แม้การออกกำลังกายจะเป็นหนึ่งในวิธีควบคุมน้ำหนักที่ดีที่สุด โดยเฉพาะหากทำร่วมกับการควบคุมอาหารก็จะยิ่งได้ผลลัพธ์น่าพอใจขึ้น แต่ในบางกรณีแม้จะทำทั้งสองอย่างควบคู่กันจนน้ำหนักลงได้แล้ว อวัยวะบางส่วนก็ยังอาจดูไม่เล็กลงตามที่ต้องการ หรือใช้เวลานานมากกว่าจะลดลง
ต้นขา เป็นหนึ่งในส่วนที่อาจเกิดปัญหาเช่นนั้นขึ้นได้ จนบางครั้งต้องอาศัยวิธีอื่นๆ ช่วยให้ต้นขามีขนาดสมส่วนมากขึ้น และหนึ่งในทางเลือกก็คือ การดูดไขมันต้นขา
เลือกหัวข้อที่สนใจได้ที่นี่
ปิด
ปิด
- ดูดไขมันต้นขาคืออะไร?
- ดูดไขมันต้นขาส่วนไหนได้บ้าง?
- ดูดไขมันต้นขาเหมาะกับใคร?
- ดูดไขมันต้นขาแล้วจะกลับมาใหญ่ไหม?
- ดูดไขมันต้นขาเจ็บไหม?
- การเตรียมตัวดูดไขมันต้นขา
- ขั้นตอนการดูดไขมันต้นขา
- การดูแลตนเองหลังดูดไขมันต้นขา
- ดูดไขมันต้นขาพักฟื้นกี่วัน? เห็นผลเลยไหม?
- ดูดไขมันต้นขาเห็นผลเลยหรือไม่?
- ดูดไขมันต้นขาเป็นแผลเป็นไหม?
ดูดไขมันต้นขาคืออะไร?
ดูดไขมันต้นขา คือ วิธีลดสัดส่วนร่างกายบริเวณต้นขา ผ่านการใช้อุปกรณ์ดูดนำเนื้อไขมันใต้ชั้นผิวต้นขาออกเพื่อให้ขนาดชั้นไขมันที่ทำให้ต้นขาดูใหญ่ ไม่เรียว หรือกระชับมีขนาดเล็กลง
ดูดไขมันต้นขาส่วนไหนได้บ้าง?
การดูดไขมันสามารถทำได้ทั้งบริเวณต้นขาด้านในและต้นขาด้านนอกทั้งหมด
บริเวณต้นขาด้านในเป็นตำแหน่งของต้นขาที่มักเกิดปัญหาขาเบียดหรือขาเสียดสีกันเวลาเดิน ซึ่งเป็นผลมาจากเนื้อไขมันใต้ผิวบริเวณขาหนีบที่มีมากเกินไป รวมถึงทำให้เกิดปัญหาขามีเนื้อปลิ้นเวลาใส่ชุดว่ายน้ำ
ส่วนบริเวณต้นขาด้านนอกเป็นตำแหน่งที่มักทำให้ขนาดต้นขาโดยรวมดูใหญ่ ยากต่อการสวมใส่กางเกงที่เข้ารูป รวมถึงทำให้ช่วงเอวและสะโพกดูใหญ่ขึ้นไปด้วยจนทำให้เสียความมั่นใจได้
ดูดไขมันต้นขาเหมาะกับใคร?
กลุ่มผู้ที่เหมาะต่อการกระชับสัดส่วนต้นขาด้วยวิธีดูดไขมัน มีดังต่อไปนี้
- ผู้ที่อยากลดสัดส่วนต้นขา แต่ไม่อยากใช้วิธีออกกำลังกายหรือคุมอาหาร หรือเคยใช้วิธีเหล่านี้มาแล้วแต่ต้นขาไม่เล็กลง
- ผู้ที่อยากให้การลดสัดส่วนต้นขาเห็นผลได้โดยเร็ว หรือมีระยะเวลาลดสัดส่วนที่จำกัด
- ผู้ที่มีไขมันในร่างกายไปสะสมอยู่บริเวณต้นขาค่อนข้างเยอะกว่าส่วนอื่น ทำให้อยากลดขนาดต้นขาลงให้รูปร่างดูสมส่วนกับขนาดอวัยวะอื่นๆ บนร่างกาย
ดูดไขมันต้นขาแล้วจะกลับมาใหญ่ไหม?
หลังจากดูดไขมันต้นขาไปแล้ว หากผู้เข้ารับบริการยังไม่มีการคุมปริมาณไขมันในร่างกายให้อยู่ในเกณฑ์พอดี โอกาสที่ไขมันจะกลับมาสะสมเยอะบริเวณต้นขา และทำให้ต้นขากลับมาใหญ่ได้อีกครั้งก็ยังมีอยู่เช่นเดิม
ดูดไขมันต้นขาเจ็บไหม?
การดูดไขมันอาจสร้างความรู้สึกเจ็บบริเวณผิวส่วนที่สอดอุปกรณ์เข้าไปได้บ้าง แต่โดยปกติแพทย์จะมีการให้ยาชาและยาสลบเพื่อบรรเทาความรู้สึกเหล่านี้ในระหว่างรับบริการ
ผู้เข้ารับบริการที่ไม่อยากใช้ยาสลบหรือไม่สามารถใช้ยาสลบได้ แพทย์อาจเปลี่ยนเป็นการให้ยาที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายหรือง่วงในระหว่างรับบริการแทน
อย่างไรก็ตาม เมื่อยาชาและยาสลบหมดฤทธิ์ ผู้เข้ารับบริการก็อาจยังเผชิญอาการปวดหรือเจ็บระบมผิวได้ แต่มักอยู่ในระดับที่ทนได้ และอาการก็จะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์หลังรับบริการ
การเตรียมตัวดูดไขมันต้นขา
เพราะเป็นการทำหัตถการที่จะมีการสอดนำอุปกรณ์เข้าไปใต้ผิวหนัง และอาจมีเลือดออกได้ จึงต้องมีการเตรียมตัวเพื่อลดโอกาสเกิดอาการไม่พึงประสงค์ ดังนี้
- ผู้เข้ารับบริการควรแจ้งประวัติด้านสุขภาพ โรคประจำตัว ยาประจำตัว วิตามินเสริม สมุนไพรเสริมสุขภาพที่ใช้อยู่ ณ ปัจจุบันให้แพทย์ทราบอย่างครบถ้วนก่อนเข้ารับบริการ เนื่องจากอาจต้องมีการงดยาบางกลุ่มก่อนรับบริการ เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยาคลายกล้ามเนื้อ ยากลุ่มแอสไพริน ยากลุ่มไอบูโพรเฟน วิตามินอี วิตามินเอ ซึ่งส่งผลต่อการฟื้นตัวของแผลหลังดูดไขมัน
- งดการสูบบุหรี่ งดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มก่อนเดินทางมารับบริการประมาณ 1-2 สัปดาห์ หากเป็นผู้เข้ารับบริการผู้หญิง ควรสอบถามเรื่องช่วงเวลารับบริการที่อาจไม่ควรตรงกับช่วงมีประจำเดือนด้วย
- งดน้ำและงดอาหารจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการให้บริการในแต่ละสถานพยาบาล หากมีการดมยาสลบระหว่างดูดไขมัน ผู้เข้ารับบริการอาจต้องงดน้ำและงดอาหารประมาณ 6-8 ชั่วโมงล่วงหน้าก่อนรับบริการ
ขั้นตอนการดูดไขมันต้นขา
กระบวนการดูดไขมันต้นขาจะแตกต่างกันไปตามเครื่องที่ใช้ในการทำหัตถการ แต่โดยหลักๆ กระบวนการอาจมีดังนี้
- เริ่มต้นจากแพทย์ให้ยาชาและยาสลบกับผู้เข้ารับบริการ
- แพทย์สอดหัวปล่อยพลังงานหรือหัวดูดไขมันเข้าไปใต้ชั้นผิว ลึกถึงชั้นไขมันที่ยังมีลักษณะเป็นก้อนอยู่
- หลังจากนั้นแพทย์จะปล่อยพลังงานจากหัวยิงเพื่อสลายเนื้อไขมันที่ยังเป็นก้อนให้กลายเป็นไขมันเนื้อเหลว
- แพทย์จะดูดเนื้อไขมันเหล่านั้นออกมาจากชั้นผิว
- เมื่อดูดไขมันออกได้ตามปริมาณที่ต้องการแล้ว แพทย์จะใช้ผ้ายืดหรือชุดยกกระชับพันไว้รอบบริเวณผิวต้นขาอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันความเสี่ยงผิวหย่อนคล้อยจากชั้นไขมันที่หายไปภายในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้ผิวต้นขาไม่หย่อนยานและกระชับเข้ารูปเร็วยิ่งขึ้น
การดูแลตนเองหลังดูดไขมันต้นขา
เพื่อให้ผลลัพธ์จากการดูดไขมันต้นขาเห็นผลและยืนยาวที่สุด ผู้เข้ารับบริการควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
- พันผิวต้นขาด้วยผ้ายืดหรือชุดยกกระชับที่แพทย์ให้ประมาณ 1-3 เดือน โดยควรพันไว้ตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นเวลาอาบน้ำ แต่ในบางสถานพยาบาล หลังจากพันผิวต้นขาได้ครบ 1 เดือน ก็จะค่อยลดจำนวนชั่วโมงที่ต้องพันผ้าลง
- หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีไขมันหรือมีน้ำตาลสูง และควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้มีไขมันไปสะสมที่ต้นขาเยอะเกินไปเหมือนช่วงก่อนรับบริการ
- ในช่วง 1-3 สัปดาห์แรกอาจเผชิญอาการปวดล้าและเจ็บระบมบริเวณแผลได้บ้าง ให้พยายามเคลื่อนไหวร่างกายเบาๆ ก่อน และอย่าเพิ่งทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงหรือต้องยกของที่มีน้ำหนักมาก
- งดสูบบุหรี่ งดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดอาหารหมักดอง เพื่อให้แผลฟื้นตัวเร็วขึ้น และไม่เกิดการอักเสบได้ง่าย
- จนกว่าแพทย์จะนัดให้กลับมาตัดไหมหรือตรวจดูแผล อย่าให้แผลโดนน้ำหรือทำให้แผลชื้น
ดูดไขมันต้นขาพักฟื้นกี่วัน? เห็นผลเลยไหม?
การพักฟื้นหลังดูดไขมันเพื่อบรรเทาอาการเจ็บระบมแผลจะอยู่ที่ประมาณ 1 สัปดาห์หลังรับบริการ ในระหว่างนั้นผู้เข้ารับบริการยังสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่ให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงเยอะไว้ก่อน
หลังจากนั้นเมื่อผ่านไปประมาณ 4-6 สัปดาห์ ก็สามารถเริ่มกลับมาออกกำลังกายได้ตามปกติ
ดูดไขมันต้นขาเห็นผลเลยหรือไม่?
ผลลัพธ์หลังดูดไขมันต้นขาจะเห็นได้ชัดในระดับหนึ่งทันทีหลังทำ แต่เนื่องจากต้องมีการพันผ้าเข้าไปที่ต้นขาอยู่ตลอดเวลา ร่วมกับอาจมีอาการบวมช้ำหลังทำ ผู้เข้ารับบริการจึงอาจไม่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงมากนัก
แต่หลังจากผ่านไปประมาณ 1-3 เดือนหลังรับบริการ ต้นขาก็จะมีขนาดเล็กลงอย่างสามารถสังเกตเห็นได้ชัดขึ้นเอง
ดูดไขมันต้นขาเป็นแผลเป็นไหม?
การดูดไขมันอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นเล็กๆ ได้บ้าง ตามตำแหน่งที่แพทย์สอดอุปกรณ์เข้าไป
แต่โดยปกติแผลหลังดูดไขมันด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่จะมีขนาดแผลไม่กี่เซนติเมตรเท่านั้น หรืออาจมีขนาดอยู่ที่หลักเพียงไม่กี่มิลลิเมตร ตามแต่ประสิทธิภาพของเครื่องที่ใช้ดูดไขมันและขนาดหัวที่สอดเข้าใต้ผิว ซึ่งจะทำให้แผลยากต่อการสังเกตเห็นได้ง่าย และยังมักเป็นตำแหน่งที่ซ่อนต่อการมองเห็นด้วย
หากผู้เข้ารับบริการอยากลบรอยแผลจากการดูดไขมันให้หายไปหรือให้แผลแนบเนียนไปกับเนื้อผิวมากขึ้น ก็อาจลองสอบถามทางสถานพยาบาลเกี่ยวกับบริการลบรอยแผลเป็นอื่นๆ ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบการฉีดยาหรือการยิงเลเซอร์ฟื้นฟูผิว
โดยสรุป การดูดไขมันต้นขาเป็นการทำหัตถการทางลัดที่ช่วยให้สัดส่วนต้นขาดูเล็กลงได้ภายในเวลาอันสั้น แต่ก็ไม่จัดเป็นการเปลี่ยนขนาดร่างกายที่เห็นผลได้ตลอดไปในทุกคน และยังมีโอกาสที่ต้นขาจะกลับมาใหญ่ได้ หากดูแลตนเองไม่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการเปลี่ยนสัดส่วนร่างกายให้เล็กลงได้ตามเป้าหมายและภายในระยะเวลาที่กำหนด การดูดไขมันก็จัดเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ แต่ต้องรับบริการในสถานพยาบาลที่ปลอดภัยและได้มาตรฐานเท่านั้น เพื่อลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ดูแล
เช็กราคาแพ็กเกจดูดไขมันต้นขาด้วยแพ็กเกจความงามที่ได้ส่วนลด พร้อมมีแอดมินคอยดูแลจากเว็บไซต์ HDmall.co.th หรือสอบถามบริการเสริมความงามเพื่อยกกระชับผิวอื่นๆ ผ่านทางไลน์ @hdcoth
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ดูดไขมันหน้าท้อง รวมเรื่องต้องรู้ก่อนตัดสินใจ
- ดูดไขมันเหนียง มั่นใจ ใบหน้าเรียวได้รูป
- รีวิว ดูดไขมันท้อง ที่ โรงพยาบาลเอเซีย
- รีวิว ดูดไขมันต้นขา ที่ โรงพยาบาลเอเซีย
ที่มาของข้อมูล
ปิด
ปิด
- Kathryn Watson, Everything You Want to Know About VASER Liposuction (https://www.healthline.com/health/cosmetic-surgery/vaser-liposuction), 8 May 2022.
- Sarah Kester, Everything to Know About Liposuction Recovery (https://www.healthline.com/health/cosmetic-surgery/liposuction-recovery), 8 May 2022.
- RWC Clinic, ดูดไขมันต้นขา (https://rwcclinic.com/thigh-fat-liposuction/), 8 May 2022.
- โรงพยาบาลยันฮี, ดูดไขมันเฉพาะส่วนด้วย vaser (https://th.yanhee.net/หัตถการ/ดูดไขมันเฉพาะส่วนด้วย-vaser/), 8 May 2022.
