข้างเคียงเหล่านี้อาจเกิดขึ้นตอนไหนก็ได้หลังจากเริ่มใช้ยาไปแล้ว
หากเกิดอาการใดๆ ดังต่อไปนี้ให้รีบไปพบแพทย์ทันที ได้แก่
- ปวดท้องอย่างรุนแรง
- เลือดออกไม่หยุดจากเหงือก หรือจมูก
- มีเลือดในอุจจาระ อุจจาระมีสีดำ
- มีอาการสับสน
- มีไข้
- ผิวหนังซีดมาก
- มีจ้ำสีม่วงบนผิวหนัง
- หน้ามืด เป็นลม
- หัวใจเต้นเร็ว
- ปวดศีรษะเฉียบพลันอย่างรุนแรง
- อ่อนแรง อ่อนเพลียผิดปกติ
- อาเจียนปนเลือด หรืออาเจียนมีลักษณะคล้ายกากกาแฟ
- พูดไม่ชัด
- การมองเห็นผิดปกติ
- มีอาการชัก
- ตัวเหลือง ตาเหลือง
- มีเลือดในปัสสาวะ ปัสสาวะมีสีชมพู สีแดง หรือมีสีเข้ม
- มีอาการของปัญหาที่ไต เช่น ปริมาณปัสสาวะเปลี่ยนแปลงไป
ข้อควรระวังในการใช้ยา Clopidogrel
- ถ้าคุณแพ้ยา Clopidogrel หรือแพ้ยาต้านเกล็ดเลือดรายการอื่นที่คล้ายๆ กัน เช่น Prasugrel หรือแพ้สิ่งอื่นๆ ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนได้รับยานี้ ผลิตภัณฑ์ยานี้อาจประกอบด้วยสารไม่ออกฤทธิ์อื่นซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการแพ้หรือปัญหาอื่นได้ ให้ปรึกษาเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
- เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดแผล การเกิดรอยช้ำ หรือการบาดเจ็บ คุณต้องระวัดระวังการใช้ของมีคม เช่น มีดโกนหนวด และกรรไกรตัดเล็บ และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เสี่ยงต่ออันตราย เช่น กีฬาที่ต้องมีการกระทบกระทั่งกัน
- ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ให้แจ้งแพทย์หรือทันตแพทย์ทราบเกี่ยวกับรายการยา อาหารเสริม และสมุนไพรทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่ ซึ่งแพทย์อาจให้คุณหยุดการใช้ยา Clopidogrel เป็นเวลาอย่างน้อย 5 วันก่อนการผ่าตัด ห้ามหยุดยาเองโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์โรคหัวใจ (Cardiologist)
- ยา Clopidogrel อาจทำให้เกิดเลือดออกในกระเพาะอาหาร การดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างใช้ยานี้อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเลือดออกในกระเพาะอาหารได้ จึงต้องจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ และให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับปริมาณแอลกอฮอล์ที่คุณอาจดื่มได้อย่างปลอดภัย
- ระหว่างการตั้งครรภ์ ยานี้ควรใช้เฉพาะในกรณีที่ประเมินแล้วว่ามีความจำเป็นจริงๆ โดยให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ที่จะได้รับจากยานี้ขณะตั้งครรภ์
- ยังไม่ทราบว่ายา Clopidogrel ผ่านไปยังน้ำนมหรือไม่ ดังนั้นให้ปรึกษาแพทย์ก่อนการให้นมบุตร
ก่อนการใช้ยา Clopidogrel ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ
การได้รับยา Clopidogrel เกินขนาด
หากมีใครก็ตามที่ได้รับยา Clopidogrel เกินขนาด จนทำให้เกิดอาการที่ร้ายแรง เช่น หมดสติ หรือหายใจลำบาก ให้รีบเรียกรถพยาบาลทันที โทร 1669
หมายเหตุ: ห้ามแบ่งยานี้ให้ผู้อื่นใช้, อาจต้องมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการ และ/หรือ การตรวจทางการแพทย์ เช่น การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด เป็นระยะๆ เพื่อติดตามอาการของโรคและผลข้างเคียงจากยา ให้ปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
หากลืมรับประทานยา Clopidogrel
- ถ้าคุณลืมรับประทานยานี้ ให้รับประทานทันทีที่นึกได้
- หากนึกได้เมื่อใกล้กับเวลาของมื้อถัดไป ให้ข้ามมื้อที่ลืมไป และรับประทานมื้อถัดไปตามปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า
ข้อมูลเพิ่มเติม
การใช้ยา Clopidogrel ร่วมกับยาอื่น
การเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา (Drug interactions) อาจเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยาหรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงร้ายแรง ข้อมูลที่ระบุนี้ไม่ได้ครอบคลุมการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งหมด ดังนั้นคุณต้องแจ้งแพทย์และเภสัชกรทราบทุกครั้งว่าคุณกำลังรับประทานยา อาหารเสริม สมุนไพร ใดอยู่ในขณะนี้ อย่าเริ่มยา หยุดยา หรือเปลี่ยนแปลงขนาดยาต่างๆ เอง โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์
รายการยาที่อาจเกิดปฏิกิริยากับยา Clopidogrel
- Tipranavir
- Selexipag
- Alipogene tiparvovec
- Pioglitazone, Rosiglitazone
- Mifepristone
- ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น Betrixaban, Edoxaban, Apixaban, Rivaroxaban, Dabigatran, Heparins
- Dabrafenib
- Enzalutamide
- Tipranavir
- Armodafinil, Modafinil
- Cangrelor
- Isoniazid
- Paclitaxel
- Treprostinil
- Drotrecogin
- Oseltamivir
- Loperamide
- Lepirudin
- Eptifibatide
- ยาในกลุ่ม SSRIs, SNRIs บางรายการ
ยาอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการกำจัดยา Clopidogrel ออกจากร่างกาย อาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา Clopidogrel ได้ เช่น
- ยาลดการผลิตกรดในกระเพาะอาหารในกลุ่ม Proton pump inhibitors เช่น Omeprazole, Esomeprazole
- Fluvoxamine
- Fluoxetine
- Cimetidine
- Fluconazole, Ketoconazole, Voriconazole
- Etravirine
- Felbamate
- Ticlopidine
หากคุณกำลังรับประทานยา Aspirin อยู่ก่อนแล้ว และจะต้องเริ่มใช้ยา Clopidogrel สำหรับรักษาโรคใดๆ ก็ตาม ให้รีบปรึกษาแพทย์ทันทีว่าคุณจะต้องหยุดยา Aspirin หรือไม่ หรือให้รับประทานควบคู่กัน เนื่องจากยา Aspirin และยา Clopidogrel อาจใช้ร่วมกันภายหลังการใส่ขดลวดในหลอดเลือดหัวใจ หรือในโรคหัวใจบางชนิด ทั้งนี้ถ้าคุณไม่ได้ใช้ยา Aspirin อยู่ก่อน ให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มใช้ยา Aspirin ไม่ว่าจะใช้สำหรับรักษาโรคใดๆ ก็ตาม
ยา Clopidogrel อาจทำให้การกำจัดยาอื่นออกจากร่างกายได้ช้าลง ซึ่งส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยาเหล่านั้น เช่น ยา Dasabuvir, Repaglinide
ก่อนการใช้ยาใดๆ ให้อ่านฉลากยาอย่างละเอียด เพราะยาหลายๆ ชนิดอาจประกอบด้วยยาแก้ปวด ลดไข้ ในกลุ่มยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น Ibuprofen, Naproxen หรือ Aspirin ซึ่งยาเหล่านี้อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเลือดออก หรือเพิ่มฤทธิ์การต้านเกล็ดเลือด เมื่อใช้ร่วมกับยา Clopidogrel ดังนั้นให้ปรึกษาเภสัชกรเกี่ยวกับการใช้ยาเหล่านี้อย่างปลอดภัย
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงขณะใช้ยา Clopidogrel คือ ผลไม้เกรฟฟรุ๊ต (Grapefruit) หรือน้ำเกรฟฟรุ๊ต ยกเว้นแพทย์ให้คำแนะนำเป็นอย่างอื่น เพราะเกรฟฟรุ๊ตอาจลดปริมาณยา Clopidogrel ในรูปที่สามารถออกฤทธิ์ได้ลง ซึ่งอาจทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ไม่ดี จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการรับประทานผลไม้หรือน้ำจากผลไม้เกรฟฟรุ๊ต และให้เลือกรับประทานน้ำผลไม้อื่นแทน เช่น น้ำส้ม
ในกรณีที่แพทย์ เภสัชกร หรือนักโภชนาการ แนะนำให้คุณรับประทานเกรฟฟรุ๊ต หรือน้ำผลไม้เกรฟฟรุ๊ต คุณควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับผลที่เกิดขึ้นจากการรับประทานเกรฟฟรุ๊ตร่วมกับยา Clopidogrel ซึ่งผลที่เกิดขึ้นสามารถเกิดขึ้นได้แม้ไม่ได้รับประทานเกรฟฟรุ๊ตในเวลาเดียวกันกับยา Clopidogrel