สุขภาพที่ดีนั้นเริ่มต้นที่ภายใน แต่ขึ้นชื่อว่าสุขภาพนั้นไม่ได้มีเพียงสุขภาพกาย แต่ยังรวมถึงสุขภาพใจอีกด้วย เพราะกายและใจเป็นส่วนที่ทำงานประสานสัมพันธ์กัน ถ้าใจเครียด รู้สึกเป็นกังวล ร่างกายก็จะตอบสนองโดยการกระตุ้นให้กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง กระเพาะหลั่งน้ำย่อยออกมามากผิดปกติ ปวดศีรษะ และมีแรงดันโลหิตสูง คงจะดีไม่น้อยถ้าเราทุกคนสามารถดูแลรักษาสุขภาพให้ดีได้ด้วยตนเอง ลดการรับประทานอาหาร และไม่ต้องไปต่อคิวยาวๆ เพื่อพบแพทย์ตามโรงพยาบาล
โลกทุกวันนี้ดูเหมือนจะหมุนเร็วขึ้นทุกที มองไปทางไหนก็มีแต่คนเร่งรีบทำงานแข่งกับเวลาทั้งสิ้น เพราะสังคมเรามุ่งเน้นการผลิตในเชิงปริมาณมากขึ้น ส่งผลให้ผู้คนยึดติดวัตถุ ทำให้บรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยมิตรไมตรีอย่าง สยามเมืองยิ้ม ค่อยๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา หารู้ไม่ว่าการยิ้มนั้นเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพกายและใจที่ดีที่ถูกและดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา
การยิ้ม เป็นการลงทุน เพื่อสุขภาพกายและใจ
เมื่อคุณยิ้มทุกครั้งจะกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีในสมอง เพื่อปล่อยฮอร์โมนโดพามีน (Dopamine) และเซโรโทนิน (Serotonin) ออกมา
โดพามีนส่งผลให้เกิดความรู้สึกมีความสุข ส่วนเซโรโทนินนั้นเกี่ยวข้องกับการผ่อนคลายความเครียด ซึ่งมีการศึกษาพบว่าผู้ที่มีปริมาณฮอร์โมนนี้ในระดับต่ำ จะสัมพันธ์กับอาการซึมเศร้าและก้าวร้าว
ไม่ใช่เฉพาะด้านสุขภาพจิตเท่านั้น การยิ้มยังส่งผลให้สุขภาพกายดีขึ้นได้ด้วย
อาจทราบกันดีแล้วว่าความเครียดนั้นส่งผลให้ร่างกายมีภูมิต้านทานต่ำลง ในทางกลับกัน เมื่อมีความสุข ภูมิคุ้มกันก็จะแข็งแรงขึ้นได้ด้วย แต่สิ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้คือ "การยิ้ม" เป็นสัญญาณหนึ่งที่สมองจับเพื่อแปลผลว่าหมายถึงคุณมีความสุขอยู่
ถึงการยิ้มจะมีหลายแบบ เช่น ยิ้มออกมาจากใจ ยิ้มตามมารยาท ยิ้มแก้เขิน ยิ้มอย่างฝืนๆ แต่ไม่ว่าคุณจะยิ้มเช่นไร ผลลัพธ์ที่ร่างกายตอบสนองก็ไม่ต่างกัน
ยังมีการศึกษาอีกมากมายที่บ่งชี้ให้เห็นประโยชน์อื่นๆ อีก เช่น การยิ้มช่วยให้ร่างกายตอบสนองความเครียดได้ดีขึ้น ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจต่ำลง เมื่ออยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด ช่วยลดความดันโลหิต ยิ่งไปกว่านั้น เพียงแค่ยิ้ม ก็สามารถยืดอายุให้ยืนยาวขึ้นได้ทีเดียว
ผู้มีประสบการณ์หลายคนแนะนำว่า เพียงแค่ยิ้มให้ตัวเองหน้ากระจกทุกเช้า โดยอาจบอกถ้อยคำที่ให้กำลังใจตัวเองไปด้วย ก็จะกลายเป็นคนที่มีสมาธิดีขึ้น และมีความกล้าแสดงออกมากกว่าเดิม หรือบางครั้งถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่เป็นใจขึ้นระหว่างวัน การยิ้มในช่วงเวลาสั้นๆ ก็สามารถช่วยปรับอารมณ์ให้ดีขึ้นได้
ญาติสนิทของการยิ้มก็คือการหัวเราะ
การระเบิดเสียงหัวเราะออกมาย่อมหมายถึงจิตใจถูกเติมเต็มไปด้วยความสุขจนทะลักออกมา มักทำให้ทั้งตัวเองและคนรอบข้างรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นตามไปด้วย แต่ไม่ใช่เพียงเท่านั้น สิ่งที่เกิดขึ้นทันทีเมื่อหัวเราะ คือการพาออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย ส่งผลถึงการกระตุ้นหัวใจ ปอด และกล้ามเนื้อ รวมถึงทำให้สมองหลั่งเอนดอร์ฟิน (Endorphine) ออกมามากขึ้น รวมทั้งเป็นการเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตชั่วครู่ จากนั้นลดให้ต่ำลง ผลคือเกิดความรู้สึกผ่อนคลายตามมา
การยิ้มเป็นสิ่งที่ลงทุนน้อยและได้ผลมาก ผู้ให้ก็มีความสุข ผู้รับก็สบายใจ รู้เช่นนี้แล้ว เราจึงควรยิ้มให้มากขึ้น เพราะแค่การยิ้มให้กันนิดๆ ในแต่ละวัน จะส่งผลดีต่อทั้งตัวคุณและสังคม
เปรียบเทียบราคาแพ็กเกจจัดฟันแบบต่างๆ
ที่มาของข้อมูล
ปิด
ปิด
- NeuroNation, Why You Need to Smile More (https://www.neuronation.com/science/benefits-of-smiling).
- PsychologyToday, There’s Magic in Your Smile (https://www.psychologytoday.com/intl/blog/cutting-edge-leadership/201206/there-s-magic-in-your-smile), 25 June 2012.
- Mayo Clinic, Stress relief from laughter? It's no joke (https://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/stress-management/in-depth/stress-relief/art-20044456), 5 April 2019.