รีวิว ประสบการณ์ ติดโควิดแบบไม่แสดงอาการ


รีวิว ประสบการณ์ ติดโควิดแบบไม่แสดงอาการ

สรุปการรีวิว

ขยาย

ปิด

  • ก่อนหน้านี้เราในพื้นที่เสี่ยงและรู้ข่าวว่าคนที่ไปด้วยกันติดโควิด ทำให้เรากลายเป็นกลุ่มเสี่ยงทันทีก็เลยเดินทางไปตรวจหาเชื้อ รีบกักตัว และแจ้งกับคนรอบตัวทันที
  • แนะนำว่าหากใครมีประกันสุขภาพของตัวเองอยู่แล้ว ให้ไปตรวจโควิดที่โรงพยาบาลที่อยากจะพักรักษาตัว เพราะหากผลตรวจออกว่าเราติดเชื้อโควิด โรงพยาบาลนั้นจะเป็นผู้ดูแลในการรักษา ซึ่งเราควรบอกกับโรงพยาบาลด้วยว่าเรามีประกันอะไรบ้าง เพื่อความรวดเร็วในการประสานงาน
  • อาการเบื้องต้นของผู้ป่วยอาจจะแตกต่างกัน ถ้าใครที่สุขภาพแข็งแรงอาจไม่มีอาการแสดง หรือมีอาการเพียงเล็กน้อยอย่างผม
  • สำหรับยาที่คุณหมอจ่ายให้ก็จะรักษาตามอาการ แต่ด้วยความที่อาการของผมน้อยมากๆ เลยได้เป็นวิตามินเสริมคู่กับยาพาราเท่านั้น และในวันที่ 3 คุณพยาบาลจะนำเครื่องเอกซ์เรย์มาตรวจดูปอดด้วย เพราะต้องคอยระวังไม่ให้เชื้อโควิดลงไปในปอด ซึ่งผมก็โชคดีที่เชื้อไม่ลงปอด

ก่อนหน้านี้ผมบังเอิญได้ไปในพื้นที่เสี่ยงและรู้ข่าวว่าคนที่ไปด้วยกันติดโควิด ทำให้เรากลายเป็นกลุ่มเสี่ยงทันทีก็เลยเดินทางไป ตรวจโควิด รีบกักตัว และแจ้งกับคนรอบตัวทันที

วันแรกหลังจากรู้ว่าคนที่เจอติดเชื้อโควิด ผมก็รีบแจ้งกับคนรอบตัว ครอบครัว และรีบไปตรวจโควิดในโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ซึ่งในวันนั้นผมไม่มีอาการบ่งชี้อะไรเลยนอกจากเจ็บคอด้วยอาการคอแห้ง แต่เพราะคืนก่อนหน้านั้นไปดื่มแอลกอฮอล์มา ก็เลยคิดว่าเป็นอาการปกติเลยไม่ได้แปลกใจอะไร

ระหว่างรอผลตรวจโควิดก็ได้กักตัวเอง เตรียมตัวให้พร้อมกับสถานการณ์ที่หากผลออกมาว่าผมติดเชื้อ จะได้ไม่ต้องพะวงทีหลัง ซึ่งพอผลตรวจโควิดออกมาเป็น Positive หรือพบเชื้อก็ได้แอดมิดเข้าโรงพยาบาลในวันรุ่งขึ้น เพราะโรงพยาบาลจะต้องหาเตียงให้จึงใช้เวลานิดหน่อย

ผมรู้สึกโชคดีมากที่รู้ผลเร็ว สามารถจำกัดการพบเจอผู้คนได้เร็ว ไม่ไปแพร่เชื้อให้กับใคร ซึ่งครอบครัว คนรอบตัว และเพื่อนร่วมงาน ได้กักตัวและไปตรวจโควิด ประมาณ 2-3 รอบ ผลก็ปรากฎว่าไม่ติดเชื้อเลยสักคน

และที่สำคัญเพื่อนร่วมงานในบริษัทไม่มีใครโทษผมเลย กลับให้กำลังใจและบอกว่าผมไม่ได้ทำอะไรผิด การติดเชื้อโควิดไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะมันคือธรรมชาติของคนยุคนี้แล้ว ทุกคนเผชิญความเสี่ยงเท่าๆ กัน

การเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาโควิด-19

ในตอนแรกที่ผมไปตรวจโควิดได้ใช้ สิทธิประกันสังคม เจ้าหน้าที่มารับผมเข้าโรงพยาบาลก็พาไปที่ห้องพักผู้ป่วยรวม ผมเลยยื่นประกันสุขภาพทั้งจากบริษัทและประกันสุขภาพที่ทำเอาไว้ส่วนตัวก็เลยได้เข้าพักที่ห้องเดี่ยว

ห้องพักที่ผมได้จะเป็นวอร์ด (Ward) สำหรับผู้ป่วยโควิดโดยเฉพาะ ห้องพักเลยเล็กกว่าขนาดปกติแต่ในห้องก็มีตู้เย็นเล็กๆ และไมโครเวฟให้ ส่วนจาน ชาม ช้อน ส้อมจะต้องสั่งเข้ามาเองเพราะว่าเป็นวอร์ดติดเชื้อ ของใช้ทุกอย่างจึงเป็นลักษณะใช้แล้วทิ้งครับ

แนะนำว่าหากใครมีประกันสุขภาพของตัวเองอยู่แล้ว ให้ไปตรวจโควิดที่โรงพยาบาลที่อยากจะพักรักษาตัว เพราะหากผลตรวจออกว่าเราติดเชื้อโควิด โรงพยาบาลนั้นจะเป็นผู้ดูแลในการรักษา ซึ่งเราควรบอกกับโรงพยาบาลด้วยว่าเรามีประกันอะไรบ้าง เพื่อความรวดเร็วในการประสานงาน

ระหว่างนี้เจ้าหน้าที่ สธ. และ สสจ. จะคอยโทรมาถามไถ่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่จะขอ timeline ของเรา (ซึ่งเราก็เตรียมเอาไว้แล้ว) พร้อมกับชื่อของบุคคลที่คิดว่าจะเสี่ยงติดเชื้อจากเรา ถามแม้กระทั่งทะเบียนรถแท็กซี่ซึ่งเราจำไม่ได้ แต่ก็ให้ข้อมูลละเอียดที่สุดเท่าที่ทำได้

สำหรับเรื่องอาหารการกิน โรงพยาบาลที่ผมเข้ารับการรักษาไม่ได้เมนูอาหารให้เลือกเยอะ แต่ก็จะเป็นอาหารไทยปกติ โดยจะแบ่งเสิร์ฟเป็น 2 รอบ คือ รอบแรก 8 โมงเช้า จะมาพร้อมกันทั้งอาหารเช้าและอาหารเที่ยง ส่วนอาหารเย็นจะมาตอน 5 โมงเย็น แต่ในบางวันก็อาจจะมาช้าบ้างเนื่องจากมีผู้ป่วยโควิดเพิ่มขึ้น

ส่วนของกินอื่นๆ เราสามารถสั่งจากพยาบาลได้ว่าอยากได้อะไรเพิ่ม แต่เค้าก็จะมาส่งตามรอบส่งอาหารเท่านั้น แนะนำว่าถ้าใครติดกาแฟ ให้นำเมล็ดกาแฟมาชงเอง เพราะถ้าสั่งแบบชงสำเร็จมาแล้วอาจจะจืดก่อนที่จะมาถึงครับ

อาการของผู้ป่วยโควิด

สำหรับอาการหลังจากที่ผมรู้ตัวว่าติดโควิด ในตอนแรกรู้สึกแค่เจ็บคอ จากการที่ไปดื่มแอลกอฮอล์มา ก็เลยคิดว่าเป็นอาการปกติเลยไม่ได้แปลกใจอะไร แต่ระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาลประมาณวันที่ 8-12 เริ่มสูญเสียการรับรู้รสชาติอาหาร โค้กกับน้ำส้ม ดื่มเข้าไปก็รสชาติเดียวกัน ลิ้นไม่สัมผัสถึงรสชาติหวาน เปรี้ยว เค็มเลย แต่อาการเผ็ดยังพอรู้สึกได้บ้าง ถ้าอยากกินอะไรอร่อยๆ ก็ต้องหาอะไรกรอบๆ ไม่ก็ครีมๆ กิน แต่หลังจากรักษาตัวประมาณวันที่ 13 ลิ้นถึงกลับมาเริ่มสัมผัสรสชาติได้บ้าง

ในเคสของผมที่ป่วยเป็นโควิดแบบไม่แสดงอาการ เชื้อโควิดไม่ลงปอด แต่อาการเบื้องต้นของผู้ป่วยคนอื่นๆ อาจจะแตกต่างกัน ถ้าใครที่สุขภาพแข็งแรงอาจไม่มีอาการแสดง หรือมีอาการเพียงเล็กน้อยอย่างผม ซึ่งอาการอาจปรากฎขึ้นหลังรับเชื้อมาแล้ว 2-14 วัน ดังนี้

  • มีไข้
  • ไอแห้ง
  • อ่อนเพลีย
  • จมูกไม่ได้กลิ่น
  • ลิ้นไม่ได้รับรส
  • คัดจมูก
  • ตาแดง
  • เจ็บคอ
  • ปวดหัว
  • ปวดกล้ามเนื้อ
  • มีผื่นขึ้นตามผิวหนัง
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • ท้องร่วง ท้องเสีย
  • หนาวสั่น
  • เวียนหัว

แต่กลุ่มในเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว โรคหัวใจ โรคปอด โรคเบาหวาน หรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง อาจมีอาการรุนแรงแตกต่างกันไป เช่น

  • หายใจหอบถี่ หายใจลำบาก
  • ไม่อยากอาหาร หรือเบื่ออาหาร
  • เวียนหัว สับสน มึนงง
  • เจ็บหน้าอก หรือแน่นหน้าอก
  • มีไข้แตะ 38 องศาขึ้นไป
  • เสียความสามารถในการเคลื่อนไหว
  • ใบหน้า หรือริมฝีปากเปลี่ยนสี

ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้หากมีอาการจะต้องรีบเข้ารับการรักษาโดยด่วน เพราะหากว่าเชื้อโควิดลงปอด จะสร้างความเสียหายรุนแรงครับ 

การตรวจรักษาของหมอและพยาบาล

ในช่วงแรกคุณหมอจะเข้ามาตรวจดูอาการวันเว้นวัน คอยถามอาการต่างๆ และอัปเดตข้อมูลจากกรมควบคุมโรคให้เราฟัง ส่วนพยาบาลจะมาคอยตรวจวัดความดันโลหิต วัดชีพจร และอุณหภูมิเป็นระยะ 

สำหรับยาที่คุณหมอจ่ายให้ก็จะรักษาตามอาการ แต่ด้วยความที่อาการของผมน้อยมากๆ เลยได้เป็นวิตามินเสริมคู่กับยาพาราเท่านั้น และในวันที่ 3 คุณพยาบาลก็นำเครื่องเอกซเรย์มาตรวจปอดด้วย เพราะต้องคอยระวังไม่ให้เชื้อโควิดลงไปในปอด

ทุกครั้งที่พยาบาลและคุณหมอเข้ามาในห้องเพื่อ ตรวจเชื้อโควิด หรือตรวจวัดความดัน จะสวมชุด PPE เข้ามาตลอด และระหว่างการรักษาตัวพยาบาลจะ Swab ตรวจเชื้อหาโควิดในวันที่ 7 และ 14 แต่ของผมในวันที่ 7 ก็ไม่พบเชื้อแล้ว คุณหมอก็บอกว่าไม่ค่อยเจอคนที่เป็นโควิดแล้วรักษาตัวแค่ 7 วันหาย

หลังจากรักษาตัวและกักตัวจนครบกำหนด ผมก็ได้กลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สวมหน้ากากอนามัย หรือละเลยความเสี่ยง เพราะแม้ว่าเราจะเคยติดเชื้อโควิดไปแล้ว หลายข้อมูลบอกว่าเราอาจมีภูมิต้านโควิด แต่ผมคิดว่าสายพันธุ์มันยังพัฒนาต่อไปไม่จบสิ้น การป้องกันไว้ก่อนก็เป็นสิ่งที่ทำให้เรามั่นใจได้ว่าจะปลอดภัยแน่นอน

สุดท้ายสำหรับใครที่ไปเผชิญพื้นที่เสี่ยง หรือสัมผัสกลุ่มเสี่ยง อยากให้ไป ตรวจโควิด กันเร็วๆ อย่าทิ้งช่วงนาน เพราะหากเราติดเชื้อโควิดขึ้นมาแล้วไม่มีอาการ ก็เสี่ยงที่จะไปแพร่เชื้อให้กับผู้อื่น ดังนั้น การรู้สถานะทางสุขภาพของตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ที่จะทำให้สังคมเราปลอดเชื้อโควิดในเร็ววัน


บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

@‌hdcoth line chat