สรุปการรีวิว
ปิด
ปิด
- คุณแม่ของอะตอม มีอาการปวดเข่า โดยเฉพาะเวลาเดินขึ้นบันไดบ้านชั้น 2 และเวลาลงบันได จะได้ยินเสียงก็อบแก็บตลอด คุณแม่ก็เลยค่อนข้างกังวลว่าจะเป็นโรคกระดูกพรุนรึเปล่า แต่ก็ยังไม่ได้ตรวจกระดูกแบบจริงจังสักที
- คุณพยาบาลให้คุณแม่ไปยืนตรงตัวเครื่องโดยเริ่มจากหันหน้าตรง ตัวเครื่องจะทำงานโดยการเอกซเรย์บริเวณกระดูกต้นคอ จากนั้นคุณพยาบาลจะให้หันข้าง แล้วก็เอกซเรย์ด้านข้าง ซึ่งระหว่างนี้จะต้องยืนนิ่งๆ ให้เครื่องถ่ายภาพเอกซเรย์กระดูกของเราให้ชัดๆ ค่ะ
- คุณแม่เห็นผลเอกซเรย์ก็แอบกลัวนิดนึงว่าหินปูนที่น้อยๆ อาจจะลุกลามมาเยอะ แต่คุณหมอก็แนะนำให้คุณแม่ดูแลตัวเอง ไม่โหมกิจวัตรประจำวันหนัก ไม่ก้มๆ เงยๆ ไม่ใช้กระดูกคอหรือกล้ามเนื้อต้นคอในการทำงานหนักจนเกินไป
- สำหรับกระดูกสันหลังด้านข้างเมื่อเทียบกับคอ คุณหมอบอกว่า กระดูกสันหลังของคุณแม่ดีกว่าเยอะ จากภาพเอกซเรย์เห็นกระดูกเป็นปล้องๆ ตั้งแต่ช่วงบั้นเอวขึ้นไปมี 5 ปล้อง เรียงโค้งเป็นปกติ
- รีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ #HDreview ได้รับการสปอนเซอร์จากทาง HDmall.co.th และ โรงพยาบาลพญาไท 2
คุณแม่ของอะตอม มีอาการปวดเข่า โดยเฉพาะเวลาเดินขึ้นบันไดบ้านชั้น 2 และเวลาลงบันได จะได้ยินเสียงก็อบแก็บตลอด คุณแม่ก็เลยค่อนข้างกังวลว่าจะเป็นโรคกระดูกพรุนรึเปล่า แต่ก็ยังไม่ได้ตรวจกระดูกแบบจริงจังสักที
จนได้มีโอกาสมาตรวจกระดูก ที่ โรงพยาบาลพญาไท 2 โดยจองคิวผ่านทาง HDmall.co.th สำหรับโปรแกรมตรวจสุขภาพกระดูกและข้อ อะตอมได้รีวิวแบบเต็มๆ ไว้ สามารถตามไปอ่านกันได้นะคะ
ในบทความนี้ อะตอมจะมารีวิวการตรวจเอกซเรย์กระดูกสันหลังส่วนกระดูกต้นคอ ท่าตรง และท่าข้าง (C Spine) ค่ะ
ก่อนที่จะเริ่มตรวจกัน คุณพยาบาลจะนำชุดของโรงพยาบาลมาให้คุณแม่เปลี่ยน และให้ถอดเครื่องประดับทั้งหมดออก จากนั้นก็เข้าไปในห้องตรวจเอกซเรย์ค่ะ
ในห้องนี้จะมีเครื่องเอกซเรย์เครื่องใหญ่ๆ อยู่ คุณพยาบาลให้คุณแม่ไปยืนตรงตัวเครื่องโดยเริ่มจากหันหน้าตรงแล้วกางแขนออก ตัวเครื่องจะทำงานโดยการเอกซเรย์บริเวณกระดูกต้นคอ จากนั้นคุณพยาบาลจะให้หันข้าง แล้วก็เอกซเรย์ด้านข้าง ซึ่งระหว่างนี้จะต้องยืนนิ่งๆ ให้เครื่องถ่ายภาพเอกซเรย์กระดูกของเราให้ชัดๆ ค่ะ
ระยะเวลาในการเอกซเรย์ก็ไม่นานเลย แปปเดียวเสร็จ แต่อาจจะต้องถ่ายหลายมุมและหลายครั้ง เพื่อให้คุณหมอเห็นกระดูกเราชัดๆ จากทุกมุม ว่าเรามีภาวะกระดูกพรุน หรือกระดูกบางรึเปล่า ซึ่งในแต่ละครั้งที่เอกซเรย์ ตัวเครื่องก็จะฉายแสงไฟมาที่ตัวคุณแม่ตลอด แต่ก็ไม่ได้ร้อน ไม่ได้แสบอะไรนะคะ เป็นแสงไฟเฉยๆ ค่ะ
ผลตรวจเอกซเรย์กระดูกต้นคอ
คุณหมออธิบายว่า คนเรามีกระดูกบริเวณคอ 7 ชิ้น โดยชิ้นที่ 1-4 ของคุณแม่เรียงตัวปกติ โดยระยะห่างระหว่างข้อต่อเรียกว่า หมอนรองกระดูก ซึ่งของคุณแม่มีระยะห่าง หรือหมอนรองกระดูกอยู่ในเกณฑ์ปกติดีค่ะ
ส่วนข้อที่ 4 และ 5 / 5 และ 6 / 6 และ 7 รวมกันทั้ง 3 ข้อ มองผ่านๆ จะเห็นว่ามีหินปูนแทรกระหว่างกระดูกและหมอนรองกระดูก ซึ่งเป็นรอยหินปูนที่เกิดจากธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นเพื่อลดการเคลื่อนไหวของข้อต่อ การที่หมอนรองกระดูกเสื่อมตามอายุ ถือเป็นเรื่องปกติ
โดยปกติแล้วน้ำที่อยู่ในหมอนรองกระดูกที่ทำหน้าที่รองรับกระดูกบริเวณคอจะเพิ่มการเคลื่อนไหว และหล่อลื่นให้ข้อต่อเคลื่อนที่ได้โดยไม่มีเสียง ไม่เจ็บ ไม่ปวด พอมันเสื่อมลง หินปูนก็เริ่มเข้ามาสะสม ทำให้เคลื่อนไหวได้น้อยลง เพราะถ้าหากมันเคลื่อนไหวได้เยอะ มันก็จะปวด ดังนั้นการที่เกิดหินปูนถือเป็นกระบวนการธรรมชาติ
เห็นจากผลเอกซเรย์กระดูกต้นคอแล้ว แม้ว่ามันจะเป็นสัญญาณของหมอนรองกระดูกที่เริ่มเสื่อม แต่ถ้าเราไม่ได้มีอาการปวดคอ ปวดร้าวลงแขน ก็ไม่ต้องกังวล เพราะเป็นอาการเงียบๆ ที่ไม่ได้รบกวนค่ะ
คุณแม่เห็นผลเอกซเรย์ก็แอบกลัวนิดนึงว่าหินปูนที่น้อยๆ อาจจะลุกลามมาเยอะ แต่คุณหมอก็แนะนำให้คุณแม่ดูแลตัวเอง ไม่โหมกิจวัตรประจำวันหนัก ไม่ก้มๆ เงยๆ ไม่ใช้กระดูกคอหรือกล้ามเนื้อต้นคอในการทำงานหนักจนเกินไป หรือระมัดระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุบริเวณต้นคอ เช่น กระแทก หกล้ม
ซึ่งถ้าเราอยู่นิ่งๆ ก็ไม่มีอาการอะไร แต่ถ้าหินปูนมันจะเพิ่มขึ้นก็เพิ่มขึ้นตามวัย แต่ก็ไม่ได้สร้างปัญหาก็เลยไม่ต้องกังวล เพราะอาจจะไม่มีอาการอะไรเลยไปตลอดชีวิตก็ได้ค่ะ
คุณหมอบอกเพิ่มว่า ในวัย 57 ปี แบบคุณแม่ ถ้าไปเอกซเรย์โอกาสจะเจอหินปูนบริเวณนี้ก็ค่อนข้างสูง แต่คุณหมอไม่อยากให้กังวล เพียงแค่สังเกตอาการเอาไว้ว่า ถ้าหากมีอาการปวดคอเรื้อรัง ปวดร้าวบริเวณบ่าไหล่ ชามือ หยิบจับอะไรก็่ออนแรง ถ้ามีอาการเหล่านี้ควรกลับมาปรึกษาคุณหมอค่ะ ว่าใชอาการหมอนรองกระดูก หรือกระดูกทับเส้นรึเปล่า
ผลตรวจเอกซเรย์กระดูกสันหลัง
จากภาพเอกซเรย์กระดูกสันหลัง คุณหมอบอกว่า กระดูกของคุณแม่เรียงตรง แต่จริงๆ แล้วสรีระของคนเรากระดูกคออาจจะงอน้อยๆ ประมาณ 5-10 องศา แต่ดูด้วยตาไม่เห็น ต้องเอกซเรย์ แต่ก็ไม่ใช่ความผิดปกติที่ต้องกังวล เว้นแต่ว่ากระดูกหลังขดเป็นตัว S เยอะๆ และมีอาการปวดก็อาจจะต้องมาพบแพทย์เพื่อตรวจอีกที
สำหรับกระดูกสันหลังด้านข้างเมื่อเทียบกับคอ คุณหมอบอกว่า กระดูกสันหลังของคุณแม่ดีกว่าเยอะ จากภาพเอกซเรย์เห็นกระดูกเป็นปล้องๆ ตั้งแต่ช่วงบั้นเอวขึ้นไปมี 5 ปล้อง เรียงโค้งเป็นปกติ แถมช่องว่างระหว่างกระดูก ระหว่างหมอนรองกระดูกก็มีระยะห่างปกติ
พอมองหาหินปูนก็จะเห็นแค่บริเวณขอบกระดูก เป็นสัญญาณของหมอนรองกระดูกเสื่อม แต่น้อยมากๆ ซึ่งถ้าคุณแม่ไม่ได้มีอาการปวดหลัง ปวดร้าวลงขาหรือสะโพก ก็ถือว่ายังไม่ต้องกังวล คุณแม่ก็สบายใจไปอีกเปราะนึงค่ะ
นอกจากโปรแกรมตรวจกระดูก ที่ โรงพยาบาลพญาไท 2 ก็มีโปรแกรมสุขภาพอื่นๆ อีกมากมายเลยนะคะ ใครที่สนใจสามารถเข้าดูโปรแกรมจากโรงพยาบาลพญาไท 2 ได้ที่ HDmall.co.th ได้เลยค่ะ ในเว็บนี้จะมีรายละเอียดของแต่ละโปรแกรมเอาไว้ละเอียดมากๆ
ข้อมูล สถาบันกระดูกและข้อ รพ.พญาไท 2
ปิด
ปิด
- วันเวลาทำการ: วันจันทร์-อาทิตย์ (ทุกวัน) 08.00-20.00 น.
- วิธีการเดินทาง: BTS สถานีสนามเป้า (ทางออก 1) เดินไปทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 200 เมตร
- สถานที่ตั้ง: สถาบันกระดูกและข้อ อาคาร B ชั้น 5 ดูแผนที่
- ดูแพ็กเกจจาก รพ.พญาไท 2 ได้ที่นี่