เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในจมูก ร่างกายก็จะหลั่งเมือกออกมากำจัดสิ่งเหล่านี้ออกไป ซึ่งก็คือ “น้ำมูก” ที่เราเคยเจอกันอยู่บ่อย ๆ นั่นเอง แม้ว่าอาการคัดจมูกหรือน้ำมูกไหลจะไม่ได้อันตรายอะไร แต่การต้องคอยสั่งน้ำมูกทั้งวันก็กลายเป็นปัญหาก่อกวนใจได้เหมือนกัน นอกจากการกินยาและนอนหลับพักผ่อนแล้ว ยังมีวิธีบรรเทาอาการน้ำมูกใสไหลไม่หยุดมาแนะนำเพิ่ม รับรองว่าทำเองได้ง่าย ๆ ไม่ต้องใช้ยา
1. ล้างจมูก
ไม่ต้องหาซื้อยาตัวไหน แค่ลองใช้น้ำเกลือล้างจมูก มีงานวิจัยหนึ่งพบว่า คนที่ใช้น้ำเกลือในช่วงที่เป็นหวัด จะมีอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ เช่น น้ำมูกไหล เจ็บคอ คัดจมูก น้อยลง แถมยังลดปริมาณการใช้ยาด้วย
โดยเหตุผลที่น้ำเกลือเป็นตัวช่วยเรื่องนี้ ก็เพราะเกลือมีสารต้านแบคทีเรียและสารต้านการอักเสบ ซึ่งฆ่าจุลชีพที่ทำให้น้ำมูกไหล จึงช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกได้นั่นเอง
วิธีทำก็ไม่ยากเลย แค่
- เทเกลือทะเล ½ ช้อนชาลงในน้ำอุ่น (ราว ๆ 2 แก้ว) ผสมกัน รอให้เกลือละลาย
- หยดน้ำเกลือเข้าไปในรูจมูก
- เอนหัวไปด้านหลัง หายใจช้า ๆ และสั่งน้ำมูกออกมา
ในวันวันหนึ่ง จะล้างจมูกกี่ครั้งก็ได้ ลองล้างจนกว่าน้ำมูกจะลดลง รับรองค่อยยังชั่วแน่
2. ใช้ไอน้ำ
การสูดไอน้ำจะช่วยสลายและกำจัดน้ำมูกได้ และถ้าใส่น้ำมันหอมระเหยที่มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียเพิ่ม ก็จะยิ่งช่วยฆ่าเชื้อโรคไปพร้อม ๆ กับกำจัดน้ำมูก เช่น ไทม์ เปปเปอร์มินต์ หรือยูคาลิปตัส
น้ำมันหอมระเหยเหล่านี้จะมีสารเมนทอล (Menthol) และไทมอล (Thymol) ช่วยลดอาการคัดจมูก
วิธีทำ
- ต้มน้ำ 1–2 แก้วในหม้อจนเริ่มกลายเป็นไอ
- ใส่น้ำมันหอมระเหยลงไปหลาย ๆ หยด
- นำผ้าขนหนูมาห่อศีรษะ และยื่นหน้าเข้าไปสูดตรงไอน้ำ
- สูดลึก ๆ แบบนี้ราว ๆ 7–10 นาที ค่อยสั่งน้ำมูก
ทำซ้ำ ๆ 2–3 ครั้งต่อวัน เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
3. เครื่องดื่มร้อน
งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่าเครื่องดื่มร้อน ๆ ช่วยบรรเทาอาการน้ำมูกไหลได้ เพราะน้ำร้อนมีความสามารถในการล้างและสลายน้ำมูกส่วนเกิน
การดื่มน้ำร้อนจึงช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลได้ดี และถ้าเติมพวกเลมอนหรือคาโมมายล์ลงไป ก็จะยิ่งเพิ่มสารต้านแบคทีเรียและสารต้านการอักเสบด้วยนะ
4. ขิง
ขิงเป็นสิ่งที่คนนำมาใช้บรรเทาอาการของโรคหวัดมานานแล้ว และงานวิจัยมายืนยันสรรพคุณข้อนี้ของขิงเช่นกัน
ขิงช่วยยับยั้งไม่ให้ไวรัสเกาะติดกับเซลล์ จึงป้องกันไม่ให้ร่างกายแสดงอาการป่วยอย่างน้ำมูกไหลออกมาได้
จากงานวิจัย วิธีกินขิงให้ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลให้ดีที่สุดนั้น คือการกินขิงแบบสด แต่ถ้าทนกลิ่นขิงตอนเคี้ยวสด ๆ ไม่ไหว ก็ลองเปลี่ยนไปกินแบบอื่น ๆ ได้ เช่น
- กินขิงคู่กับน้ำผึ้ง
- ขูดขิงใส่ในอาหาร
- ดื่มเป็นชาขิงแทน ทำง่าย ๆ ด้วยการหั่นขิง และนำไปแช่ในน้ำร้อน 10 นาทีก่อนดื่ม
5. กระเทียม
เมื่อพูดถึงวิธีกำจัดเชื้อโรคที่ทำให้น้ำมูกไหล ก็ต้องบอกว่ากระเทียมนี่ละเป็นดาวเด่น!
กระเทียมมีสารชื่ออัลลิซิน (Allicin) มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียและไวรัส อีกทั้งยังมีงานวิจัยมายืนยันอีกว่า คนที่กินกระเทียมนั้นเป็นหวัดน้อยกว่าคนที่ไม่ได้กิน แถมยังหายหวัดเร็วกว่าด้วย เจ้านี่จึงเป็นตัวช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลไปโดยปริยาย
วิธีที่ดูเหมือนจะง่าย แต่ก็ไม่ง่าย คือ ถ้าน้ำมูกไหลเมื่อไร ก็กินกระเทียมดิบวันละ 1 กลีบ แต่ถ้ากินแบบดิบมันทรมาน จะเปลี่ยนไปใส่ในอาหารแทนก็ได้ หรือลองแบบแคปซูลก็ดีเหมือนกัน
6. รากชะเอมเทศ
รากชะเอมเทศมีสารในกลุ่มไกลเซอร์ไรซิน (Glycyrrhizin) ช่วยกำจัดเมือกส่วนเกิน ทำให้หายจากอาการน้ำมูกไหลได้ไวขึ้น
นอกจากนี้ รากชะเอมเทศยังมีสรรพคุณช่วยต้านไวรัสและแบคทีเรีย อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ช่วยเรื่องการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย
จะกินรากชะเอมเทศเป็นแบบแคปซูลก็ได้ หรือลองดื่มเป็นชาก็ดี รับรองน้ำมูกไหลคราวนี้ค่อยยังชั่วแน่ ๆ
7. น้ำมันมัสตาร์ด
มาถึงอย่างสุดท้ายที่หลาย ๆ คนอาจนึกถึงไม่ถึงว่าช่วยเรื่องน้ำมูกใสไหลไม่หยุดได้ น้ำมันมัสตาร์ดนั่นเอง
ทางการแพทย์อายุรเวท มีการนำน้ำมันมัสตาร์ดมาช่วยใช้กำจัดเมือกเพื่อรักษาโรคไซนัส และยังมีงานวิจัยชี้ว่า น้ำมันมัสตาร์ดมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียที่มีความทนทาน อย่างเชื้อโรคอีโคไล (E.coli) ได้
วิธีใช้น้ำมันมัสตาร์ดมาบรรเทาอาการน้ำมูกไหลง่าย ๆ ก็แค่
- นำน้ำมันมัสตาร์ดไปต้มให้มีอุณหภูมิอุ่น ๆ
- หยดน้ำมันมัสตาร์ดเข้าไปในรูจมูกแต่ละข้าง เอนหัวไปข้างหลัง
- ปล่อยทิ้งไว้สักครู่ แล้วสั่งน้ำมูก
ทำแบบนี้ราว ๆ วันละ 1–2 ครั้ง อาการก็จะดีขึ้น
ปัญหาน้ำมูกใสไหลไม่หยุด คัดจมูก สั่งน้ำมูกทั้งวัน เป็นอะไรที่กวนใจ แต่เราไม่จำเป็นต้องใช้ยาเสมอไป แค่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติหรือของใช้ที่หาได้ง่าย ๆ ในบ้าน
นอกจากจะใช้ 7 วิธีที่เราแนะนำแล้ว การดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้ร่างกายขับน้ำมูกส่วนเกินออกมาได้ไวขึ้น และบรรเทาอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลได้อย่างเป็นธรรมชาติ