สรุปการรีวิว
ปิด
ปิด
- ก่อนหน้านี้เห็นเพื่อนไปบริจาคเลือดมาและเห็นจำนวนเลือดในคลังของสภากาชาด ตื่นเช้ามาเลยตัดสินใจไปบริจาคเลยค่ะ (บริจาคครั้งแรกด้วย ตื่นเต้นมาก กลัวเจ็บ)
- ขั้นตอนการบริจาคเลือดเริ่มจากกรอกแบบฟอร์ม วัดความดัน ลงทะเบียน เจาะเลือดคัดกรองเบื้องต้น พบแพทย์ บริจาคเลือด แล้วก็กินขนมฟรีค่ะ :)
- เจ้าหน้าที่เจาะเลือดไม่เจ็บเลย ใช้เวลาไม่ถึง 30 นาทีก็เสร็จ รู้งี้บริจาคตั้งนานแล้ว! ใครที่กลัวโควิด-19 ก็น่าจะสบายใจได้ เพราะว่าทุกคนป้องกันเต็มที่ ตั้งแต่การวัดอุณหภูมิคัดกรอกกลุ่มเสี่ยงอีกด้วยก่อนเข้าอาคาร จนไปถึงเวลาบริจาคเลือดเสร็จ ก็จะมีพนักงานเอาแอลกอฮอล์มาเช็ดทำความสะอาดเก้าอี้เลยค่ะ
- รีวิวนี้เป็นประสบการณ์ผู้ใช้จริง ไม่ได้รับสปอนเซอร์หรือสิทธิพิเศษ
- เปรียบเทียบราคาและโปรแกรมตรวจสุขภาพ
ระหว่างที่กำลังนั่งเล่นมือถืออยู่ที่บ้านก็เห็นเพื่อนลง IG Story ว่าไปบริจาคเลือดครั้งแรกมา พร้อมข้อมูลด้านล่างว่าปริมาณเลือดในคลังของสภากาชาดน้อยมากๆ น้อยกว่า 10% ที่ต้องการใช้อีก เพราะจำนวนผู้บริจาคลดลงมาก
จริงๆ เทนพยายามไปบริจาคเลือดมา 2 ทีแล้ว แต่ไม่ได้บริจาค ครั้งแรกลืมไปกินอาหารมัน ส่วนครั้งที่สองนอนไม่พอ คราวนี้เลยรีบหาข้อมูลให้ครบถ้วนและรีบนอน จะได้บริจาคกับเค้าซักที!
สำหรับผู้ที่ต้องการบริจาคเลือดเบื้องต้นก็ตามนั้นเลย คือจะต้องนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ กินข้าวหรืออาหารอื่นๆ เลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงก่อนตรวจ 6 ชั่วโมง (พยาบาลที่สภากาชาดแนะนำให้กินข้าวเป็นมื้อเลย กินแค่ขนมปังหรือนมอาจจะไม่พอ บางคนอาจจะรู้วึกวูบตอนบริจาคเลือดได้) ใครอยากตรวจสอบข้อควรปฏิบัติก็สามารถดูได้ที่ ข้อควรปฏิบัติก่อนและหลังบริจาคโลหิต เลยค่ะ
การเดินทางไปศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย หากมีรถยนต์ส่วนตัว สามารถขับไปจอดที่นั่นได้เลย หรือนั่ง BTS
ลงที่สถานีสยาม หรือสถานีศาลาแดง แล้วต่อวินมอเตอร์ไซค์ 20 บาท ส่วน MRT ลงที่สถานีสามย่าน แล้วเดินต่อไปไม่ไกล
แต่หากใครไม่สะดวกที่สภากาชาด ก็สามารถดู สถานที่รับบริจาคเลือดอื่นๆ หรือจะเช็ค ตารางหน่วยบริจาคเลือดเคลื่อนที่ของสภากาชาด ก็ได้เลยค่ะ
รีวิวบริจาคเลือด ที่สภากาชาดไทย
พอมาถึงสภากาดชาดหลังจากผ่านการตรวจคัดกรองอุณหภูมิแล้ว ขั้นตอนแรกก็คือการกรอกข้อมูลส่วนตัว ซึ่งแบบฟอร์มจะซ่อนอยู่หลังบันได้เลื่อนนี้ มีปากกาให้เรียบร้อย และในสถานการณ์โควิดแบบนี้ก็จะมีใบให้กรอกประเมินความเสี่ยงโควิดเพิ่มอีกใบด้วย
หลังจากกรอกเสร็จก็เดินไปที่จุดวัดความดันอัตโนมัติติดกับที่กรอกแบบฟอร์มเลย แค่สอดแขนเข้าไปกดปุ่มแล้วก็รอค่ะ ทำตามวิธีบอกที่แปะอยู่บนกำแพงได้เลย ความดันปกติควรอยู่ที่ 50-100 ครั้ง/นาที แนะนำให้ตรวจสอบกับป้ายที่ติดเอาไว้ที่กำแพง หากเพิ่งมาถึงและรู้สึกเหนื่อย แนะนำให้นักพักสักครู่ก่อนวัดความดัน เพราะหากความดันผิดปกติไม่แนะนำให้บริจาคเลือดค่ะ เพราะจะเป็นอันตรายได้ค่ะ
จากนั้นก็เอาแบบฟอร์มไปยื่นที่เคาน์เตอร์ มีจุดให้ยืนเว้นระยะห่าง Social Distancing ให้เรียบร้อย
แล้วเราจะได้บัตรชั่วคราวของผู้บริจาคโลหิตมาด้วยค่ะ จากนั้นก็รับบัตรคิว
(มุมขวาของรูปด้านล่าง) เพื่อทำการคัดกรองเบื้องต้น
เจ้าหน้าที่จะเจาะเลือดจากปลายนิ้วเพื่อตรวจสอบความเข้มข้นของเลือด
แล้วก็ให้ยาบำรุงเลือดมาหนึ่งถุงก่อนเข้าไปพบคุณหมอ
หลายคนบอกว่ายาบำรุงนี้ไม่ต้องกินก็ได้ แต่เราว่าควรกินนะ เพราะยานี้จะช่วยเสริมธาตุเหล็กกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถอ่านได้ที่บทความ ทำไมต้องกินยาบำรุงเลือด ได้เลยค่ะ
จากนั้นพอถึงเวลาก็พบกับคุณหมอ คุณหมอจะซักประวัติตามแบบฟอร์มที่กรอกในตอนแรกว่าเราพร้อมที่จะบริจาคเลือดไหม เช่น มีอาการไม่สบายอะไรหรือไม่ เจาะหูหรือสักครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ จากนั้นก็แนะนำให้ดื่มน้ำก่อนขึ้นไปบริจาคเลือดที่ชั้น 2 ค่ะ
พอขึ้นไปจุดบริจาคเลือดที่ชั้น 2 ตรงนี้เข้าไปรับบัตรคิวอีกที พอถึงคิวเจ้าหน้าที่ก็จะออกมาเรียก แล้วถามว่าสะดวกเป็นแขนซ้ายหรือแขนขวา เพราะเก้าอี้จะมีที่วางในข้างของมัน เราก็เลือกข้างซ้ายแล้วเดินตามเจ้าหน้าที่ไป
เก้าอี้นุ่มสบาย แถมมีผ้าห่มคลุมขาให้ มีทีวีเปิดให้ดู เจ้าหน้าที่จะมามัดแขน เอาลูกเหล็กให้เราบีบเพื่อกระตุ้นให้เลือดไหลได้คล่อง แล้วก็จัดการเสียบเข็มเข้าที่แขน ซึ่งตอนแรกเทนกลัวเจ็บมาก แต่พอทำจริงๆ แล้วไม่เจ็บและไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลย
เห็นพยาบาลบอกว่าปกติแล้วการบริจาคเลือดใช้เวลาประมาณ 15 นาที แต่เทนรู้สึกว่า 10 นาทีนิดๆ ก็เสร็จแล้ว ระหว่างบริจาคก็นั่งฟังเพลงดูวิดีโอไป บีบมือไป เพลินๆ ไม่ได้รู้สึกเจ็บหรือรำคาญเข็มที่อยู่ที่แขนเลย
ระหว่างนั้นก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยเดินดูความเรียบร้อย ถ้าเรารู้สึกไม่โอเคตอนไหนก็บอกเค้าได้ตลอดเลย พอได้เลือดในปริมาณที่ครบเค้าจะมาเอาเข็มออกแล้วติดสำลีให้เรากดเอาไว้ และนั่งรอสักประมาณ 5 นาที ถ้าทุกอย่างโอเค ไม่เพลีย ไม่หน้ามืด ก็กลับได้เลย
ส่วนใครที่ไม่รีบกลับแนะนำให้ไปใช้บริการที่ห้องพักสำหรับคนบริจาคเลือด ที่นี่จะมีอาหารและเครื่องดื่มคอยบริการ ทั้งไข่ต้ม ซาลาเปา โอวัลติน อิ่มหมีพีมันกลับบ้านได้เลยค่า
คนเราสามารถบริจาคเลือดได้ทุกๆ 3 เดือน ก่อนกลับมีใบนัดสำหรับการบริจาคเลือดครั้งต่อไป เอาไว้ให้เตือนใจด้วย เราจะได้ไม่ต้องมาคำนวณเองว่าครบกำหนดการบริจาคเมื่อไหร่
สรุปแล้วบรรยากาศโดยรวมโอเคมาก ทุกคนมาแบบตั้งใจ เวลาเราลุกจากเก้าอี้ก็จะมีพนักงานเอาแอลกอฮอล์มาเช็ดทำความสะอาด จะได้ไม่ปนเปื้อน ปลอดภัยจากโควิดแน่นอน แถมก่อนเข้าก็มีวัดอุณหภูมิแถมมีการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงอีกด้วย
เราไปเพราะความรู้สึกอยากช่วย เพราะช่วงนี้ยอดปริมาณเลือดที่ต้องการในแต่ละเดือนมันค่อนข้างเยอะ มีหลายคนรอเลือดจากผู้บริจาคอยู่ ซึ่งจริงๆ การบริจาคเลือดก็ได้ผลดีทั้งกับตัวเราและคนอื่นด้วย ใช้เวลาไม่นาน ไม่เจ็บ ได้ช่วยคน นี่ยังรู้สึกเสียดายเลยว่าทำไมชั้นไม่ทำตั้งนานแล้ว พอได้ลองไปก็รู้สึกดี จะไปอีกแน่นอนค่ะ
นอกจากการบริจาคเลือด เทนก็ได้ไปลงทะเบียนเป็นผู้บริจาคสเต็มเซลล์เอาไว้ด้วยนะคะ ใครที่อยากรู้ว่ามีขั้นตอนยังไงบ้าง ก็ตามไปอ่านกันได้ที่ รีวิว บริจาคสเต็มเซลล์ ที่ สภากาชาดไทย ค่ะ