โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่กลุ่มชายรักชายต้องระวัง


โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่กลุ่มชายรักชายต้องระวัง

HDmall สรุปให้

ขยาย

ปิด

  • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่กลุ่มชายรักชายต้องระวังได้แก่ เชื้อ HIV โรคซิฟิลิส โรคหนองในแท้และหนองในเทียม โรคเริม โรคหูดหงอนไก่ และไวรัสตับอักเสบ B
  • อาการของโรคที่ควรระวัง ได้แก่ อาการเจ็บปวด คันระคายเคืองบริเวณอวัยวะเพศ มีแผล ตุ่ม ตุ่มพองแสบขัดอวัยวะเพศขณะปัสสาวะ เจ็บปวดเวลาถ่ายอุจจาระ มีของเหลว เช่น หนอง เลือด ไหลออกจากอวัยวะเพศ หรือทวารหนัก
  • สำหรับการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในกลุ่มชายรักชาย มักเก็บตัวอย่างของเหลวจากร่างกายไปเพื่อตรวจหาสาเหตุ เช่น ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ หรือการตรวจของเหลวอื่นๆ เช่น อสุจิหรือน้ำเหลือง
  • การป้องกันโรคติตด่อทางเพศสัมพันธ์ในกลุ่มชายรักชายทำได้ดังนี้ สวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง เลี่ยงพฤติกรรมทางเพศที่ไม่ปลอดภัย เช่น การมีคู่นอนหลายคน การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักที่รุนแรงเกินไป ควรกินยา PrEP ก่อนมีความเสี่ยง หรือยา PEP หลังเกิดความเสี่ยง และหมั่นตรวจร่างกาย และตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทุกๆ 3 เดือน

กลุ่มชายรักชาย ถือเป็นกลุ่มที่จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นอย่างมาก เพราะมีโอกาสที่จะติดเชื้อได้ง่าย และถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายและชีวิต

เพราะการมีเพศสัมพันธ์ในกลุ่มชายรักชายก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักอาจทำให้เกิดการฉีกขาด เป็นแผล ถ้าไม่มีการป้องกันที่เหมาะสม เช่น การไม่สวมใส่ถุงยางอนามัย หรือพฤติกรรมทางเพศที่ไม่ปลอดภัยอย่างการมีคู่นอนหลายคน ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้มากเท่านั้น

เลือกหัวข้อที่สนใจได้ที่นี่

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่กลุ่มชายรักชายต้องระวังมีอะไรบ้าง?

สำหรับโรคติตต่อทางเพศสัมพันธ์ที่สามารถพบได้บ่อยในกลุ่มชายรักชาย มีดังนี้

เชื้อ HIV

เชื้อ HIV สามารถติดต่อกันผ่านทางเลือด น้ำอุสจิ ซึ่งจะส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ช้าลง สามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ง่ายขึ้น

การติดเชื้อ HIV เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่อาจไม่มีอาการชัดเจน หรืออาจเป็นไข้รุนแรงในช่วงแรกและกินระยะเวลายาวนาน จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจเลือดเพื่อเช็กว่าติดเชื้อ HIV มาหรือไม่

โรคซิฟิลิส

โรคซิฟิลิส (Syphilis) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่กลุ่มชายรักชายต้องระวัง เพราะเป็นการติดเชื้อจากแบคทีเรียซึ่งอาจส่งผลอันตรายต่อชีวิตได้

ซิฟิลิสสามารถติดจากการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก หรือช่องปาก โดยมีอาการเป็นรอยแผลที่บริเวณอวัยวะเพศ ทั้งองคชาต อัณฑะ รวมถึงทวารหนัก หรืออาจมีแผลบริเวณริมฝีปากได้

โรคซิฟิลิสสามารถรักษาให้หายขาดได้ หากปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดโรค หรือภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตราย เช่น อัมพาต อวัยวะภายในเสียหาย ส่งผลเสียต่อสุขภาพจิต หรืออาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

โรคหนองในแท้

โรคหนองในแท้ (Gonorrhea) เกิดขึ้นได้หากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่มีการป้องกันอย่างถูกต้องเหมาะสม ไม่ว่าจะมีทางทวารหนัก หรือแม้แต่ช่องปากก็ตาม

ในกลุ่มชายรักชายจะพบปัญหาหนอง หรือของเหลวไหลออกมาจากอวัยวะเพศชาย ขณะเดียวกันในบางรายถ้าติดเชื้อแบคทีเรียที่ลำไส้ตรง ก็อาจทำให้มีสารคัดหลั่งคล้ายหนองไหลออกมาจากรูทวารได้ รวมถึงรู้สึกเจ็บปวด แสบขัดขณะปัสสาวะร่วมด้วย

ถ้ารู้ตัวว่ากำลังเผชิญกับโรคหนองในแท้อยู่ ควรเข้ารับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะกับแพทย์ทันที มิเช่นนั้นอาจส่งผลให้ท่ออสุจิตีบตัน เป็นหมัน หรือมีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อ HIV อีกด้วย

โรคหนองในเทียม

โรคหนองในเทียม หรือ Chlamydia เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เนื่องจากมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก หรือช่องปากโดยไม่ป้องกัน

ในระยะแรกๆ จะไม่แสดงอาการใด ก่อนที่ 1-3 สัปดาห์แรกจะรู้สึกแสบขัดขณะปัสสาวะ มีของเหลวไหลออกมาจากอวัยวะเพศ หรือมีเลือดไหล รู้สึกเจ็บปวดบริเวณทวารหนัก โดยสามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาปฏิชีวนตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

โรคเริม

โรคเริม (Herpes) เป็นโรคพบได้บ่อยมาก เพราะสามารถแพร่กระจายได้ง่ายแม้ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ เพียงแต่จูบ หรือสัมผัสกับแผลเริมของอีกฝ่ายก็สามารถติดเชื้อได้แล้ว

โรคเริมเป็นโรคติดเชื้อไวรัส มีอาการในช่วงแรกคือแผลขนาดเล็ก ที่จะค่อยๆ พัฒนาเป็นแผลพุพอง ตุ่มน้ำใส และก่อให้เกิดอาการเจ็บปวด แสบร้อนเป็นอย่างมาก ทั้งยังใช้ระยะเวลารักษาค่อนข้างนานอีกด้วย

โรคหูดหงอนไก่

โรคหูดหงอนไก่ (Genital Warts) เกิดจากการติดเชื้อ HPV ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ มีอาการเป็นตุ่ม ติ่งเนื้อคล้ายดอกกะหล่ำ แต่ไม่มีอาการเจ็บปวดเกิดขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ หรือรอบๆ รูทวารหนัก

หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม อาจพัฒนาเป็นมะเร็งบริเวณอวัยวะเพศ หรือทวารหนักได้ในอนาคต

ไวรัสตับอักเสบ B

ไวรัสตับอักเสบ B (Hepatitis B) สามารถเกิดการติดเชื้อผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์ หรือสัมผัสกับน้ำเชื้ออสุจิ เลือดของผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบ B

ไวรัสตับอักเสบ B สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน หรือถ้าหากเป็นแล้วก็สามารถใช้ยาต้านไวรัสเพื่อบรรเทาอาการและไม่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายได้

อาการโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของกลุ่มชายรักชาย

กลุ่มชายรักชายอาจไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังเผชิญกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อยู่ เนื่องจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในกลุ่มชายรักชายบางโรคนั้นไม่แสดงอาการ แต่ก็มีอาการของโรคที่ควรระวัง ดังนี้

  • อาการเจ็บปวด คันระคายเคืองบริเวณอวัยวะเพศ
  • มีแผล ตุ่ม ตุ่มพองขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือแม้แต่ริมฝีปาก
  • มีอาการแสบขัดอวัยวะเพศขณะปัสสาวะ หรือมีอาการเจ็บปวดเวลาถ่ายอุจจาระ
  • มีของเหลว เช่น หนอง เลือด ไหลออกจากอวัยวะเพศ หรือรูทวารหนัก
  • เข้าห้องน้ำเพื่อปัสสาวะ หรืออุจจาระบ่อยครั้งกว่าปกติ

การตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในกลุ่มชายรักชายมีวิธีอะไรบ้าง?

สำหรับการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในกลุ่มชายรักชาย เบื้องต้นสามารถทำได้ด้วยการซักประวัติเกี่ยวกับสุขภาพร่างกาย และสุขภาพทางเพศ รวมถึงเก็บตัวอย่างของเหลวจากร่างกายไปเพื่อตรวจหาสาเหตุ หรือยืนยันให้แน่ชัดว่าคุณติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือไม่ เช่น

  • การตรวจเลือด เพื่อตรวจสอบการติดเชื้อ HIV มองหาแอนติบอดี้ที่จำเป็นต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ตลอดจนใช้เลือดเพื่อตรวจสอบถามเชื้อไวรัสตับอักเสบ B และโรคซิลิฟิลิสแฝง
  • การตรวจปัสสาวะ สำหรับการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในกลุ่มชายรักชาย อย่างพวกโรคหนองในแท้ โรคหนองในเทียม
  • การตรวจของเหลวอื่นๆ เช่น อสุจิ น้ำเหลือง เพื่อหาเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียทีเป็นสาเหตุหลักของการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

เมื่อรู้ถึงสาเหตุของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แน่ชัด หรือรู้ว่าเป็นโรคอะไรแล้ว แพทย์จะวางแผนการรักษาที่จะสามารถจัดการกับปัญหาต้นตอของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เหล่านั้นได้ เช่น ถ้าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ก็จำเป็นต้องจ่ายด้วยยาปฏิชีวนะ

ต่างจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ก็จะอาศัยยาที่สามารถต้านเชื้อไวรัส หรือเป็นยาที่คอยรักษาตามอาการต่าง ๆ แทนได้

วิธีการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของกลุ่มชายรักชาย

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของกลุ่มชายรักชายบางโรคก็สามารถรักษาให้หายขาดได้ บางโรคก็ไม่สามารถรักษาให้หายได้ ทั้งนี้สามารถป้องกันโรคติตด่อทางเพศสัมพันธ์ให้ไม่เกิดเสี่ยงในการติดเชื้อ หรือไม่นำเชื้อไปแพร่กระจายใส่ผู้อื่นได้ดังนี้

  • สวมใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก
  • หลีกเลี่ยงพฤติกรรมทางเพศที่ไม่ปลอดภัย เช่น การมีคู่นอนหลายคน การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักที่รุนแรงเกินไป
  • ควรกินยา PrEP ก่อนมีความเสี่ยง หรือยา PEP หลังเกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะโรคติดเชื้อ HIV
  • หมั่นเข้ารับการตรวจร่างกาย และตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทุกๆ 3 เดือน

กลุ่มชายรักชายถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ง่าย แต่สามารถรักษาโรคเหล่านี้ได้ อาจจะรักษาให้หายขาดได้ก็ดี หรือรักษาตามอาการเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ถึงชีวิตก็ดี

ทางที่ดีที่จะช่วยป้องกันการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ที่สุดก็คือการใส่ถุงยางอนามัย และควรให้ความสำคัญกับการตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทุกๆ 3 เดือน เพื่อที่จะได้รู้ตัวว่ามีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน และจะได้สามารถรักษาให้ถูกต้องเหมาะสมต่อไป

ที่ HDmall.co.th มีโปรแกรมตรวจคัดกรองโรคติตด่อทางเพศสัมพันธ์ในกลุ่มชายรักชาย จากสถานพยาบาล คลินิกและโรงพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศ สามารถเปรียบเทียบราคาและรายละเอียดได้ที่ HDmall.co.th หรือสอบถามกับแอดมินได้ที่ไลน์ @HDcoth

บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

ที่มาของข้อมูล

ขยาย

ปิด

  • Hello คุณหมอ, ชายรักชาย และความเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (https://hellokhunmor.com/สุขภาพทางเพศ/ชายรักชาย-ความเสี่ยง-โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์/)
  • NHS, Sexual health for gay and bisexual men (https://www.nhs.uk/live-well/sexual-health/sexual-health-for-gay-and-bisexual-men/)
  • Urology Care Foundation, Sexually Transmitted Infections (https://www.urologyhealth.org/urology-a-z/s/sexually-transmitted-infections)
  • โรงพยาบาลพญาไท, ชายรักชายได้อย่างอุ่นใจ ต้องใส่ใจตรวจสุขภาพอะไรบ้าง? (https://www.phyathai.com/th/article/4000-ชายรักชายได้อย่างอุ่น)
@‌hdcoth line chat