ผงชูรสหรือ Monosodium glutamate (MSG) เป็นเครื่องปรุงที่ช่วยเพิ่มความกลมกล่อมของรสชาติอาหาร จริง ๆ แล้วสามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย เพียงแต่ต้องอยู่ในปริมาณพอเหมาะ
การรับประทานผงชูรสมากเกินไปจะส่งผลกระทบต่อร่างกาย หรือบางคนอาจเสี่ยงที่จะแพ้ผงชูรสได้เลย มาทำความรู้จักกับเครื่องปรุงคู่ครัวไทยชนิดนี้กัน เพื่อความปลอดภัยในการบริโภค
สารบัญ
ผงชูรสคืออะไร ทำไมใส่แล้วอาหารอร่อย?
ผงชูรสเป็นสารเคมีที่ประกอบด้วยโซเดียมและกรดกลูตามิก (Glutamic acid) ซึ่งกรดกลูตามิกเป็นกรดอะมิโนที่พบในธรรมชาติ และอยู่ในอาหารหลายชนิด เช่น มันฝรั่ง สาหร่าย หรือมะเขือเทศ เมื่อลิ้นได้สัมผัสกับกรดกลูตามิก จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่ช่วยเพิ่มรสชาติที่เรียกว่า “อูมามิ”
ผงชูรสเป็นวัตถุดิบปรุงอาหารที่ปลอดภัย ไม่ทำให้เกิดอันตรายร้ายแรง และอาจช่วยลดการใช้โซเดียมประเภทอื่นในอาหารได้ด้วย แต่เช่นเดียวกับอาหารประเภทอื่น หากได้รับมากเกินไปอาจทำให้เกิดผลเสียตามมาได้ โดยไม่ควรรับประทานผงชูรสเกิน 1 ช้อนชา/มื้อ
บริโภคผงชูรสมากเกินไป อันตรายต่อสุขภาพ
การบริโภคผงชูรสมากเกินไปไม่ได้ทำให้ผมร่วง แต่เพิ่มความเสี่ยงของอาการที่เรียกว่า Chinese restaurant syndrome หรือ MSG symptom complex บางคนอาจเรียกโรคภัตตาคารจีน โดยเฉพาะคนที่มีความไวต่อผงชูรส
คนมักเข้าใจและเรียกอาการนี้ว่าเป็นอาการแพ้ผงชูรส ซึ่งอาจทำให้สับสนกับอาการแพ้อาหาร เพราะโรคนี้เป็นผลมาจากการบริโภคผงชูรสมากเกินไป ขณะที่อาการแพ้อาหารเป็นคนละโรค และมีอาการแตกต่างกัน
Chinese restaurant syndrome หรือ MSG symptom complex อาจทำให้เกิดอาการต่อไปนี้ภายในไม่กี่ชั่วโมง
- ชาบริเวณปาก และลิ้น
- ปวดตามใบหน้า โหนกแก้ม คอ หน้าอก
- ใจสั่น
- ปวดศีรษะ
- คลื่นไส้ อาเจียน
- กระหายน้ำ
- หายใจช้าลง
- ชาตามใบหน้า หู
- เวียนศีรษะ
- หัวใจเต้นเร็ว
- อัมพาตตามแขนขาชั่วคราว
ส่วนใหญ่อาการจะหายเองได้ภายใน 2 ชั่วโมง แต่หากอาการรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์
ส่วนอาการแพ้ผงชูรสจริง ๆ เป็นอาการแพ้อาหารแบบหนึ่งที่เกิดจากภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ แม้ได้รับผงชูรสในปริมาณเล็กน้อยจะเกิดอาการแพ้ขึ้นได้ เช่น ผื่นแดงคัน ใบหน้าบวม ด้านในลำคอบวม หายใจลำบาก เวียนศีรษะ ปวดท้อง หน้ามืด อาจชัก ช็อก หรือหมดสติ
อย่างไรก็ตาม หากพบสัญญาณของอาการแพ้อาหารในข้างต้น ควรไปพบแพทย์อย่างเร่งด่วน เพราะอาจเสียชีวิตได้
บริโภคผงชูรสอย่างไร ไม่เสียสุขภาพ
การบริโภคผงชูรสในปริมาณปกติ ส่วนมากไม่ได้ก่อให้เกิดอาการผิดปกติหรือเป็นอันตราย สำหรับคนที่มีความไวต่อผงชูรสหรืออยากจำกัดปริมาณ มีคำแนะนำมาฝาก
- เลือกรับประทานอาหารจากร้านที่ไม่มีการใช้ผงชูรส หรือแจ้งได้ว่าไม่ใส่ผงชูรส หากเลือกไม่ได้ อาจเลือกอาหารที่มีปรุงรสน้อย ไม่ใช่อาหารรสจัดจ้าน เช่น ปิ้งย่าง ยำ ส้มตำ ต้มยำ แกง อาหารที่มีน้ำจิ้ม เพราะมักมีเครื่องปรุงหรือผงชูรสเยอะ
- ตรวจสอบฉลากอาหารเสมอ หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีการระบุผงชูรสเป็นส่วนประกอบ เช่น ขนมขบเคี้ยว และอาหารแปรรูปสูง
- ทำอาหารรับประทานเองจะช่วยให้ควบคุมปริมาณผงชูรสได้ อย่างการต้มน้ำซุป อาจใช้น้ำต้มกระดูกแทนการใส่ผงชูรสมาก ๆ โดยปริมาณผงชูรสที่เหมาะสม ไม่ควรเกิน 1 ช้อนชาต่อมื้อ (ไม่ใส่เครื่องปรุงอื่นเพิ่ม)
- คนที่มีความกังวลเกี่ยวกับการบริโภคผงชูรส ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินภาวะไวต่อผงชูรส และอาการแพ้ผงชูรส หากทราบแล้วว่าตัวเองแพ้ผงชูรส (แพ้อาหาร) จะได้เลี่ยงการรับประทานได้อย่างเหมาะสม
เชื่อว่าหลายคนคงขาดผงชูรสไม่ได้ ควรบริโภคอย่างพอดี เพื่อความปลอดภัย และสุขภาพที่ดี
ไวต่อผงชูรส หรือแพ้ผงชูรสกันแน่นะ หาคำตอบพร้อมเช็กอาหารที่คุณแพ้ได้ด้วย แพ็กเกจตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่ปลอดภัย รับราคาโปรโมชันที่ HDmall.co.th