บัวหิมะ มีกี่ประเภท สรรพคุณ ประโยชน์ ข้อควรระวัง

บัวหิมะ หนึ่งในสุดยอดแห่งยาบำรุงกำลังที่ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง บ้างก็นึกถึงดอกไม้ที่อยู่บนภูเขาสูง หรือเป็นหัวคล้ายๆ กับหัวมันอยู่ใต้ดินมากกว่าที่จะจินตนาการว่า มีบัวหิมะที่เป็นลักษณะรูปร่างแบบอื่นๆ ได้อีก แล้วตกลง บัวหิมะคืออะไร มีกี่แบบ แต่ละแบบใช้ในวัตถุประสงค์ใดบ้าง

ประเภทและสรรพคุณของบัวหิมะ

บัวหิมะสามารถแยกออกได้เป็น 4 ชนิด ที่มี 4 ความหมาย ดังต่อไปนี้

1. ครีมบัวหิมะ

ทำมาจากสารสกัดจากธรรมชาติหลายชนิด เช่น การบูร ผงไข่มุก ว่านหางจระเข้ และโสม ซึ่งมาจากประเทศจีนและมีราคาแพง

ครีมบัวหิมะมักนิยมใช้ในด้านการรักษาแผลต่างๆ ที่ผิวหนัง โดยเฉพาะแผลพุพองที่เกิดจากไฟไหม้ หรือน้ำร้อนลวก เนื่องจากมีฤทธิ์เย็นและยังสามารถใช้รักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้อีกด้วย เช่น แผลอีสุกอีใส แมลงกัดต่อย ผื่นแพ้ เริม ฮ่องกงฟุต  รักษาสิว กลาก เกลื้อนและบำรุงผิวให้เปล่งปลั่ง เป็นต้น

2. บัวหิมะที่เป็นดอก (Snow Lotus)

มักจะเรียกกันว่า “บัวหิมะพันปี” เป็นพืชที่ขึ้นในพื้นที่สูงที่มีอากาศเย็นจัดๆ แถบเทือกเขาอัลไต หรือภูเขาคุนหลุน โดยใช้เวลา 3 ปี จึงจะออกดอกสีขาว หรือเขียวอ่อน

บัวหิมะที่เป็นดอก ใช้เป็นยารักษาโรค แก้ไข้ บำรุงเลือด แก้ปวดประจำเดือน บำรุงไต ขับพิษ ปรับสมดุลในร่างกาย และแก้ข้ออักเสบ

3. บัวหิมะที่เป็นผลไม้ หรือบัวหิมะสด (Yacon)

คล้ายหัวมัน มีรสหวานกรอบ เปลือกค่อนข้างบาง ให้พลังงานต่ำ แต่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ

นิยมใช้รับประทานสดๆ เพื่อช่วยบำรุงสุขภาพ ป้องกันการเกิดสิวฝ้า โรคความดันโลหิตสูง ป้องกันโรคมะเร็ง รักษาโรคเบาหวาน บำรุงหัวใจและหลอดเลือด ช่วยระบายท้อง ลดอาการร้อนใน ป้องกันไม่ให้เป็นนิ่ว แก้อาการอักเสบ ขับพิษในร่างกาย และต้านอนุมูลอิสระ

4. บัวหิมะธิเบต (Kefir)

มีลักษณะคล้ายนมโยเกิร์ตชนิดหนึ่ง ด้วยการทำให้แบคทีเรียและยีสต์รวมอยู่ด้วยกัน เป็นการหมักโดยใช้หัวเชื้อที่เรียกว่า “Kefir grain” ที่มีลักษณะคล้ายกับดอกกะหล่ำ นมที่นิยมนำมาใช้ในการหมักทำโยเกิร์ตคีเฟอร์ ได้แก่ นมแพะ นมโค หรือนมถั่วเหลือง

ช่วยทำให้ผิวพรรณผุดผ่อง ชะลอการเกิดริ้วรอย เสริมสร้างความแข็งแรง เสริมภูมิต้านทานไม่ให้ติดเชื้อง่าย ปรับสมดุลในร่างกายพร้อมช่วยบำรุงหัวใจ ปอด ตับ ไต ลดไขมัน LDL ลดน้ำตาล ลดความเครียด ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น รักษาโรคผิวหนังต่างๆ เช่น กลาก เกลื้อน ผิวหน้าเนียนใส รักษาสิว และกระชับรูขุมขน

รูปแบบผลิตภัณฑ์จากบัวหิมะ

  • บัวหิมะประเภทโยเกิร์ต มีทั้งผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของเครื่องสำอาง เช่น ครีมพอกหน้า ครีมอาบน้ำ ครีมบำรุงผิวหน้า บอดี้โลชั่น ทรีทเมนต์ครีม และแบบเป็นหัวเชื้อสำหรับมาหมักเลี้ยงด้วยตัวเอง
  • ครีมบัวหิมะ มีทั้งผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของครีมทาผิวรักษาโรคบนผิวหนังและแบบเครื่องสำอาง เช่น ครีมไข่มุก ครีมรักษาสิว สบู่บำรุงผิว หรือเซรั่ม เป็นต้น

ผลข้างเคียงจากการใช้บัวหิมะ

  • หากรับประทานบัวหิมะคีเฟอร์ในระยะแรกๆ อาจมีอาการท้องไส้ปั่นป่วนได้ เนื่องจากสารสำคัญในบัวหิมะกำลังขับสารพิษออกจากร่างกาย
  • บางรายก็พบว่ามีอาการท้องผูก เนื่องจากรับประทานมากเกินไป
  • บางรายนำบัวหิมะคีเฟอร์มาพอกหน้าก็จะเกิดอาการคัน ด้วยสาเหตุที่สารสำคัญในบัวหิมะกำลังทำงานด้วยการฆ่าเชื้อโรคและช่วยสมานแผลจากสิวที่กำลังเป็นอยู่

ข้อควรระวังการใช้บัวหิมะ

การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์บัวหิมะควรระวังของปลอม หรือลอกเลียนแบบ  อีกทั้งยังห้ามใช้บีวหิมะกับแผลเปิด หรือแผลสด หากมีอาการผื่นแดงและคันจะต้องหยุดใช้ทันทีรวมถึงระวังไม่ให้เข้าตา และควรศึกษาวิธีการเก็บรักษาเพื่อช่วยคงประสิทธิภาพของบิวหิมะเอาไว้ เช่น ครีมบัวหิมะ เก็บรักษาโดยการแช่ตู้เย็น ซึ่งแต่ละยี่ห้อหรือแต่ละรูปแบบผลิตภัณฑ์ก็จะมีวิธีการเก็บรักษาที่แตกต่างกันออกไป

นอกจากนี้ผลลัพธ์ของการใช้บัวหิมะยังขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของผู้ป่วยแต่ละราย ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้จะดีกว่า ถ้ามีอาการผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นก็ต้องหยุดใช้ หรือหยุดรับประทานทันทีเช่นกัน รวมทั้งหากใช้บัวหิมะเป็นระยะเวลานานๆ แล้วยังไม่เกิดผลลัพธ์ที่พึงพอใจ ควรหยุดใช้และกลับไปปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและแนวทางการอก้ปัญหาที่ดีที่สุด


ที่มาของข้อมูล

Scroll to Top