การมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างตั้งครรภ์เป็นสิ่งที่สามีภรรยาสามารถทำได้โดยปลอดภัย แต่ควรต้องมีการพูดคุยกันก่อน เพื่อสอบถามถึงความต้องการของผู้หญิง ความสบายตัวในการมีเพศสัมพันธ์ และการเลือกใช้ท่าที่เหมาะสมที่สุด
ทั้งนี้เพื่อให้ไม่เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นความหมางใจกัน ไม่พอใจกัน ที่สำคัญที่สุดคือ ความกังวลในความปลอดภัยต่อทารกในครรภ์
สารบัญ
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับหญิงตั้งครรภ์
- ภาวะโลหิตจางสามารถลดความต้องการทางเพศได้ เมื่อมีการตั้งครรภ์ ร่างกายของผู้หญิงจะต้องได้รับสารอาหารและแร่ธาตุบางชนิดมากกว่าปกติ เช่น โฟเลต แคลเซียม เหล็ก ถ้าหากได้รับสารอาหารเหล่านี้ไม่เพียงพอต่อการบำรุงครรภ์ก็จะส่งผลต่อสุขภาพตามมา เช่น การขาดธาตุเหล็กที่ทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง ถ้าหากเกิดภาวะนี้ขึ้นจะทำให้ผู้หญิงตั้งครรภ์รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่อยากทำอะไรนอกจากนอนหลับเพียงอย่างเดียว
- คนท้องบางคน อาจมีความต้องการทางเพศมากกว่าปกติ ความแปรปรวนของฮอร์โมนอาจทำให้ผู้หญิงบางคนตื่นตัวไวเป็นพิเศษ นอกจากนี้การตั้งครรภ์จะทำให้เลือดไหลเวียนไปคั่งที่ปากช่องคลอดมากขึ้นจึงอาจทำให้ผู้หญิงมีความพร้อมต่อการมีเพศสัมพันธ์มากยิ่งขึ้น สามีภรรยาสามารถใช้ช่วงเวลานี้ในการมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างเต็มที่ และควรปล่อยให้เธอได้พักผ่อนอย่างเต็มที่เช่นกัน
มีเพศสัมพันธ์อย่างไร ? ให้ปลอดภัยระหว่างตั้งครรภ์
- การมีเพศสัมพันธ์ ไม่ได้กระทบกระเทือนถึงเด็กในครรภ์ การมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้กระทบกระเทือนถึงทารกในครรภ์ เนื่องจากทารกในครรภ์จะได้รับการปกป้องอยู่ในถุงน้ำคร่ำที่มีของเหลวห่อหุ้ม ส่วนในร่างกายของผู้หญิงก็มีเยื่อเมือกคอยปิดกั้นปากมดลูกไว้ เพื่อป้องกันการติดเชื้อต่างๆ ดังนั้นเมื่อมีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่จึงไม่มีทางที่อวัยวะเพศชายจะไปถึงทารกในครรภ์อย่างแน่นอน
- ไตรมาสที่ 2 คือเวลาที่เหมาะสมที่สุด ในช่วงไตรมาสแรกเป็นช่วงที่ผู้หญิงจะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนมากที่สุด จึงอาจพบอาการแพ้ท้อง เวียนศีรษะ และเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์จนไม่มีอารมณ์ทางเพศ แต่เมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่ 2 เมื่อผู้หญิงเริ่มปรับตัวได้แล้วจะสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ นอกจากนี้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ยังมักเป็นช่วงที่ผู้หญิงตั้งครรภ์มีผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีกำลังวังชา รวมถึงมีความต้องการทางเพศกลับคืนมาด้วย ช่วงเวลานี้จึงมักถูกเรียกว่า “เบบี้มูน (Babymoon)”
- ควรหลีกเลี่ยงการทำออรัลเซ็กส์ อันที่จริงแล้ว ระหว่างตั้งครรภ์สามารถทำออรัลเซ็กส์ได้ แต่ต้องระวังการเป่าลมเข้าสู่ช่องคลอดตรงๆ เพราะการทำแบบนี้อาจทำให้อากาศไปอุดตันเส้นเลือดแดง ซึ่งเป็นอันตรายต่อทั้งแม่และเด็ก
อีกกรณีคือ หากฝ่ายชายเป็นเริมที่ปากในระยะแพร่เชื้อ การทำออรัลเซ็กส์ก็อาจทำให้คุณแม่ได้รับเชื้อ ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อทารกได้ เพราะฉะนั้นให้หลีกเลี่ยงการทำออรัลเซ็กส์ไปเลยจะดีกว่า
- ลองทำท่าใหม่ๆ ที่สะดวกมากขึ้น แม้การมีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่จะไม่ส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ แต่การทำกิจกรรมทางเพศในบางท่าก็อาจทำให้ภรรยารู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัวได้ ควรหลีกเลี่ยงท่ามิชชันนารี หลังมีอายุครรภ์ครบ 4 เดือน เพราะน้ำหนักของมดลูกอาจไปกดทับเส้นเลือดใหญ่จนอาจเกิดอันตรายได้ อาจลองให้ภรรยาเป็นฝ่ายอยู่ข้างบนเพื่อให้เธอสามารถควบคุมจังหวะและแรงกดเองได้
- เป็นผู้ช่วยฝ่ายชายให้ถึงฝั่งฝัน ในบางครั้งฝ่ายหญิงอาจทำหน้าที่เป็นเพียง “ผู้ช่วย” ช่วยฝ่ายชายให้ถึงฝั่งฝันได้โดยไม่ต้องสอดใส่ก็ได้ เช่น การใช้มือ การทำออรัลเซ็กส์ให้ฝ่ายชาย
ภาวะอันตรายที่ต้องหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์
ในบางกรณี แพทย์อาจแนะนำให้งดการมีเพศสัมพันธ์ชั่วคราว เช่น
- มีประวัติคลอดก่อนกำหนด
- มีภาวะรกเกาะต่ำ (รกไปปิดขวางปากมดลูก)
- ภาวะปากมดลูกหลวม (ปากมดลูกหดและเปิดก่อนกำหนดคลอด)
- ปากมดลูกขยายออก
- มีเลือดออกจากช่องคลอดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- ปวดเกร็งท้องอย่างรุนแรง
- มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
แต่ถ้าหากอยากมีเพศสัมพันธ์จริง ๆ อาจลองปรึกษาแพทย์ว่า ทำอย่างไรจึงจะปลอดภัยทั้งต่อแม่และทารกในครรภ์มากที่สุด
การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างตั้งครรภ์ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แต่ควรมั่นใจก่อนว่า ฝ่ายหญิงมีสุขภาพกายใจที่สมบูรณ์พร้อมเต็มร้อยที่จะมีเพศสัมพันธ์จริงๆ รวมทั้งมั่นใจว่า จะไม่มีเพศสัมพันธ์แบบพิสดาร หรือรุนแรงจนอาจก่อให้เกิดอันตรายตามมาได้
นอกจากนี้ยังควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อรับฟังคำแนะนำด้านความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญมากกว่าการมีเพศสัมพันธ์คือ ความรัก ความเข้าใจ การดูแลเอาใจใส่ ที่คุณพ่อจะมีให้คุณแม่และทารกในครรภ์ อาจสัมผัสภายนอกด้วยการกอด หอม หรือนวดให้กันและกันก็เพียงพอแล้ว
ตรวจสอบความถูกต้องโดย นพ. ธนู โกมลไสย