การฟอกสีฟันมีทั้งแบบทำกับทันตแพทย์และทำเองที่บ้าน หลายคนอาจลังเลว่าฟอกสีฟันที่ทำได้เองที่บ้านนั้นยุ่งยากไหม ช่วยให้ฟันขาวได้จริงไหม มีความเสี่ยงอะไรรึเปล่า แต่ไม่ต้องวิตกไป เรารวบรวมคำตอบมาให้แล้วในบทความนี้
สารบัญ
ฟอกสีฟันด้วยตัวเองที่บ้าน เป็นยังไง
ฟอกสีฟันด้วยตัวเองหรือการฟอกสีฟันแบบทำที่บ้าน (Home Bleaching) เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้แก้ปัญหาฟันเหลืองโดยธรรมชาติหรือเกิดคราบสีบนตัวฟัน โดยใช้น้ำยาฟอกฟันเข้าไปทำปฏิกิริยากับเนื้อฟัน เพื่อเปลี่ยนสีฟันให้ดูขาวสว่างขึ้น
น้ำยาฟอกฟันส่วนมากจะเป็นสารกลุ่มไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) หรือคาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์ (Carbamide Peroxide) ลักษณะเป็นเนื้อเจล ความเข้มข้นของน้ำยาอยู่ที่ประมาณ 2-10% (ความเข้มข้นที่คลินิกหรือโรงพยาบาลใช้อยู่ที่ 30-35%) และต้องใช้คู่กับถาดฟอกสีฟันที่ทำมาเฉพาะกับรูปฟันของแต่ละคน ทันตแพทย์จะให้ใส่ทุกวัน วันละ 1-2 ชั่วโมง ตามระยะเวลาที่ทันตแพทย์แนะนำ
ฟอกสีฟันด้วยตัวเองที่บ้าน เหมาะกับใคร
อย่างที่เกริ่นไปว่าน้ำยาฟอกฟันจะมีความเข้มข้นต่ำกว่าที่ใช้ในคลินิกหรือโรงพยาบาล ผลลัพธ์จึงไม่ได้เปลี่ยนแปลงเฉดสีฟันให้ขาวโดดไปหลายระดับ จึงเหมาะกับคนที่มีสีฟันไม่เข้มมาก คนที่เคยผ่านการฟอกสีฟันมาแล้วอยากคงความขาวของสีฟันให้อยู่ได้นานขึ้น และคนที่ไม่รีบเร่งให้ฟันขาวแบบทันทีทันใด เพราะวิธีนี้ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์กว่าจะเริ่มเห็นผล ถ้ามีสีฟันที่ค่อนข้างเข้ม ยิ่งต้องยืดระยะเวลาออกไปอีก
ข้อดีของการฟอกสีฟันด้วยตัวเองที่บ้าน
- มีความสะดวก สามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้านตามเวลาที่สะดวก เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาเข้าไปรับบริการที่คลินิกหรือโรงพยาบาล
- มีโอกาสเกิดอาการเสียวฟันจากการฟอกสีฟันได้น้อย
- มีความปลอดภัยสูง สามารถฟอกฟันซ้ำได้จนกว่าจะถึงระดับที่พอใจ
- ชุดอุปกรณ์ฟอกฟันมีขนาดเล็ก และพกพาได้สะดวก
ข้อจำกัดการฟอกสีฟันแบบทำเองที่บ้าน
- ต้องใช้เวลานานหรืออย่างน้อย 2 สัปดาห์ขึ้นไปกว่าจะเห็นผล และต้องฟอกฟันซ้ำจนกว่าจะได้ในระดับความขาวที่พอใจ
- ถ้าถาดฟอกฟันไม่พอดีหรือแนบสนิทกับฟัน น้ำยาฟอกฟันอาจไหลออกมา ทำให้เกิดการระคายเคืองเหงือกและภายช่องปากได้
- คนที่มีเคยอุดฟันมาก่อน ทำครอบฟัน หรือทำวีเนียร์ เมื่อฟอกสีฟันไปแล้วส่วนที่เป็นวัสดุนั้นจะไม่สามารถเปลี่ยนสีให้ขาวขึ้นเหมือนเนื้อฟันจริง ๆ ของเราได้ หลังจากฟอกสีฟันเสร็จจึงต้องเข้าไปเปลี่ยนวัสดุเหล่านั้นให้มีเฉดสีที่ขาวใกล้เคียงกับเนื้อฟัน
ขั้นตอนฟอกสีฟันที่บ้าน ต้องทำยังไง
ทันตแพทย์จะต้องตรวจสุขภาพช่องฟัน พิมพ์ฟันเพื่อทำถาดครอบฟันให้เหมาะกับฟันแต่ละคน พร้อมทั้งแนะนำการใช้เจลฟอกฟันคู่กับถาดครอบฟัน เพื่อให้ใช้ได้ถูกวิธีเมื่อกลับไปฟอกฟันเองที่บ้าน โดยมีขั้นตอนต่อไปนี้
- แปรงฟันให้สะอาด
- ทำความสะอาดถาดครอบฟัน เช็ดให้แห้งสนิท และใส่น้ำยาฟอกสีฟันลงบนถาดครอบฟันให้ทั่ว ปริมาณประมาณ 1-2 หยด
- ใส่ถาดครอบฟันให้เข้ากันพอดีกับรูปฟัน ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ หรือคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์
- หลังจากฟอกสีฟันเสร็จเรียบร้อย ไม่ต้องแปรงฟันใหม่ เพียงแค่บ้วนน้ำสะอาด ส่วนถาดครอบฟันให้ใช้แปรงสีฟันขัดล้างให้สะอาดใหม่
- ฟอกสีฟันอย่างสม่ำเสมอจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่พอใจ หลังจากผ่านไป 2 สัปดาห์ ทันตแพทย์จะนัดเข้าไปดูความเปลี่ยนแปลงหลังฟอกสีฟัน
ฟอกสีฟันเองที่บ้าน ใช้เวลาแค่ไหนกว่าจะเห็นผล
ถ้าสีฟันเดิมมีสีเหลืองเข้มมากอาจต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 4-5 สัปดาห์ถึงจะเริ่มเห็นผล แต่ถ้าสีฟันเดิมไม่ได้มีสีเข้มมากก็อาจใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ก็จะเริ่มเห็นผลแล้ว ระยะเวลาที่เห็นผลของแต่ละคนจึงไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับสีฟันเดิมว่ามีความเข้มมากน้อยแค่ไหน
ส่วนความขาวที่ได้หลังจากฟอกสีฟันอาจอยู่ได้ประมาณ 2-4 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลฟันของแต่ละคน ยิ่งถ้าหลังฟอกสีฟันแล้วยังชอบกินอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม เช่น ชา กาแฟ แกงต่าง ๆ ก็จะทำให้สีฟันจางหรือหมองได้เร็วขึ้น
ฟอกสีฟันเองที่บ้านมีอาการข้างเคียงไหม
อาการข้างเคียงจากการฟอกสีฟันแบบทำเองที่บ้านมักพบได้น้อย อาการพบบ่อยที่สุดคือ อาการเสียวฟัน และอาการระคายเคืองในช่องปากจากการที่น้ำยาฟอกสีฟันไปโดนเหงือกหรือกระพุ้งแก้มภายในช่องปาก ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะหายได้เองประมาณ 2-3 วันหลังจากหยุดการใช้น้ำยา (ถ้าเป็นการฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์จะได้รับการทำน้ำยาเพื่อกั้นไม่ให้น้ำยาฟอกสีฟันไปโดนส่วนอื่น ๆ ในช่องปากอยู่แล้ว)
หลังฟอกสีฟันด้วยตัวเองควรดูแลยังไง
- ในช่วงแรกควรเลี่ยงอาหารที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด โดยเฉพาะช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฟอกสีฟัน เพราะยังเป็นช่วงที่ฟันไวต่อความร้อนและความเย็น
- เลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม เช่น ชา กาแฟ ไวน์แดง วิสกี้ เครื่องแกง ซอสปรุงรสต่าง ๆ เพราะจะทำให้คราบฝังติดที่ฟันได้
- แปรงฟัน หรือบ้วนปาก หลังรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีเข้มทันที เพื่อทำความสะอาดและลดโอกาสให้คราบสีจากอาหารและเครื่องดื่มเกาะติดที่ฟัน
- งดการสูบบุหรี่ เพราะในบุหรี่จะมีคราบจากควันและนิโคติน (Nicotin) ทำให้ฟันมีคราบและสีที่เข้มขึ้น
- แปรงทำความสะอาดฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ร่วมกับการใช้ไหมขัดฟัน
- พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันและขจัดคราบหินปูนทุก 6 เดือนหรือ 1 ปี
เอ๊ะ..สีฟันเราติดเหลืองหน่อย ๆ รึเปล่า ปล่อยไว้แบบนี้ฟันจะเหลืองกว่านี้ไหม อยากหยุดความเหลืองไว้เท่านี้ ลองดูแพ็กเกจฟอกสีฟันที่ HDmall.co.th สามารถเปรียบเทียบราคา พร้อมรับส่วนลดทุกครั้งที่จองได้ คลิกเลย!