ตำแหน่งที่ปวดท้อง บอกโรคได้! บทความนี้จะพามาไขปัญหาคาใจอาการปวดท้องน้อยด้านขวา เจ็บจี๊ด ๆ ทั้งในผู้ชาย ผู้หญิง ว่าเกิดจากอะไรกันแน่
เพราะท้องน้อยด้านขวาเป็นตำแหน่งของอวัยวะในช่องท้องหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นไส้ติ่ง ลำไส้เล็กบางส่วน ปีกมดลูกด้านขวา หรือท่อไต แล้วปวดท้องน้อยด้านขวาที่เรามักเป็นกันบ่อย ๆ เกิดจากส่วนไหน วินิจฉัยอย่างไรได้บ้าง มาหาคำตอบไปพร้อมกัน
สารบัญ
เจ็บท้องน้อยด้านขวา เกิดจากอะไร อวัยวะส่วนไหนบ้าง
อาการเจ็บท้องน้อยด้านขวา พบได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง มักเกิดจากความผิดปกติของไส้ติ่ง ลำไส้เล็ก ปีกมดลูก หรือไต เพราะเป็นอวัยวะที่อยู่ในช่องท้องตำแหน่งดังกล่าว ได้แก่
ไส้ติ่งอักเสบ
ไส้ติ่งเป็นส่วนที่อยู่ระหว่างลำไส้เล็กส่วนปลายและลำไส้ใหญ่ เมื่อไส้ติ่งอักเสบจึงทำให้เกิดอาการปวดท้องเฉียบพลันที่กลางสะดือ และต่อลงมายังท้องน้อยด้านขวา
อาการปวดจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ท้องอืด ท้องผูกหรือท้องเสีย และมีไข้ต่ำ
ไส้ติ่งอักเสบถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรักษาด้วยการผ่าตัด เพื่อป้องกันไม่ให้ไส้ติ่งแตกจนเชื้อโรคแพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือด
ลำไส้อักเสบ
โดยทั่วไป เกิดจากการกินอาหารที่มีเชื้อโรคปนเปื้อน จะมีอาการปวดบีบที่หน้าท้อง ถ้าส่วนที่อักเสบเป็นลำไส้ฝั่งขวา ก็จะทำให้เจ็บท้องน้อยด้านขวาด้วย นอกจากนี้ ยังทำให้ท้องร่วง ถ่ายเหลวหลาย ๆ ครั้ง ถ่ายมีมูกเลือดปน อ่อนเพลีย และมีไข้ ซึ่งต้องระวังภาวะร่างกายขาดน้ำด้วย
มะเร็งลำไส้
มะเร็งลำไส้เป็นโรคที่พบได้ในคนอายุ 65 ปีขึ้นไป จะก่อให้เกิดอาการปวดเกร็งในท้อง อุจจาระผิดปกติ เช่น เป็นเส้นเล็ก ๆ ระยะต่อมาจึงจะเริ่มท้องผูกสลับกับท้องเสีย อุจจาระมีเลือดปน ปวดแต่ถ่ายไม่ออก มะเร็งอาจแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง และไปสู่อวัยวะอื่น ๆ ได้
ปีกมดลูกอักเสบ
ปีกมดลูกอักเสบมักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ท่อนำไข่ ถ้าเป็นการอักเสบที่ปีกมดลูกด้านขวา ก็จะทำให้เจ็บท้องน้อยด้านขวา โดยเฉพาะจะยิ่งเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ ร่วมกับมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน มีเลือดออกกะปริบกะปรอยจากช่องคลอด และมีตกขาวผิดปกติ
มีซีสต์หรือเนื้องอกในมดลูก
ซีสต์หรือเนื้องอกในมดลูกเป็นภาวะที่พบบ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ แม้เนื้องอกจะอันตราย แต่จะทำให้เกิดอาการปวดแน่นท้องน้อย ประจำเดือนมาบ่อยหรือนานกว่าปกติ ปัสสาวะลำบาก รวมถึงอาจทำให้มีบุตรยาก และมีปัญหาในการคลอดด้วย
ท้องนอกมดลูก
ท้องนอกมดลูกเกิดจากตัวอ่อนไปฝังตัวอยู่นอกผนังมดลูก เช่น ปีกมดลูก หรือท่อนำไข่ ทำให้มีอาการและสัญญาณเหมือนการตั้งครรภ์ปกติ แต่ตัวอ่อนจะไม่เจริญเป็นทารก ร่วมกับปวดท้องน้อยบริเวณอุ้งเชิงกราน มีเลือดไหลออกจากช่องคลอด และมีอาการหน้ามืดวิงเวียน
มีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะมักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ไต กรวยไต ท่อปัสสาวะ และกระเพาะปัสสาวะ ทำให้มีอาการปวดท้องน้อย ปวดเอวและหลัง ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะขุ่น มีเลือดปน มีกลิ่นเหม็น และอาจมีไข้หนาวสั่นด้วย
นิ่วในทางเดินปัสสาวะ
นิ่วในทางเดินปัสสาวะเกิดจากการที่สารในปัสสาวะตกผลึกกลายเป็นก้อนนิ่วในทางเดินปัสสาวะ โดยส่วนมากเกิดขึ้นที่ไต ท่อไต หรือกรวยไต ทำให้ปวดท้องน้อยด้านขวา และอาจร้าวไปถึงสีข้าง ส่งผลให้ปัสสาวะขัด ปัสสาวะไม่ออก หรือมีอาการคลื่นไส้อาเจียนด้วย
เจ็บท้องน้อยด้านขวา เจ็บจี๊ด ๆ รักษาอย่างไรได้บ้าง
- กินยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล หรือไอบูโพรเฟน ช่วยบรรเทาอาการเจ็บท้อง และลดไข้ แต่รักษาสาเหตุของโรคไม่ได้
- ใช้ยาปฏิชีวนะ ใช้กรณีที่ติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ปีกมดลูกอักเสบ หรือลำไส้อักเสบ โดยประเภทยาจะขึ้นอยู่กับชนิดของแบคทีเรียก่อโรค และต้องกินติดต่อกันประมาณ 10–14 วัน
- ผ่าตัด ใช้รักษาอาการที่จำเป็นต้องผ่าตัด เช่น ไส้ติ่งอักเสบ ซีสต์หรือเนื้องอกในมดลูก และนิ่วไตที่มีขนาดใหญ่
- รักษาด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น การฉายรังสี หรือการใช้ยาเคมีบำบัด สำหรับรักษามะเร็งลำไส้ เป็นต้น
เจ็บท้องน้อยด้านขวา ป้องกันได้
วิธีป้องกันการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะและปีกมดลูก ทำได้ง่าย ๆ แค่ไม่กลั้นปัสสาวะนาน รักษาสุขอนามัยของอวัยวะเพศ ให้สะอาด ไม่ให้อับชื้น และสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
สำหรับการป้องกันลำไส้อักเสบ คือการกินอาหารที่สะอาด ปรุงสุก รวมถึงล้างมือก่อนกินอาหารและหลังเข้าห้องน้ำทุกครั้ง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอาการปวดท้องน้อยข้างขวา
ปวดท้องน้อยด้านขวา หน่วง ๆ จี๊ด ๆ
Q1: ก่อนหน้านี้ปวดแถว ๆ ท้องน้อยค่ะ ตอนนี้ปวดท้องน้อยด้านขวา ปวดแบบหน่วง ๆ ร้าวมาที่ขาหนีบ บางครั้งปวดหน่วง ๆ บางครั้งปวดแบบจี๊ด ๆ ค่ะ อยากทราบว่าเสี่ยงต่อการเป็นโรคอะไรคะ
A1: อาการปวดท้องบริเวณท้องน้อยอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ตามแต่ละอวัยวะที่อยู่บริเวณนั้นสามารถทำให้เกิดอาการปวดท้องน้อยได้หมดเลยครับ
เช่น ถ้ามีมดลูก ก็สามารถปวดได้ในกรณีที่มดลูกโตจนไปกดเบียดอวัยวะบริเวณนั้น กรณีที่เป็นท่อนำไข่ ก็อาจเป็นการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
หากเกิดจากรังไข่ ที่พบได้บ่อยๆ คือโรคช็อกโกแลตซีส หรือถ้าเป็นเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ โรคนี้ก็ทำให้ปวดท้องน้อยเรื้อรังจากการมีพังผืดในช่องท้องได้ครับ
ส่วนทางระบบปัสสาวะ ก็มีท่อไตด้านขวา หากติดเชื้ออักเสบ ก็มีผลทำให้ปวดท้องน้อยได้เหมือนกัน หรือกรณีที่มีนิ่วในท่อไต ก็ทำให้เกิดปวดท้องน้อยได้ แต่มักจะเป็นแค่ข้างใดข้างหนึ่งครับ
ทางระบบลำไส้ ก็มีไส้ติ่งอักเสบ หรือแม้แต่กล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานเองก็มักเป็นสาเหตุของการปวดท้องน้อยได้บ่อยครับ
จะเห็นว่า สาเหตุของการปวดท้องน้อยมีเยอะมากเลยนะครับ เพราะฉะนั้น เพื่อความจำเพาะเจาะจงกับสิ่งที่เราเป็นอยู่ หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหรือตรวจภายในดีกว่านะครับ จะได้รักษาถูกจุด หายไว ๆ ครับ
ตอบโดย นพ. รัตน์พล อ่ำอำไพ
ปวดท้องน้อยด้านขวาบ่อย
Q2: ปวดท้องน้อยด้านขวาบ่อยเป็นโรคอะไรคะ
A2: อาการปวดท้องน้อยด้านขวาแบบเร่งด่วนหรือเฉียบพลัน ถ้าสำหรับผู้หญิง ต้องแยกว่าเป็นอาการปวดท้องสูตินรีเวช หรือเป็นอาการปวดทางศัลยกรรมค่ะ
สาเหตุที่ต้องแยกออกจากกัน เพราะการรักษาของ 2 อย่างนี้แตกต่างกัน และต้องพบแพทย์เฉพาะทางคนละแผนกกันค่ะ
ดังนั้น สำหรับผู้หญิง ประวัติเกี่ยวกับสูตินรีเวชสำคัญมากค่ะ เช่น ประจำเดือนครั้งสุดท้ายเมื่อไร มาสม่ำเสมอหรือไม่ มีเลือดออกทางช่องคลอดหรือเปล่า ลักษณะของเป็นอย่างไร มีสีหรือกลิ่นผิดปกติหรือไม่ เป็นต้นค่ะ
นอกจากนี้ หากประวัติประจำเดือนมาสม่ำเสมอดี และไม่มีเลือดหรือตกขาวผิดปกติ แพทย์จะเพ่งเล็งไปที่โรคทางศัยกรรมหรืออายุรกรรม ซึ่งก็จะแยกตามตำแหน่งอวัยวะและสาเหตุที่เป็นไปได้ เช่น
- ระบบทางเดินอาหาร หากปวดท้องมาก ขยับไม่ได้ กดท้องบริเวณสะดือย้ายตำแหน่งมาด้านล่างขวา คลื่นไส้อาจียน อาจมีถ่ายเหลวและไข้ร่วมด้วย อาจสงสัยว่ามีภาวะไส้ติ่งอักเสบ หรือกระเปาะลำไส้อักเสบ–ติดเชื้อ (Diverticulitis) ส่วนในผู้สูงอายุ อาจนึกถึงโรคเกี่ยวกับก้อนในลำไส้ โดยมักมีประวัติน้ำหนักลดลง ซีด อ่อนเพลีย อุจจาระมีมูกเลือดปน ท้องผูกสลับท้องเสีย หรือคลำพบ ก้อนในท้องมาก่อนหน้านี้ค่ะ
- ระบบทางเดินปัสสาวะ อาจมีประวัติปวดบริเวณท้องน้อยร้าวไปด้านหลังหรือหน้าขา ถ้าปัสสาวะมีก้อนกรวดปน อาจเป็นโรคนิ่วทางเดินปัสสาวะ ส่วนปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะไม่สุด อั้นปัสสาวะไม่ได้ ปวดท้องน้อย และมีไข้ ก็อาจสงสัยว่าเป็นการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะได้ ถ้ามาโรงพยาบาลจะได้รับการตรวจปัสสาวะเบื้องต้นค่ะ
- กล้ามเนื้อบริเวณท้อง หากออกกำลังกายหนัก ๆ ยกของหนัก หรือ บริเวณท้องน้อยด้านขวาถูกกระแทก อาจเกิดจากการที่กล้ามเนื้อบริเวณท้องบาดเจ็บและอักเสบได้ค่ะ นอกจากนี้อาจเคลื่อนไหวแล้วเจ็บมากขึ้นด้วย อย่างนี้รักษาได้ด้วยการกินยาแก้ปวด และพักการออกแรงหนัก ๆ ไปก่อนนะคะ ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ค่อยไปพบแพทย์ค่ะ
- ระบบสืบพันธุ์ ถ้าปวดท้องน้อยมาก ๆ ประจำเดือนขาด (หรือทราบว่าตั้งครรภ์) ร่วมกับมีเลือดออกทางช่องคลอด (อันนี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้) เป็นไปได้ว่าอาจเป็นภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก ควรไปโรงพยาบาลค่ะ
ทั้งนี้ หากมีอาการปวดมาก ควรมาพบแพทย์ที่รพ. เพราะอาการปวดท้องมาก ๆ เฉียบพลัน อาจมีอันตรายต่อชีวิตได้ค่ะ
ตอบโดย พญ. ศิริวรรณ นพคุณ
ปวดท้องน้อยจี๊ด ๆ ท้องหรือไม่
Q3: ผู้หญิง มีอาการขมคอ ปวดท้องน้อยข้างซ้ายและขวาจี๊ด ๆ นี่คืออาการของคนท้องรึป่าวครับ
A3: อาการที่ว่ามาไม่ใช่อาการที่มีความจำเพาะต่อการตั้งครรภ์ครับ
อาการที่เกิดขึ้นเป็นอันดับแรกในกรณีที่ตั้งครรภ์ควรเป็นการขาดประจำเดือนครับ และในระยะต่อมา เมื่อตั้งครรภ์ได้ 2–3เดือนแล้ว ก็อาจจะมีอาการอื่น ๆ ตามมา เช่น คัดตึงเต้านม ตกขาวมากขึ้น คลื่นไส้อาเจียน เป็นต้น
ถ้าต้องการทราบว่าตั้งครรภ์หรือไม่ หมอแนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดู จะเป็นการยืนยันที่ดีที่สุดครับ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97–99% ครับ
ส่วนอาการปวดท้องที่เกิดขึ้นนั้น ถ้าปวดรุนแรงมาก ๆ หรือปวดติดต่อกันหลายวัน ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ
ตอบโดย นพ. กันตณัฏฐ์ อยู่ตรีรักษ์
ปวดท้องน้อยด้านขวา ปวดจี๊ด ๆ คาใจ ไม่หายสักที ลองแช็ตมาให้แอดมินของ HDmall ช่วยจองคิวคุณหมอประเมินอาการก่อนได้ คลิก! หรือเปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจเหล่านี้ได้เลย: