รีวิว ทำรากฟันเทียม แก้ปัญหาที่ต้องใส่ฟันปลอม ที่ Edelweiss Dental House


สรุปการรีวิว

ขยาย

ปิด

  • เราใช้ฟันกัดเคี้ยวอาหารแรงไปหน่อยค่ะ ทำให้ฟันบนซี่หนึ่งทางฝั่งซ้ายเสียหายจนต้องถอนฟัน และใส่เป็นฟันปลอมแบบถอดได้แทน
  • ตัดสินใจทำรากฟันเทียม เพราะมีปัญหาหลายอย่างจากการใส่ฟันปลอม เช่น รำคาญและเจ็บขณะใส่ ปัญหาเหงือกอักเสบ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเวลาเราทำฟันปลอมหาย เลยตัดสินใจทำรากฟันเทียมซะเลย
  • ก่อนเริ่มทำรากฟันเทียม จะต้องมีการทำเอกซเรย์และทำ CT Scan เพื่อดูโครงสร้างกระดูกฟันว่าสามารถทำรากฟันเทียมได้มั้ย และเพื่อไม่ให้รากฟันเทียมไปโดนไซนัสด้วยค่ะ
  • เมื่อใส่รากเทียมแล้ว ต้องรอประมาณ 3 เดือน เพื่อให้กระดูกฟันกับรากฟันเทียมประสานยึดเกาะกันอย่างแข็งแรง จากนั้นค่อยกลับมาใส่ครอบฟันค่ะ
  • หลังจากครอบฟันเสร็จแล้ว กุ้งรู้สึกมีความสุขกับการกินมากขึ้นเยอะเลยค่ะ และยังรู้สึกว่าเราได้ฟันแท้ที่มั่นคงแข็งแรง ไม่ขยับหรือไปกดเหงือกจนอักเสบกลับมาอีกครั้ง
  • รีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ #HDreview ได้รับการสปอนเซอร์จากทาง HDmall.co.th และ

เลือกหัวข้อที่สนใจที่นี่


เมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว เรากินของแข็งแล้วเผลอใช้ฟันกัดเคี้ยวอาหารแรงไปหน่อยค่ะ เลยทำให้ฟันบนซี่หนึ่งทางฝั่งซ้ายเสียหาย สุดท้ายก็ต้องถอนฟันซี่นั้นออกเลย แล้วใส่เป็นฟันปลอมแบบถอดได้เข้าไปแทน ซึ่งก็ส่งผลทำให้ใช้ชีวิตลำบากอยู่นานพอสมควรเลยค่ะ

ทำไมถึงอยากทำรากฟันเทียม?

อย่างแรกที่เรารู้สึกไม่ชอบในการใส่ฟันปลอมก็คือ “ความไม่สบายปากระหว่างกินอาหาร” ด้วยตัวฟันที่มันไม่ได้ติดตั้งอย่างมั่นคงกับเหงือกของเราอยู่แล้ว มันเลยทำให้รู้สึกระคายเคืองเหงือกในระหว่างใช้ฟันปลอมเคี้ยวอาหารทุกครั้งเลยค่ะ จะกินอาหารแต่ละมื้อก็รู้สึกไม่ค่อยอร่อยเลย

อย่างที่สอง ก็คือ “ปัญหาการอักเสบ” เพราะเวลาเราบดเคี้ยวหรือกัดฟัน ฟันปลอมมันก็จะไปกดที่เหงือกของเราด้วย พอเหงือกเราโดนกระแทกหรือเจอแรงกัดจากซี่ฟันปลอมบ่อยๆ มันก็กลายมาเป็นภาวะเหงือกอักเสบ แล้วก็ต้องลำบากไปคลินิกทำฟันเพื่อรักษา ก็เสียตังค์เพิ่มไปอีก

อย่างที่สาม คือ “การทำความสะอาดที่ยุ่งยาก” เพราะเราต้องถอดฟันปลอมออกมาทำความสะอาดทุกวัน สรุปง่ายๆ คือ เราต้องถอดเข้าถอดออกฟันปลอมเพื่อทำความสะอาดตลอดเวลาเลยค่ะ จะไปต่างจังหวัดก็ต้องพกอุปกรณ์ทำความสะอาดฟันปลอมไปเผื่อด้วย

จากที่ต้องถอดฟันปลอมเข้าๆ ออกๆ ทุกวัน ผลก็คือ ฟันปลอมหาย! พอทำฟันปลอมหายก็ต้องกลับไปคลินิกทำฟันเพื่อพิมพ์ฟันปลอมซี่ใหม่อีก เสียทั้งเวลาและเสียตังค์อีก

นี่แหละค่ะ มันเลยทำให้เริ่มเปลี่ยนความคิดว่า แล้วทำไมเราไม่หาวิธีที่จะทำให้เรากลับมามีฟันที่แข็งแรงมั่นคงแทนที่ฟันซี่ที่หายไปเลยล่ะ ก็เลยลองไปเสิร์ชดูข้อมูลว่า ถ้าสมมติเราเสียฟันซี่ใดซี่หนึ่งขึ้นมา เราจะสามารถเอาวัสดุเทียมอื่นๆ มาใส่แทนที่ตรงเหงือกส่วนที่ฟันหายไปได้มั้ย

จนได้ไปเจอข้อมูลเกี่ยวกับ “การทำรากฟันเทียม” ก็รู้สึกสนใจค่ะ เพราะมันเป็นเหมือนการติดตั้งฟันซี่ใหม่เข้าไปแทนที่ฟันของเราตั้งแต่ระดับรากฟันใต้เหงือกเลย

หลังจากนั้น เราก็มองหาคลินิกที่ทำรากฟันเทียมต่อเลยค่ะ จนได้เจอกับ “Edelweiss Dental House” ซึ่งเป็นศูนย์ทันตกรรมที่เปรียบเสมือนโรงพยาบาลสำหรับการทำฟันโดยเฉพาะเลย มีเครื่องมือตรวจและรักษาอาการเกี่ยวกับฟันที่ทันสมัยมากๆ และมีคุณหมอที่เชี่ยวชาญด้านการทำรากฟันเทียมประจำอยู่ด้วยค่ะ

จากที่นั่งอ่านข้อมูลและดูรูปบรรยากาศสถานที่ อุปกรณ์ทำฟันต่างๆ ของ Edelweiss Dental House ก็รู้สึกสนใจอยากทำรากฟันเทียมที่นี่ เลยตัดสินใจเดินทางมาปรึกษาคุณหมอเรื่องการทำรากฟันเทียมที่นี่เป็นที่แรกเลย

รีวิว ทำรากฟันเทียม แก้ปัญหาที่ต้องใส่ฟันปลอม ที่ Edelweiss Dental House

ซึ่งจนถึงตอนนี้ เราก็ทำรากฟันเทียม ที่ Edelweiss Dental House เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ และในรีวิวนี้ จะบอกเล่าทุกกระบวนการทำรากฟันเทียมกับศูนย์ทันตกรรมแห่งนี้แบบละเอียดเลยค่ะ!

รีวิว ทำรากฟันเทียม ที่ Edelweiss Dental House

Edelweiss Dental House (เอเดลไวซ์ เดนทัลเฮ้าส์) อยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต ใกล้แยกสุทธิสารค่ะ ตัวอาคารและการตกแต่งภายในของที่นี่เป็นโทนสีขาวคลีนๆ ดูสะอาดตามากค่ะ

บรรยากาศ Edelweiss Dental House

การเดินทางมาที่คลินิกก็ไม่ยากเลยค่ะ ลงจากสถานีรถไฟฟ้าสุทธิสาร ต่อรถแท็กซี่มาที่นี่ได้เลย แถมด้านหน้าศูนย์ทันตกรรมมีที่จอดรถให้ด้วย สะดวกมากๆ สำหรับผู้ที่ขับรถมาเองค่ะ

สำหรับการทำรากฟันเทียม เป็นการรักษาที่ต้องใช้เวลานานหลายเดือนค่ะ และไม่ใช่การมาเจอคุณหมอแล้วจะใส่รากฟันเทียมได้ทันทีนะคะ แต่จะต้องมีการตรวจสุขภาพฟัน และดูโครงสร้างฟันอย่างละเอียดกับคุณหมอก่อน ถึงจะเริ่มรักษาได้ค่ะ

หลังจากตรวจสุขภาพฟันและเช็กเหงือกส่วนที่ฟันหายไปกับคุณหมอ คุณหมอก็ให้กุ้งไป X-ray Panoramic และทำ CT Scan เพื่อวัดขนาดและคุณภาพของกระดูกก่อนค่ะ

ความสำคัญของกระบวนการเอกซเรย์ส่วนนี้มันจะทำให้คุณหมอได้ภาพ 3 มิติของกระดูกฟันกุ้งหมดเลย จะได้นำไปวิเคราะห์ต่อได้ว่ากระดูกฟันของกุ้งมีคุณภาพ ความกว้าง และความสูงเพียงพอจะใส่รากฟันเทียมได้มั้ย แล้วปัญหาฟันที่หายไปของกุ้งมันเหมาะต่อการรักษาด้วยวิธีทำรากฟันเทียมจริงๆ ใช่หรือเปล่า

ที่สำคัญอีกอย่างนะคะ ฟิล์มเอกซเรย์ยังทำให้คุณหมอได้เห็นโครงสร้างในส่วนของ “ไซนัส” ซึ่งเป็นโพรงอากาศเหนือกระดูกฟันที่เชื่อมกับจมูกด้วย เพราะการทำรากฟันเทียมที่เหมาะสมจะต้องไม่ไปโดนส่วนของไซนัสเด็ดขาดค่ะ ไม่อย่างนั้นจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจตามมาได้

รีวิว ทำรากฟันเทียม แก้ปัญหาที่ต้องใส่ฟันปลอม ที่ Edelweiss Dental House

เมื่อเอกซเรย์เสร็จเรียบร้อย คุณหมอก็คำนวณขนาดรากเทียมที่เหมาะสม และอธิบายรายละเอียดเรื่องแนวทางการทำรากฟันเทียม จากนั้นคุณหมอก็นัดวันมาใส่รากเทียมอีกทีค่ะ

ขั้นตอนการผ่าตัดใส่รากฟันเทียม

เมื่อคุณหมอวางแผนรากฟันเทียมที่มีขนาดพอดีกับเหงือกของเราเสร็จแล้ว คุณหมอก็นัดให้เข้ามาผ่าตัดเพื่อใส่รากฟันเทียมเข้ากับกระดูกฟันที่อยู่ใต้เหงือกค่ะ โดยการผ่าตัดใส่รากฟันเทียมเป็นการผ่าตัดเล็ก และมีการให้ยาชา ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็เสร็จแล้ว

ซึ่งการผ่าตัดใส่รากฟันเทียมนี่แหละที่ทำให้รู้สึกคิดไม่ผิดที่มาทำรากฟันเทียมที่ Edelweiss Dental House เพราะคุณหมอมือเบามากกก ไม่เจ็บเลยค่ะ

ทันตแพทย์ ที่ Edelweiss Dental House

โดยส่วนตัวเราคิดมาตลอดว่าการทำรากฟันเทียม ใส่รากฟันเทียมมันต้องเจ็บสุดๆ มีกระบวนการที่ซับซ้อนน่ากลัวมาก แต่ในความเป็นจริง คือ แค่ฉีดยาชา แล้วก็นอนเฉยๆ กับได้ยินเสียงก๊อกแก๊กในช่องปากเท่านั้นเองค่ะ

การทำรากฟันเทียม คุณหมอจะฝังวัสดุที่จะใช้เป็นรากเทียมลงไปในกระดูกของเรา แล้วเย็บเหงือกปิดแผลเพื่อให้ตัววัสดุรากเทียมเชื่อมกับกระดูกของเราอย่างแข็งแรงก่อน จากนั้นค่อยมาทำตัวครอบฟันในภายหลังค่ะ

ส่วนยาชาที่ฉีดบริเวณแผลผ่าตัดจะหมดฤทธิ์ประมาณ 1-2 ชั่วโมง แต่ก็ขึ้นกับปริมาณยาชาที่แต่ละคนได้รับด้วยนะคะ และหากมีอาการปวดก็สามารถกินยาแก้ปวดได้ค่ะ

การดูแลตนเองหลังทำรากฟันเทียม

คุณหมอแนะนำว่าถ้าจะเคี้ยวของแข็ง อาหารแข็งให้พยายามใช้ฟันอีกข้างหนึ่งก่อน ส่วนอาหารทั่วไปสามารถใช้ได้ปกติ ส่วนการแปรงฟันสามารถแปรงได้ตามปกติ แต่ควรแปรงเบาๆ และกินยาตามที่คุณหมอสั่ง โดยกุ้งแทบไม่ได้กินยาแก้ปวดเลย เพราะไม่ได้รู้สึกเจ็บเลย

คุณหมอจะนัดให้กลับมาตัดไหมและตรวจเช็กแผลผ่าตัดกับคุณหมอในอีกประมาณ 2 สัปดาห์ค่ะ แต่หลังจากนั้นก็ต้องรอประมาณ 3 เดือน เพื่อให้กระดูกกับรากฟันเทียมประสานยึดเกาะกันอย่างแข็งแรงก่อน ในระหว่างนี้คุณหมอก็โทรมาติดตามอาการอยู่เรื่อยๆ เลย ประทับใจมากๆ ค่ะ

พิมพ์ปากเพื่อทำครอบฟัน

พอครบกำหนดประมาณ 3 เดือน คุณหมอก็จะนัดให้กลับมาตรวจดูความแข็งแรงของรากฟันเทียมที่ยึดกับกระดูกอีกที

รีวิว ทำรากฟันเทียม แก้ปัญหาที่ต้องใส่ฟันปลอม ที่ Edelweiss Dental House

หากรากฟันเทียมมีการยึดเกาะกับกระดูกดีแล้ว คุณหมอก็จะพิมพ์ปากเรา เพื่อนำไปทำตัวครอบฟันสำหรับใส่บนรากฟันเทียมค่ะ

เมื่อครอบฟันเสร็จแล้ว คุณหมอก็นัดให้เข้ามาใส่ครอบฟันค่ะ ทีนี้เราก็ได้ฟันที่สภาพเหมือนกับฟันแท้กลับมาอีกครั้งค่ะ

รีวิว ทำรากฟันเทียม แก้ปัญหาที่ต้องใส่ฟันปลอม ที่ Edelweiss Dental House

โดยสรุปแล้ว กระบวนการทำรากฟันเทียมของเราที่ Edelweiss Dental House จะอยู่ที่ 3-4 เดือนค่ะ เหมือนจะนาน แต่ถือว่าคุ้มค่ากับการรอคอยจริงๆ ค่ะ

ทำรากฟันเทียมเสร็จแล้ว คุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างไรบ้าง?

หลังจากใส่รากฟันเทียมครบหมดทุกส่วน เราก็เอ็นจอยกับการกินมากขึ้นเยอะเลยค่ะ กินอะไรก็อร่อยไปหมด หลังจากที่ต้องทนคันๆ เคืองๆ กับฟันปลอมมาหลายปี ตอนนี้กลับมากินข้าวได้อย่างมีความสุขอีกครั้งแล้วค่ะ

นอกจากความสุขในการกิน ยังรู้สึกว่าเราได้ฟันแท้ที่มั่นคงแข็งแรง ไม่ขยับหรือไปกดเหงือกจนอักเสบกลับมาอีกครั้งค่ะ มันทำให้เรารู้สึกมั่นใจเวลาใช้ฟันมากขึ้นนะ จะกัด จะกด จะเคี้ยวอะไรก็ไม่กลัวว่าจะเกิดความเสียหายหรือเจ็บเหงือกอีกแล้ว

รีวิว ทำรากฟันเทียม แก้ปัญหาที่ต้องใส่ฟันปลอม ที่ Edelweiss Dental House

ความประทับใจอีกอย่างก็คือ ค่าใช้จ่ายค่ะ แม้ว่าการทำรากฟันเทียมอาจจะมีค่าใช้จ่ายสูง แต่มันทำครั้งเดียวแล้วจบเลย อยู่ได้ยาวเป็นสิบๆ ปี ไม่ต้องถอดเข้าถอดออก จะทำความสะอาดก็แค่แปรงฟันปกติ ไม่เหมือนตอนกุ้งใช้ฟันปลอมเลย หายก็ต้องกลับมาทำใหม่ ไม่จบไม่สิ้นสักที

ความประทับใจจากการทำรากฟันเทียม ที่ Edelweiss Dental House

ตอนนี้เราก็ได้บอกต่อเพื่อนๆ และคนรู้จักให้มาตรวจฟันหรือรักษาฟันที่ Edelweiss Dental House หลายคนแล้วค่ะ เพราะโดยส่วนตัวเราประทับใจในบริการและความชำนาญของคุณหมอที่นี่จริงๆ ทั้งมือเบา มีการถามไถ่ในทุกๆ ครั้งที่เราเจอกันเลยว่า เจ็บมั้ย รู้สึกยังไงบ้าง ที่สำคัญคือ เครื่องมือการตรวจและรักษาฟันที่นี่เขาทันสมัยมากจริงๆ ค่ะ

จากที่คิดว่าการทำรากฟันเทียมมันเป็นการผ่าตัดที่น่ากลัว แต่คุณหมอที่นี่ทำให้ภาพจำที่เข้าใจผิดมาตลอดเกี่ยวกับการทำรากฟันเทียมเปลี่ยนไปเลยค่ะ

แถมหลังจากทำรากฟันเทียมเสร็จ คุณหมอก็กำชับให้กลับมาตรวจฟันเรื่อยๆ ทุก 6 เดือนอย่าให้ขาดด้วย เพราะมันก็ยังมีโอกาสที่ฟันแท้ซี่อื่นๆ ของเราจะผุหรือมีปัญหาตามการใช้งานในทุกๆ วันได้ค่ะ

สำหรับบรรยากาศภายใน Edelweiss Dental House ช่วยสร้างความผ่อนคลายในทุกๆ ครั้งที่กลับมาพบคุณหมอเลยค่ะ ไม่เหมือนเราอยู่ในคลินิกทำฟันทั่วๆ ไปที่จะทำให้เรารู้สึกกลัวหรือเกร็งเลยค่ะ แต่เหมือนว่าเราอยู่ในโรงแรมที่มีบรรยากาศผ่อนคลาย สะอาดๆ และมีคุณหมอฟันรอดูแลเรามากกว่า

บรรยากาศ ที่ Edelweiss Dental House
บรรยากาศ ที่ Edelweiss Dental House

และนี่ก็คือ รีวิวกระบวนการและความประทับใจในการทำรากฟันเทียมที่ Edelweiss Dental House ค่ะ เราก็ขอเชิญชวนทุกคนที่มีปัญหาเรื่องการใช้งานของฟัน ลองมาปรึกษาเกี่ยวกับวิธีรักษาที่เหมาะกับตัวคุณที่ Edelweiss Dental House ดูนะคะ สามารถดูรายละเอียดโปรโมชั่นทำรากฟันเทียมได้ที่ HDmall.co.th การันตีเลยว่าต้องไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะ

ข้อมูล Edelweiss Dental House

ขยาย

ปิด

บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

@‌hdcoth line chat