ปัจจุบันยุ้ยอายุ 39 ปีค่ะ ด้วยความที่ยุ้ยเป็นเจ้าของกิจการ โรงแรม บาร์ และก็ทำแบรนด์กระเป๋าขายทางออนไลน์ ทำให้ยุ้ยต้องทำงานหนักทุกวัน บางวันเริ่มทำงานตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงคืนแทบไม่ได้นอน ยิ่งช่วงไหนที่เป็นฤดูท่องเที่ยวแล้วพนักงานไม่พอ ยุ้ยก็ต้องลงไปช่วยที่หน้างานจนถึงเช้าอีก
นอกจากนี้ยุ้ยยังเป็นคนที่ Work Hard Play Hard ถ้ามีโอกาสได้ไปเที่ยว ไปปาร์ตี้ ยุ้ยก็จัดหนักจัดเต็มเหมือนกัน ดื่มแอลกอฮอล์ลากยาวตั้งแต่บ่ายจนถึงเช้าอีกวัน เรียกได้ว่าใช้ชีวิตเกินคุ้มมากๆ ค่ะ
ซึ่งการที่ยุ้ยมีไลฟ์สไตล์แบบนี้เลยทำให้ยุ้ยนอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ จนเริ่มมีอาการปวดหัวบ่อยๆ ตอนตื่นนอนและต้องกินยาแก้ปวดเป็นประจำ วันไหนที่ไม่ได้กินยาคือทำงานต่อไม่ได้เลย
ยุ้ยเลยเริ่มกังวลและลองเสิร์ชหาข้อมูลดูว่า ปวดหัวบ่อยๆ เสี่ยงเป็นโรคอะไรได้บ้าง มันจะอันตรายมั้ย จนได้มาเจอว่าเรามีโอกาสเสี่ยงเป็น Stroke in the young ได้ นี่เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ยุ้ยอยากลองมาตรวจสมองก่อนที่มันจะอันตรายไปมากกว่านี้ค่ะ
สารบัญ
- Stroke in the young คืออะไร?
- ตรวจสมองก่อนเป็นอัมพาต ตรวจอะไรบ้าง?
- รีวิวตรวจสมองก่อนเป็นอัมพาต (โปรแกรม Stroke 2) ที่ รพ. พญาไท 1
- ขั้นตอนการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG
- ขั้นตอนการตรวจ MRI และ MRA สมอง
- ขั้นตอนการตรวจอัลตราซาวด์หลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอ (Carotid Duplex)
- ผลการตรวจสมอง ที่ รพ. พญาไท 1
- รีวิวโรงพยาบาลพญาไท 1
Stroke in the young คืออะไร?
จากที่ยุ้ยไปเจอข้อมูลมา Stroke in the young ก็คือโรคหลอดเลือดสมองในคนวัยทำงานค่ะ มักจะเกิดในคนที่อายุต่ำกว่า 45-50 ปี โดยจะมีอาการเหมือนสโตรกทั่วไปเลย เช่น หน้าเบี้ยว แขนขาอ่อนแรง พูดไม่ชัด เดินเซ หรือเห็นภาพซ้อน ซึ่งถ้าใครที่เริ่มมีอาการพวกนี้แล้วก็ควรจะรีบไปโรงพยาบาลทันทีนะคะ
ส่วนสาเหตุที่พบได้บ่อยในวัยนี้ก็คือ การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ มีความดันสูง มีภาวะเครียด หรือมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ รวมถึงมีการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติหรือมีการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
ตอนนั้นพออ่านข้อมูลยุ้ยก็แอบร้อนๆ หนาวๆ เหมือนกันนะ เพราะจากที่ดูอาการบวกกับสาเหตุที่ทำให้เกิด Stroke เราก็เข้าข่ายอยู่หลายข้อเลย ได้แต่คิดว่าหรือเรากำลังจะเสี่ยงอยู่จริงๆ
แต่พอคิดไปคิดมา ยุ้ยก็คิดว่าเราไม่ควรคิดไปเองและควรไปตรวจคัดกรองไว้ก่อนดีกว่า ยุ้ยเลยหาข้อมูลดูว่า ถ้าอยากตรวจคัดกรอง Strok ต้องตรวจยังไง ตรวจอะไรบ้าง จนยุ้ยได้มาเจอกับโปรแกรมตรวจสมองก่อนเป็นอัมพาต (โปรแกรม Stroke 2) ที่ รพ. พญาไท 1 บน HDmall.co.th นี่ล่ะค่ะที่ตอบโจทย์สุดๆ
ซึ่งโปรแกรมนี้เค้าก็ออกแบบมาเพื่อตรวจคัดกรองความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) สำหรับคนอายุ 25 ปีขึ้นไปโดยเฉพาะเลย แถมในโปรแกรมยังได้ตรวจสมองถึง 14 รายการและราคาก็คุ้มค่าสุดๆ ยุ้ยเลยไม่รอช้า ตัดสินใจจองโปรแกรมนี้ผ่าน HDmall.co.th ทันทีค่ะ
ตรวจสมองก่อนเป็นอัมพาต ตรวจอะไรบ้าง?
สำหรับโปรแกรมตรวจสมองก่อนเป็นอัมพาต (โปรแกรม Stroke 2) จะได้ตรวจทั้งหมด 14 รายการค่ะ โดยเค้าจะเน้นตรวจค่าต่างๆ ที่ส่งผลต่อหลอดเลือดสมองโดยตรงเลย เช่น ตรวจหลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอ (Carotid Duplex) ตรวจ MRI และ MRA สมอง นอกจากนี้ก็จะมีตรวจค่าต่างๆ ที่อาจเป็นปัจจัยส่งผลต่อหลอดเลือดด้วย เช่น ระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดค่ะ
รีวิวตรวจสมองก่อนเป็นอัมพาต (โปรแกรม Stroke 2) ที่ รพ. พญาไท 1
ก่อนวันนัดหมาย ยุ้ยก็พยายามนอนหลับพักผ่อนมาให้เพียงพอ แล้วก็งดอาหารกับเครื่องดื่มมาอย่างน้อย 8-10 ชม. ค่ะ
พอถึงวันนัดหมาย ยุ้ยก็มาถึงโรงพยาบาลแต่เช้าเลย เจ้าหน้าที่ก็พายุ้ยไปเปิดประวัติก่อน มีการตรวจคัดกรองเบื้องต้นทั้งชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดันโลหิต จากนั้นพยาบาลก็พายุ้ยไปเจาะเลือดค่ะ
สำหรับการเจาะเลือดที่โรงพยาบาลพญาไท 1 เค้าจะมีเจลเย็นแปะประคบให้หลังเจาะเลือดด้วย ซึ่งมันจะช่วยลดอาการบวมช้ำหลังการเจาะเลือดได้ ตรงนี้ยุ้ยชอบมากๆ ประทับใจสุดๆ
ขั้นตอนการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG
หลังจากเจาะเลือดเสร็จแล้ว พยาบาลก็จะพายุ้ยเข้าไปตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG ต่อค่ะ โดยการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG จะช่วยดูความผิดปกติของการเต้นของหัวใจ โดยเฉพาะภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของลิ่มเลือดหลุดไปอุดสมองและทำให้เกิด Stroke ได้
วิธีการตรวจก็ไม่น่ากลัว ไม่นาน ไม่ยุ่งยาก และไม่เจ็บตัวเลย พยาบาลจะเอาอุปกรณ์มาติดที่หน้าอก หนีบที่ข้อมือและข้อเท้า แล้วก็ให้เรานอนนิ่งๆ ไม่เกิน 5 นาทีก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ
ขั้นตอนการตรวจ MRI และ MRA สมอง
หลังจากตรวจ EKG เสร็จแล้ว พยาบาลจะพายุ้ยไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดของทางโรงพยาบาลและพาไปตรวจ MRI และ MRA สมองต่อ ซึ่งขั้นตอนนี้ยุ้ยก็ตื่นเต้นมากๆ ค่ะ เพราะว่าไม่เคยตรวจมาก่อนเลย
สำหรับการตรวจ MRI และ MRA จะทำควบคู่กันเลย วิธีนี้จะช่วยวินิจฉัยโรคหลอดเลือดสมอง หรือ Stroke ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้คุณหมอเห็นรอยสมองขาดเลือดระยะเริ่มต้นได้ชัดเจน สามารถแยกได้เลยว่าเป็น Stroke จากเส้นเลือดอุดตันหรือจากเลือดออก รวมถึงสามารถตรวจดูปัญหาอื่นๆ ได้ด้วย เช่น เส้นเลือดตีบแคบ คราบไขมันอุดตันในหลอดเลือด หลอดเลือดโป่งพอง และหลอดเลือดฉีกขาด
โดยก่อนที่จะตรวจ MRI และ MRA พยาบาลจะมาซักประวัติสุขภาพของเราอีกครั้งว่าเราเคยผ่าตัดอะไรมาหรือเปล่า เพื่อให้แน่ใจว่าเราไม่มีโลหะอยู่ในร่างกาย รวมถึงจะให้เราถอดเครื่องประดับทุกชิ้นออกให้หมดก่อนตรวจด้วย
ขั้นตอนการตรวจ นักรังสีเทคนิคจะให้เราขึ้นไปนอนบนเตียงพร้อมกับเอาที่อุดหูมาให้ใส่ แล้วก็สวมที่ครอบหูทับอีกชั้น เพราะระหว่างที่ตัวเครื่องทำงานจะมีเสียงดังมากๆ ค่ะ
หลังจากนั้น นักรังสีเทคนิคก็จะจัดท่าทางให้พร้อมสำหรับการตรวจและกดปุ่มให้เตียงเลื่อนเข้าไปข้างในเครื่อง เสร็จแล้วนักรังสีเทคนิคและพยาบาลก็จะออกจากห้องไปอยู่ที่ห้องมอนิเตอร์แทนและเครื่องตรวจ MRI ก็จะเริ่มทำงานเลยค่ะ
หลายคนอาจจะกังวลว่าการตรวจ MRI น่ากลัวมั้ย เพราะเห็นว่าเราจะต้องอยู่ในห้องนั้นคนเดียวและอยู่ในที่แคบๆ ซึ่งจากที่ยุ้ยได้ตรวจแล้ว ความรู้สึกตอนนั้นมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลยค่ะ ใช้เวลาตรวจไม่นานก็เสร็จแล้ว แถมระหว่างตรวจถ้าเรารู้สึกกลัวหรือทนไม่ไหวเค้าก็มีปุ่มให้กดเรียกเจ้าหน้าที่ได้ด้วย
ส่วนเรื่องเสียง ระหว่างตรวจ MRI กับ MRA เครื่องก็ส่งเสียงดังมากจริงๆ ค่ะ แต่ไม่ได้ดังจนถึงขั้นทนไม่ได้นะคะ ระดับเสียงจะประมาณเครื่องบินกำลังบินขึ้นประมาณนั้นเลยค่ะ
พอครบกำหนด 30 นาที ตัวเตียงก็จะค่อยๆ เคลื่อนตัวออกมา แล้วพยาบาลก็จะเข้ามาปลุกพร้อมกับพาไปตรวจรายการถัดไปเลยค่ะ
ขั้นตอนการตรวจอัลตราซาวด์หลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอ (Carotid Duplex)
การตรวจอย่างสุดท้ายก็คือการตรวจอัลตราซาวด์หลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอ (Carotid Duplex) ค่ะ ซึ่งในขั้นตอนนี้คุณหมอจะเป็นคนตรวจให้เราเองเลย
สำหรับการตรวจอัลตราซาวด์หลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอจะช่วยคัดกรองความเสี่ยงในการเป็นอัมพาตได้ค่ะ โดยคุณหมอจะใช้อุปกรณ์ตรวจดูว่ามีการตีบตัน มีคราบไขมัน หรือการไหลเวียนเลือดผิดปกติตรงหลอดเลือดแดงที่คอหรือไม่
จากนั้นคุณหมอก็จะประเมินลักษณะคราบพลัคว่าเสี่ยงหลุดไปอุดสมองแค่ไหน ซึ่งก็จะทำให้คุณหมอสามารถวางแผนการรักษาได้ตรงจุดค่ะ
ผลการตรวจสมอง ที่ รพ. พญาไท 1
หลังจากตรวจครบทุกรายการก็ถึงเวลามาฟังผลตรวจกับคุณหมอแล้วค่ะ ซึ่งในครั้งนี้เราจะได้ฟังผลตรวจกับพญ. นภาศรี ชัยสินอนันตกุล (ว.28074) ผู้อำนวยการศูนย์สมองและระบบประสาทค่ะ
ก่อนอื่นคุณหมอจะซักประวัติของเราอย่างละเอียดอีกครั้งก่อน พร้อมกับให้เล่าอาการปวดหัวที่เป็นมานานว่า ปวดข้างไหน ถ้าเต็ม 10 ให้อาการปวดที่เป็นอยู่กี่คะแนน ซึ่งของยุ้ยเองก็จะปวดหัวข้างขวาเป็นส่วนใหญ่และก็เป็นอาการปวดตุบๆ ค่ะ ส่วนระดับความรุนแรงก็จะอยู่ที่ประมาณ 7-8 เลย
จากนั้นคุณหมอก็จะให้มองนิ้ว กลอกตาตามนิ้ว ให้ยิ้มยิงฟัน ยกแขนขึ้นตรงๆ แล้วก็ให้หลับตา พร้อมกับถามว่าระหว่างที่ทำมีอาการชาตรงไหนบ้างมั้ย จากนั้นคุณหมอก็จะเอาไม้จิ้มฟันมาจิ้มที่แขนเพื่อเช็กว่าเรายังรู้สึกสัมผัสได้ถึงความแหลมหรือเปล่า ซึ่งทุกอย่างก็ปกติดีค่ะ
หลังจากพูดคุยกันเสร็จแล้ว คุณหมอก็จะเปิดดูผลตรวจอัลตราซาวด์หลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอให้ดู ซึ่งทุกอย่างปกติดีค่ะ ยังไม่มีคราบไขมันเกาะทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ส่วนผลตรวจ MRI และ MRA ทุกอย่างก็อยู่ในเกณฑ์ปกติดีทั้งหมดเลย ไม่มีก้อนอะไรผิดปกติ รวมถึงหลอดเลือดในเนื้อสมองทุกอย่างก็อยู่ในเกณฑ์ปกติดี ยังไม่มีหลอดเลือดตีบค่ะ
ส่วนอาการปวดหัวที่เป็นอยู่ คุณหมอบอกว่าอาจจะเกิดจากอาการไมเกรน ซึ่งก็อยู่ที่การพักผ่อนไม่เพียงพอแถมมีเรื่องเครียดมากระตุ้นด้วยค่ะ
นอกจากนี้ยุ้ยก็ถามคุณหมอไปเพิ่มด้วยว่า ถ้าแบบนี้เราจะสามารถป้องกันตัวเองจากโรคหลอดเลือดสมอง หรือ Stroke ได้ยังไงบ้าง คุณหมอก็แนะนำว่าให้ปรับไลฟ์สไตล์ให้ดี คุมอาหาร คุมของทอด ของมัน ของหวาน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 7-8 ชม. และควรหมั่นออกกำลังกายด้วยค่ะ
รีวิวโรงพยาบาลพญาไท 1
จากที่ยุ้ยมาใช้บริการวันนี้ บอกเลยว่าประทับใจโรงพยาบาลพญาไท 1 มากๆ ค่ะ ถือว่าเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ได้มาตรฐาน สะอาด ให้บริการรวดเร็ว แถมอุปกรณ์ต่างๆ ก็ทันสมัย
เจ้าหน้าที่และพยาบาลที่โรงพยาบาลพญาไท 1 ทุกคนก็ให้บริการดีมาก พูดจาสุภาพ ดูแลยุ้ยเป็นอย่างดีในทุกขั้นตอน ส่วนคุณหมอยุ้ยให้คะแนนเต็ม 10 เลยค่ะ น่ารักมากๆ ให้คำปรึกษาและแนะนำการดูแลตัวเองได้ดีมากเลย
นอกจากนี้การเดินทางมาที่โรงพยาบาลพญาไท 1 ก็ไม่ยากค่ะ อยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าบีทีเอสพญาไท ใช้ทางออกที่ 4 แล้วเดินตามทางมาเรื่อยๆ ไม่นานก็ถึงเลย หรือจะต่อวินมอเตอร์ไซค์ก็เดินทางสะดวก ส่วนใครที่ขับรถมาเองที่นี่ก็มีที่จอดรถเยอะมาก สะดวกสุดๆ ค่ะ
สรุปแล้วการตรวจสมองก่อนเป็นอัมพาต (โปรแกรม Stroke 2) ที่ โรงพยาบาลพญาไท 1 ยุ้ยประทับใจทุกอย่างเลยค่ะ แนะนำเลยว่าใครที่มีปัญหาอะไร มาที่โรงพยาบาลพญาไท 1 เค้ามีบริการด้านสุขภาพที่ครอบคลุมมาก
สำหรับใครที่คิดว่าสุขภาพร่างกายของเราเริ่มมีอะไรผิดปกติ แนะนำว่าให้รีบตรวจเช็กก่อนที่อาการจะรุนแรงและรักษาไม่ทันนะคะ หรือใครที่เป็นแบบยุ้ย ทำงานหนัก เครียด พักผ่อนน้อย และกังวลเรื่อง Stroke ก็มาตรวจได้เลยกับโปรแกรมตรวจสมองก่อนเป็นอัมพาต (โปรแกรม Stroke 2) ที่ รพ. พญาไท 1 จองผ่าน HDmall.co.th บอกเลยว่าคุ้มค่าคุ้มราคาสุดๆ ค่ะ