gallstones treatment comparison

เปรียบเทียบการรักษานิ่วในถุงน้ำดี มีวิธีไหนบ้าง วิธีไหนเห็นผล?

นิ่วในถุงน้ำดี หากเป็นแล้วปล่อยไว้ไม่รักษา จากอาการที่รักษาได้ อาจเปลี่ยนเป็นอันตรายถึงชีวิต! ดังนั้น หากเริ่มมีอาการ ต้องรีบพบแพทย์ และวางแผนรักษาให้เหมาะสม…มาดูกันว่า วิธีการรักษานิ่วในถุงน้ำดีมีวิธีไหนบ้าง แต่ละวิธีมีข้อดีและข้อจำกัดอย่างไร วิธีไหนเห็นผลมากที่สุด

อาการแบบไหนที่ต้องรีบพบแพทย์เพื่อรักษา?

ก้อนนิ่วในถุงน้ำดี เมื่อเป็นแล้วไม่สามารถหายเองได้ หากตรวจพบเร็ว ก็สามารถรักษาได้ง่าย แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้จนก้อนนิ่วสะสมเป็นจำนวนมาก หรือมีขนาดใหญ่ขึ้น ก็อาจเกิดการอักเสบเฉียบพลัน ติดเชื้อ หรือกลายเป็นมะเร็งถุงน้ำดีได้

ดังนั้น หากพบว่า มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงบริเวณช่องท้องส่วนบน ปวดจุกเสียดบริเวณใต้ลิ้นปี่ หรือชายโครงด้านขวา บางครั้งอาจปวดร้าวบริเวณไหล่ หลัง หรือสะบักขวาร่วมด้วย รวมทั้งรู้สึกแน่นท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ แสบร้อนที่ยอดอก มีลมในกระเพาะอาหาร อาหารไม่ย่อย โดยมักจะเป็นหลังจากรับประทานอาหารมันๆ หรืออาหารมื้อหนัก ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุภายใน 1-2 สัปดาห์

นอกจากนี้หากมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม มีไข้ หนาวสั่นร่วมด้วย ควรรีบไปโรงพยาบาลภายใน 24 ชั่วโมง เนื่องจากอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงมาก ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

การรักษานิ่วในถุงน้ำดี มีวิธีไหนบ้าง วิธีไหนเห็นผลจริง?

วิธีการรักษานิ่วในถุงน้ำดี มีหลากหลายวิธี แต่ไม่ใช่ทุกวิธีที่สามารถรักษาให้หายขาดจากโรคได้ มาดูกันว่า มีวิธีไหนบ้าง แต่ละวิธีมีข้อดี ข้อเสียอย่างไร

1. รับประทานยาสลายนิ่ว

หลายคนอาจเคยได้ยินว่า การรับประทานยาสลายนิ่วจะช่วยให้นิ่วสลายตัวได้ง่ายและหลุดออกมาเอง คล้ายกับการรักษาโรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ

แต่สำหรับการรักษานิ่วในถุงน้ำดีนั้น ในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานสนับสนุนว่า การรับประทานยาสลายนิ่วเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีพอ 

เนื่องจากการรับประทานยายังไม่สามารถช่วยให้ก้อนนิ่วสลายได้หมด ผู้ป่วยต้องรับประทานยาต่อเนื่องเป็นเวลานาน และหากหยุดรับประทานยา ก็อาจกลับมาเป็นนิ่วได้อีกครั้ง ดังนั้นแพทย์จึงไม่แนะนำให้ผู้ป่วยรักษาด้วยวิธีนี้

2. สลายนิ่วด้วยคลื่นกระแทก

การสลายนิ่วด้วยคลื่นกระแทก เป็นวิธีการรักษานิ่วแบบไม่ต้องผ่าตัด โดยใช้คลื่นเสียงส่งผ่านผิวหนังตรงไปยังก้อนนิ่ว ส่งผลให้เกิดแรงกระแทกที่ก้อนนิ่ว จนก้อนนิ่วแตกออกเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นจึงขับออกมาทางปัสสาวะ

การใช้คลื่นกระแทกเป็นหนึ่งในวิธีที่ใช้ในการรักษานิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ แต่สำหรับนิ่วในถุงน้ำดีนั้น ถือเป็นวิธีที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อการรักษา เนื่องจากก้อนนิ่วไม่สามารถขับออกมาจากถุงน้ำดีได้ และยังเป็นวิธีที่มีความเสี่ยงสูง เพราะนิ่วอาจจะไปอุดตันท่อน้ำดีใหญ่ และทำให้การรักษามีความซับซ้อนมากขึ้นได้

3. ผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี

การผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีเป็นวิธีที่ช่วยรักษานิ่วในถุงน้ำดีให้หายขาดได้จริง และเป็นวิธีที่แพทย์มักใช้ในการรักษาผู้ป่วย โดยมี 2 เทคนิคหลักๆ ได้แก่

    1. การผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีแบบเปิดหน้าท้อง เป็นการผ่าตัดด้วยวิธีดั้งเดิม โดยเปิดบริเวณช่องท้องฝั่งชายโครงด้านขวา แล้วนำถุงน้ำดีพร้อมกับนิ่วออกมา แพทย์มักจะแนะนำวิธีนี้ให้กับผู้ป่วยที่มีอาการนิ่วในถุงน้ำดีอักเสบอย่างรุนแรง ถุงน้ำดีแตกทะลุ เริ่มมีอาการดีซ่าน รวมทั้งผู้ป่วยที่เคยผ่าตัดช่องท้องมาก่อน จนเกิดพังผืดติดลำไส้และผนังหน้าท้องมาก ซึ่งไม่สามารถผ่าตัดแบบส่องกล้องได้
    2. การผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีแบบดส่องกล้อง เป็นการผ่าตัดโดยเจาะบริเวณสะดือและชายโครงด้านขวาเป็นแผลเล็กๆ แล้วสอดกล้องขนาดเล็กเข้าไป จากนั้นแพทย์จะนำเครื่องมือเข้าไปตัดเลาะถุงน้ำดีออกจากตับ วิธีการรักษานิ่วในถุงน้ำดีวิธีนี้เป็นวิธีที่แพทย์มักจะแนะนำมากที่สุด เพราะให้ผลลัพธ์ที่ดี ผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวได้เร็ว เจ็บแผลน้อยมาก เนื่องจากแผลมีขนาดเล็ก และมีโอกาสเกิดอาการแทรกซ้อนหลังผ่าตัดน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง โดยการผ่าตัดส่องกล้อง ก็แบ่งได้อีก 2 เทคนิค ได้แก่

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเลือกการผ่าตัดแบบใด ควรทำโดยศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการและมีประสบการณ์ จะช่วยให้ความเสี่ยงต่อผลแทรกซ้อนลดน้อยลง

จะเห็นได้ว่า วิธีการรักษานิ่วในถุงน้ำดีมีเพียงบางวิธีเท่านั้นที่สามารถรักษาได้อย่างเห็นผล หากคุณยังไม่แน่ใจว่า ควรรักษาด้วยวิธีไหนดี แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

ยังลังเลใช่ไหม ไม่รู้ว่าควรเลือกวิธีไหนดี? วิธีไหนรักษานิ่วในถุงน้ำดีได้ดีที่สุดและเหมาะกับอาการที่เป็นอยู่มากที่สุด? นัดคุยกับคุณหมอเฉพาะทาง ผ่านทีม HDcare สะดวกรวดเร็ว ทันใจ หรือค้นหาแพ็กเกจรักษานิ่วในถุงน้ำดี จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย

Scroll to Top