ยา Montelukast - ข้อมูล ข้อบ่งใช้ ผลข้างเคียง

- ปรึกษาเภสัชกรออนไลน์ได้ทุกเรื่องเกี่ยวกับยา ทั้งชนิดของยา การใช้ยาอย่างเหมาะสม และข้อควรระวังของยา
- เภสัชกรจะถือว่า ประวัติสุขภาพและข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณให้มาเป็นข้อมูลจริง และใช้ข้อมูลนั้นประกอบการให้คำปรึกษาและแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ข้อมูลดังกล่าวจะถูกเผยแพร่ระหว่างคุณกับเภสัชกรในหน้าแชทส่วนตัวเท่านั้น
- HDmall.co.th จะติดต่อร้านขายยาที่ใกล้ที่สุด ให้คุณปรึกษาและใช้บริการจัดส่งยาจากร้านขายยาที่ได้รับอนุญาตโดยตรง
- HDmall.co.th ไม่ได้จำหน่ายผลิตภัณฑ์โดยตรง รวมถึงไม่ได้กระทำธุรกรรมใดๆ ทั้งสิ้น ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ทั้งหมดในหน้านี้มีไว้เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงเท่านั้น
- 🤝 สนใจเป็นหนึ่งในร้านขายยาที่ช่วยให้คำปรึกษาผู้ใช้ด้านยาหรือไม่? สมัครและใช้งานฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
รายละเอียด
มอนเทลูคาส (Montelukast) เป็นยาต้านอาการแพ้ที่ยับยั้งการทำงานของตัวรับลิวโคไตรอีน (Leukotriene) ซึ่งเป็นสารสื่อกลางการอักเสบที่นำไปสู่อาการของโรคหืด ยามอนเทลูคาส มักใช้ป้องกันอาการหายใจมีเสียงวี๊ด อาการหายใจสั้นที่มีสาเหตุจากโรคหืด ลดการกำเริบของโรคหืด โดยสามารถใช้ก่อนออกกำลังกายเพื่อป้องกันภาวะหลอดลมหดเกร็งระหว่างออกกำลังกาย (Exercise-induced asthma) และใช้ในผู้ป่วยโรคหืดเรื้อรังเพื่อลดอาการกำเริบและลดจำนวนการใช้ยาพ่นช่วยชีวิตของผู้ป่วย นอกจากนี้แล้วยามอนเทลูคาส ยังใช้เพื่อบรรเทาอาการแพ้ จาม คัดจมูก จากโรคเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบด้วยเช่นกัน ยานี้ออกฤทธิ์ได้นานมากกว่า 24 ชั่วโมง
ในประเทศไทย Montelukast ถูกจัดเป็นยาอันตราย ตามการจำแนกโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยวางจำหน่ายในรูปแบบยาเม็ดในชื่อการค้า ซิงกูแลร์ (SINGULAIR®) โดยบริษัท MSD ซึ่งมีตัวยาสำคัญ คือ Montelukast Sodium ขนาด 4, 5 มิลลิกรัม (เป็นยาในรูปแบบยาเม็ดเคี้ยวสำหรับเด็ก) 10 มิลลิกรัม (เป็นยาในรูปแบบยาเม็ดเคลือบสำหรับผู้ใหญ่) และในรูปแบบยาผงแกรนูล ขนาด 4 มิลลิกรัม
ข้อบ่งใช้ของ Montelukast
- ป้องกันการเกิดอาการกำเริบของโรคหืดจากการออกกำลังกาย (Exercise-induced asthma)
- รักษาโรคหืดเรื้อรัง (Chronic asthma)
- รักษาเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic rhinitis)
ขนาดและวิธีการใช้ยา Montelukast
- ข้อบ่งใช้สำหรับป้องกันการเกิดอาการกำเริบของโรคหืดจากการออกกำลังกาย
- ยาในรูปแบบยาเม็ดเคลือบ ขนาดการใช้ยาในเด็กอายุมากกว่า 15 ปีและในผู้ใหญ่ ขนาด 10 มิลลิกรัม
- ยาในรูปแบบยาเม็ดเคี้ยว ขนาดการใช้ยาในเด็ก อายุ 2-5 ปี ขนาด 4 มิลลิกรัม
- ยาในรูปแบบยาเม็ดเคี้ยว ขนาดการใช้ยาในเด็ก อายุ 6-14 ปี ขนาด 5 มิลลิกรัม
- รับประทาน 2 ชั่วโมงก่อนการออกกำลังกาย และไม่ต้องรับประทานยาอีกเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ประเมินอาการของผู้ป่วยหลังใช้ยาได้ 2-4 สัปดาห์
- ข้อบ่งใช้สำหรับรักษาโรคหืดเรื้อรัง
- ยาในรูปแบบยาเม็ดเคลือบ ขนาดการใช้ยาในเด็กอายุมากกว่า 15 ปีและในผู้ใหญ่ ขนาด 10 มิลลิกรัม
- ยาในรูปแบบยาเม็ดเคี้ยว ขนาดการใช้ยาในเด็ก อายุ 2-5 ปี ขนาด 4 มิลลิกรัม
- ยาในรูปแบบยาเม็ดเคี้ยว ขนาดการใช้ยาในเด็ก อายุ 6-14 ปี ขนาด 5 มิลลิกรัม
- ยาสามารถรับประทานก่อนหรือหลังอาหาร แนะนำให้รับประทานยาช่วงเย็น วันละ 1 ครั้ง ประเมินอาการของผู้ป่วยหลังใช้ยาได้ 2-4 สัปดาห์
- ข้อบ่งใช้สำหรับรักษาเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้
- ยาในรูปแบบยาเม็ดเคลือบ ขนาดการใช้ยาในเด็กอายุมากกว่า 15 ปีและในผู้ใหญ่ ขนาด 10 มิลลิกรัม วันละครั้ง (ในผู้ป่วยที่มีโรคหืดร่วมด้วย แนะนำให้รับประทานยาในช่วงเย็น และในผู้ป่วยที่ไม่ได้เป็นโรคหืด สามารถรับประทานยาได้ทั้งเวลาเช้า หรือเย็น)
ผลข้างเคียงของยา Montelukast
ผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา Montelukast ที่พบได้บ่อย ได้แก่ ท้องเสีย มีไข้ ท้องไส้ปั่นป่วน ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาการทางผิวหนัง เช่น ผื่น ลมพิษ การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบน อาเจียน
อาการข้างเคียงที่พบได้ไม่บ่อย ได้แก่ วิตกกังวล ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ซึมเศร้า มึนงง ง่วงนอน ปากแห้ง เลือดออก ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ บวมน้ำ อาการชัก ประสาทการรับรู้ผิดปกติ ส่งผลต่อการนอน
อาการข้างเคียงที่พบได้น้อย ได้แก่ ผิวหนังชั้นลึกบวม (Angioedema) เห็นภาพหลอน ส่งผลต่อการทำงานของตับ สูญเสียความทรงจำ หัวใจเต้นเร็ว อาการสั่น
ข้อควรระวังของยา Montelukast
- ยาในรูปแบบยารับประทาน ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม category B ตามดัชนีความปลอดภัยการใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์ (Pregnancy Safety Index) ยาค่อนข้างมีควรปลอดภัยกับทารกในครรภ์ แต่อย่างไรก็ตามการใช้ยานี้ในสตรีมีครรภ์ควรพิจารณาถึงประโยชน์ที่ผู้ป่วยจะได้รับจากการใช้ยาว่ามีมากกว่าความเสี่ยง
- ยานี้ไม่ได้มีข้อบ่งใช้เพื่อรักษาอาการหืดกำเริบเฉียบพลัน
- ไม่แนะนำให้ใช้ยา Montelukast เป็นยาเดี่ยวในการรักษาโรคหืดเรื้อรัง
- ควรหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนไปใช้ยาในกลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroid) ทั้งในรูปแบบยารับประทานหรือยาพ่นอย่างกะทันหัน
- ควรระวังการใช้ยานี้ในเด็ก สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร