รู้จัก “คุณหมอจิตรภาณุ” ศัลยแพทย์กับประสบการณ์แพทย์เฉพาะทางด้านผ่าตัดส่องกล้อง และรักษาโรคมะเร็ง

เจาะลึกชีวิตหมอเฉพาะทางด้านการผ่าตัดส่องกล้องและการรักษาโรคมะเร็ง กับนายแพทย์จิตรภาณุ วงศ์ยงศิลป์ ศัลยแพทย์มะเร็งศาสตร์ เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็ก หนึ่งในทีมแพทย์จากบริการ HDcare 

สวัสดีครับ นายแพทย์จิตรภาณุ วงศ์ยงศิลป์ครับ เป็นศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดส่องกล้อง และโรคมะเร็งครับผม

คุณหมอจบการศึกษามาจากที่ไหน?

หมอเรียนจบจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จากนั้นก็ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผ่าตัดศัลยกรรมที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ และเรียนต่อเฉพาะทางด้านการผ่าตัดส่องกล้องที่โรงพยาบาลหาดใหญ่เช่นกันครับ

หลังจากนั้นหมอก็ไปเรียนต่อด้านการผ่าตัดรักษาโรคมะเร็งที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ นอกจากนี้ก็ยังมีโอกาสได้ไปศึกษาด้านการส่องกล้องทางเดินอาหารที่โรงพยาบาลราชวิถีและโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ด้วย รวมถึงได้ไปศึกษาดูงานด้านการส่องกล้องทางเดินอาหารที่โตเกียวกับฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่นด้วยครับ

จุดเริ่มต้นที่ทำให้อยากเป็นหมอคืออะไร?

ก็เริ่มจากสมัยหมอเด็ก ๆ เวลาที่ต้องมาโรงพยาบาล หมอก็จะรู้สึกประทับใจคุณหมอที่ช่วยรักษาโรคและดูแลคนไข้ให้อาการดีขึ้น ทำให้เกิดความรู้สึกว่าวันหนึ่งเราก็อยากจะช่วยเหลือคนอื่นด้วยการเป็นคุณหมอบ้าง และการเป็นหมอก็ยังเป็นอาชีพที่ช่วยให้คุณภาพชีวิตของคนไข้ดีขึ้นด้วย

หลังจากเรียนจบ ได้เริ่มต้นเส้นทางอาชีพหมออย่างไร?

ด้วยความที่หมอสนใจด้านศัลยกรรมมาตั้งแต่เป็นนักเรียนแพทย์แล้ว ได้เห็นตัวอย่างในการผ่าตัดศัลยกรรมที่ดีจากอาจารย์หมอหลายท่าน หมอจึงตั้งใจที่จะเรียนต่อเฉพาะทางด้านนี้อยู่แล้วครับ ดังนั้นหลังจากเรียนจบและไปใช้ทุนที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ 1 ปี หมอก็เรียนเฉพาะทางด้านศัลยกรรมต่อเลยครับ

หลังจากนั้นพอเรียนจบ หมอก็ไปทำงานเป็นศัลยแพทย์อยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่เป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งในช่วงเวลานั้นหมอก็ได้พบว่าในปัจจุบัน เราต้องอาศัยองค์ความรู้ด้านการผ่าตัด รวมถึงความรู้ด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้ในการผ่าตัดศัลยกรรมด้วย หมอจึงตัดสินใจเรียนต่อเพิ่มเติมด้านการผ่าตัดส่องกล้องที่โรงพยาบาลหาดใหญ่อีกครั้ง 

พอเรียนจบแล้ว หมอก็ไปศึกษาต่อด้านการผ่าตัดรักษาโรคมะเร็งที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และเข้าทำงานเป็นศัลยแพทย์ที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติเลย จนต่อมาถึงได้ย้ายมาทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลกลาง กรุงเทพมหานครครับ

คุณหมอมีหลักการทำงานของตัวเองอย่างไร?

หมอจะรักษาสมดุลทั้งส่วนของงานบริการรักษาคนไข้ และการพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้นไปด้วยครับ โดยนอกจากเราจะต้องดูแลบริการคนไข้ให้ดีแล้ว เราก็ยังต้องพัฒนาตนเอง สร้างเครือข่าย เข้าร่วมประชุม นำความรู้และเทคโนโลยีการรักษาต่าง ๆ มาพัฒนาทักษะของตนเองให้มากขึ้นอยู่เสมอ เพื่อจะได้นำมาสร้างประโยชน์ให้กับคนไข้ให้ได้มากที่สุดด้วยครับ

การเป็นศัลยแพทย์ไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ แล้วคุณหมอมีวิธีทำงานร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่ท่านอื่น ๆ อย่างไร?

ก็ต้องมีการจัดแบ่งหน้าที่ในแต่ละส่วนให้ดี มีการตรวจสอบประสิทธิภาพในการทำงานกันอยู่เป็นระยะ ๆ ครับ เพื่อดูว่าเรามีจุดผิดพลาดหรือจุดที่เราต้องพัฒนาเพิ่มเติมอย่างไร ต้องมีการพูดคุยกับทีมอย่างสม่ำเสมอ และทำงานให้เกียรติกันด้วย ต่างคนต่างมีเป้าหมายเพื่อทำหน้าที่ดูแลคนไข้ให้ดี ซึ่งถ้าเราร่วมมือกันได้ดี ผลลัพธ์ในการรักษาคนไข้ก็จะดียิ่งขึ้นไปด้วยครับ

เล่าประสบการณ์ทำงานให้ฟังหน่อย

จากประสบการณ์ทำงานของหมอ ก็มีเคสคนไข้หลายรายที่ต้องใช้วิธีรักษาซึ่งซับซ้อนพอสมควรครับ เนื่องจากปัจจุบันอายุเฉลี่ยของคนไทยนั้นยืนยาวขึ้น คนไข้บางรายที่หมอเจออายุ 80-90 ปีขึ้นไปหรือจะเฉียด 100 ปีอยู่แล้วก็มี ซึ่งคนไข้เหล่านี้ก็มักจะมาพร้อมโรคประจำตัวหลายอย่าง ร่างกายมีความเปราะบางจนเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย

ดังนั้นก่อนเริ่มการรักษา หมอก็ต้องเตรียมพร้อมคนไข้ให้ดี พูดคุยกับญาติคนไข้ให้เข้าใจ มีการเตรียมทีมรักษา และเครื่องมือรักษาที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้ผลการรักษาออกมาดีที่สุดครับ

ตัวอย่างเคสคนไข้คนหนึ่งอายุ 90 กว่าแล้ว คนนี้เป็นโรคมะเร็งลำไส้ส่วนล่าง และมาหาหมอพร้อมกับโรคประจำตัวอื่น ๆ อีกหลายอย่าง ซึ่งเมื่อวางแผนการผ่าตัดรักษากัน ก็พบว่าตำแหน่งที่ต้องผ่าตัดนั้นมีความยากและซับซ้อนอยู่ เราก็เลือกวิธีผ่าตัดด้วยเทคนิคส่องกล้องเพื่อช่วยให้คนไข้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น แต่ก็ใช้เวลาผ่าตัดสำหรับเคสนี้ค่อนข้างนานอยู่ครับ เพราะต้องระมัดระวังเนื่องจากคนไข้มีความเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ แต่ด้วยการพูดคุยและการร่วมมือกันในทีม จึงทำให้การผ่าตัดคนไข้ในเคสนี้ผ่านไปอย่างเรียบร้อยดีครับ

เล่าถึงความสุขของการเป็นหมอหน่อย

อาชีพหมอเป็นอาชีพที่เราทำงานไปด้วยและช่วยเหลือคนไข้ไปด้วยพร้อมกัน เวลาที่คนไข้มาหาหมอด้วยอาการเจ็บหรือทุกข์ทรมาน และหลังจากรักษาด้วยการผ่าตัดซึ่งจะเห็นผลลัพธ์ได้เร็ว คนไข้มีอาการที่ดีขึ้น และมาติดตามอาการหลังจากนั้นพร้อมญาติหรือครอบครัว เมื่อหมอเห็นภาพนี้แล้วก็รู้สึกมีกำลังใจในการทำงานมากขึ้นครับ

เล่าเคสคนไข้ที่ประทับหน่อย

มีคนไข้ที่มาด้วยอาการถ่ายเป็นเลือด ซึ่งหมอตรวจดูด้วยการส่องกล้องก็พบว่ามีติ่งเนื้อขนาดใหญ่ ซึ่งโดยปกติในสมัยก่อนเราต้องรักษาด้วยการผ่าตัดนำลำไส้ที่มีติ่งเนื้อออก แต่ปัจจุบันเพราะเรามีเทคโนโลยีการส่องกล้องที่หมอฝึกฝนมา เราจึงสามารถตัดติ่งเนื้อนั้นออกผ่านการส่องกล้องได้เลย ทำให้คนไข้ไม่ต้องผ่าตัดนำลำไส้ออกครับ

ศัลยแพทย์ชำนาญด้านการผ่าตัดส่องกล้องคืออะไร?

ศัลยแพทย์ที่ชำนาญด้านการผ่าตัดส่องกล้อง ก็คือ คุณหมอศัลยแพทย์ที่ได้ศึกษาต่อยอดด้านเทคนิคการผ่าตัดแบบส่องกล้องเพิ่มครับ โดยเราจะสามารถส่องกล้องเพื่อนำอวัยวะต่าง ๆ ในช่องท้องออกมา เช่น กระเพาะอาหาร ลำไส้ ถุงน้ำดี รวมถึงเพื่อผ่าตัดโรคไส้เลื่อนต่าง ๆ หรือการผ่าตัดอวัยวะที่มีความยุ่งยากซับซ้อน เช่น โรคทางตับอ่อน โรคทางเดินน้ำดี

ทำไมเลือกเรียนเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านนี้

เพราะหมอพบว่าคนไข้ที่รักษาด้วยการผ่าตัดส่องกล้องจะฟื้นตัวหลังผ่าตัดได้เร็วกว่าอย่างเห็นได้ชัดครับ เทียบกับสมัยก่อนที่เราต้องผ่าตัดแบบเปิดแผลใหญ่ คนไข้ต้องพักฟื้นนาน การฟื้นตัวของร่างกายก็ช้า แถมมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมาได้อีก 

ในขณะที่การผ่าตัดส่องกล้องนั้นแผลจะเล็กกว่า เจ็บน้อยกว่า ฟื้นตัวหลังผ่าตัดได้เร็ว ทำให้คนไข้หายจากอาการของโรคได้เร็วขึ้น และสามารถกลับไปทำงานตามปกติได้เร็วด้วยครับ

เล่าความท้าทายในการทำงานหน่อย

จะเป็นความท้าทายด้านเทคโนโลยีการรักษาครับ เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีมันพัฒนาไปเร็วมาก เช่น การใช้กล้อง การใช้แสง หรือการใช้เอไอเข้ามาเป็นตัวช่วยในการผ่าตัด ซึ่งหมอจะต้องมีการเรียนรู้วิธีใช้มัน และศึกษาดูข้อมูลเพิ่มเติมอยู่เรื่อย ๆ ครับ

ความยากง่ายของการเป็นศัลยแพทย์ที่ชำนาญด้านการผ่าตัดส่องกล้องมีอะไรบ้าง?

จะเป็นการเลือกคนไข้ที่มีความเหมาะสมต่อการผ่าตัดรูปแบบนี้ครับ รวมถึงการเลือกใช้เครื่องมือผ่าตัดให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละรายด้วย ถึงแม้จะเป็นการผ่าตัดรูปแบบเดียวกันก็ตาม 

เพราะในการผ่าตัดส่องกล้องเราก็จะมีเครื่องมือให้เลือกใช้หลายแบบ และต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์จากแพทย์ในการเลือกเครื่องมือให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละรายด้วย

สิ่งที่คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับหมอศัลยแพทย์

หลายคนเข้าใจว่าคุณหมอศัลยแพทย์เป็นคนดุครับ แต่จริง ๆ น่าจะเป็นเพราะเนื้องานของคุณหมอที่เครียดและค่อนข้างสำคัญมากกว่า บางครั้งก็ต้องผ่าตัดให้คนไข้ที่มีภาวะฉุกเฉินอย่างเร่งด่วน แต่เท่าที่หมอทราบ เพื่อน ๆ ของหมอหลายท่าน รวมถึงอาจารย์หมอหลายท่านเป็นคนใจดีครับ บุคลิกในช่วงเวลาปกติจะแตกต่างไปจากตอนผ่าตัดซึ่งต้องใช้สมาธิและความตั้งใจที่สูงมาก 

ดังนั้นจริง ๆ แล้วคุณหมอศัลยแพทย์ที่ทุกคนเห็นกันนั้น ในชีวิตประจำวันทั่วไปจะแตกต่างไปจากชีวิตตอนทำงานผ่าตัดคนไข้อย่างเห็นได้ชัดครับ

ในมุมมองของคนไข้ ถ้าถามหมอว่า ทำไมต้องรักษากับคุณหมอจิตรภาณุ จะตอบว่าอะไร?

ถ้าคนไข้มีอาการเจ็บป่วย หรือมีเรื่องอยากปรึกษาคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญด้านผ่าตัดส่องกล้อง หรือด้านโรคมะเร็งโดยตรง แต่ไม่ทราบว่าจะปรึกษาคุณหมอท่านไหน หมอก็ยินดีเป็นอย่างมากที่จะให้คำปรึกษานะครับ ทั้งการผ่าตัดกระเพาะอาหาร การผ่าตัดลำไส้ การผ่าตัดไส้เลื่อน หรือนิ่วในถุงน้ำดี การส่องกล้องกระเพาะอาหาร การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ รวมถึงการรักษาโรคมะเร็งที่พบได้บ่อยในคนไข้ผู้หญิงด้วย เช่น โรคมะเร็งเต้านม หมออยากนำความรู้มาช่วยเหลือคนไข้ในส่วนนี้ด้วยครับ

บริการ HDcare ในมุมมองของคุณหมอเป็นอย่างไร?

หมอมองว่า HDcare เป็นบริการอีกช่องทางที่ช่วยให้คนไข้ได้รับคำปรึกษาและการดูแลรักษาโรคจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านนั้น ๆ ครับ 

เพราะในปัจจุบันเราต้องยอมรับว่าคนไข้ในโรงพยาบาลรัฐนั้นมีจำนวนค่อนข้างเยอะ ในขณะที่คนไข้บางส่วนอาจจะมีกำลังจ่าย และมีการทำประกันชีวิตซึ่งสามารถครอบคลุมการดูแลรักษาในโรงพยาบาลเอกชนได้ แต่อาจจะลังเลใจไม่รู้จะไปปรึกษาใครดี

หมอคิดว่าบริการ HDcare เป็นอีกช่องทางที่จะช่วยให้คนไข้มั่นใจว่าจะได้พบกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังจะช่วยดูแลคนไข้ในส่วนของค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมซึ่งหลายคนกังวลด้วย และช่วยเป็นตัวกลางประสานงานกับโรงพยาบาลและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทำให้กระบวนการรักษาง่ายและราบรื่นยิ่งขึ้นครับ

สอบถามทุกประเด็นเกี่ยวกับการผ่าตัดที่สงสัย กับทางทีมของ HDcare จนกว่าจะมั่นใจ และหากต้องการผู้ช่วยประสานงานด้านใดในโรงพยาบาล หรืออยากสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับบริการ HDcare สามารถพูดคุยผ่านทางไลน์ @HDcare ได้เลย