รีวิว ตรวจ MRI หาต้นตออาการปวดหลัง ที่ โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ


สรุปการรีวิว

ขยาย

ปิด

  • พลอยมีอาการปวดหลัง คอ บ่า ไหล่ ร้าวลงไปที่สะบักมาประมาณ 6-7 ปีแล้วค่ะ พยายามรักษาด้วยวิธีต่างๆ แต่ก็ยังไม่หายสักที ด้วยความที่เป็นมานานเลยอยากรู้ว่าจริงๆ แล้วสาเหตุมันเกิดจากอะไรกันแน่ เลยตัดสินใจไปตรวจ MRI ดูค่ะ
  • พลอยเลือกตรวจ MRI หาต้นตออาการปวดหลัง ที่ โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ เนื่องจากมีโปรโมชันราคาพิเศษอยู่ แถมได้ตรวจกับโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงและมีมาตรฐานด้วย
  • ขั้นตอนการตรวจ อันดับแรกจะต้องไปเปลี่ยนชุดและถอดเครื่องประดับรวมถึงวัสดุที่เป็นโลหะออกจากร่างกายให้หมดก่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะพาเข้าเครื่อง MRI เลย
  • ผลตรวจที่ออกมา พลอยมีปัญหาหมอนรองกระดูกเสื่อมค่ะ แต่ยังไม่ถึงขั้นกดทับเส้นประสาท
  • รีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ #HDreview ได้รับการสปอนเซอร์จากทาง HDmall.co.th และ โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ

รีวิวตรวจ MRI หาต้นตออาการปวดหลัง ที่ โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ ประสบการณ์จริงที่ช่วยวินิจฉัยอาการปวดหลัง รักษาได้ตรงจุด อธิบายครบทุกรายละเอียดในรีวิวนี้ที่เดียว

เลือกหัวข้อที่สนใจได้ที่นี่

  • การตรวจ MRI คืออะไร?
  • รีวิวตรวจ MRI หาต้นตออาการปวดหลังที่ รพ. เปาโล สมุทรปราการ
  • ขั้นตอนการตรวจ MRI
  • ผลการตรวจ MRI
  • การตรวจ MRI แตกต่างจาก CT Scan อย่างไร?
  • การตรวจ MRI ใช้เวลานานมั้ย?
  • ใครที่ไม่สามารถตรวจ MRI ได้
  • กลัวที่แคบตรวจ MRI ได้มั้ย?
  • บรรยากาศของ โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ
  • บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

  • พลอยมีอาการปวดหลัง คอ บ่า ไหล่ ร้าวลงไปที่สะบักมาประมาณ 6-7 ปีแล้วค่ะ เคยมีช่วงที่ปวดหนักสุดๆ ถึงขั้นเงยหน้า ก้มหน้าได้ไม่สุด เวลานั่งทำงานก็จะรู้สึกปวดเมื่อยอยู่ตลอดเวลา

    ก่อนหน้านี้ก็พยามรักษาอาการปวดมาแล้วหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการนวดแผนไทย นวดจับเส้น นวดกดจุด หรือจะเป็นการรักษารูปแบบอื่นอย่างการทำ Shock wave อัลตราซาวด์ และกายภาพบำบัด แต่อาการเหล่านี้ก็ยังไม่หายสักที

    พลอยเลยลองรักษาด้วยวิธีแพทย์ทางเลือกอย่างการฝังเข็มแบบจีน และแบบตะวันตกดู ซึ่งวิธีที่พลอยรู้สึกว่าเห็นผลที่สุดก็จะเป็นการฝังเข็มแบบตะวันตก ที่หมอเค้าจะจิ้มเข็มลงไปที่กล้ามเนื้อเพื่อคลายกล้ามเนื้อ แต่การรักษาแบบนี้ก็เป็นแค่การรักษาที่ปลายเหตุเท่านั้น แถมยังต้องคอยไปทำอยู่บ่อยๆ อีก

    ตรวจ MRI ราคา

    ด้วยอาการที่มันเรื้อรังและร้ายเรงขึ้นเรื่อยๆ พลอยก็เริ่มอยากรู้ว่าอาการปวดเหล่านี้มันเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ เลยลองเสิร์ชหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตดูว่าสาเหตุของการปวดในลักษณะนี้มีสาเหตุมาจากอะไร และสามารถหาต้นตอสาเหตุด้วยวิธีอะไรได้บ้าง

    จนพลอยได้มาเจอกับ HDmall.co.th ซึ่งเป็นเว็บไซส์ที่รวบรวมข้อมูลความรู้ด้านสุขภาพที่ไม่ว่าเราจะป่วยเป็นโรคอะไร หรือมีอาการผิดปกติอะไรในร่างกาย เว็บนี้เค้ารวบรวมความรู้และมีคำตอบให้กับทุกข้อสงสัยของเราหมดเลยค่ะ

    สำหรับข้อมูลที่พลอยอ่านเจอก็คือการรักษาหรือการตรวจด้วย MRI ที่สามารถบอกสาเหตุของอาการปวดหลัง อาการปวดบริเวณสะบัก และอาการปวดแปลบตามบริเวณต่างๆ ของเราได้ พลอยเลยสนใจและลองศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจ MRI นี้ดูค่ะ

    การตรวจ MRI คืออะไร?

    จากที่อ่านข้อมูลมา MRI ก็คือเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าพลังงานสูงร่วมกับคลื่นวิทยุพลังงานสูง สะท้อนกลับมาที่ตัวรับสัญญาณและถูกแปลงตามคุณสมบัติของอวัยวะนั้นๆ ทำให้เกิดเป็นภาพ 3 มิติที่มีความละเอียดและคมชัดมากๆ จนสามารถตรวจหาความผิดปกติของเนื้อเยื่อ อวัยวะ และโครงสร้างต่างๆ ในร่างกายได้ถูกต้องและรวดเร็ว

    ซึ่งวิธีการตรวจนี้ทำให้คุณหมอสามารถวินิจฉัยโรค วางแผนการรักษา และติดตามผลการรักษาได้ดีกว่าวิธีอื่นๆ เช่น การเอกซเรย์ อัลตราซาวด์ หรือ CT scan

    อีกอย่างคือ MRI สามารถบอกสาเหตุและข้อมูลเชิงลึกต่างๆ ได้ด้วยว่าอาการปวด ชา อ่อนล้าเกิดจากสาเหตุอะไร และมีอาการกระดูกทับเส้นประสาทรึเปล่า

    พลอยเลยคิดว่าการตรวจ MRI ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถตรวจได้อย่างตรงจุด ทำให้รู้ถึงสาเหตุของอาการปวดว่ามาจากอะไรกันแน่ และจะได้รักษาอย่างตรงจุด

    นอกจาก HDmall.co.th จะรวบรวมบทความให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพแล้ว เค้ายังมีแพ็กเกจเกี่ยวกับสุขภาพ จากคลินิก และโรงพยาบาลมาให้เลือกใช้บริการอีกด้วย พลอยเองก็ยังไม่รู้ว่าจะไปตรวจ MRI ที่ไหนดี เลยลองเข้าไปเลือกดูแพ็กเกจในนี้ค่ะ

    และพลอยก็เลือกตรวจ MRI ที่ โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ เนื่องจากกำลังมีโปรโมชันส่วนลดราคาพิเศษอยู่ อีกอย่างคือโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ ก็เป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงและมีมาตรฐานอยู่แล้วด้วย เลยไม่รอช้ารีบจองแพ็กเกจเข้ามาใช้บริการทันทีค่ะ

    โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ

    รีวิวตรวจ MRI หาต้นตออาการปวดหลังที่ รพ. เปาโล สมุทรปราการ

    ถึงวันนัดหมายก็เข้ามาที่โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ ได้เลยค่ะ พอเข้ามาแล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่เดินมาต้อนรับพร้อมกับถามว่าวันนี้มาติดต่อเรื่องอะไร เราก็แจ้งไปว่ามาตรวจ MRI จองไว้กับ HDmall.co.th

    ขั้นตอนก่อนใช้บริการตรวจ MRI หาต้นตออาการปวดหลัง

    จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะพาไปที่จุดลงทะเบียนพร้อมกับขอดูคูปองที่ได้รับจาก HDmall.co.th เพื่อยืนยันข้อมูลการจอง เสร็จแล้วเจ้าหน้าที่ก็จะปริ้นใบข้อมูลคนไข้ออกมาให้และพาไปที่ศูนย์กระดูกและข้อเลยค่ะ

    MRI ตรวจอะไรได้บ้าง

    พอมาถึงที่ศูนย์กระดูกและข้อ ก็จะมีพยาบาลพาไปวัดความดัน ชั่งน้ำหนัก และวัดส่วนสูงก่อน จากนั้นก็เข้าไปพบคุณหมอต่อเลยค่ะ

    ขั้นตอนการตรวจคัดกรองก่อนตรวจ MRI หาต้นตออาการปวดหลัง

    เริ่มแรกพลอยก็เล่าปัญหาให้คุณหมอฟังไปก่อนว่า เรามีอาการปวดบริเวณหลัง คอ บ่า ไหล่ และก็ปวดจี๊ดๆ ร้าวลงมาที่ส่วนบั้นเอว บางทีก็ปวดแปลบๆ บางทีก็ปวดเยอะมาก เลยอยากจะมาปรึกษาคุณหมอว่าอาการปวดที่เป็นอยู่นี้สามารถตรวจ MRI ตำแหน่งไหนได้บ้าง

    คุณหมอก็บอกว่าเท่าที่ฟังจากอาการ เหมือนว่าตำแหน่งที่ปวดมากที่สุดจะเป็นช่วงเอว คุณหมอเลยจะเน้นตรวจไปที่ส่วนของกระดูกช่วงเอว เพื่อประเมินในเรื่องของตัวหมอนรองกระดูกสันหลังและเรื่องของโพรงเส้นประสาท

    ขั้นตอนปรึกษาคุณหมอก่อนตรวจ MRI หาต้นตออาการปวดหลัง

    หลังจากได้รับคำแนะนำจากคุณหมอมาอย่างครบถ้วนแล้ว พลอยก็รู้สึกคลายความกังวลไปได้ค่อนข้างเยอะเลยค่ะ ขั้นตอนต่อไปหลังจากคุยกับคุณหมอเสร็จแล้ว ก็จะมีเจ้าหน้าที่พาเราไปเตรียมตัวตรวจ MRI กันเลย

    ขั้นตอนการตรวจ MRI

    ขั้นตอนแรกเจ้าหน้าที่จะให้ไปเปลี่ยนเป็นชุดของทางโรงพยาบาลและถอดเครื่องประดับต่างๆ รวมถึงถอดวัสดุที่เป็นโลหะออกจากตัวให้หมดก่อน

    โดยชุดที่ให้มาก็จะมีลักษณะเป็นชุดคลุมยาวๆ มีเชือกผูกด้านหน้า ส่วนภายในห้องเปลี่ยนชุดก็จะมีล็อกเกอร์พร้อมกับกุญแจมาให้สำหรับเก็บเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวค่ะ

    การเตรียมตัวก่อนตรวจ MRI

    หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะซักประวัติของเราก่อนว่า เคยทำ MRI มาก่อนมั้ย มีโรคประจำตัวอะไรบ้าง เคยผ่าตัดอะไรรึเปล่า ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ในร่างกายเคยใส่อุปกรณ์ที่เป็นเหล็กหรือโลหะมาก่อนมั้ย

    จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะให้เซ็นเอกสารยินยอมการตรวจ พร้อมกับแจ้งว่า การตรวจ MRI จะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 40 นาที ถ้าปวดปัสสาวะก็ให้ไปเข้าห้องน้ำทำธุระให้เรียบร้อยก่อนได้เลย เสร็จแล้วก็ไปเข้าห้องตรวจ MRI กันเลยค่ะ

    ขั้นตอนซักประวัติก่อนตรวจ MRI หาต้นตออาการปวดหลัง

    เข้ามาในห้องตรวจ MRI ก็จะเจอกับเครื่องตรวจขนาดใหญ่มีลักษณะคล้ายๆ อุโมงค์ และเจ้าหน้าที่ก็จะให้เราขึ้นไปนอนบนเตียงพร้อมกับนำหูฟังมาใส่ให้เพื่อป้องกันเสียงรบกวน

    ขั้นตอนการตรวจ MRI หาต้นตออาการปวดหลัง

    เนื่องจากระหว่างตรวจ MRI ภายในห้องจะมีเสียงดังมากๆ เลยต้องใส่หูฟังเพื่อป้องกันเสียงเอาไว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะจัดท่าทางการนอนให้ โดยของพลอยจะนอนหันหัวเข้าไปทางอุโมงค์ เพราะเป็นการตรวจดูกระดูกช่วงเอวค่ะ

    ผลข้างเคียงจากการทำ MRI

    หลังจากจัดท่าทางเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะเลื่อนเตียงเข้าไปในอุโมงค์และออกไปอยู่ในห้องปฏิบัติการแทน จากนั้นก็จะเริ่มตรวจ MRI กันเลยค่ะ

    สำหรับการตรวจ MRI ก็จะแบ่งตรวจเป็นเซ็ตๆ ซึ่งแต่ละคนจะมีจำนวนเซ็ตที่ไม่เท่ากัน แตกต่างกันไปตามปัญหาและบริเวณที่ตรวจของแต่ละคน อย่างของพลอยตรวจบริเวณกระดูกช่วงเอวก็จะตรวจทั้งหมด 8 เซ็ต ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 40 นาทีค่ะ

    ตรวจ MRI ใช้เวลานานมั้ย

    ความรู้สึกระหว่างตรวจ MRI ก็จะรู้สึกร้อนๆ อุ่นๆ นิดนึงตรงบริเวณที่ตรวจค่ะ และภายในห้องก็จะมีเสียงที่ค่อนข้างดังนิดนึง แต่ใส่หูฟังช่วยไว้อยู่เลยไม่ได้รู้สึกรำคานอะไรมาก โดยรวมแล้วคือชิวค่ะ สบายๆ เลย จะบอกว่ามีบางช่วงที่พลอยแอบหลับไปด้วย ฮ่าๆ

    กลัวที่แคบตรวจ MRI ได้มั้ย

    ผ่านไป 40 นาทีก็ตรวจ MRI เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ หลังจากนี้ก็ไปเปลี่ยนชุดและรอฟังผลตรวจกับคุณหมอประมาณ 15-30 นาทีได้เลยค่ะ

    ผลการตรวจ MRI

    สำหรับผลตรวจที่ออกมา ในส่วนของแนวกระดูกก็ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างปกติดี แต่จะมีเรื่องที่น่ากังวลอย่างนึงคือ หมอนรองกระดูกของพลอยเสื่อมค่ะ

    เนื่องจากตัวหมอนรองกระดูกข้อที่เรียกว่า L5 ต่อกับ S1 มีลักษณะเป็นสีดำมากกว่าข้ออื่นๆ จึงเป็นตัวบ่งบอกว่าหมอนรองกระดูกของพลอยมีการเสื่อมเกิดขึ้น แต่ก็ยังโชคดีที่ไม่ถึงขั้นมีการกดทับของเส้นประสาท

    สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดหมอนรองกระดูกเสื่อม คุณหมอบอกว่าส่วนมากมักจะเกิดจากการนั่งทำงานนานๆ ไม่มีการเปลี่ยนท่าทาง รวมถึงการก้มยกของหนักๆ ด้วย

    ผลตรวจ MRI

    คุณหมอเลยแนะนำว่าเราควรจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งาน ลักษณะท่าทางการนั่ง ท่าทางการก้มยกของ รวมไปถึงการออกกำลังกายและการทำกายภาพบำบัดเพื่อเสริมสร้างแรงกล้ามเนื้อด้วย เพื่อช่วยฉะลอความเสื่อมของหมอนรองกระดูกไม่ให้มันเสื่อมไปมากกว่านี้ค่ะ

    หลังจากที่พลอยได้ฟังผลตรวจและคำแนะนำจากคุณหมอแล้ว ต่อไปนี้ก็คงจะต้องกลับไปปรับเปลี่ยนท่าทางต่างๆ ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต และออกกำลังกายให้มากขึ้นแล้วแหละค่ะ เพราะทุกวันนี้ก็คือยังนั่งทำงานติดต่อกันหลายชั่วโมง โดยที่ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนท่าทางอยู่เลย

    นอกจากนี้พลอยก็มีคำถามเพิ่มเติมที่อยากรู้และคิดว่าเพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่านบทความก็น่าจะอยากรู้เหมือนกัน โดยพลอยได้รวบรวมคำถามมาไว้ให้ดังนี้ค่ะ

    การตรวจ MRI แตกต่างจาก CT Scan อย่างไร?

    คุณหมอได้อธิบายให้ฟังว่าการตรวจแต่ละแบบจะมีจุดประสงค์และความสามารถในการตรวจที่แตกต่างกันไป

    การตรวจ CT Scan จะเป็นการตรวจหาความผิดปกติของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายด้วยการปล่อยลำแสง X-Ray ผ่านบริเวณที่ต้องการตรวจและได้ออกมาเป็นภาพแบบ 3 มิติ แนวตัด และแนวขวาง

    โดยการตรวจ CT Scan จะสามารถตรวจวินิจฉัยโรคเกี่ยวกับกระดูก ปอด และการบาดเจ็บของอวัยวะภายในได้

    ส่วนการตรวจ MRI จะเป็นการสร้างภาพ 3 มิติเสมือนจริง ด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ร่วมกับคลื่นความถี่วิทยุ ทำให้สามารถตรวจได้ทุกระนาบ ตรวจดูกล้ามเนื้อ เส้นประสาท หรือตัวชั้นไขมัน ชั้นกล้ามเนื้อต่างๆ ได้ละเอียด และมีความปลอดภัยมากกว่า CT Scan เพราะไม่ต้องใช้รังสีในการตรวจ

    การตรวจ MRI ใช้เวลานานมั้ย?

    โดยปกติทั่วไป การตรวจ MRI จะใช้เวลาตรวจอยู่ที่ประมาณ 40 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับบริเวณที่คนไข้มีปัญหาและบริเวณที่ทำการตรวจ

    ใครที่ไม่สามารถตรวจ MRI ได้

    เนื่องจากการตรวจ MRI จะเป็นการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและคลื่นความถี่วิทยุในการตรวจ จึงมีข้อห้ามสำหรับบางคนที่ไม่สามารถตรวจ MRI ได้ดังนี้

    • ผู้ที่มีวัสดุโลหะต่างๆ อยู่ในร่างกาย เช่น ข้อเทียม หรือโลหะดามกระดูก
    • ผู้ที่ผ่าตัดใส่เครื่องกระตุ้นการทำงานของหัวใจ
    • ผู้ที่ผ่าตัดติดคลิปอุดหลอดเลือดในโรคเส้นเลือดโป่งพอง
    • ผู้ที่ผ่าตัดใส่อวัยวะเทียมภายในหู และประสาทหูเทียม
    • ผู้ที่ใส่รากฟันเทียม อุดฟัน หรือใส่เหล็กจัดฟันที่วัสดุมีโลหะเป็นส่วนประกอบ

    กลัวที่แคบตรวจ MRI ได้มั้ย?

    สำหรับผู้ที่กลัวที่แคบแล้วกังวลว่าจะตรวจ MRI ได้มั้ย จริงๆ แล้วคุณหมอบอกว่าสามารถตรวจได้

    ก่อนที่จะเข้าไปตรวจ MRI เบื้องต้นจะมีการซักถามและประเมินอาการกลัวที่แคบของคนไข้ก่อน ถ้าอยู่ในระดับที่ไม่หนักมากก็สามารถเข้าไปทำได้

    โดยเจ้าหน้าที่ประจำห้อง MRI จะอธิบายให้ฟังถึงรายละเอียดและขั้นตอนการตรวจให้ฟังก่อน เพื่อให้ผู้ป่วยได้คลายความกังวลและสบายใจมากขึ้น

    ส่วนใครที่มีอาการกลัวที่แคบมากๆ ก็อาจจะมีความจำเป็นที่ต้องให้ยาลดความกังวลเข้ามาช่วยระหว่างทำ MRI ด้วย

    บรรยากาศของ โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ

    บรรยากาศของ โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ ด้านในก็กว้างขวาง สะอาดสะอ้าน มีที่ให้นั่งรอเยอะ ทำให้เวลาเข้าไปใข้บริการแล้วไม่รู้สึกอึดอัดเลยค่ะ

    บรรยากาศด้านหน้าโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ
    บรรยากาศด้านในโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ

    ที่สำคัญคือ โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ อยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวกมากๆ สามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีศรีนครินทร์ ทางออก 1 แล้วนั่งมอเตอร์ไซค์ต่อมาอีกนิดนึงได้เลย

    ส่วนด้านการให้บริการ เจ้าหน้าที่ทุกคนก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี พูดจาไพเราะ พยาบาลน่ารัก พูดคุยเป็นกันเอง ส่วนคุณหมอก็ให้ข้อมูลต่างๆ ได้อย่างละเอียด มีคำถามอะไรสงสัยสามารถสอบถามได้หมดเลย โดยรวมแล้วประทับใจมากค่ะ

    การให้บริการของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ

    สำหรับใครที่มีอาการปวดหลัง ปวดคอ บ่าไหล่ หรือปวดตรงช่วงเอวอยู่ พลอยก็อยากจะแนะนำให้ลองมาตรวจ MRI หาต้นตออาการปวดหลัง ที่ โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการกันนะคะ อย่าปล่อยให้อาการนี้เรื้อรังไปเรื่อยๆ จนทำให้เกิดปัญหาใหญ่แบบพลอยเลยค่ะ

    โดยเพื่อนๆ สามารถเข้าไปจองแพ็กเกจราคาสุดคุ้มของ โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ ได้ง่ายๆ ที่ HDmall.co.th ได้เลยค่ะ

    ในนี้เค้ามีแพ็กเกจเกี่ยวกับสุขภาพของ โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ ให้เลือกเยอะมาก แถมยังมีแอดมินคอยให้บริการและให้คำแนะนำอยู่ตลอดด้วย บริการดีๆ ในราคาคุ้มค่าแบบนี้ ห้ามพลาดเลยนะคะ

    ผู้ใช้บริการตรวจ MRI หาต้นตออาการปวดหลัง ที่ โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ

    บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

    @‌hdcoth line chat