รีวิวดีท็อกซ์ลำไส้ระบบเปิด Colon Hydrotherapy ที่ Punnisa Clinic

เปิ้ลรู้สึกว่าระบบขับถ่ายในร่างกายไม่ค่อยปกติ ขับถ่ายยาก ขับถ่ายไม่สุด จนครั้งนี้เปิ้ลมาลองใช้บริการดีท็อกซ์ลำไส้ระบบเปิด หรือที่เรียกว่า Colon Detox ที่ Punnisa Clinic (ปันนิสาคลินิก) ค่ะ

ในรีวิวนี้เปิ้ลจะมาอธิบายทุกขั้นตอนการทำดีท็อกซ์ลำไส้ระบบเปิด หรือที่เรียกว่า Colon Detox ที่ Punnisa Clinic (ปันนิสาคลินิก) ให้ทุกคนที่มีปัญหาแบบเดียวกับเปิ้ล และกำลังอยู่ในระหว่างลังเล อยากให้รีวิวทำดีท็อกซ์ของเปิ้ลเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจให้ทุกคนค่ะ

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ เปิ้ลมีปัญหาเกี่ยวกับระบบการขับถ่ายค่ะ ขับถ่ายแล้วรู้สึกว่ายังไม่สุด ยังมีสิ่งตกค้างอยู่ หรือบางทีก็ต้องออกแรงเบ่งนาน อาการคล้ายท้องผูก

เปิ้ลก็ลองรักษาอาการเหล่านี้มาหลายวิธี ไม่ว่าจะหันมากินผักผลไม้ตามฤดูกาล ทั้งกินยาช่วยย่อย ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ อันไหนดีเราลองมาหมด แต่ก็ไม่ค่อยเห็นผลในระยะยาว และก็มีคนแนะนำให้เปิ้ลมาลองทำดีท็อกซ์ลำไส้ดู ก็เลยตัดสินใจหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสวนล้างลำไส้ก่อนค่ะ

ดีท็อกซ์ระบบเปิด Colon Detox ดียังไง?

จากที่เปิ้ลหาข้อมูลเกี่ยวการทำดีท็อกซ์สวนล้างลำไส้ก็พบว่ามันมี 2 แบบเรียกว่า ดีท็อกซ์ลำไส้ระบบปิด และระบบเปิดซึ่งจะมีข้อดีข้อเสียต่างกันค่ะ

สำหรับการดีท็อกซ์ลำไส้ สวนล้างลำไส้ระบบปิด จะมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลตลอดเวลา สามารถปล่อยน้ำเข้าไปได้ลึกถึงลำไส้ส่วนต้น ล้างลำไส้ทั้งระบบโดยที่เราไม่ต้องคอยเบ่งอุจจาระเอง และระหว่างนี้ผู้เชี่ยวชาญจะคอยนวดหน้าท้องกระตุ้นให้น้ำที่อยู่ในลำไส้ได้เซาะเอาตะกรันออกจากผนังลำไส้ให้ได้มากที่สุดให้เราด้วย

ข้อดีของการทำดีท็อกซ์ระบบปิดคือ สวนล้างลำไส้ได้ลึกถึงลำไส้ส่วนต้น ซึ่งเป็นจุดตกค้างของเสียในร่างกาย แต่ระหว่างทำจะไม่เป็นส่วนตัวเพราะมีผู้เชี่ยวชาญหรือพยาบาลคอยควบคุมแรงดันน้ำให้ตลอด

ส่วนการดีท็อกซ์ลำไส้ระบบเปิด เราสามารถควบคุมแรงดันของน้ำด้วยตัวเองผ่านคันโยก โดยสามารถล้างได้ถึงลำไส้ส่วนกลาง ซึ่งจริงๆ แล้วจุดที่สะสมของกากอาหารคือส่วนต้นของลำไส้มากกว่า แต่ข้อดีของการสวนล้างระบบเปิดคือ มีความเป็นส่วนตัวสูง ไม่มีคนอยู่ด้วยในระหว่างทำค่ะ

แต่ที่ปันนิสาคลินิกเป็นระบบเปิด Magnet แบบ Reverse Osmosis จะมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอยู่ด้วยระหว่างทำและนวดกระตุ้นหน้าท้องให้ด้วยเหมือนระบบปิดเลยค่ะ

และจากที่เปิ้ลศึกษามา การทำดีท็อกซ์ไม่ได้เหมาะแค่กับผู้ที่มีอาการท้องผูก หรือผู้ที่มีปัญหาระบบขับถ่ายอย่างเดียวนะคะ แต่การทำดีท็อกซ์ลำไส้ยังเหมาะกับคนที่มีอาการภูมิแพ้ หรือชอบกินอาหารที่ใส่สารกันบูดบ่อยๆ เช่น ไส้กรอก ลูกชิ้น ผักผลไม้ดอง หรือชากาแฟ รวมถึงคนที่กินยาฆ่าเชื้อหรือยาปฏิชีวนะบ่อยๆ ก็อาจมีสารตกค้างในร่างกายได้ด้วยค่ะ

 

รีวิว ดีท็อกซ์ลำไส้ระบบเปิด Colon Detox ที่ Punnisa Clinic (ปันนิสาคลินิก)

สำหรับ Punnisa Clinic (ปันนิสาคลินิก) มีสองสาขาด้วยกันค่ะ คือ สาขา Mixt จตุจักร กับสาขากัลปพฤกษ์ แต่สาขาที่มีห้องทำดีท็อกซ์จะอยู่ที่สาขากัลปพฤกษ์ค่ะ

พอมาถึงที่ Punnisa Clinic (ปันนิสาคลินิก) ก็ติดต่อกับพี่พยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์ได้เลย เปิ้ลจองคิวทำนัดผ่าน HDmall.co.th มาก่อนแล้ว แค่ยื่นบัตรประชาชนพร้อมกับคูปองที่ได้จากอีเมลให้พี่พยาบาลแล้วก็กรอกกข้อมูลเล็กน้อยก็ไปรับบริการได้เลยค่ะ

การเตรียมตัวก่อนทำดีท็อกซ์ลำไส้ระบบเปิด Colon Detox

ก่อนทำดีท็อกซ์ลำไส้ระบบเปิด Colon Detox พี่พยาบาลจะซักประวัติด้านสุขภาพ ประวัติการขับถ่าย และพาไปวัดความดันโลหิตก่อน ถ้าใครที่มีค่าความดันโลหิตเกิน 180 มิลลิเมตรปรอท ควรงดรับบริการค่ะ

และถ้าใครมีโรคประจำตัว หรือมีประวัติการแพ้ยา แพ้อาหารก็ควรแจ้งให้พี่พยาบาลทราบด้วยนะคะ โดยเฉพาะผู้ที่ป่วยด้วยภาวะลำไส้อุดตัน มีแผลในลำไส้ ลำไส้อักเสบ หรือเพิ่งเคยผ่าตัดลำไส้หรือช่องท้องมา ก็ยังไม่ควรทำดีท็อกซ์ลำไส้ระบบเปิด Colon Detox ค่ะ

ส่วนการเตรียมตัวก่อนทำดีท็อกซ์ลำไส้ระบบเปิด Colon Detox พี่พยาบาลแนะนำให้งดอาหารก่อนรับบริการอย่างน้อย 2 ชั่วโมง และควรนอนหลับพักผ่อนมาให้เพียงพอด้วยนะคะ

ขั้นตอนการทำดีท็อกซ์ลำไส้ระบบเปิด Colon Detox

สำหรับการทำดีท็อกซ์ลำไส้ระบบเปิด Colon Hydrotherapy ที่ Punnisa Clinic (ปันนิสาคลินิก) ผู้เชี่ยวชาญจะพาไปยังห้องส่วนตัวค่ะ ไพรเวทสุดๆ

โดยในห้องจะมีเตียงที่ให้เราขึ้นไปนอนเอนตัวเพื่อทำดีท็อกซ์ แล้วก็มีโซนห้องอาบน้ำและโซนขับถ่ายเอาไว้ให้ด้วยค่ะ

ก่อนอื่นผู้เชี่ยวชาญจะให้เราเปลี่ยนเป็นชุดคลุมเพื่อสะดวกต่อการทำดีท็อกซ์ จากนั้นก็ให้ขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วเอาผ้ามาคลุมท่อนล่างของเราเอาไว้ ซึ่งเตียงสำหรับการทำดีท็อกซ์จะออกแบบมาเป็นพิเศษนะคะ ตรงปลายเตียงจะเป็นจุดให้เราปล่อยของเสียค่ะ

จากนั้นผู้เชี่ยวชาญก็จะอธิบายเรื่องการปล่อยน้ำ ซึ่งน้ำที่จะปล่อยเข้ามาในรอบแรกจะเป็นน้ำโอโซนบริสุทธิ์ค่ะ โดยจะมีการปรับแรงดันเพื่อจัดเรียงโมเลกุลน้ำให้มีขนาดเล็กและเพิ่มประสิทธิภาพการชะล้างกับลำไส้โดยตรง

ระบบน้ำโอโซนในรอบแรกจะปล่อยเข้ามาประมาณ 10 ลิตรค่ะ โดยที่น้ำจะอยู่ในอุณหภูมิ 37 องศาเหมาะกับร่างกายของเรา ซึ่งในครั้งแรกน้ำก็จะเข้าไปชำระของเสียที่ตกค้างในลำไส้ก่อนค่ะ

จากนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นน้ำผสมกาแฟออแกนิกซ์ที่นำเข้าสำหรับการทำดีท็อกซ์โดยเฉพาะ ที่จะกระตุ้นการทำงานของลำไส้ใหญ่เพื่อขับถ่ายของเสียที่สะสมออกจากร่างกาย ซึ่งในน้ำผสมกาแฟจะมีสารโอลิโกแซ็กคาไรด์ (Oligosaccharide) ที่สกัดจากส่วนผสมของเมล็ดกาแฟบด เป็นอาหารที่ดีสำหรับแบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้ของเราค่ะ

น้ำผสมกาแฟออแกนิกซ์จะช่วยปรับสภาพลำไส้ให้ขับถ่ายดีขึ้นหลังจากทำเสร็จ และกระตุ้นให้ลำไส้ใหญ่ขับของเสียได้เต็มประสิทธิภาพค่ะ โดยน้ำผสมกาแฟออแกนิกซ์จะปล่อยประมาณ 3 ลิตร จากนั้นก็ปิดท้ายด้วยระบบน้ำโอโซนอีกครั้งประมาณ 12 ลิตรค่ะ

โดยระหว่างที่ปล่อยน้ำเข้ามาในร่างกายรอบแรก ผู้เชี่ยวชาญจะให้เรากลั้นไว้เล็กน้อยแล้วค่อยเบ่งขับถ่าย น้ำที่เข้าไปในลำไส้ก็จะเซาะกากของเสียออกมาค่ะ

หลังจากอธิบายเสร็จ ผู้เชี่ยวชาญก็จะทาสารหล่อลื่นบริเวณสายยางแล้วสอดเข้ามาในก้นของเราประมาณ 1 นิ้ว ตรงนี้ไม่ต้องเขินอายนะคะ เพราะผู้เชี่ยวชาญเค้าไม่ได้เปิดผ้ามาส่องดูก้นของเรา แต่เค้าอาศัยความเชี่ยวชาญในการสอดอุปกรณ์เข้ามาอย่างเบามือมากๆ ค่ะ

และก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความสะอาดนะคะ เพราะอุปกรณ์ที่เป็นสายยางจะเปลี่ยนใหม่ทุกครั้ง เป็นแบบใช้ครั้งเดียวต่อลูกค้า 1 ท่านแล้วทิ้งเลยค่ะ

จากนั้นก็เริ่มขั้นตอนการเปิดระบบน้ำโอโซน ปล่อยน้ำเข้ามาในลำไส้ของเราค่ะ ความรู้สึกแรกขณะทำดีท็อกซ์ให้อารมณ์เหมือนว่าเรากำลังปวดถ่ายหนักหน่วงๆ ไม่ได้เจ็บหรือทรมานนะคะ แค่รู้สึกอยากขับถ่ายมากๆ ผู้เชี่ยวชาญก็จะให้เรากลั้นไว้เล็กน้อยแล้วค่อยขับถ่ายออกมาในระหว่างที่นอนบนเตียงเลยค่ะ

ระหว่างทำดีท็อกซ์เราจะรู้สึกเลยว่าน้ำที่ไหลเข้ามามันเข้าไปลึกมากๆ รู้สึกเลยว่าน้ำกำลังล้างสิ่งตกค้างในร่างกายของเราออกไป และผู้เชี่ยวชาญก็จะคอยนวดบริเวณหน้าท้องไปด้วยนะคะ รู้สึกสบายๆ มากๆ

การนวดหน้าท้องระหว่างทำดีท็อกซ์จะช่วยให้น้ำที่อยู่ในลำไส้ได้เซาะเอาสิ่งตกค้างต่างๆ ออกจากผนังลำไส้ให้ได้มากที่สุด

หลังจากครบ 10 ลิตร ผู้เชี่ยวชาญก็จะปรับเป็นระบบกาแฟออแกนิกซ์อีก 3 ลิตร แล้วก็ปิดท้ายด้วยระบบน้ำโอโซนอีกครั้ง 12 ลิตรเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการทำดีท็อกซ์ในวันนี้ค่ะ

โดยสรุปแล้วการทำดีท็อกซ์ระบบเปิดใช้เวลาประมาณ 30-40 นาทีก็เสร็จแล้วค่ะ จากนั้นผู้เชี่ยวชาญก็จะปล่อยให้เราจัดการธุระส่วนตัว จะขับถ่ายหรืออาบน้ำก็ได้นะคะ

การดูแลตัวเองหลังทำดีท็อกซ์ลำไส้ระบบเปิด Colon Detox

หลังจากออกมาจากห้องทำดีท็อกซ์ ผู้เชี่ยวชาญก็จะเสิร์ฟเครื่องดื่มเกลือแร่ (ORS) และโพรไบโอติกส์ (Probiotics) ให้กับเรา

เพราะว่าระหว่างที่ทำดีท็อกซ์ ร่างกายของเราจะเสียน้ำไปค่อนข้างเยอะ และจุลลินทรีย์ในลำไส้ก็ถูกขับไปออกจำนวนมาก ก็เลยต้องเติมจุลินทรีย์มีประโยชน์และเกลือแร่เพื่อลดอาการอ่อนเพลียที่อาจเกิดขึ้นให้กับเราค่ะ

แล้วที่ก็อธิบายการดูแลตัวเองหลังทำดีท็อกซ์ว่า สิ่งสำคัญอยู่ที่การกินอาหารเพื่อเติมเต็มสารอาหารที่ขาดไป และป้องกันอาการอ่อนเพลียด้วย โดยแนะนำให้ดื่มน้ำ 6-8 แก้วต่อวัน และควรดื่มน้ำเกลือแร่ (ORS) และโพรไบโอติกส์ที่ได้รับในทันที

ในช่วงแรกควรงดอาหารหนักหรืออาหารที่ย่อยยากๆ เช่น เนื้อสัตว์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง และควรเลือกกินอาหารประเภทโปรตีนย่อยง่าย เช่น กุ้ง ปลา หรือไข่แทน

ความรู้สึกส่วนตัวหลังทำดีท็อกซ์ลำไส้ระบบเปิด Colon Detox เสร็จ รู้สึกเลยว่าสดชื่นขึ้น รู้สึกตัวเบาๆ กระปรี้กระเปร่ามากๆ จากเดิมที่เคยเครียดเคยกังวลเรื่องการขับถ่าย ตอนนี้รู้สึกได้เลยว่าสบายตัวมากๆ ตอนที่ได้ลองขับถ่ายหลังทำเสร็จทันทีก็คล่องตัวมากๆ

แถมเปิ้ลยังประทับใจผู้เชี่ยวชาญที่คอยอยู่กับเราตลอดมากๆ เค้าคอยอธิบายทุกอย่างให้แบบคลายข้อสงสัยเลย จากตอนแรกที่เขินๆ และมีความกังวลเล็กน้อย พอได้คุยกัน ได้ฟังคำอธิบายต่างๆ ก็สบายใจและโล่งใจตั้งแต่เริ่มทำจนทำเสร็จ ประทับใจมากค่ะ

สรุปจากการทำดีท็อกซ์ สวนล้างลำไส้ระบบเปิดในครั้งนี้ เปิ้ลบอกเลยว่าคุ้มค่ามากๆ เพราะนอกจากจะได้ขจัดของเสียที่ตกค้างอยู่ในลำไส้แล้ว ยังรู้สึกว่าเราสะอาดจากข้างในจริงๆ แถมยังช่วยให้สุขภาพการขับถ่ายของเราดีขึ้นอีกด้วย คิดไม่ผิดจริงๆ ที่มาใช้บริการทำดีท็อกซ์ในครั้งนี้

สำหรับคนที่ไม่ได้มีปัญหาการขับถ่ายแบบเปิ้ล แต่อยากปรับสมดุลย์ลำไส้ให้แข็งแรง หรือกระตุ้นระบบการเผาผลาญ ลดการสะสมของสิ่งตกค้างในร่างกายเปิ้ลก็แนะนำเลยนะคะ แอบกระซิบว่าถ้าทำเป็นประจำจะช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้นด้วย เพราะร่างกายไม่ได้สะสมของเสียเอาไว้ค่าาา

และที่สำคัญคือ Punnisa Clinic (ปันนิสาคลินิก) พี่ๆ เจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญก็ดูแลเอาใจใส่เราดีมากๆ คอยถามความรู้สึกเราตลอดว่าเราไหวไหม ถ้าไม่ไหวเค้าก็จะพักการปล่อยน้ำก่อน เราพร้อมค่อยทำต่อ แถมยังมีการนวดให้ตลอด ประทับใจมากๆ ค่ะ

ใครที่สนใจกำลังอยากลองทำดีท็อกซ์ หรืออยากลองทำ Colon Detox แบบเปิ้ล แต่ยังไม่รู้ว่าจะทำดีท็อกซ์ที่ไหนดี เปิ้ลแนะนำเลยค่ะว่า Punnisa Clinic (ปันนิสาคลินิก) เค้ามีโปรโมชั่นดีๆ อยู่ที่ HDmall.co.th ซื้อผ่านเว็บนี้ได้ส่วนลดแถมสะดวกสบาย จองคิวก็ง่ายใช้งานไม่ยุ่งยากเลยค่ะ