รูปร่างที่สวยงามคือสิ่งที่เป็นความฝันของผู้หญิงทุกคน โดยเฉพาะการเป็นเจ้าของขาที่เรียวสวย ซึ่งการจะมีขาที่เรียวสวยได้ต้องอาศัยวินัยอย่างมาก ทั้งการออกกำลังกาย การรับประทานอาหาร และการควบคุมน้ำหนัก
ในปัจจุบัน มีเทคโนโลยีและรูปแบบการออกกำลังกายใหม่ๆ มากมายถูกผลิตออกมาเพื่อสนองตอบความต้องการของผู้หญิงให้สามารถออกกำลังกายได้ง่ายขึ้น แต่ก่อนที่จะเริ่มลดต้นขาอย่างจริงจัง คุณควรที่จะรู้ถึงสาเหตุ และปัจจัยที่ส่งผลให้ขามีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อให้เกิดผลลัพธ์การออกกำลังกายเป็นวิธีลดต้นขาที่ดีที่สุด
สาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงต้นขาใหญ่
- การนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานานเกินกว่า 8 ชั่วโมง และมีการขยับร่างกายน้อย
- การรับประทานอาหารมากเกินความต้องการของร่างกายจนสะสมเป็นไขมันส่วนเกิน
- ลักษณะกรรมพันธุ์ในครอบครัว ทั้งลักษณะสรีระร่างกาย ระบบการเผาผลาญไขมันในร่างกายซึ่งส่งผลให้ไขมันไปสะสมอยู่ที่ส่วนล่างของร่างกายได้
- ขาดการออกกำลังกายอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ
- ออกกำลังกายหรือใช้แรงในส่วนของขามากเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อถูกใช้งานมากจนมีขนาดใหญ่ขึ้น
อาหารที่ทำให้ต้นขาใหญ่
- อาหารที่มีรสหวานทุกชนิด เช่น ขนมหวาน เค้ก ช็อกโกแลต อาหารเหล่านี้ประกอบไปด้วยน้ำตาลจำนวนมาก หากรับประทานมากเกินไป น้ำตาลที่เหลือจากร่างกายต้องการจะกักเก็บไว้ในรูปของไขมันสะสมไว้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย
- อาหารที่มีรสเค็มจัด จะทำให้เนื้อเยื้อเกิดอาการบวมน้ำได้ เนื่องจากร่างกายเมื่อได้รับโซเดียมมากเกินกว่าที่ต้องการต่อวัน คือ 2,400 มิลลิกรัมหรือเท่ากับ 1 ช้อนชา ร่างกายจะมีความความเข้มข้นของเลือดสูง ทำให้มีการดูดน้ำมากักเก็บไว้ในเซลล์ ทำให้เซลล์เกิดอาการบวมน้ำ
- อาหารทอด ไขมันสูง ทำให้ร่างกายได้รับไขมันมากเกินความจำเป็น และมีการสะสมของไขมันส่วนเกิน
- เครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของโซเดียมสูง เช่น น้ำมะเขือเทศแบบสำเร็จรูป
ท่าออกกำลังกายลดต้นขาใน 1 เดือน
วิธีลดต้นขาภายใน 1 เดือน เป็นการออกกำลังกายเฉพาะส่วน ต้องทำอย่างติดต่อกันและสม่ำเสมอ โดยมีท่าออกกำลังกายทั้งหมด 6 ท่าซึ่งนำมาจากเว็บไซต์ Cosmopolitan แปลเป็นภาษาไทย เพื่ออธิบายขั้นตอนการออกกำลังกายเพื่อลดไขมัน และบริหารต้นขาสำหรับผู้หญิงอย่างได้ผล
วิธีลดต้นขาท่าที่ 1
ยืนตัวตรงเท้าทั้งสองชิดกัน มือวางบริเวณเอวด้านล่าง ก้าวเท้าซ้ายออกมาเล็กน้อย หลังจากนั้นเตะขาขวาออกไปด้านข้าง 2 ครั้งติดต่อกันแล้วดึงเท้ากลับมาไว้ตำแหน่งเดิม นับเป็นหนึ่งครั้งให้ทำทั้งสองข้างแบบเดียวกัน
จุดเด่น: ท่านี้จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อต้นขาของผู้หญิงด้านในและด้านนอกให้กระชับขึ้น
ท่าลดต้นขาท่าที่ 2
ยืนตัวตรง กางขาให้กว้างกว่าระดับไหล่พอประมาณ กางแขนออกด้านข้างลำตัว หลังจากนั้นพับแขนขวาเข้าลำตัวในระดับเดียวกับหน้าอกพร้อมกับบิดขาขวามาด้านในลำตัว และค่อยๆ ย่อตัวลงให้หัวเข่าทำมุม 90 องศากับพื้นพร้อมทั้งเหยียดแขนขวาให้ขนานกับแขนซ้าย ในขณะที่เท้าข้างซ้ายยังอยู่กับที่ หลังจากนั้นยืดตัวขึ้น และบิดขาขวากลับมาในตำแหน่งเดิมแล้วย่อตัวลง กดน้ำหนักลงที่ส้นเท้าทั้งสองข้าง
จุดเด่น: ท่านี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อต้นขาด้านในและต้นแขนกระชับ รวมถึงช่วยให้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวแข็งแรง
ท่าลดต้นขาท่าที่ 3
ท่าลดต้นขาท่านี้จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ในการช่วยออกกำลังกายเพิ่มโดยใช้เป็น "ยางยืดออกกำลังกาย" (Tharaban) หรือหาอุปกรณ์ที่ไม่ใช้แล้ว เช่นถุงน่องเก่ามาใช้แทนได้เช่นกัน ท่านี้เริ่มจากยืนตรง กางขาออกระดับไหล่ ใช้เท้าซ้ายเหยียบเส้นยางยืดตรงกึ่งกลาง แล้วใช้มือทั้งสองข้างดึงยางยืดให้ตรึงอยู่ในระดับหน้าอก หลังจากนั้นไขว้ขาขวาไปด้านหลัง (ลักษณะคล้ายการถอนสายบัว) ใช้ส่วนปลายเท้าแตะพื้นและย่อตัวลง เลื่อนมือจากระดับอกลงมาที่ระดับเอว จากนั้นค่อยๆ ยืดตัวขึ้นแล้วยกขาขวาให้ปลายเท้าอยู่ระดับเข่า และดึงมือกลับมาไว้ที่ระดับอกเช่นเดิม
จุดเด่น: ท่านี้ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลาง กระชับกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังและก้น
ท่าลดต้นขาท่าที่ 4
เริ่มจากยืนตัวตรง ใช้เท้าซ้ายเหยียบยางยืด แขนทั้งสองข้างดึงยางยึดให้ตรึงสูงที่ระดับอกและกางออกให้มีลักษณะคล้ายตัว V หลังจากนั้นใช้เท้าขวาถอยหลังประมาณ 1 ก้าว ใช้ปลายเท้าแตะพื้นพร้อมทั้งย่อตัวลง 2 ครั้ง แล้วยืดตัวขึ้นโดยเอนตัวด้านหน้าเล็กน้อยพร้อมทั้งยกขาขวาที่เหยียดตรงขึ้น
จุดเด่น: ท่านี้จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อส่วนก้น กระชับกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง และเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลักของร่างกาย
ท่าลดต้นขาท่าที่ 5
เริ่มจากนั่งคุกเข่าตัวตรง นำปลายยางยืดด้านหนึ่งพันไว้กับมือซ้าย เอนตัวไปด้านข้างลำตัวพร้อมทั้งวางมือซ้ายที่มียางยืดพันไว้กดลงกับพื้น ใช้มือข้างขวาดึงปลายยางยืดอีกด้านขึ้นให้ตึงสูงเหนือศีรษะ หลังจากนั้นเหยียดขาขวาให้ตรงและยกขึ้นลง
จุดเด่น: ท่านี้ช่วยกระชับกล้ามเนื้อต้นขาด้านใน ต้นขาด้านนอก และเสริมสร้างกล้ามเนื้อก้น
ท่าลดต้นขาท่าที่ 6
เริ่มจากนั่งคุกเข่า วางมือทั้งสองข้างให้ลำตัวขนานกับพื้น หลังจากนั้นยกขาข้างซ้ายขึ้นให้ปลายเท้าอยู่เหนือขาข้างขวา โดยที่ขณะยกให้งอขาในลักษณะเดิม และลดขาลงมาให้ขาซ้ายขนานอยู่ด้านบนกับขาขวา
จุดเด่น: ท่านี้ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อก้นให้กระชับ และช่วยกระชับกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง รวมทั้งกล้ามเนื้อต้นขาด้านในและกล้ามเนื้อต้นขาด้านนอก
วิธีลดต้นขาแบบญี่ปุ่น
การลดต้นขาแบบสาวญี่ปุ่นเป็นอีกวิธีที่กำลังถูกพูดถึงและได้รับความนิยมมากๆ ทั้งยังสามารถทำได้ง่ายเพียงแค่ 2 ขั้นตอนและสามารถทำได้ทุกที่ที่ต้องการ
เริ่มต้นด้วยท่ายืนกางขาออกระดับไหล่ ยกขาไปด้านหน้าพร้อมทั้งกระดกปลายเท้าขึ้น หลังจากนั้นค่อยๆ ลากขามาด้านหลัง ยกค้างไว้ประมาณ 20 วินาที และสลับมาทำกับอีกข้างเหมือนเดิม
นอกจากนี้ คุณยังสามารถออกกำลังกายลดต้นขาด้วยได้ในระหว่างที่คุณนั่งทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ดูโทรทัศน์ นั่งอ่านหนังสือ หรือแม้กระทั่งระหว่างทำงาน เพียงแค่คุณหยิบหนังสือที่มีความหนาไม่ต่ำกว่า 5 เซนติเมตรมาหนีบไว้ตรงระหว่างขาให้แน่น เมื่อรู้สึกเมื่อยให้พัก 2-3 นาทีแล้วทำต่อ วิธีนี้ต้องทำให้สม่ำเสมอจะสามารถเห็นผลได้เร็ว
ท่าโยคะลดต้นขา
การออกกำลังกายด้วยโยคะกำลังเป็นที่นิยมมากสำหรับผู้หญิงที่ต้องการลดต้นขาให้สวยงาม อีกทั้งโอกาสเกิดการบาดเจ็บยังมีน้อยหากฝึกอย่างถูกวิธี ซึ่งการฝึกโยคะในท่าดังต่อไปนี้จะสามารถช่วยลดต้นขาให้เรียวกระชับได้
ท่าโยคะลดต้นขา ท่าที่ 1: ท่าหนุมาน
เริ่มจากนั่งคุกเข่ากับพื้น ใช้มือทั้งสองยันพื้นไว้ เงยหน้ามองตรง หลังจากนั้นค่อยๆ ขยับขาซ้ายไปข้างหน้าให้ตึง แล้วก้มศีรษะให้มากที่สุดค้างไว้ 20 วินาที หลังจากนั้นค่อยเงยหน้าและขยับขากลับท่าเดิม สลับทำกับอีกข้างเหมือนกัน
ท่าโยคะลดต้นขา ท่าที่ 2: ท่าตาชั่ง
เริ่มจากนั่งลงเหยียดขาตรงไปทางด้านหน้า ให้ขาสัมผัสพื้นทั้งขา วางแขนไว้ข้างลำตัว หลังจากนั้นให้งอเข่าทั้งสองข้างขึ้นเล็กน้อย แล้วใช้มือทั้งสองข้างเอื้อมไปจับข้อเท้าไว้ เมื่อจับได้แล้วให้ยกขาขึ้นจากพื้นให้ขาตรงค้างไว้ท่านี้ 10 วินาทีจึงเอาลง ทำท่านี้ 10 ครั้ง เท่ากับ 1 เซต ควรทำครั้งละ 2-3 เซต
วิธีลดต้นขาแบบนี้ผู้หญิงจะค่อนข้างใช้กล้ามเนื้อแผ่นหลังสูง อาจปวดเมื่อยได้
ท่าโยคะลดต้นขา ท่าที่ 3: ท่าสามเหลี่ยม
เริ่มจากยืนตรงแล้วค่อยๆ ขยับขาซ้ายไปด้านข้างลำตัวพร้อมทั้งค่อยๆ ย่อตัวลงให้ต้นขาขวาตั้งฉากกับพื้น ใช้มือซ้ายประคองโดยยันพื้นไว้ แล้วยกมือขวาขึ้นให้สุด เหยียดแขนให้ตรงมองตามไปที่มือขวา ค้างไว้ 10 วินาทีแล้วกลับสู่ท่าเดิม สลับทำกับอีกข้างเช่นเดียวกัน ทำ 10 ครั้งเท่ากับ 1 เซต ควรทำครั้งละ 2-3 เซต
ท่าโยคะลดต้นขา ท่าที่ 4: ท่างูครึ่งตัว
เริ่มจากนั่งคุกเข่า ตั้งขาขวามาด้านหน้าให้เข่าตั้งฉากกับพื้น เหยียดขาซ้ายไปด้านหลังให้ตึง หลังจากนั้นกางแขนขนานกับพื้น แล้วเอี้ยวตัวไปด้านซ้ายให้ปลายมือซ้ายแตะปลายเท้าซ้าย แขนขวาให้พับเข้าหาลำตัว ทำค้างไว้ 10 วินาทีแล้วกลับเข้าสู่ท่าเดิม สลับทำกับอีกข้างเช่นเดียวกัน
ท่าโยคะวิธีลดต้นขา ท่าที่ 5: ท่าแอ่นท้อง
เริ่มจากนอนหงายราบกับพื้น ตั้งขาขึ้นทั้งสองข้างและค่อยๆ ขยับเท้าทั้งสองข้างมาใกล้สะโพกมากที่สุด ใช้มือทั้งสองข้างจับข้อเท้าไว้ (หากจับไม่ถึงให้ผสานมือไว้ที่ด้านหลัง) หลังจากนั้นค่อยๆ ยกสะโพกให้สูงขึ้น พยายามให้สูงที่สุดที่สามารถทำได้ โดยใช้ไหล่และต้นคอยันพื้นเอาไว้ค้างไว้ประมาน 10 นาทีแล้วจึงปล่อยสะโพกลงท่าเดิม ให้ทำซ้ำประมาน 10 ครั้ง
ท่าโยคะลดต้นขา ท่าที่ 6: ไขว้ขาขับลม
เริ่มจากนอนราบขาเหยียดตรง กางแขนออกไปด้านข้างลำตัว หลังจากนั้นยกขาซ้ายพาดข้ามขาขวาให้ได้มากที่สุดโดยที่แขนทั้งสองข้างยังกางอยู่ในท่าเดิมค้างไว้ 10 วินาทีแล้วกลับสู่ท่าเดิม ต่อมายกขาขวาขึ้น แล้วใช้มือโน้มเข้าหาลำตัวให้ได้มากที่สุด ค้างไว้ 10 วินาทีแล้วจึงกลับเข้าสู่ท่าเดิม
ท่าโยคะลดต้นขา ท่าที่ 7: ท่าเด็ก
เริ่มจากให้นั่งคุกเข่าโดยทิ้งน้ำหนักไปที่ส้นเท้า ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นแล้วโน้มตัวไปด้านหน้า พยายามให้ศีรษะใกล้พื้นมากที่สุดแล้วจึงหงายมือขึ้น หลังจากนั้นค่อยเลื่อนมือไปด้านหลังให้ได้มากที่สุด ค้างไว้ท่านี้ประมาน 45 วินาที ทำซ้ำประมาณ 4 รอบ
ท่าโยคะลดต้นขา ท่าที่ 8: ท่าวีระ
เริ่มจากนั่งคุกเข่าทิ้งน้ำหนักไว้ที่ส้นเท้า ขยับเข่าทั้งสองข้างให้ชิดกันแล้วขยับปลายเท้าออกให้กว้างระดับไหล่ หลังจากนั้นนำมือมาผสานไว้ด้านหน้าลำตัวคล้ายพนมมือแล้วใช้นิ้วมือผสานกัน ค่อยๆ ดันมือขึ้นเหนือศีรษะ หงายฝ่ามือทั้งสองขึ้น คอยดูให้แขนทั้งสองข้างตึงมากที่สุดทำค้างไว้ 10 วินาที
ท่าโยคะลดต้นขา ท่าที่ 9: ท่ากรรไกรดัดแปลง
เริ่มจากนอนตะแคงด้านขวา ใช้มือขวาหนุนศีรษะไว้โดยให้แขนและไหล่ราบไปกับพื้น หลังจากนั้นยกขาซ้ายขึ้นให้สูงที่สุดเท่าที่ทำได้และค้างไว้ 10 วินาทีจึงลดขาลง ต่อมายกขาทั้งสองข้างขึ้นพร้อมกัน โดยดูให้ขาทั้งสองข้างเหยียดตรงและชิดติดกัน ลำตัวไม่เอียงไปด้านใดด้านหนึ่งทำค้างไว้ 10 วินาทีแล้วลดขาลง ทำซ้ำ 3-4 รอบ
ท่าโยคะลดต้นขา ท่าที่ 10: ท่าสะพานโค้ง
เริ่มจากนอนราบขาทั้งสองข้างเหยียดตรง ไม่เกร็ง ตั้งขาทั้งสองข้างขึ้นแล้วยกมือไว้เหนือศีรษะแล้วดันตัวขึ้น หลังจากนั้นค่อยๆ ยกสะโพกขึ้นช้าๆ ให้สูงที่สุดเท่าที่ทำได้ ค้างไว้ 10 วินาทีแล้วจึงลดตัวลงสู่ท่าเดิม ทำซ้ำ 5 รอบ
วิธีลดต้นขาแบบนางฟ้า Victoria's Secret
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารูปร่างของเหล่านางฟ้า Victoria's Secret คือ ต้นแบบการลดน้ำหนักของผู้หญิงหลายคน รวมไปถึงการมีเรียวขาที่สวยงามได้รูป จะใส่กางเกงหรือกระโปรงแบบไหนก็มั่นใจได้ไม่มีกังวล สาวๆ จำนวนมากจึงใฝ่ฝันที่จะเรียนรู้วิธีการลดต้นขา ให้มีเรียวขาที่สวยงามแบบนี้บ้าง เราจึงรวบรวมท่าบริหารขาของสาวๆ นางฟ้ามาให้คุณใช้เป็นแนวทางในการบริหารขาของตนเอง
ลดต้นขาแบบ Victoria Secret ท่าที่ 1: Runge
เริ่มจากยืนตรง ก้าวเท้าซ้ายไปด้านหน้า 1 ก้าวแล้วย่อเข่าลง จากนั้นดึงเท้ากลับตำแหน่งเดิม สลับข้างทำซ้ำแบบเดียวกันข้างละ 5 รอบนับเป็น 1 เซต หยุดพักสักครู่แล้วทำซ้ำแบบเดิมอีก 2 เซต
ลดต้นขาแบบ Victoria Secret ท่าที่ 2: Reverse Runge
เริ่มจากยืนตรงกางขากว้างระดับไหล่ ก้าวขาขวาไปด้านหลังพร้อมย่อเข่าลง และดึงขากลับตำแหน่งเดิม สลับข้างทำซ้ำแบบเดิม ข้างละ 5 รอบ นับเป็น 1 เซต หยุดพักสักครู่แล้วทำซ้ำแบบเดิมอีก 2 เซต
ลดต้นขาแบบ Victoria Secret ท่าที่ 3: Side Runge
เริ่มจากยืนตรง กางขากว้างระดับไหล่หลังจากนั้นยืดขาซ้ายไปด้านข้างให้ยาวๆ หย่อนก้นลง ระวังหลังไม่ให้งอ ระวังไม่ให้หัวเข่าเลยปลายเท้า แล้วดึงกลับที่เดิม ทำซ้ำข้างละ 10 ครั้งและสลับทำอีกข้าง ทำทั้งหมด 3 เซ็ต
ลดต้นขาแบบ Victoria Secret ท่าที่ 4: Put It All Together
ท่านี้จะเป็นการรวมกันของท่าลดต้นขา 3 ท่า เริ่มจากยืนตรง กางขากว้างประมาณไหล่ แล้วก้าวเท้าขวาไปด้านหน้าและย่อตัวลง ดึงขาขวากลับตำแหน่งเดิม หลังจากนั้นให้ทำท่า Side Runge และ Reverse Runge โดยให้ทำซ้ำเป็นเวลา 1 นาทีแล้วเปลี่ยนข้างมาใช้เท้าซ้ายและทำซ้ำแบบเดิม
ลดต้นขาแบบ Victoria Secret ท่าที่ 5: Calf Raise
เริ่มจากการยืนตัวตรง กางขากว้างระดับไหล่ ยกตัวขึ้นด้วยปลายเท้าแล้วเอาตัวลง ทำซ้ำ 10 รอบ
ลดต้นขาแบบ Victoria Secret ท่าที่ 6: Strech
เริ่มด้วยการยืนตรงเท้าชิด หลังจากนั้นพับขาขวาไปด้านหลัง ใช้มือจับไว้ที่ข้อเท้า ทำค้างไว้ประมาน 15-30 นาที แล้วสลับทำอีกข้างแบบเดียวกัน
วิธีลดต้นขาก่อนเข้านอน
การลดต้นขาอย่างสม่ำเสมอก่อนเข้านอน อาจทำให้คุณเห็นผลของเรียวขาที่เล็กลงได้ได้ภายในไม่กี่เดือนโดยไม่ต้องออกแรงมาก สำหรับสาวๆ ที่กำลังจะเข้านอน ให้ลองทำตามขั้นตอนดังนี้
- ขณะนอน ให้นอนท่านอนหงาย พยายามนอนบนเตียงที่นุ่ม เพื่อป้องกันอันตรายบริเวณสะโพก
- ให้ยกขาขึ้นทั้ง 2 ข้าง เหยียดตรงทำมุม 45 องศา แล้วค้างไว้นับ 1-120 (120 วินาที)
- หลังจากนับครบแล้ว อย่าพึ่งเอาขาลง แต่ให้หุบขาและกางขา (คล้ายๆกรรไกร) สลับกันไป 20 ครั้ง
- ต่อจากนั้นก็อย่าพึ่งเอาขาลง ให้ทำท่าปั่นจักรยานอากาศอีกประมาณ 100 ครั้ง ให้มีความเร็วมากที่สุด
- ต่อไปลุกขึ้นนั่งกับพื้นเตียง เหยียดขาตรง แล้วตีขากับพื้นให้ครบ 100 ครั้ง
ทำแบบนี้ทุกๆ คืนก่อนนอน โดยควรเริ่มจากจำนวนครั้งน้อยๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้นเพื่อให้ร่างกายคุ้นชิน และลดความเสี่ยงต่อการเกิดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ
การดูดไขมันด้วยนวัตกรรมเวเซอร์ ลิโพซัคชั่น
การดูดไขมันด้วยนวัตกรรมเวเซอร์ ลิโพซัคชั่น (Vaser liposuction) เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้ในการกำจัดไขมันส่วนเกิน โดยจะเป็นการดูดไขมันส่วนเกินเฉพาะส่วน มีหลักการทำงานคือ การปล่อยคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ (Ultrasound) ที่มีความถี่ในระดับที่จะเข้าไปทำลายเฉพาะเซลล์ไขมันในชั้นไขมันเท่านั้น ข้อดีของวิธีลดต้นขาแบบนี้คือ คลื่นเสียงจะทำให้ก้อนไขมันกลายเป็นไขมันเหลว เพื่อให้แพทย์สามารถดูดออกจากร่างกายได้ง่าย และระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อข้างเคียงน้อยที่สุด อีกทั้งยังช่วยลดอาการบวมช้ำในบริเวณที่ดูดได้อีกด้วย
ขั้นตอนการดูดไขมันเวเซอร์ ลิโพซัคชั่น
- เข้าพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์สอบถามถึงความคาดหวังของผู้รับบริการ หลังจากนั้นจึงจะอธิบายขั้นตอนการดูดไขมัน ผลและอาการข้างเคียง ค่าใช้จ่ายและการเตรียมตัว
- เมื่อถึงวันนัด แพทย์จะทำการตรวจร่างกายทั่วไป ตรวจความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ความยืดหยุ่นของผิวหนัง ตำแหน่งของอวัยวะที่จะทำการดูดไขมัน
- เมื่อถึงขั้นตอนการดูดไขมัน แพทย์จะทำการเติมน้ำเกลือและยาชาเข้าไปตรงบริเวณที่ต้องการดูดไขมัน เพื่อช่วยลดอาการเจ็บ อาการช้ำและลดการเสียเลือด
- แพทย์จะนำหัวเวเซอร์ ลิโพซัคชั่น ที่มีขนาด 2-3 มิลลิเมตรใส่เข้าไปผ่านทางผิวหนัง ให้หัวเข็มโดนก้อนไขมันที่ต้องการ แล้วจึงทำการปล่อยคลื่นเสียงเพื่อทำลายก้อนไขมันบริเวณต้นขา หลังจากนั้นก้อนไขมันจะกลายเป็นของเหลวและถูกดูดออก
การดูดไขมันเวเซอร์ลิโพซัคชั่นจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงต่อ 1 จุด หลังทำการดูดไขมัน ผู้รับบริการสามารถกลับบ้านได้ทันทีเนื่องจากแผลมีขนาดเล็ก แต่อาจมีอาการบวมช้ำได้ แพทย์จะแนะนำให้พันผ้าไว้ เพื่อเป็นการลดอาการบวม และยังช่วยกระชับกล้ามเนื้อ
สำหรับผู้หญิงทั่วไปโดยปกติจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนประมาณ 3-6 เดือนหลังทำ และผู้รับบริการควรงดออกกำลังกายหลังทำ 1 เดือน หลังจากนั้นสามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ
วิธีลดต้นขานั้นทำได้หลากหลายวิธี ทั้งการออกกำลังกาย และการใช้เทคโนโลยีพิเศษเข้าช่วย เพื่อเป็นทางลัดในการมีเรียวขาที่สวยงาม แต่อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายลดต้นขาที่ดีนั้นควรจะทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะไม่เพียงแค่จะทำให้เรียวขาสวยงามแล้ว ยังเป็นการสร้างกล้ามเนื้อที่ต้นขาเพื่อความแข็งแรงของร่างกายด้วย
กล้ามเนื้อต้นขาอักเสบคืออะไร?
กล้ามเนื้อต้นขาอักเสบ เป็นอาการบาดเจ็บบริเวณต้นขาที่พบได้ทุกวัน ตั้งแต่วัยรุ่น วัยทำงาน ไปจนถึงวัยสูงอายุ อาการที่ปรากฏมักจะเจ็บนานกว่า 2 เดือน โดยสาเหตุมาจากภาวะอักเสบของกล้ามเนื้อ การเคลื่อนไหวร่างกายในชีวิตประจำวัน เมื่อเคลื่อนไหวในท่าที่ผิดไปจากปกติ จะส่งผลให้กล้ามเนื้อฉีกขาดและตามมาด้วยการอักเสบดังกล่าวได้
สาเหตุอาการอักเสบของกล้ามเนื้อต้นขา
สำหรับสาเหตุหลักๆ ที่พบ มีได้ตั้งแต่การบาดเจ็บที่มาจากการกระทบกระเทือนจากแรงภายนอกกระทำเข้าไป อาจเกิดจากการออกกำลังกายเพื่อลดต้นขา ส่งผลให้เกิดการฉีกขาดภายใน และพบได้ในกลุ่มคนที่เล่นกีฬาที่ต้องรับแรงกระแทกสูง เช่น นักฟุตบอล และนักมวย เป็นต้น
บางรายเกิดอาการอักเสบขึ้นอันเนื่องมาจากกล้ามเนื้อหดตัวอย่างรุนแรง หรือการบาดเจ็บที่มาจากการยืดเส้นในระยะทางที่มากเกิน จนเกิดเป็นรอยฟกช้ำและอาการปวดตามมาได้
รักษากล้ามเนื้อต้นขาอย่างไรให้หายเร็ว
อาการอักเสบของกล้ามเนื้อต้นขาหากปล่อยทิ้งไว้นานจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของร่างกาย ดังนั้น เมื่อคุณรู้สึกปวดกล้ามเนื้อต้นขา ก็ควรรีบใช้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นต่อไปนี้
- ประคบเย็นหรือร้อนในตำแหน่งที่มีการอักเสบ
- ใช้ผ้ายืดพันส่วนที่บาดเจ็บให้กระชับไว้ก่อน
- หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวไม่ให้มากเกินไป
- หากเป็นไปได้ให้ยกส่วนนั้นๆ ไว้สูงกว่าระดับหัวใจ เป็นตัวช่วยลดอาการบวมให้น้อยลง
- ใช้ยาเพื่อลดอาการอักเสบ โดยให้ใช้ยาคลายกล้ามเนื้อ และยาแก้ปวด ซึ่งมีทั้งชนิดทาและเป็นยากิน จะช่วยให้อาการดังกล่าวหายได้รวดเร็วขึ้น
อาการอักเสบที่เกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อต้นขาสามารถพบได้บ่อย ไม่ทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต แต่มักจะส่งผลกระทบให้การเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันลำบาก ดังนั้นเมื่อมีอาการปวดเกิดขึ้น ควรรีบดูแลตัวเองให้ดี ลดการเคลื่อนไหว และใช้ยารักษาเพื่อบรรเทาอาการจนกว่าจะหายเป็นปกติ
เปรียบเทียบราคาแพ็กเกจคอร์สลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย
บทความแนะนำ
- 8 สิ่งที่ทำให้ผิวหนังมีโอกาสเสียหายจากแสงแดดมากขึ้น
- จุดด่างดำบนผิวหนัง (Hyperpigmentation) รักษา ดูแล อย่างไร
- 10 อันตรายจากแสงแดด ภัยหน้าร้อนที่อาจอันตรายกว่าที่คิด
- SPF ในเครื่องสำอาง กันแดดได้จริงหรือไม่ ควรเลือกอย่างไร
- 5 วิธี ช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า ไม่ต้องใช้ครีม ทำเองได้ง่าย
- 10 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับฟิตเนส ที่ควรทำความเข้าใจ
- ออกกำลังกาย ต้องรู้อะไรบ้าง? รวม 10 เรื่องที่ควรรู้!
- รวมอัตราการเผาผลาญพลังงานแคลอรี่ จากกิจกรรมชีวิตประจำวัน
- วิธีลดหน้าท้องอย่างได้ผล! ด้วยอาหาร การออกกำลังกาย
- ทำไมถึงมีพุง คนผอมก็มีพุงได้ วิธีลดพุงด้วยตัวเองง่ายๆ
- กล้ามเนื้ออักเสบ รักษาอย่างไร นวด ประคบ ช่วยได้ไหม?
- การเลือกอดอาหารวันเว้นวัน ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่?
- หลังโค้งค่อม เป็นสัญญาอันตราย บ่งชัดว่ากระดุกเริ่มกร่อน
ที่มาของข้อมูล
ปิด
ปิด
- Jo Waters, Do You have flabby legs? You could have this condition: Fat distributing condition leaves millions with large, painful limbs (https://www.dailymail.co.uk/health/article-3808305/The-medical-condition-leaves-women-bigger-legs-diet-Fat-distributing-condition-leaves-millions-big-painful-limbs.html), 27 September 2016
- Patrick J. Bird, Why does fat deposit on the hips and thighs of women and around the stomachs of men? (https://www.scientificamerican.com/article/why-does-fat-deposit-on-t/), 15 May 2006
- Catriona Harvey-Jenner, The one exercise that will trim down your thigh fat (https://www.cosmopolitan.com/uk/body/fitness-workouts/a22744637/how-to-lose-thigh-fat/), 18 August 2018