ข้อควรรู้ก่อนขูดสารแปลกปลอม เมื่อไหร่ที่ควรขูด ไม่ขูดอันตรายไหม?

การมีขนาดน้องชายที่ใหญ่ขึ้น เป็นหนึ่งในความต้องการของหนุ่มๆ หลายคน ซึ่งบางคนอาจตัดสินใจเลือกทางเดินที่ผิดด้วยการฉีดสารแปลกปลอมเข้าไปเพื่อเพิ่มขนาดน้องชาย ซึ่งการฉีดสารแปลกปลอมเพิ่มขนาดน้องชายนั้นอันตรายกว่าที่คิด หากปล่อยไว้นานไม่รีบขูดออกอาจทำให้เกิดอันตรายจนถึงขั้นต้องตัดน้องชายทิ้งได้!

HDmall.co.th ร่วมกับ นายแพทย์จิรวีร์ จันทรานุกูล หรือคุณหมอนัท ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางยูโรหรือแพทย์ทางเดินปัสสาวะและอวัยเพศ จาก Men Plus By MediPrime Clinic จึงจะมาแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับการขูดสารแปลกปลอมให้รู้จักกัน เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ที่เคยฉีดสารแปลกปลอมตัดสินใจมาขูดสารแปลกปลอมออกได้ง่ายขึ้น

เมื่อไหร่ที่ควรขูดสารแปลกปลอมออก

สารแปลกปลอมเป็นสิ่งที่อันตรายและไม่ควรอยู่ในร่างกายตั้งแต่ต้น ผู้ที่เคยฉีดสารแปลกปลอมมาก่อน ถึงแม้จะยังไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ก็ควรรีบเข้ามาพบแพทย์เพื่อขูดสารแปลกปลอมออกทันที

ซึ่งการขูดสารแปลกปลอมออกตั้งแต่ตอนที่ยังไม่มีอาการผิดปกติถือว่าเป็นช่วงที่ดี เนื่องจากสามารถขูดสารแปลกปลอมออกได้ง่ายและให้ผลการรักษาที่ดี แต่ถ้าหากเริ่มมีอาการแล้ว การรักษาด้วยการขูดสารแปลกปลอมก็ยังคงทำได้เช่นกัน แต่อาจจะได้ผลลัพธ์ไม่ดีเท่าคนที่ยังไม่มีอาการ

โดยกลุ่มอาการที่แนะนำให้รีบเข้ามาพบแพทย์เพื่อขูดสารแปลกปลอมออกทันที ได้แก่ ผู้ที่มีอาการปวด บวม แดง แสบร้อน มีก้อน หรือเป็นแผล ซึ่งอาการเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่าน้องชายกำลังเกิดการอักเสบหรืออยู่ในภาวะพาราฟิโนม่า (Paraffinoma) อาจทำให้เกิดอันตรายกับน้องชายมากขึ้นได้

ไม่ขูดสารแปลกปลอมออกจากน้องชาย ส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง?

สำหรับผู้ที่ฉีดสารแปลกปลอมแล้วเริ่มมีอาการผิดปกติ แต่ยังไม่รีบทำการรักษาหรือขูดออก อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่เป็นอันตรายตามมาได้

ในช่วงแรก สารแปลกปลอมที่อยู่ข้างในอวัยวะเพศอาจทำให้เกิดก้อนแข็งหรือเกิดภาวะพาราฟิโนม่า ซึ่งส่งผลกระทบต่อการมีเพศสัมพันธ์ คู่นอนไม่มีความสุข รู้สึกเจ็บระหว่างมีเพศสัมพันธ์ รวมถึงอาจทำให้คู่นอนติดเชื้อได้

นอกจากนี้ บางคนที่มีอาการรุนแรงขึ้น อาจทำให้มีปัญหาในเรื่องของการแข็งตัวและรบกวนการปัสสาวะ เนื่องจากหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศเป็นก้อนแข็งมากจนมาปิดทางเดินปัสสาวะ

ส่วนเคสที่เริ่มมีแผลร่วมกับการอักเสบ ถือว่าเป็นเคสที่มีอาการรุนแรงมาก ควรรีบขูดสารแปลกปลอมออกจากน้องชายทันที เนื่องจากแผลจะทำให้เกิดความเจ็บปวด ยิ่งถ้าหากปล่อยไว้นานก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรง ไปจนถึงการพัฒนาเป็นมะเร็งและทำให้ต้องตัดน้องชายได้

สารขึ้นหัวหน่าวกับลงถุงอัณฑะคืออะไร อันตรายไหม?

สารแปลกปลอมที่ถูกฉีดเข้าไปในอวัยวะเพศชาย มีโอกาสที่จะเคลื่อนตัวหรือไหลกระจายไปยังบริเวณใกล้เคียงได้ เช่น หัวหน่าวหรืออัณฑะ เนื่องจากโครงสร้างผิวหนังบริเวณนี้มีการเชื่อมต่อถึงกันทั้งหมด 

โดยทั่วไปแล้ว สารแปลกปลอมจะไหลไปยังบริเวณที่ยังมีพื้นที่ว่าง หากเนื้อเยื่อในอวัยวะเพศชายมีการอักเสบและเกิดการสะสมของสารแปลกปลอมอย่างหนาแน่น สารเหล่านี้อาจเคลื่อนตัวขึ้นไปยังบริเวณหัวหน่าวหรือไหลลงไปยังถุงอัณฑะแทน

ซึ่งการเคลื่อนตัวของสารแปลกปลอมจะทำให้เกิดผลกระทบที่แตกต่างกันไป เช่น สารไหลขึ้นไปสะสมบริเวณหัวหน่าว อาจทำให้อวัยวะเพศสั้นลงหรือเกิดภาวะไม่แข็งตัว ส่วนในกรณีที่สารไหลลงไปสะสมในถุงอัณฑะ อาจทำให้เกิดปัญหาสารไหลลามลงไปถึงบริเวณลำไส้ตรงได้

สำหรับวิธีการรักษาภาวะนี้ คุณหมอจะเน้นไปที่การขูดสารแปลกปลอมออกให้หมดก่อน จากนั้นจึงซ่อมแซมเนื้อเยื่อเพื่อให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ แต่ทั้งนี้ วิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับลักษณะของสารแปลกปลอมและตำแหน่งที่สารไหลไปสะสมในแต่ละกรณีด้วย

วิธีประเมินเคสขูดสารแปลกปลอมของคุณหมอ?

การประเมินเคสขูดสารแปลกปลอม คุณหมอจะต้องทำการประเมินหลายอย่างเพื่อดูว่าปัญหาของแต่ละเคสควรแก้ไขด้วยวิธีใด ในทางการแพทย์จะเรียกการประเมินนี้ว่า Severity หรือการประเมินความรุนแรงของอาการ เช่น สารไหลไปถึงขั้นไหนแล้ว, มีการอักเสบกี่ครั้ง หรือสารได้กินเนื้อไปจนถึงแกนไหม

ซึ่งการประเมินปัญหาอย่างละเอียด จะช่วยให้คุณหมอเลือกวิธีการรักษาได้อย่างตรงจุด สามารถนำสารแปลกปลอมออกมาได้หมด และคนไข้สามารถกลับมาใช้งานน้องชายได้เหมือนเดิมตามปกติมากที่สุด

ขูดสารแปลกปลอมเปิดแผลตรงไหน?

ก่อนขูดสารแปลกปลอมออกจากน้องชาย คุณหมอจะทำการตรวจประเมินก่อนว่าคนไข้มีสารแปลกปลอมอยู่บริเวณไหนบ้าง เพื่อที่จะได้ทำการเปิดแผล ฉีดยาบล็อกเส้นประสาท และขูดสารแปลกปลอมออกได้ถูกตำแหน่ง 

โดยทั่วไปแล้ว คุณหมอจะเปิดแผลบริเวณใต้คอและนำหนังส่วนที่โดนสารแปลกปลอมกินออกทั้งหมด จากนั้นจึงนำหนังส่วนอื่นๆ มาแปะทดแทน เช่น หนังของถุงอัณฑะ, หนังหน้าขา หรือหนังหน้าท้อง

ส่วนเทคนิคการฉีดยาชา ถ้าหากสารแปลกปลอมอยู่ที่บริเวณลำ คุณหมอจะทำการฉีดบล็อกเส้นประสาทเหมือนกับการขริบทั่วไป แต่ถ้าสารแปลกปลอมไหลขึ้นหัวหน่าวหรือลงอัณฑะ คุณหมออาจจะต้องใช้การดมยาสลบพร้อมกับให้คนไข้นอนโรงพยาบาล 1 คืน

การดูแลตัวเองหลังขูดสารแปลกปลอม

การดูแลตัวเองหลังขูดสารแปลกปลอมสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการเช็ดทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือให้สะอาด ถ้าหากแผลมีขนาดเล็ก คนไข้สามารถล้างแผลด้วยตัวเองได้โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปล้างแผลที่คลินิกหรือโรงพยาบาล

แต่ในกรณีที่แผลมีขนาดค่อนข้างใหญ่ อาจจะต้องเข้ามาทำแผลที่คลินิกหรือโรงพยาบาล เพื่อป้องกันการติดเชื้อและทำให้แผลหายเร็วขึ้น

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ควรหลีกเลี่ยงหลังจากขูดสารแปลกปลอมไปแล้วคือบุหรี่ เนื่องจากบุหรี่มีผลต่อการหายของแผลค่อนข้างมาก ควรงดบุหรี่หลังผ่าตัดประมาณ 2-3 สัปดาห์เพื่อป้องกันแผลหายช้า

ส่วนใครที่กังวลว่าต้องหยุดงานไหม ในเคสที่แผลไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก วันรุ่งขึ้นสามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ แต่ถ้าเป็นเคสที่ขูดสารแปลกปลอมออกเยอะ แผลมีขนาดค่อนข้างใหญ่ คุณหมอแนะนำให้หยุดงานก่อนประมาณ 2-3 วัน เพื่อให้แผลปิดดีแล้วจึงกลับไปทำงานได้ตามปกติ

และสำหรับใครที่กังวลเรื่องการใช้งานน้องชาย อยากรู้ว่าจะกลับมาใช้งานได้เมื่อไหร่ คุณหมออธิบายว่าต้องรอให้แผลหายดีก่อนเช่นกัน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วแผลจะหายได้ภายใน 2-6 สัปดาห์

หลังขูดสารแปลกปลอม ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นอย่างไร?

ผลลัพธ์ที่ได้หลังขูดสารแปลกปลอมออกจากอวัยวะเพศอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน ถ้าหากคนไข้ที่มาขูดสารแปลกปลอมก่อนเริ่มมีอาการผิดปกติ ผลลัพธ์ที่ได้ส่วนมากมักจะออกมาดี บางรายน้องชายอาจกลับมามีรูปร่างที่ปกติเหมือนไม่เคยฉีดสารแปลกปลอมมาก่อนเลย

แต่ในกรณีที่คนไข้ฉีดสารแปลกปลอมมานานจนเริ่มเป็นก้อนใหญ่ มีการกระจายของสารไหลไปตามบริเวณต่างๆ รวมถึงเริ่มมีการอักเสบหรือเกิดแผลแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่สมบูรณ์เท่าเคสที่ยังไม่เกิดอาการใดๆ โดยรูปร่างน้องชายอาจกลับมาได้เพียง 80-90% เท่านั้น แต่โดยรวมแล้วยังคงสามารถใช้งานน้องชายได้ตามปกติอยู่

ฝังเต่าคืออะไร?

การฝังเต่า หรือ Local Flap เป็นวิธีการรักษาในกรณีที่เคสมีสารแปลกปลอมเยอะจนกินหนังบริเวณถุงอัณฑะและทำให้มีหนังน้อยเกินไปจนไม่สามารถนำมาแปะทดแทนได้ ซึ่งในกรณีแบบนี้จะพบได้น้อยมาก พบเพียงแค่ประมาณ 1% เท่านั้น

โดยเทคนิคการฝังเต่า คุณหมอจะนำน้องชายมุดไปฝังไว้ในถุงอัณฑะ ทำให้หนังของอัณฑะขึ้นมาอยู่ด้านบนแทน จากนั้นจะต้องรอให้หนังอัณฑะยึดติดกับลำของน้องชายและค่อยๆ ยืดขยายออกประมาณ 3-6 เดือน

เมื่อถึงเวลา คุณหมอจะทำการตัดหนังอัณฑะบางส่วนที่ยึดกับลำของน้องชายออก ทำให้กลับมามีน้องชายที่แยกอยู่กับตัวอัณฑะเหมือนเดิมตามปกติ ซึ่งหลังจากนำน้องชายออกจากเต่าแล้ว จะใช้เวลาพักฟื้นเพียงแค่ประมาณ 2 สัปดาห์เท่านั้น

หลังฝังเต่า น้องชายจะกลับมาเป็นปกติไหม?

หลังจากฝังเต่าไปแล้ว หน้าตาของน้องชายอาจกลับมาเหมือนเดิมได้แค่ประมาณ 80% เท่านั้น โดยทรงของน้องชายจะยังคล้ายเดิมอยู่คือ ส่วนของลำแยกกับตัวอัณฑะ แต่ผิวสัมผัสบริเวณนั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงและอาจมีขนขึ้นได้ เนื่องจากเป็นการใช้หนังบริเวณอัณฑะเข้ามารักษา

หลังขูดสารแปลกปลอม เพิ่มขนาดน้องชายได้ไหม?

หลังจากขูดสารแปลกปลอมไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเคสที่ต้องฝังเต่าหรือขูดสารแปลกปลอมเพียงอย่างเดียวก็สามารถเพิ่มขนาดน้องชายได้

โดยการเพิ่มขนาดน้องชาย ไม่ว่าจะเป็นการฉีดฟิลเลอร์หรือการฉีดไขมัน คุณหมอจะแนะนำให้ทำหลังจากขูดสารไปแล้ว ส่วนการเพิ่มความยาวน้องชาย คุณหมอจะแนะนำให้ทำพร้อมกับการขูดสารแปลกปลอมเลย เพื่อที่จะได้ไม่ต้องรื้อแผลใหม่อีกรอบ

แต่ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจเพิ่มขนาดหรือเพิ่มความยาวน้องชายก็ควรเข้ามาปรึกษากับคุณหมอก่อน เนื่องจากแต่ละคนอาจเหมาะกับวิธีการที่แตกต่างกัน เช่น คนที่มีเนื้อเยื่อเยอะ ส่วนมากจะเหมาะกับการเพิ่มขนาดน้องชายด้วยการใช้เนื้อเยื่อตัวเอง หรือบางคนที่เหลือเนื้อเยื่อน้อย การฉีดฟิลเลอร์อาจจะเหมาะสมกว่า

ขูดสารแปลกปลอมกับแพทย์เฉพาะทาง ดีกว่ายังไง?

การขูดสารแปลกปลอมเป็นหัตถการที่ควรทำกับแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น เนื่องจากเป็นการรักษาที่อยู่ใกล้กับอวัยวะสำคัญ หากแพทย์ขาดความชำนาญหรือไม่มีประสบการณ์ทางด้านนี้มากพอ ก็อาจทำให้อวัยวะส่วนอื่นๆ ของคนไข้ได้รับบาดเจ็บและมีผลกระทบตามมาได้

นอกจากนี้ การขูดสารแปลกปลอมกับแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญยังอาจทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อรุนแรงจนถึงขั้นต้องตัดน้องชายได้ เพราะฉะนั้นการขูดสารแปลกปลอมกับแพทย์เฉพาะทางจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและได้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามตรงกับความต้องการมากที่สุด

ผู้ที่สนใจขูดสารแปลกปลอมออกจากน้องชาย สามารถทักสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือทำนัดปรึกษาคุณหมอได้ผ่านทาง @HDcare แอดมินพร้อมให้บริการ