8 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการรักษาโพรงประสาทสันหลังตีบแคบ

เคยมีอาการปวดหลังเรื้อรังไหม เดินนานๆ แล้วปวดจนต้องหยุดพักบ่อยๆ หรือมีอาการชาที่แขน มือ ขาโดยไม่ทราบสาเหตุ หากคำตอบคือ “ใช่” นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบ 

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลายคนอาจไม่รู้ว่าโรคนี้คืออะไร เกิดจากอะไร เกิดได้กับใคร และอาจสงสัยว่า ถ้าเป็นแล้ว ต้องผ่าตัดเท่านั้นหรือไม่ 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบมีอะไรบ้าง ข้อมูลที่คุณควรรู้เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพในระยะยาวคืออะไร บทความนี้มีคำตอบ

1. โพรงประสาทสันหลังตีบแคบ เกิดจากอะไร?

ตอบ: โรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบ เกิดจากการขยายตัวของโครงสร้างรอบกระดูกสันหลัง ได้แก่ เส้นเอ็น หมอนรองกระดูก และข้อต่อกระดูกสันหลัง จนลุกลามเข้าไปเบียดทับโพรงประสาทซึ่งภายในประกอบไปด้วยรากประสาท ไขสันหลัง หลอดเลือด รวมถึงเส้นเอ็นยึดกระดูกสันหลัง

ปัจจัยที่ทำให้โครงสร้างรอบกระดูกสันหลังเกิดการขยายตัว กรณีที่พบได้บ่อย ได้แก่

• ความเสื่อมตัวตามอายุของร่างกาย 
• น้ำหนักตัวที่มาก
• ความผิดปกติที่กระดูกสันหลังแต่กำเนิด
• การได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง
• พฤติกรรมสูบบุหรี่จัด
• พฤติกรรมการใช้งานกระดูกสันหลังอย่างหนักและต่อเนื่อง เช่น ยกของหนักบ่อยๆ การก้มเงยบ่อย การนั่งหรือขับรถนานๆ โดยไม่มีการหยุดพักเคลื่อนไหวร่างกายบ้าง
• การมีเนื้องอก ก้อนถุงน้ำ กระดูกงอก 
• โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท

2. โรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบ เกิดได้กับใครบ้าง?

ตอบ: กลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบ ได้แก่

• ผู้สูงอายุ จัดเป็นกลุ่มที่พบโรคนี้ได้มากที่สุด 
• ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง
• ผู้ที่มีโครงสร้างกระดูกสันหลังผิดปกติแต่กำเนิด
• ผู้ที่ประกอบอาชีพที่ต้องนั่งทำงานนานๆ หรือยกของหนักเป็นประจำ เช่น พนักงานออฟฟิศ คนขับรถ คนสวน ผู้ใช้แรงงาน
• ผู้ป่วยโรคอ้วน ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์
• ผู้ที่มีพฤติกรรมสูบบุหรี่จัด

3. โรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบ ไม่ผ่าตัดได้ไหม?

ตอบ: แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมต่อผู้ป่วยแต่ละราย

หากผู้ป่วยมีอาการผิดปกติจากโรคที่ยังไม่รุนแรง โดยส่วนมากก็สามารถใช้วิธีรักษาแบบไม่ผ่าตัดได้ เช่น การกินยา การฉีดยา การทำกายภาพบำบัด หรือการปรับเปลี่ยนชีวิตประจำวัน

แต่หากผู้ป่วยมีระดับอาการที่รุนแรงแล้ว เช่น ปวดหลังร้าวสะโพก ขา หรือเท้า ยืนหรือเดินนานๆ ไม่ได้ หรือถึงขั้นนั่งอยู่กับที่ มือเท้าชา กล้ามเนื้ออ่อนแรงจนใช้งานไม่ได้ มีอาการทางระบบประสาทจนควบคุมการขับปัสสาวะหรืออุจจาระไม่ได้ แพทย์ก็มักจะแนะนำให้รักษาด้วยการผ่าตัด

อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยไม่ประสงค์จะรักษาด้วยการผ่าตัดจริงๆ หรือมีเงื่อนไขสุขภาพที่ทำให้ไม่สามารถผ่าตัดได้ แพทย์ก็อาจแนะนำให้วิธีรักษาด้วยวิธีไม่ผ่าตัดแทน แต่โดยส่วนมากจะช่วยได้แค่ประคับประคองอาการ ไม่สามารถช่วยให้ผู้ป่วยอาการดีขึ้นหรือหายดีจากโรคในระยะยาวได้

4. โรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบ รักษาด้วยการฉีดยา เจ็บไหม?

ตอบ: ในกรณีที่ผู้ป่วยเลือกใช้วิธีฉีดยาสเตียรอยด์เพื่อรักษาอาการจากโรค โดยทั่วไปแพทย์จะมีการฉีดยาชาให้ก่อนเริ่มทำหัตถการ ทำให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกเจ็บ หรือเจ็บในระดับน้อยมากระหว่างการรักษา

5. โรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบ ผ่าตัดแล้วเป็นอัมพาตไหม?

ตอบ: การเป็นอัมพาตหลังผ่าตัด เป็นหนึ่งในผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการผ่าตัด แต่มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก หากผู้ป่วยรับการรักษาในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และกับแพทย์ที่มีความชำนาญการ

6. โรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบ ผ่าแล้วเดินได้เมื่อไร?

ตอบ: แพทย์มักจะให้คนเริ่มลุกเดินได้ใน 1 วันหลังการผ่าตัด แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละบุคคล

7. โรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบ พักฟื้นนานแค่ไหน?

ตอบ: ผู้ป่วยจะต้องพักฟื้นและงดบางกิจกรรมอย่างเคร่งครัดในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก หลังจากนั้นแพทย์จะประเมินให้ผู้ป่วยเริ่มกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เป็นรายบุคคล 

แต่โดยทั่วไป หากไม่ใช่งานประเภทใช้แรงมากหรือยกของหนัก ผู้ป่วยจะสามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติภายใน 1-4 สัปดาห์หลังผ่าตัด สามารถขับรถได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่ยังต้องงดขับรถทางไกล ส่วนการออกกำลังกายจะต้องงดอย่างน้อย 3 สัปดาห์ หรือตามระยะเวลาที่แพทย์กำหนด

8. รักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบ อันตรายไหม?

ตอบ: หากผู้ป่วยเลือกทำการรักษากับสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และมีแพทย์เฉพาะทางเป็นผู้ให้คำปรึกษา การรักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบก็จะมีความปลอดภัย และมีโอกาสหายได้ด้วยแนวทางการรักษาที่เหมาะสม

อย่างไรก็ตาม โรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบจะมีโอกาสสร้างผลกระทบต่อชีวิตผู้ป่วยได้น้อย หากผู้ป่วยรีบมาตรวจและรักษาโดยเร็ว ตั้งแต่อาการยังไม่รุนแรง แต่หากผู้ป่วยมาพบแพทย์ด้วยอาการที่รุนแรงมากแล้ว หรือมีภาวะแทรกซ้อนจากโรค โอกาสที่กระบวนการรักษาจะซับซ้อน และกินระยะเวลานานก็จะมีมากขึ้น

รีบสังเกตตนเองตั้งแต่ตอนนี้ หากพบอาการปวดหลังเรื้อรัง ปวดหลังร้าวสะโพก ขา เท้า กล้ามเนื้ออ่อนแรง มีอาการชาที่มือ แขน ขา หรือเท้าอย่างไม่ทราบสาเหตุ ยืนหรือเดินได้สั้นลง ต้องพักบ่อยๆ เนื่องจากมีอาการปวด แนะนำให้รีบมาพบแพทย์โดยทันที

อยากปรึกษา สอบถาม ขอคำแนะนำเกี่ยวกับอาการปวดหลัง สงสัยว่ากระดูกสันหลังมีปัญหา ปรึกษาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว หรือค้นหาแพ็กเกจผ่าตัดราคาดี จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย