เรื่องเข้าใจผิดของการออกกำลังกายและลดน้ำหนัก

แม้การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ ทั้งในเรื่องของสุขภาพ และการลดน้ำหนัก แต่คนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย อาจเคยได้ยินหรือมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการออกกำลังกาย และการลดน้ำหนัก ทำให้ออกกำลังกายแล้วไม่ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจสักเท่าไหร่

มีคำถามเกี่ยวกับ การออกกำลังกาย? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

มาดูกันว่าคุณกำลังเชื่อ หรือเข้าใจผิดเกี่ยวกับการออกกำลังกาย และลดน้ำหนักอยู่รึเปล่า

สารบัญ [show]

1. ออกกำลังกายยิ่งเยอะยิ่งดี เห็นผลไว

ข้อเท็จจริง: การออกกำลังกายจะช่วยเผาผลาญไขมันมาเป็นพลังงาน ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง รูปร่างได้สัดส่วน แต่การออกกำลังกายมากหรือหนักเกิน จะทำให้กล้ามเนื้อ เอ็น ข้อต่อต่าง ๆ ถูกใช้งานอย่างหนัก ร่างกายขาดพลังงาน สูญเสียแร่ธาตุที่จำเป็นออกมาพร้อมกับเหงื่อ

ส่งผลให้อ่อนเพลีย หน้ามืด เป็นตะคริว และเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้ง่าย เช่น เอ็นอักเสบ กล้ามเนื้ออักเสบ นอกจากนี้ หลังออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ระดับน้ำตาลในเลือดจะลดลง กระตุ้นให้เกิดความหิว ทำให้คุณอาจกินมากกว่าปกติ

อีกทางหนึ่งการฝืนออกกำลังกายหนักติดต่อกัน อาจทำให้เหนื่อยล้าทางจิตใจ จนสุดท้ายล้มเลิกการออกกำลังกาย หรือเป้าหมายลดน้ำหนักไปนั่นเอง

ยิ่งมือใหม่ที่เริ่มออกกำลังกายใหม่ ควรออกกำลังกายแต่พอดี ประมาณ 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือเฉลี่ยครั้งละ 30 นาทีขึ้นไป ไปจนถึง 1 ชั่วโมง อย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ แล้วแต่ความหนักเบาของการออกกำลังกาย และสภาพร่างกาย

2. ยิ่งเหงื่อออก ยิ่งเบิร์นไขมัน ยิ่งผอม

ข้อเท็จจริง: การขับเหงื่อเป็นกลไกของร่างกายในการระบายความร้อนออกจากร่างกาย เพื่อรักษาการทำงานของระบบต่าง ๆ ไม่ให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงเกินไป หากมองกลับกัน เมื่อคุณไปยืนอยู่เฉย ๆ ท่ามกลางแดด เหงื่อก็สามารถขับออกมาได้เช่นเดียวกัน

ปริมาณเหงื่อที่ออกเลยไม่ได้ส่งผลต่อการเผาผลาญไขมันใด ๆ เพราะปกติแล้ว การออกกำลังกายระดับที่ไม่หนักมากและต่อเนื่อง ร่างกายจะเผาผลาญไขมันมาเป็นพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่เกิดความร้อนในร่างกาย

เมื่อมีการออกกำลังกายหนักขึ้น ร่างกายไม่สามารถดึงพลังงานจากไขมันมาใช้ได้ทัน ทำให้ต้องเผาผลาญแป้งมาใช้เป็นพลังงานแทน ซึ่งใช้เวลาเร็วกว่าการเผาผลาญไขมัน ทำให้เกิดความร้อนสะสมจนต้องมีการขับเหงื่อออกมา

การออกกำลังกาย ไม่ว่ารูปแบบไหน ก็ช่วยเผาผลาญพลังงานได้เหมือนกัน สิ่งที่ควรเน้น คือ ความสม่ำเสมอในการออกกำลังกาย เลือกประเภทการออกกำลังกายให้หลากหลาย และเหมาะกับตัวเองมากที่สุด

3. ออกกำลังกายเฉพาะส่วนช่วยเบิร์นไขมันเฉพาะที่

ข้อเท็จจริง: เราไม่สามารถเผาผลาญไขมันเฉพาะที่ได้ แต่การออกกำลังกายเฉพาะส่วน อย่างการยกเวทหรือซิทอัพ สามารถช่วยสร้างและกระชับกล้ามเนื้อส่วนที่ออกกำลังกายได้

การออกกำลังกายเป็นการทำงานของกล้ามเนื้อหลายส่วน ไม่ได้เพียงส่วนใดส่วนหนึ่ง ร่างกายจะเลือกใช้พลังงานจากอาหารที่เรากินไปก่อน หลังจากนั้นถึงจะดึงพลังงานที่สะสมออกมาใช้ ส่วนจะดึงมาจากส่วนไหนก่อน ขึ้นอยู่กับพันธุกรรม เพศ และอายุของแต่ละคน

การลดไขมันสะสมเลยต้องอาศัยหลายปัจจัยรวมกัน ทั้งควบคุมแคลอรีและอาหารที่กิน ออกกำลังแบบคาร์ดิโอที่ช่วยในการสลายไขมัน ควบคู่ไปกับออกกำลังกายแบบใช้แรงต้าน หรือเวทเทรนนิ่งที่ช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ทำให้ไขมันค่อย ๆ ลดไปพร้อมกัน

4. ผู้หญิง ห้ามยกเวท เพราะจะทำให้ตัวใหญ่

ข้อเท็จจริง: ผู้หญิงหลายคนกลัวการออกกำลังกายกล้ามเนื้อ เพราะกลัวว่าจะมีกล้ามหรือตัวใหญ่ขึ้น แต่ด้วยสรีระและฮอร์โมนของผู้หญิงแล้ว กล้ามเนื้อของผู้หญิงจะสร้างได้ยากกว่าผู้ชาย แม้จะยกเวทในน้ำหนักที่เท่ากัน

และการที่ยกเวทแล้วกล้ามใหญ่นั้นต้องใช้อาศัยการเล่นเวทที่หนักมาก ต้องออกแรงจนกล้ามเนื้อเกือบรับไม่ไหว เพื่อให้สร้างกล้ามเนื้อสร้างขึ้นมาใหม่ รวมถึงต้องอาศัยการกินโปรตีนและสารอาหารอื่น ๆ ให้เพียงพอด้วย

สาว ๆ ไม่ต้องกังวลไป การยกเวทเบา ๆ หรือออกน้ำหนักที่ใช้แรงต้านจะช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ และคงกล้ามเนื้อไม่ให้สลายไป ร่างกายมีอัตราการเผาผลาญดีขึ้น ไม่ได้ทำให้ตัวหรือกล้ามใหญ่ขึ้นง่ายแบบนั้น

5. อยากลดไขมัน ลดน้ำหนัก ต้องคาร์ดิโอเท่านั้น

ข้อเท็จจริง: แม้ว่าการคาร์ดิโอจะเป็นการออกกำลังกายที่เผาผลาญพลังงาน และไขมันสะสมได้ดี แต่การออกกำลังกายแบบใช้แรงต้าน อย่างพวกเวทเทรนนิ่งหรือบอดี้เวทเทรนนิ่ง จะช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ เพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน แม้ไม่ได้ออกกำลังกายก็ตาม

การจัดตารางการออกกำลังกายที่หลากหลาย ผสมผสานกันหลายแบบ โดยอาจจะเน้นประเภทของการออกกำลังกายหรือกีฬาที่คุณชื่นชอบ รู้สึกสนุกด้วย จะช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ดีขึ้น

รวมถึงต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และออกนานเพียงพอ ถึงจะช่วยให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพ

6. อายุมากแล้ว ไม่ควรออกกำลังกาย

ข้อเท็จจริง: ไม่ว่าคนวัยไหนก็ควรออกกำลังกาย ผู้สูงอายุก็เช่นกัน เพียงแต่ควรเลือกรูปแบบการออกกำลังกายที่เหมาะสม ไม่หนักเกิน ไม่มีแรงกระแทก อย่างการเดิน โยคะ ไทชิหรือไทเก๊ก

การออกกำลังกายในผู้สูงอายุมีประโยชน์หลายอย่าง ทั้งช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อและมวลกระดูก ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง ช่วยในเรื่องของการทรงตัว การเคลื่อนไหวร่างกาย ช่วยในเรื่องสุขภาพจิต และการนอนหลับ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนวัยนี้

7. ออกกำลังกายที่บ้านกับฟิตเนสไม่เหมือนกัน

ข้อเท็จจริง: การออกกำลังกายทำที่ไหนก็ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งนั้น เพียงแค่การออกกำลังกายที่ฟิตเนสอาจช่วยให้เป้าหมายในการออกกำลังกาย ปั้นหุ่น และลดน้ำหนักสำเร็จได้ง่ายขึ้น นั่นก็เพราะว่า…

มีอุปกรณ์ที่หลากหลาย ช่วยให้การสร้างกล้ามเนื้อได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังเหมาะกับมือใหม่
เพิ่มแรงจูงใจด้วยสภาพแวดล้อมที่มีคนออกกำลังกายเป็นเพื่อน
สนุก เพราะมีคลาสออกกำลังให้เลือกหลากหลาย
มีเทรนเนอร์ (Personal Trainer) ช่วยแนะนำการออกกำลังกาย การคุมน้ำหนัก และการเลือกอาหาร
ได้เจอเพื่อนใหม่ที่มีเป้าหมายร่วมกัน อย่างการสร้างกล้าม และการลดน้ำหนัก

ไม่ว่าคุณจะออกกำลังกายที่บ้าน สวนสาธารณะ หรือฟิตเนส ก็สามารถสร้างสุขภาพที่ดีได้ไม่แพ้กัน เพียงแค่เริ่มออกกำลังกาย แล้วอย่าลืมออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ และกินอาหารที่มีประโยชน์ควบคู่ไปด้วย

ใครอยากปั้นหุ่นเป๊ะ หุ่นเท่ หุ่นแซ่บ หรือลดน้ำหนักแบบไม่เหงา มาเช็กแพ็กเกจฟิตเนส คอร์สลดน้ำหนัก พร้อมเปรียบเทียบราคาที่ถูกใจได้ที่ HDmall.co.th คลิกเลย