คราบหินปูน (Tartar) หรือ “หินน้ำลาย” เป็นเชื้อจุลินทรีย์ เชื้อโรค และแบคทีเรียที่ตกตะกอนจากแคลเซียมในน้ำลายจนกลายเป็นคราบแข็งตัวติดกับเนื้อฟัน หินปูนเป็นคราบที่ไม่สามารถขจัดออกได้ด้วยการบ้วนน้ำ หรือแปรงฟัน ต้องขจัดออกผ่านการขูดหินปูนโดยทันตแพทย์เท่านั้น
ทุกคนที่เข้ารับการตรวจสุขภาพปากและฟันมักจะได้รับคำแนะนำให้ขูดหินปูนทุก 6 เดือน หรือปีละ 2 ครั้ง เนื่องจากแผ่นคราบจุลินทรีย์บนผิวฟันจะมีการสะสมหนาตัวขึ้นตลอดเวลา แม้แต่เวลาที่ไม่ได้รับประทานอาหารก็ตาม จนเป็นสาเหตุหลักซึ่งทำให้เกิดหินปูน เมื่อหินปูนเกิดการสะสมที่เนื้อฟันมากๆ ก็สามารถลุกลามกลายเป็นโรคเหงือกและโรคปริทันต์ได้
สารบัญ
ความหมายของการขูดหินปูน
การขูดหินปูน (Dental Scaling) คือ การทำทันตกรรมเพื่อขจัดคราบหินปูนที่เกาะติดอยู่กับเนื้อฟันและซอกฟันเพื่อความสะอาด และป้องกันการเกิดผลข้างเคียงที่เกิดจากความสกปรกของคราบหินปูนในภายหลัง เช่น
- โรคเหงือก
- เลือดออกตามไรฟัน
- เนื้อฟันมีคราบ
- มีกลิ่นปาก
- เหงือกร่น
- เหงือกบวม
- ฟันห่าง
- มีอาการเสียวฟันมากเนื่องจากเหงือกร่นไปมาก
- ฟันโยก จนกระทั่งสูญเสียฟันในที่สุด
การขูดหินปูนสามารถทำได้ในทุกคนที่มีหินปูน ตั้งแต่ฟันน้ำนมของเด็กเล็กไปจนถึงฟันของผู้สูงอายุ แต่สิ่งสำคัญคือ ทุกคนควรต้องเข้ารับการตรวจฟันทุก 6 เดือน เพื่อให้ทันตแพทย์ได้ตรวจคราบหินปูนและขจัดออกอยู่เรื่อยๆ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงดังที่ได้กล่าวมา
ขั้นตอนการขูดหินปูน
- ก่อนขูดหินปูน ทันตแพทย์จะตรวจดูคราบหินปูนตามเนื้อฟัน และซอกฟันทั่วทั้งช่องปากเสียก่อน จากนั้นจะเริ่มขจัดคราบหินปูน
- เมื่อใช้เครื่องขูดหินปูนแล้ว หากยังมีคราบหินปูนเล็กๆหลงเหลือ ทันตแพทย์จะเริ่มใช้อุปกรณ์แบบด้ามจับซึ่งจะมีส่วนปลายคล้ายตะขอขนาดเล็กสำหรับขูดหินปูนเฉพาะตำแหน่งเพื่อขจัดคราบหินปูนที่ติดอยู่ตามซอกฟัน เหนือเหงือก ใต้เหงือก หรือบริเวณที่อุปกรณ์ชิ้นใหญ่เข้าไม่ถึงได้
- ทันตแพทย์จะขูดทำความสะอาดทั้งบนตัวฟันและรากฟันส่วนบนที่มีหินปูนให้เรียบ (เรียกว่าเกลารากฟัน) เพื่อไม่ให้มีเชื้อโรคสะสม และเพื่อให้เหงือกยังคงติดแน่นกับตัวฟันอย่างแข็งแรงและสะอาดเช่นเดิม
- ทันตแพทย์อาจใช้หัวขัด ขัดฟันเพิ่มเพื่อกำจัดคราบหินปูนออกไปให้หมดจดจากเนื้อฟัน แล้วจึงให้ผู้เข้ารับบริการบ้วนปากให้เรียบร้อยเพื่อล้างคราบหินปูนออกจากช่องปาก เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการขูดหินปูน
โดยปกติขั้นตอนการขูดหินปูนไม่ต้องฉีดยาชา ยกเว้นแต่ผู้เข้ารับบริการรู้สึกเสียวฟัน หรือเจ็บเหงือกมากจนทนไม่ไหว ทันตแพทย์ก็อาจพิจารณาฉีดยาชาให้ ส่วนระยะเวลาการขูดหินปูนในแต่ละคนจะแตกต่างกันไปตามการสะสมของคราบหินปูนด้วย
หลังจากขูดหินปูนเสร็จ ทันตแพทย์อาจแนะนำให้ผู้เข้ารับบริการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ หรือน้ำยาบ้วนปากเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับสุขภาพช่องปากของผู้เข้ารับบริการแต่ละราย
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการขูดหินปูน
หลายคนอาจเข้าใจว่า อุปกรณ์ขูดหินปูนที่เข้าไปขจัดหินปูนตามซอกฟันจะทำให้ฟันแยกห่างออกจากกัน ความจริงแล้ว อุปกรณ์ขูดหินปูนสามารถทำให้ฟันเคลื่อนที่ออกจากกันได้
ในระหว่างขูดหินปูน ผู้เข้ารับบริการบางรายอาจรู้สึกเสียวฟัน หรือรู้สึกไม่สบายเหงือกบ้าง ซึ่งเป็นผลข้างเคียงปกติในระหว่างขูดหินปูน
อุปกรณ์ขูดหินปูน
โดยปกติอุปกรณ์ขูดหินปูนในคลินิกทันตกรรม หรือแผนกทันตกรรมในโรงพยาบาลจะเป็นเครื่องขุดหินปูนแบบไฟฟ้า โดยทันตแพทย์จะต้องเป็นผู้ขูดหินปูนให้ผู้เข้ารับบริการ
เครื่องขูดหินปูนแบบไฟฟ้านี้มีประสิทธิภาพในการขจัดหินปูนออกไปจากเนื้อฟันได้ทั้งหมด
อุปกรณ์ขูดหินปูนด้วยตนเอง
นอกจากอุปกรณ์ขูดหินปูนแบบไฟฟ้าในคลินิกและโรงพยาบาลแล้ว ปัจจุบันยังมีอุปกรณ์ขูดหินปูนไฟฟ้าแบบพกพาสามารถซื้อมาใช้ได้เอง
อุปกรณ์ขูดหินปูนด้วยตนเองโดยทั่วไปจะมีลักษณะเป็นแท่งจับหุ้มด้วยพลาสติกนุ่ม ที่ปลายแท่งมีตะขอขนาดเล็กคล้ายกับอุปกรณ์ขูดหินปูนแบบด้าม ส่วนปลายอีกด้านมีไฟแสดงสถานะเมื่อเริ่มใช้งาน
สำหรับแหล่งพลังงานของอุปกรณ์ขูดหินปูนด้วยตนเองจะชาร์จไฟผ่านช่อง USB หรือใช้ถ่าน
เมื่อกดปุ่มเปิดใช้งานแล้ว ส่วนของตะขอจะสั่นเพื่อขจัดคราบหินปูนออกไป หากนำปลายตะขอไปสัมผัสกับพื้นผิวอื่นๆ ก็จะรับรู้ได้ถึงแรงสั่นของตะขอที่ดูแรง และน่าจะขูดหินปูนออกจากเนื้อฟันได้
หลายคนจึงพยามยามหาซื้ออุปกรณ์แบบด้ามจับมาขูดหินปูนด้วยตนเอง แต่อุปกรณ์เหล่านี้หากใช้ไม่เป็น อาจทำให้เหงือกได้รับบาดเจ็บได้
อย่างไรก็ตาม มีการทดสอบคุณภาพสินค้าในบางยี่ห้อ และพบว่า อุปกรณ์ขูดหินปูนด้วยตนเองนั้นทำความสะอาดได้แค่คราบสกปรกบนเนื้อฟันเพียงตื้นๆ เท่านั้น ไม่สามารถขจัดคราบหินปูนออกไปได้อย่างหมดจด หรืออาจไม่สามารถขจัดหินปูนออกไปได้เลย เนื่องจากมีแรงสั่นที่ไม่เพียงพอ
นอกจากนี้การขูดหินปูนเองโดยไม่มีความรู้และความชำนาญ อาจขูดได้แต่ส่วนของหินปูนที่เห็นได้ชัดเหนือเหงือก โดยไม่ได้ขุดหินปูนใต้เหงือกออกเลย ส่งผลให้มีการสะสมของหินปูนใต้เหงือกต่อไป ทำให้เหงือกอักเสบ เป็นหนอง และยังเป็นโรคเหงือกต่อไปในอนาคต
หากต้องการกำจัดหินปูนให้หมดไปจากเนื้อฟันจริงๆ ต้องไปพบทันตแพทย์เพื่อรับการขูดหินปูนด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ถูกต้อง
นอกจากเครื่องขูดหินปูนแบบไฟฟ้าแล้ว ยังมีอุปกรณ์แบบด้ามจับอื่นๆ ที่ทันตแพทย์จะใช้ในการขูดหินปูนตามตำแหน่งอื่นๆ ของฟันอีก โดยอุปกรณ์เหล่านี้แม้จะไม่ได้สร้างอันตรายต่อเหงือกและฟัน เนื่องจากทันตแพทย์มีทักษะและความประณีตในการใช้อุปกรณ์
ดังนั้น ขั้นตอนการขูดหินปูนควรเป็นขั้นตอนที่ทำโดยทันตแพทย์เท่านั้น และคุณจะได้ตรวจสุขภาพช่องปากส่วนอื่นๆ นอกเหนือจากคราบหินปูน และได้รับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพช่องปากที่เหมาะสมกับตนเอง
การดูแลตนเองหลังขูดหินปูน
เพื่อให้สุขภาพเหงือกและฟันยังคงแข็งแรง หลังจากขูดหินปูนเสร็จแล้ว ผู้เข้ารับบริการยังต้องดูแลสุขภาพช่องปากของตนเองให้เหมาะสมเหมือนเดิม เช่น
- ใช้แปรงสีฟันที่มีขนนุ่ม และเล็ก เพื่อให้ขนแปรงสามารถเข้าไปทำความสะอาดคราบสกปรกตามซอกฟันได้ และควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุกๆ 3 เดือนเพื่อให้ขนแปรงคงประสิทธิภาพในการทำความสะอาด
- หมั่นแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง อย่าเข้าใจผิดว่า การขูดหินปูนสามารถแทนที่การแปรงฟันได้
- ใช้ไหมขัดฟันร่วมกับการแปรงฟันด้วย หรือหากต้องใช้อุปกรณ์อื่นๆ สำหรับทำความสะอาดฟันเพิ่มเติม ให้ปรึกษาทันตแพทย์
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสหวานบ่อยๆ เพราะเสี่ยงทำให้เกิดฟันผุได้ง่าย
- หมั่นมาตรวจสุขภาพฟันทุกๆ 6 เดือน และหากมีโรค หรือความผิดปกติเกี่ยวกับฟัน ให้มาตรวจดูสุขภาพฟันกับทันตแพทย์ทุกครั้ง
การขูดหินปูนอาจเป็นขั้นตอนการทำทันตกรรมที่หลายคนคิดว่า ไม่สำคัญ และไม่น่าส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพฟัน แต่ความจริงแล้ว หินปูนสามารถส่งผลทำให้เกิดความผิดปกติอื่นๆ ของฟันตามมาได้
คุณจึงไม่ควรละเลยการไปพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอประมาณปีละ 2 ครั้ง หรือทุกๆ 6 เดือน เพื่อให้ทันตแพทย์ขูดหินปูนทำความสะอาดเนื้อฟันให้ และเพื่อตรวจสอบสุขภาพเหงือก และฟันส่วนอื่นๆ ว่า มีความผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วยหรือไม่
ตรวจสอบความถูกต้องโดย นพ. วรพันธ์ พุทธศักดา