สรุปการรีวิว
ปิด
ปิด
- โจ้กับนกแต่งงานกันมาได้ 4-5 ปี ก็ยังไม่มีน้องเสียที พยายามลองด้วยวิธีธรรมชาติมาหลายครั้งก็ไม่ติด เราเลยตัดสินใจว่าจะทำเด็กหลอดแก้วกันดีกว่า ให้คุณหมอเป็นคนแนะนำการดูแลสุขภาพเพื่อการมีลูกไปเลย
- ก่อนเริ่มทำเด็กหลอดแก้ว คุณหมอให้โจ้กับนกตรวจสุขภาพกันทั้งคู่ก่อนค่ะ โดยจะใช้วิธีเจาะเลือดส่งตรวจ และนกจะต้องอัลตราวซาวด์กับคุณหมอเพื่อตรวจดูความปกติของรังไข่ พอเราทั้งคู่พร้อมก็มาเริ่มลุยขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้วกันค่ะ
- วิธีกระตุ้นไข่จะเป็นการกินยาและฉีดยาประมาณ 10 วันค่ะ และคุณหมอก็จะนัดมาตรวจที่คลินิกอยู่เรื่อยๆ เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของไข่ว่าสมบูรณ์ดีมั้ย มีขนาดโอเคหรือเปล่า
- ในวันเก็บไข่จะมีการวางยาสลบ พอตื่นมา นกก็ไม่ได้เวียนหัวอะไรมากนะคะ แค่หน่วงๆ ท้องนิดหน่อย แต่เป็นแค่แปบเดียวก็ดีขึ้นค่ะ
- หลังจากที่นำไข่กับสเปิร์มไปผสมกันแล้ว เราก็ได้ตัวอ่อนที่จะนำใส่กลับเข้าไปในโพรงมดลูก คุณหมอจะมีการอัลตราซาวด์ไปพร้อมๆ กับการใส่น้องเข้าไปด้วยค่ะ
- รีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ #HDreview ได้รับการสปอนเซอร์จากทาง HDmall.co.th และ iBaby Fertility & Genetic Center
- ดูรายละเอียด ทำ ICSI กระตุ้นไข่ เก็บไข่ ผสมเลี้ยงตัวอ่อน ย้ายตัวอ่อนสดหรือแช่แข็ง และตรวจคัดกรองโครโมโซม ที่ iBaby Fertility & Genetic Center
- ดูรายละเอียด โปรแกรมทั้งหมดจาก iBaby Fertility & Genetic Center บน HDmall.co.th
- สอบถามแอดมินเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพ็กเกจได้ที่ไลน์ @HDcoth
โจ้กับนกคบเป็นแฟนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนเลยค่ะ จนกระทั่งแต่งงานกันมาได้ 4-5 ปี ก็ยังไม่มีน้องเสียที พยายามลองด้วยวิธีธรรมชาติมาหลายครั้งก็ไม่ติดค่ะ เวลาเห็นคนอื่นเขาอุ้มลูกก็แอบน้อยใจว่าทำไมของเรามียากจัง คนอื่นไม่เห็นจะยากแบบนี้เลย
หลังจากท้อใจก็ตามมาด้วยความสงสัยค่ะ เราสองคนเริ่มไม่แน่ใจว่า สาเหตุที่น้องยังไม่มามันเพราะเรื่องหน้าที่การงาน ความเครียด หรือเวลาในการดำเนินชีวิตที่ไม่เหมาะสมหรือเปล่า
เราเลยตัดสินใจว่า งั้นเราก็มีน้องผ่านการดูแลของคุณหมอที่เรียกว่าการทำเด็กหลอดแก้วกันดีกว่า ให้คุณหมอเป็นคนแนะนำการดูแลสุขภาพเพื่อการมีลูกไปเลย เพราะอายุของเราทั้งคู่ก็เลยเลขสามกันมาพอสมควรแล้วค่ะ อยากจะมีน้องกันให้สำเร็จเสียที
โจ้กับนกก็ดูรีวิวและหาข้อมูลเยอะมากๆ เพราะเราก็ไม่รู้จะทำเด็กหลอดแก้วที่ไหนดี จนมาเจอกับ iBaby Fertility & Genetic Center ซึ่งเป็นคลินิกรักษาภาวะมีบุตรยากที่มีชื่อเสียง มีหลายคู่ที่มาทำเด็กหลอดแก้วทั้งแบบ IVF และแบบการทำอิ๊กซี่ (ICSI) ก็เลยตัดสินใจทำที่นี่ค่ะ
เลือกขั้นตอนที่สนใจได้ที่นี่
- ขั้นตอนที่ 1 ตรวจเลือดและอัลตราซาวด์
- ขั้นตอนที่ 2 เริ่มการกระตุ้นไข่
- ขั้นตอนที่ 3 ฉีดยากระตุ้นให้ไข่ตก และเตรียมตัวก่อนเก็บไข่
- ขั้นตอนที่ 4 เก็บไข่
- ขั้นตอนที่ 5 ใส่ตัวอ่อน
- ขั้นตอนที่ 6 ตรวจเพื่อยืนยันการตั้งครรภ์
- ขั้นตอนที่ 7 ตรวจความคืบหน้าพัฒนการของตัวอ่อน
- บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ
ขั้นตอนที่ 1 ตรวจเลือดและอัลตราซาวด์
ก่อนจะเริ่มทำเด็กหลอดแก้ว คุณหมอก็ขอให้โจ้กับนกตรวจสุขภาพกันทั้งคู่ก่อนค่ะ โดยจะใช้วิธีเจาะเลือดส่งตรวจ และนกจะต้องอัลตราวซาวด์กับคุณหมอเพื่อตรวจดูความปกติของรังไข่ด้วย
โดยหลังจากตรวจดู คุณหมอก็แจ้งว่าจำนวนไข่ในรังไข่ของนกไม่ได้เยอะแต่ก็ไม่ได้น้อย ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่พอดีเมื่อเทียบกับช่วงอายุของนกค่ะ ส่วนโครงสร้างและผนังมดลูกถือว่าปกติดี ไม่มีอะไรน่าห่วง
ขั้นตอนที่ 2 เริ่มการกระตุ้นไข่">ขั้นตอนที่ 2 เริ่มการกระตุ้นไข่
เมื่อสุขภาพของเราทั้งคู่พร้อมต่อการมีน้อง ก็มาเริ่มลุยขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้วกันค่ะ โดยขั้นตอนแรกจะเป็นการกระตุ้นไข่ของฝ่ายหญิงเพื่อเตรียมสำหรับนำออกมาผสมกับเชื้อสเปิร์มของผู้ชายก่อนนั่นเอง
วิธีกระตุ้นไข่จะเป็นวิธีการกินยาและฉีดยาร่วมกันเป็นเวลาประมาณ 10 วันค่ะ และในตลอด 10 วันนี้ คุณหมอก็จะนัดมาตรวจที่คลินิกอยู่เรื่อยๆ เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของไข่ว่าสมบูรณ์ดีมั้ย มีขนาดโอเคหรือเปล่า
นกต้องดูแลตัวเองในด้านอื่นๆ ด้วยนะคะ คุณหมอแนะนำให้พักผ่อนเยอะๆ งดออกกำลังกาย หรือการทำกิจกรรมหนักๆ ต้องกินอาหารที่มีประโยชน์ด้วย อย่างไข่ขาวเนี่ยอย่าให้พร่องเลย และถ้าคุณหมอแนะนำอาหารชนิดอื่นๆ เพิ่มเติมก็ต้องกินเสริมอย่าให้ขาดเหมือนกันค่า
นอกจากการดูแลตัวเอง นกโชคดีที่โจ้เองก็คอยยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือนกอยู่ตลอดเหมือนกันค่ะ เพราะคุณหมอก็ได้แจ้งไว้ก่อนแล้วว่า นอกจากการดูแลตัวเอง ฝ่ายสามีก็ต้องมีส่วนช่วยภรรยาที่จะต้องรับภาระดูแลร่างกายเยอะกว่าเดิมด้วย
โจ้ก็ทำหน้าที่ไปรับไปส่งนกตลอด และจะคอยแบ่งเบาภาระในบ้านหรืองานอะไรหนักๆ ที่นกต้องทำด้วยค่ะ
โดยหลังจากรับยากระตุ้นไข่จนถึงวันที่ 6 นกก็เดินทางกลับมาให้คุณหมอตรวจดูขนาดของไข่ค่ะ ซึ่งคุณหมอบอกว่าโตใช้ได้ทีเดียว มีขนาดประมาณ 9 มิลลิเมตร ผนังมดลูกก็โอเคเลย
พอมาวันที่ 8 ไข่ก็โตขึ้นอีกและมีหลายใบด้วยค่ะ ขนาดอยู่ที่ 10-13 มิลลิเมตร แต่เราจะดูแค่ขนาดของไข่อย่างเดียวไม่ได้นะคะ เพราะคุณหมอจะขอเจาะเลือดตรวจดูค่าฮอร์โมนของเราด้วยค่ะ ถ้าค่าฮอร์โมนสำคัญตัวไหนพร่อง คุณหมอก็จะปรับยากระตุ้นไข่และอาจจะให้ฮอร์โมนเสริมกลับไปใช้ที่บ้านด้วย
จนกระทั่งในวันที่ 10 คุณหมอก็ขออัลตราซาวด์ดูอีกเพื่อเช็กว่า ไข่ของนกพร้อมเก็บแล้วหรือยัง หลังจากตรวจออกมาก็พบว่าไข่ของนกโตขึ้น 18 มิลลิเมตรเลยค่ะ ขนาดพอเหมาะโอเคเลย คุณหมอบอกว่า ขนาดเท่านี้ถือว่าพร้อมเก็บแล้วล่ะ ส่วนผนังมดลูกก็หนาดูดีมาก อยู่ที่ 11 มิลลิเมตร ผ่านเกณฑ์ดีมากเลย เพราะเกณฑ์ผนังมดลูกที่พร้อมต่อการตั้งครรภ์จะอยู่ที่ 8-12 มิลลิมเมตรค่ะ
เป็นอันสรุปว่า ไข่ของนกโตและมีคุณภาพตามเกณฑ์ที่คุณหมอกำหนดไว้ทุกอย่างค่ะ งั้นเดี๋ยวเราจะมานัดวันเก็บไข่กันอีกที
ขั้นตอนที่ 3 ฉีดยากระตุ้นให้ไข่ตก และเตรียมตัวก่อนเก็บไข่
เมื่อเรานัดวันเก็บไข่กันเรียบร้อยแล้ว คุณหมอก็ได้แจ้งสิ่งที่ต้องทำก่อนที่วันเก็บไข่จะมาถึงค่ะ โดยอย่างแรก คุณหมอจะจ่ายยากระตุ้นให้ไข่ตกกลับไปให้ฉีดเองที่บ้าน ซึ่งในขั้นตอนนี้นกต้องส่งข้อความ SMS แจ้งชื่อ นามสกุล และเวลาที่ฉีดยาส่งมาที่คลินิก
นอกจากนี้ นกกับโจ้จะต้องดการมีเพศสัมพันธ์กันไปก่อน เพราะช่วงเวลานี้มันเป็นช่วงที่นกไข่ตกพอดี ถ้าเราเผลอมีเพศสัมพันธ์กัน เชื้อสเปิร์มของโจ้อาจจะไปเจาะไข่สำเร็จ ซึ่งไข่ที่ตกช่วงนี้จะมีจำนวนที่เยอะมากๆ เป็น 20-30 ใบและทำให้นกตั้งท้องได้
ระยะเวลาที่งดมีเพศสัมพันธ์อาจจะยิงยาวไปจนกว่ากระบวนการทำเด็กหลอดแก้วจะเสร็จสิ้นเลยนะคะ เพราะถึงแม้จะเลยช่วงไข่ตกไปแล้ว และนกได้เก็บไข่เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ตาม โอกาสที่ไข่บางใบจะหลุดรอดไปจากสายตาของคุณหมอและยังอยู่ในรังไข่ของนกก็ยังมีอยู่ ถ้าเราเผลอชะล่าใจคิดว่าเก็บไข่เสร็จแล้วก็มีอะไรกันได้ โอกาสที่เชื้อสเปิร์มอาจจะไปเจาะไข่ใบที่ซ่อนอยู่จนตั้งท้องก็อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ เราเลยต้องระมัดระวังไว้ก่อน
คำแนะนำต่อมาที่ควรงดก่อนการเก็บไข่เหมือนกันก็คือ การออกกำลังกายค่ะ สาวๆ สายเข้ายิมอาจจะต้องงดกิจกรรมโปรดของตัวเองไปก่อนนะคะ เพราะคุณหมอได้แจ้งว่า การออกกำลังกายมีส่วนทำให้ไข่ของเราที่กำลังโตพอดีแตกหรือบิดจนไม่สามารถใช้ในการผสมเทียมได้ด้วยค่ะ
และในวันที่ 30 ซึ่งเป็นวันก่อนวันเก็บไข่ นกต้องงดน้ำ งดอาหาร งดของกินทุกอย่างตั้งแต่วันที่ 30 ช่วงเที่ยงคืนเป็นต้นไปจนถึงวันที่ 31 ตอนเที่ยงซึ่งเป็นเวลาเก็บไข่เลยค่ะ
หลังจากเก็บไข่เสร็จแล้ว คุณหมอได้แนะนำให้นกงด การแช่อยู่ในน้ำ เช่น การแช่อ่างอาบน้ำ การว่ายน้ำทั้งน้ำสระและน้ำทะเลไปก่อนนะคะ เพราะการเก็บไข่มันก็คล้ายกับการผ่าตัด เราจะมีแผลเล็กๆ ที่ช่องคลอดซึ่งพวกน้ำในสระว่ายน้ำหรือทะเลอาจจะมีสิ่งสกปรกหรือแบคทีเรียที่ทำให้เราติดเชื้อได้ค่ะ
และหลังจากเก็บไข่ไปประมาณ 10 วัน ถ้าเราไม่ได้ตั้งใจจะใส่ตัวอ่อนกลับเข้าโพรงมดลูกตั้งแต่รอบเดือนนี้เลย ประจำเดือนของเราก็จะมาค่ะ แต่ถ้าใส่เลยและตัวอ่อนติดดี นกก็จะไม่มีประจำเดือนไปยาวๆ เลย 9 เดือนเพื่ออุ้มท้องค่ะ
สำหรับโจ้เองก็มีภารกิจที่ต้องไปทำเหมือนกันค่ะ โดยก่อนวันเก็บไข่ 3-5 วัน โจ้ต้องไปเอาเชื้อสเปิร์มออกก่อน และเพื่อให้ร่างกายได้ผลิตเชื้อสเปิร์มชุดใหม่ที่แข็งแรง วิ่งเจาะไข่ได้ดี และมีจำนวนเยอะๆ ออกมา จากนั้นในวันที่นกมาเก็บไข่ ทางคลินิกก็จะให้โจ้เก็บเชื้อสเปิร์มชุดนั้นออกมาเมื่อเตรียมนำมาผสมเทียมกับไข่ของนกในห้องแลปค่า
ขั้นตอนที่ 4 เก็บไข่
นอกจากการดูแลตัวเองในเชิงสุขภาพ นกยังได้รับการกำชับจากเจ้าหน้าที่ด้วยค่ะว่า จะต้องไม่แต่งหน้า ทาปาก ทาเล็บ ใส่เล็บปลอม อุปกรณ์จัดฟัน คอนแทคเลนส์ หรือเครื่องประดับใดๆ มาทั้งนั้นในวันเก็บไข่ และไม่ควรเดินทางมาคนเดียวค่ะ เพราะหลังจากตื่นจากการเก็บใส่ซึ่งจะมีการวางยาสลบ นกอาจจะเวียนหัวและง่วงซึมได้
ซึ่งตามแพลนที่วางเอาไว้ นกจะไม่ได้เดินทางมาคนเดียวอยู่แล้วค่ะ เพราะโจ้เองก็ต้องเดินทางมาเก็บสเปิร์มที่คลินิกเหมือนกัน ในวันเก็บไข่นกมีอาการปวดหน่วงๆ ท้องนิดหน่อยค่ะ หลังจากเปลี่ยนชุดเป็นชุดเตรียมเก็บไข่ นกก็ขึ้นไปนอนรอบนเตียงในห้องรับรองก่อน จากนั้นคุณหมอก็เดินเข้ามาคุยด้วยก่อนเริ่มเก็บไข่
คุณหมอก็บอกว่าอาการปวดท้องเป็นอาการปกติของคนที่กำลังจะไข่ตก และได้แจ้งว่า เมื่อเราเข้าห้องเก็บไข่กัน คุณหมอจะให้ยาสลบซึ่งทำให้นกหลับไป แล้วจะเก็บไข่ให้เรียบร้อยทุกใบ จากนั้นเมื่อตื่นมา นกอาจจะรู้สึกเวียนหัวและปวดท้องนิดหน่อยซึ่งเป็นเอฟเฟกต์ปกติค่ะ
ซึ่งอาการจริงๆ หลังเก็บไข่เสร็จ นกก็ไม่ได้เวียนหัวอะไรมากนะคะ แค่หน่วงๆ ท้องนิดหน่อย แต่เป็นแค่ชั่วครู่ก็ดีขึ้นค่ะ
ขั้นตอนที่ 5 ใส่ตัวอ่อน
หลังจากที่คุณหมอได้นำไข่ของนกกับสเปิร์มของโจ้ไปผสมกันในห้องปฏิบัติการแล้ว ในที่สุดเราก็ได้ตัวอ่อนที่จะนำใส่กลับเข้าไปในโพรงมดลูกของนกแล้วค่ะ
โดยขั้นตอนการใส่ตัวอ่อน คุณหมอจะมีการอัลตราซาวด์ไปพร้อมๆ กับการใส่น้องเข้าไปด้วยค่ะ ซึ่งก่อนเริ่มใส่ นักวิทยาศาสตร์จะดูดตัวอ่อนออกมาและถ่ายทอดสดให้เห็นบนจอทีวีบนผนังภายในห้องใส่ตัวอ่อนเลย นกก็จะได้เห็นทุกขั้นตอนของการเก็บตัวอ่อนมาใช้จนกว่าคุณหมอจะใส่เข้าไปในโพรงมดลูกเลยค่ะ
ขั้นตอนที่ 6 ตรวจเพื่อยืนยันการตั้งครรภ์
หลังจากใส่ตัวอ่อนไปได้ประมาณวีคนึง คุณหมอก็นัดให้นกกลับเข้ามาตรวจเลือดเพื่อเช็กให้แน่ใจว่า สรุปแล้วน้องตัวอ่อนที่ใส่เข้าไปได้ฝังตัวอยู่ในมดลูกดีหรือไม่ และเพื่อเป็นการยืนยันการตั้งครรภ์อย่างเป็นทางการอีกครั้งค่ะ ซึ่งจากผลตรวจที่ออกมา เราสองคนก็ได้รับข่าวดีว่า น้องฝังตัวดีและตั้งครรภ์จริงๆ ค่า!
ขั้นตอนที่ 7 ตรวจความคืบหน้าพัฒนการของตัวอ่อน
เอาล่ะ หลังจากตั้งครรภ์เสร็จแล้วใช่ว่าเราจะโบกมืออำลาไม่กลับมาเจอคุณหมออีกนะคะ เพราะหลังจากนั้น คุณหมอก็จะยังนัดให้เรากลับมาเจอกันอยู่เรื่อยๆ เพื่อตรวจดูพัฒนาการของน้องว่าเติบโตเป็นยังไงบ้าง
- สัปดาห์ที่ 6 โดยปกติเมื่อตัวอ่อนฝังตัวกับผนังมดลูก คุณหมอก็จะเห็นภาพจากเครื่องอัลตราซาวด์เป็นถุงตัวอ่อนเล็กๆ ค่ะ ซึ่งโดยปกติก็จะมีตัวอ่อน 1 คนต่อ 1 ถุงเท่านั้น แต่บางครั้งการมีตัวอ่อน 2 คนต่อ 1 ถุงก็เกิดขึ้นได้เหมือนกัน ซึ่งนั่นหมายถึงการได้ลูกแฝดค่ะ แต่ในเคสของนก คุณหมอได้ตรวจดูแล้วประเมินว่าเป็น 1 คนใน 1 ถุงค่ะ คือเราได้น้องคนเดียว แต่แค่นี้ก็พอใจมากๆ แล้วค่ะ แถมตำแหน่งของน้องจากปากมดลูกยังอยู่สูงด้วย ซึ่งถือว่าดีมาก เพราะถ้าอยู่ตำแหน่ง น้องมีความเสี่ยงที่จะหลุดได้ค่ะ
- สัปดาห์ที่ 7 มาตรวจคราวนี้นกได้เห็นบางอย่างที่กระพริบๆ อยู่ที่จอเครื่องอัลตราซาวด์ด้วยค่ะ มันคือหัวใจของน้องนั่นเอง คุณหมอยังให้นกได้ฟังเสียงเต้นของหัวใจลูกด้วยนะ เต้นดังและสม่ำเสมอดีมากเลย อยู่ที่ 150 ครั้งต่อนาที ถือว่าแข็งแรงมากจ้ะลูกเสือของแม่ 555 และคุณหมอยังดูถุงไข่ซึ่งเป็นอาหารตัวอ่อนที่น้องสร้างขึ้นมาเองด้วยค่ะ คุณหมออธิบายเพิ่มว่า ถึงแม้จะนกจะแพ้ท้องและกินอะไรไม่ได้ ในช่วงนี้น้องก็จะมีเจ้าถุงไข่แดงนี่แหละคอยให้สารอาหารเขาอยู่ แต่ในส่วนของนกเองซึ่งเป็นสายกินอาจจะทนไม่ไหว แพ้ท้องยังไงเดี๋ยวก็ต้องหาอะไรกินอยู่ดีค่ะ 555
- สัปดาห์ที่ 8 คราวนี้เราได้เห็นตัวอ่อนในถุงชัดขึ้นค่ะ คุณหมอได้คอนเฟิร์มแล้วว่า น้องมีคนเดียว ยังไม่มีเซอร์ไพรซ์เด็กแฝดออกมา และรูปร่างน้องก็เริ่มเห็นได้ชัดขึ้นด้วยค่ะ
- สัปดาห์ที่ 9 คราวนี้เราได้เห็นทั้งส่วนหัว ลำตัว แขน และขาของน้องชัดขึ้นแล้วค่ะ คุณหมอได้พลิกภาพอัลตราซาวด์มาให้โจ้กับนกดูอีกด้วยว่าลูกของเรารูปร่างสมบูรณ์มั้ย แถมหัวใจเขายังเต้นแรงถึง 170 ครั้งต่อนาทีด้วย คุณหมอบอกว่าแข็งแรงดีมากค่ะ
สัปดาห์ที่ 10 คราวนี้ไม่ใช่แค่เห็นร่างกายเป็นส่วนๆ แล้วล่ะค่ะ แต่เราได้เห็นเขาเป็นตัวทารกเล็กๆ จิ๋วๆ อย่างชัดเจนขึ้นแล้ว คุณหมอวัดขนาดน้องได้ตอนนี้อยู่ที่ 4 เซนติเมตรค่ะ ถือว่าโตดีกว่าอายุครรภ์ด้วยซ้ำไป ส่วนอัตราการเต้นของหัวใจก็แข็งแรงเช่นเดิม ชื่นใจจริงๆ ค่ะ - 3 เดือน หลังจากอายุครรภ์เริ่มมากขึ้น คราวนี้ลูกของนกไม่ได้แค่โชว์สัดส่วนให้ดูแล้วค่ะ แต่น้องดิ้นให้เราดูในห้องอัลตราซาวด์เลย ตื่นเต้นกันไปหมด และโล่งใจจริงๆ ค่ะว่า เขาแข็งแรงดีสมกับที่เราพยายามบำรุงร่างกายดูแลตัวเองมาตลอดจริงๆ
นกรู้สึกขอบคุณทางคุณหมอและเจ้าหน้าที่ทุกคนจาก iBaby Fertility & Genetic Center จริงๆ ค่ะ ที่ช่วยสานฝันการมีลูกของนกและโจ้ให้เป็นจริงได้ หลังจากที่เราพยายามมาครั้งแล้วครั้งเล่าก็มีน้องไม่สำเร็จ แต่พอเราลองเปลี่ยนเป็นการเอาความฝันมาวางไว้ในมือของผู้เชี่ยวชาญ เป้าหมายของการมีลูกก็สำเร็จอย่างที่เราคาดหวังไว้จริงๆ
ใครที่ยังมีน้องไม่สำเร็จและกำลังตัดสินใจมองหาคลินิกรักษาผู้มีบุตรยากหรือทำเด็กหลอดแก้ว น้องก็ขอแนะนำ iBaby Fertility & Genetic Center ที่นี่เลยนะคะ เพราะพวกเขาทำให้ความฝันของนกกับโจ้เป็นจริงได้มาแล้ว ความฝันของพวกคุณก็เป็นจริงได้เหมือนกันค่ะ
จองคิวปรึกษาทำ ICSI กับ iBaby Fertility & Genetic Center ผ่าน HDmall.co.th ได้ที่ไลน์ @HDcoth รับส่วนลดและโปรโมชั่นพิเศษ พร้อมผ่อน 0% สูงสุดนาน 10 เดือน (เงื่อนไขขึ้นกับแต่ละบริการ)