Desogestrel (ดีโซเจสตรีล) ข้อมูล วิธีใช้ ผลข้างเคียง

ดีโซเจสตรีล (Desogestrel) เป็นยาในกลุ่มยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน กลไกการออกฤทธิ์ของยา คือ ออกฤทธิ์กดการตกไข่ โดยจับกับตัวรับโพรเจสเตอโรน (Progesterone) ส่งผลต่อกระบวนการสังเคราะห์ mRNA (เป็นสารพันธุกรรมชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่เป็นแม่พิมพ์เพื่อใช้สร้าง DNA) ยามีฤทธิ์แอนโดรเจนิก (Androgenic คือ ส่งเสริมการแสดงออกแบบเพศชาย เช่น หน้ามัน สิว ขนขึ้น) ที่ต่ำ อีกกลไกหนึ่งของยาคือเพิ่มความหนืดของเมือกบริเวณปากมดลูก

Desogestrel จัดอยู่ในกลุ่มยาอันตราย ตามการจำแนกโดยคณะกรรมการอาหารและยา มีจำหน่ายเฉพาะร้านยาแผนปัจจุบันที่มีเภสัชกรชั้นหนึ่งควบคุมการขายยา รูปแบบยาที่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย จะเป็นรูปแบบยาเม็ด ขนาด 75 ไมโครกรัมต่อเม็ด

สรรพคุณของยา Desogestrel

ยา Desogestrel เป็นยาฮอร์โมนในกลุ่มโปรเจสติน (progestin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนสังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติคล้ายกับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (progesterone) ที่พบในธรรมชาติ Desogestrel มักใช้ในยาคุมกำเนิดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์

  • ป้องกันการตั้งครรภ์: Desogestrel ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงในมูกปากมดลูก ทำให้ตัวอสุจิไม่สามารถผ่านเข้าไปในมดลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังทำให้การตกไข่ (ovulation) ถูกยับยั้ง ทำให้ไม่มีการปล่อยไข่ออกมาจากรังไข่
  • ลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์นอกมดลูก: การที่ยาไม่ทำให้มีการตกไข่ช่วยลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์นอกมดลูก
  • ลดอาการของโรคที่เกี่ยวกับประจำเดือน: ยาชนิดนี้อาจช่วยลดอาการต่างๆ เช่น ปวดท้องประจำเดือน หรือการมีเลือดออกระหว่างรอบเดือน
  • ปรับสมดุลฮอร์โมน: ในบางกรณี Desogestrel อาจถูกใช้เพื่อรักษาภาวะที่มีปัญหาฮอร์โมนไม่สมดุล เช่น ภาวะถุงน้ำในรังไข่ (PCOS) หรืออาการเลือดออกผิดปกติ

ขนาดและวิธีการใช้ยา Desogestrel

  • สำหรับคุมกำเนิด การใช้ยาในรูปแบบยาเม็ดรับประทาน ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละครั้ง ตั้งแต่วันแรกของการมีประจำเดือน รับประทานยาต่อเนื่องเป็นเวลา 28 วัน
  • เริ่มรับประทานแผงใหม่ได้ในวันถัดไป หลังจากยาเม็ดสุดท้ายของแผงเดิม โดยไม่ต้องหยุดใช้ยา
  • กรณีไม่เคยใช้ยาคุมกำเนิดมาก่อน (หรือไม่ได้รับประทานยาคุมกำเนิดในเดือนก่อนหน้า) หากไม่ได้รับประทานยาตั้งแต่วันแรกของการมีประจำเดือน สามารถอนุโลมให้รับประทานยาวันที่ 2-5 ของการมีประจำเดือนได้ แต่ใช้ยาในแผงแรกให้ใช้วิธีการคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วยเป็นเวลา 7 วันแรก เช่น การใช้ถุงยางอนามัย หรืองดการมีเพศสัมพันธ์
  • ในกรณีลืมรับประทานยา
    • หากลืมรับประทานยา Desogestrel โดยมีการทิ้งช่วงระหว่างยา 2 เม็ดห่างกันเกิน 36 ชั่วโมง (3 วัน) ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดจะลดลง
    • ในกรณีที่ลืมรับประทานยาไม่เกิน 12 ชั่วโมงหลังรับประทานยาเม็ดล่าสุด (ไม่ว่าจะเป็นเม็ดใดๆ ในแผง) ให้รับประทานเม็ดที่ลืมทันที่ที่นึกได้ และยาเม็ดถัดไปให้รับประทานตามเวลาปกติ
    • ในกรณีที่ลืมรับประทานยาเกิน 12 ชั่วโมงหลังรับประทานยาเม็ดล่าสุด (ไม่ว่าจะเป็นเม็ดใดๆ ในแผง) ให้ใช้วิธีการคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วยเป็นเวลา 7 วัน
    • การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันก่อนการลืมรับประทานยา ในช่วงสัปดาห์แรกของการใช้ยาแผงแรก มีโอกาสเกิดการตั้งครรภ์ได้

ข้อควรระวังและโทษของยา Desogestrel

  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีการแพ้ยา Desogestrel
  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยลิ่มเลือดอุดกั้น ได้แก่ ลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดดำ ลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด
  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีประวัติหรือเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับโรคตับ ระดับรุนแรง หรือการทำงานของตับต่ำกว่าปกติ
  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคดีซ่าน
  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม และโรคมะเร็งที่ตอบสนองต่อการใช้ฮอร์โมนเพศ
  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยเลือดออกจากช่องคลอดโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • ห้ามใช้ยานี้ในสตรีมีครรภ์ เนื่องจากอาจทำให้ทารกในครรภ์พิการ
  • ควรระวังการใช้ยาในผู้ป่วยเบาหวาน โรคลมชัก วัณโรค โรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วน

ผลข้างเคียงของการใช้ Desogestrel

  • ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย ได้แก่ คลื่นไส้ ปวดศรีษะ เป็นสิว เจ็บเต้านม ประจำเดือนมาไม่ปกติ ประจำเดือนไม่มา น้ำหนักตัวเพิ่ม อารมณ์แปรปรวน ลดความต้องการทางเพศ
  • ผลข้างเคียงที่พบได้น้อย ได้แก่ การติดเชื้อในช่องคลอด อาเจียน รบกวนการใช้คอนแทกเลนส์ ศีรษะล้าน ปวดประจำเดือน เกิดซีสต์ในรังไข่ อ่อนเพลีย อาการแพ้ เกิดผื่น

Scroll to Top