Prednisone ข้อมูล วิธีใช้ ผลข้างเคียง

Prednisone คือ ยากลุ่ม corticosteroid ซึ่งมนุษย์สร้างขึ้นเลียนแบบ สเตียรอยด์ (steroid) ที่ร่างกายสร้างขึ้นตามธรรมชาติเพื่อต่อสู้กับภาวะเจ็บป่วยและบาดเจ็บ

Prednisone รักษาโรคอะไร

Prednisone จะทำหน้าที่แทนฮอร์โมน cortisol ในคนที่มีระดับฮอร์โมนตัวนี้ต่ำ ซึ่งเป็นหนึ่งในสเตียรอยด์(steroid)ฮอร์โมนธรรมชาติ ยาตัวนี้ยังสามารถลดอาการบวมและอักเสบ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แพทย์ใช้ prednisone เพียงตัวเดียวหรือใช้ร่วมกับยาอื่น ๆ ในการรักษาอาการต่างๆหลากหลาย รวมถึง

  • โรคข้ออักเสบบางชนิด
  • โรคมะเร็งบางชนิด
  • อาการแพ้อย่างรุนแรง
  • เส้นเลือดตีบ
  • โรคลูปัส (Lupus)
  • โรคปอด
  • สภาพผิวแพ้บางชนิด
  • ปัญหาตาบางชนิด
  • โรคไต
  • โรคต่อมไทรอยด์
  • ปัญหากระเพาะอาหารและลำไส้
  • คนที่มีเชื้อ HIV และมีพัฒนาการของภาวะปอดบวม อาจใช้ prednisone ร่วมกับยาปฏิชีวนะ

The Schering Corporation (ขณะนี้คือ Schering Plough) เปิดตัว prednisone ครั้งแรกในปี 1955 ภายใต้ชื่อการค้า Meticorten ทุกวันนี้มีบริษัทยาที่ผลิตยาที่มีชื่อสามัญ prednisone มาจำหน่ายจำนวนมาก ในชื่อการค้าต่างๆเช่น Sterapred, Sterapred DS, Prednisone Intensol ชื่อการค้าอื่นๆที่ไม่ได้จำหน่ายแล้วได้แก่ Cortan, deltasone และ Orasone มีการศึกษาในปี 2012 พบว่าการให้ prednisoneปริมาณต่ำ ร่วมกับ methotrexate ในคนที่มีภาวะไขข้ออักเสบระยะเริ่มต้น (rheumatoid arthritis) จะเพิ่มประสิทธิภาพของยา methotrexate

ข้อควรระวังในการใช้ prednisone

  • Prednisone จะกดระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายในการต่อสู้กับภาวะติดเชื้อ ทำให้อาการแสดงของโรคไม่ปกติ จึงควรหลีกเลี่ยงในผู้ป่วยบางประเภท เช่น โรคอีสุกอีใสหรือโรคหัด
  • ควรมีสุขอนามัยที่ดีเสมอ เช่น กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ
  • เด็กที่ใช้ prednisone นานๆอาจมีพัฒนาการของการเจริญเติบโตช้าลง กุมารแพทย์ควรตรวจสอบใกล้ชิดหากมีการใช้ยานี้ในเด็ก ควรพูดคุยกับแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงนี้ก่อนการเริ่มใช้ยา
  • prednisone อาจเพิ่มความเสี่ยงของภาวะกระดูกพรุน (osteoporosis) ซึ่งมีอาการกระดูกอ่อน เปราะบางและแตกหักง่าย
  • แจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณมีโรคกระดูกพรุนหรือมีภาวะเสี่ยงของกระดูกที่เพิ่มขึ้น เพื่อใช้ขั้นตอนที่สามารถป้องกันสุขภาพกระดูกของคุณได้ดีขึ้น
  • มีการวิจัยยังแสดงให้เห็นว่า prednisone หรือยาคล้ายกันช่วยให้มีพัฒนาการของภาวะมะเร็งที่เรียกว่า Kaposi’s sarcoma ซึ่งแสดงอาการโดยมีแผ่นเนื้อเยื่อที่ผิดปกติใต้ผิวหนังบริเวณเยื่อบุของปาก จมูกและลำคอหรือในอวัยวะอื่น ๆ
  • กรณีต้องใช้ยา prednisone ควรแจ้งแพทย์หากคุณมีหรือเคยมีภาวะโรคดังนี้
  • มีการติดเชื้อที่ตา
  • มีพยาธิไส้เดือน(threadworms) ในตัว(หนอนที่มีชีวิตในร่างกายของคุณ)
  • โรคเบาหวาน
  • ความดันโลหิตสูง
  • ปัญหาทางอารมณ์
  • เจ็บป่วยทางจิต
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง( myasthenia gravis)
  • ภาวะชัก
  • วัณโรค (TB)
  • แผลตามร่างกาย
  • โรคตับไตหรือโรคหัวใจ
  • ความผิดปกติของลำไส้
  • โรคต่อมไทรอยด์
  • ต้องรับการฉีดวัคซีนใด ๆ
  • ภาวะตั้งครรภ์เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์
  • กำลังให้นมบุตร เนื่องจากprednisone จะถูกส่งผ่านไปยังน้ำนม
  • การใช้สเตียรอยด์ขนาดสูงเช่น prednisone กับการรักษาโรคลูปัส erythematosus (SLE) จะเพิ่มความเสี่ยงของความเสียหายของอวัยวะร่างกาย

Prednisone สำหรับสุนัข

prednisone อาจใช้กับสุนัขเพื่อควบคุมอาการปวดและบวมจากโรคบางอย่างเช่นโรคไขข้อ เนื่องจากผลยับยั้งระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย prednisone อาจจะใช้ในสุนัขเพื่อจัดการกับระบบภูมิคุ้มกันเช่นโรคภูมิแพ้โรคหอบหืด ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง(lupus)และความผิดปกติอื่น ๆ ผลข้างเคียงของการใช้ prednisone ในสุนัข เช่น ภาวะติดเชื้อง่าย ผิวแห้งหรือผิวมัน ตับหรือไตเกิดความเสียหาย ไม่แนะนำให้ใช้ prednisone หรือ corticosteroids อื่น ๆ สำหรับสุนัขระยะยาว

ผลข้างเคียงของ prednisone

  • ปวดหัว
  • อาการเวียนศีรษะ
  • นอนไม่หลับ
  • ความสบายตัวที่ไม่เหมาะสมเนื่องจากการกดภูมิต้านทาน
  • อารมณ์แปรปรวนอย่างรุนแรง
  • บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลง
  • ตาโปน
  • สิว
  • ผิวบอบบาง
  • เกิดสีแดงหรือสีม่วงเป็นจ้ำ ๆ หรือเป็นเส้นๆใต้ผิวหนัง
  • การคืนสู่สภาวะปกติของบาดแผลและรอยฟกช้ำช้าลง
  • การเจริญเติบโตของเส้นผมตามตัวเพิ่มขึ้น
  • การเปลี่ยนแปลงในทางที่ไขมันจะกระจายตัวไปทั่วร่างกายมากขึ้น
  • เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ามาก
  • กล้ามเนื้ออ่อนแอ
  • ประจำเดือนขาดหรือ ไม่สม่ำเสมอ
  • ความต้องการทางเพศลดลง
  • กรดไหลย้อน
  • เหงื่อออกมากผิดปกติ

ผลข้างเคียงร้ายแรงที่ควรหยุดใช้และปรึกษาแพทย์ทันที

  • ปัญหาด้านการมอง
  • อาการปวดตา,ตาแดงหรือ น้ำตาไหล
  • สัญญาณของการติดเชื้อเช่นเจ็บคอ มีไข้หนาวสั่น และไอ
  • ภาวะชัก
  • อาการซึมเศร้า
  • ล่องลอย ไม่อยู่กับความเป็นจริง
  • สับสน
  • กล้ามเนื้อกระตุกหรือเกร็ง
  • มือสั่นโดยไม่ได้ตั้งใจ
  • ชา หรือปวดแสบปวดร่อน ตามใบหน้าและปลายมือปลายเท้า
  • ปวดท้องหรืออาเจียน
  • หัวเบาตัวเบา
  • หัวใจเต้นผิดปกติ
  • น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
  • หายใจสั้นๆ โดยเฉพาะช่วงกลางคืน
  • ไอแห้งๆ
  • บวมหรือปวดในกระเพาะอาหาร
  • ดวงตา, ใบหน้า, ริมฝีปาก, ลิ้น, คอ, แขน, มือ เท้า ข้อเท้าหรือขาส่วนล่างมีอาการบวม
  • หายใจหรือกลืนลำบาก
  • ผื่น
  • ลมพิษ
  • คัน

ปฏิกิริยาต่อยาอื่นของ prednisone

prednisone สามารถส่งผลรบกวนการทำงานของยาหลายตัว และมียาหลายตัวที่ส่งผลรบกวนการทำงานของprednisone จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกินประจำ รวมถึงยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย ยาOTC ยาสมุนไพรหรืออาหารเสริม

ยาที่พบเกิดปฏิกิริยากับ prednisoneอย่างกว้างขวาง ได้แก่:

  • ยาป้องกันการจับตัวของเลือดเช่น warfarin (Coumadin)
  • ยาต้านเชื้อราบางอย่างเช่น fluconazole (Diflucan) itraconazole (Sporanox) และ ketoconazole (Nizoral)
  • ยาแก้คลื่นไส้ aprepitant (ตรวจทาน)
  • แอสไพริน
  • ยาป้องกันการชักเช่น carbamazepine (Carbatrol, Epitol, Tegretol) และ phenytoin (Dilantin, Phenytek)
  • ยารักษาภาวะกรดไหลย้อนเช่น cimetidine (Tagamet)
  • ยาปฏิชีวนะบางอย่างเช่น clarithromycin (Biaxin in Prevpak) ,troleandomycin (TAO) ,rifampin (Rifadin, Rimactane, Rifamate)
  • ยากดภูมิคุ้มกันเช่น cyclosporine (Neoral, Sandimmune)
  • corticosteroids อื่น ๆ เช่น dexamethasone (Decadron, Dexpak)
  • ยาขับปัสสาวะ (“water pills”)
  • ยารักษาภาวะติดเชื้อ HIV เช่น atazanavir (Reyataz) indinavir (Crixivan) และ lopinavir (Kaletra)
  • ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมน ที่มีทั้งชนิด เม็ด,แผ่นแปะ,ห่วงคุมกำเนิด,ยาคุมกำเนิดชนิดฝัง(implants) และยาฉีด
  • ยารักษาภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล เช่น Sertraline (Zoloft) ,fluoxetine (Prozac, Sarafem) และPhenobarbital
  • ยาหัวใจ เช่น verapamil (Calan, Covera, Isoptin, Verelan) diltiazem (Cardizem, Dilacor, Tiazac) และ amiodarone (Cordarone, Pacerone)
  • ยารักษาโรคหอบหืดเช่น zafirlukast (Accolate)
  • St. John’s wort(สมุนไพรประเภทหนึ่ง)

ผลการกิน prednisone ร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ไม่ควรใช้สองอย่างนี้ร่วมกัน มีหลักฐานว่าการกินprednisone ร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาจเพิ่มความเสี่ยงของปัญหาตับ ปัญหาระบบทางเดินอาหาร ปัญหาระบบไตผิดปกติและภาวะสุขภาพอื่น ๆ

ปฏิกิริยาของ prednisoneแบบ อื่น ๆ

แพทย์อาจบอกให้คุณลดอาหารเค็ม เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะโพแทสเซียมและแคลเซียมในเลือดสูง แพทย์อาจแนะนำให้คุณกินแคลเซียมหรือโพแทสเซียมเป็นอาหารเสริมในกรณีที่มีแร่ธาตุ2ตัวนี้ต่ำไป พูดคุยกับแพทย์หากคุณต้องการจะกินส้มโอ (grapefruit) หรือดื่มน้ำผลไม้ร่วมกับการกินยาprednisone

ระดับยากินของ prednisone

prednisone มีจำหน่ายในแบบ ชนิดน้ำ ชนิดน้ำเข้มข้น และยาเม็ด ในระดับความแรงของยาที่แตกต่างกัน

  • 1, 2.5, 5, 10, 20 และ 50 มิลลิกรัม แต่ 5 มิลลิกรัมต่อวันเป็นปริมาณปกติทางกายภาพสำหรับผู้ใหญ่หมายถึงปริมาณของ prednisone ที่สามารถเรียกคืนการทำงานปกติของร่างกาย
  • แพทย์จะตรวจสอบอย่างใกล้ชิดในระหว่างการรักษาเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับยาในปริมาณต่ำสุดที่ยังคงมีประสิทธิภาพในการรักษา
  • ปกติแล้วแพทย์จะให้กิน prednisone พร้อมอาหาร 1-4 ครั้งต่อวันหรือ หนึ่งครั้ง วันเว้นวัน
  • แพทย์มักแนะนำให้คุณใช้ยาในเวลาตามที่ระบุในแต่ละวัน. คุณควรปฏิบัติตามตารางเวลานี้อย่างเคร่งครัด
  • กรณีใช้รูปแบบยาน้ำเข้มข้นของ prednisone, คุณสามารถผสมกับน้ำผลไม้หรือเครื่องดื่มอื่นหรือกับอาหารอ่อนเช่น applesauce

การกิน prednisone เกินขนาด

การใช้ยาสเตียรอยด์เกินขนาด อาจเป็นตรายและก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการเต้นของหัวใจ และอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย

  • ผิวหนังปวดแสบและคัน
  • การชัก
  • อาการหูหนวก
  • อาการซึมเศร้า
  • ผิวแห้ง
  • ความดันโลหิตสูง
  • อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • ความกังวลใจ
  • โรคจิต
  • ง่วงนอน
  • รอบประจำเดือนขาด
  • อาการบวมในขาส่วนล่าง เช่นข้อเท้าหรือเท้า
  • อ่อนพลีย
  • ภาวะสุขภาพแย่ลง เช่น มีแผลหรือภาวะเบาหวาน

ติดต่อแพทย์ฉุกเฉิน หากพบอาการข้างต้น

กรณีลืมกินยา Prednisone

อย่าหยุดกินยา prednisone เองโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์แม้ว่าคุณจะรู้สึกสบายดี หากคุณหยุดการใช้ยาทันที ร่างกายคุณอาจไม่มีระดับสเตียรอยด์ธรรมชาติมากพอที่จะคงการทำงานของร่างกายอย่างถูกต้อง ซึ่ง สามารถนำไปสู่ภาวะลำบาก เช่นความเมื่อยล้า อ่อนเพลีย ปวดท้อง,น้ำหนักลดและเกิดแผลในปาก เมื่อคุณเริ่มต้นกินยา prednisone ควรถามแพทย์เกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำ กรณีลืมกินยา แต่ไม่ควรเพิ่มยา prednisone เป็นสองเท่า

Prednisone กับคำถามที่พบบ่อย

คำถาม : ผลข้างเคียงของ prednisone จะอยู่นานแค่ไหน ลูกฉันได้หยุดกินยา prednisone มาหนึ่งสัปดาห์แล้ว แต่ยังมีอาการ เจ้าอารมณ์ โกรธง่ายและขี้รำคาญ

คำตอบ. ผลข้างเคียงของ prednisone จะอยู่ประมาณ 7 วันหลังกินยามื้อสุดท้ายโดยประมาณ แต่การแตกตัวของยาในแต่ละคนจะแตกต่างกันจึงเป็นการยากที่จะให้คำตอบที่ชัดเจน แต่เขาไม่ควรจะประสบปัญหามากถ้าเขากินยาในระยะเวลาสั้นๆ (ประมาณห้าวัน). หากผลข้างเคียงของ prednisone ยังคงอยู่ คุณควรจะปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับปัญหานี้

คำถาม: prednisone จะทำให้ค่าการวัดน้ำตาลในผู้ป่วยโรคเบาหวานของฉันเพิ่มขึ้นไหม?

คำตอบ: ใช่ การกินยา prednisone เป็นเวลายาวนาน อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณเพิ่มขึ้นได้

คำถาม: ทำไม prednisone ทำให้น้ำหนักเพิ่ม มีอาการปวดข้อและการมองเห็นที่ผิดปกติ?

คำตอบ : Prednisone เป็นยากลุ่ม corticosteroid ที่ใช้รักษาความผิดปกติจากการอักเสบหลายอย่าง Prednisoneจะเหมือนยา สเตียรอยด์อื่นๆ ที่มีผลข้างเคียงค่อนข้างมากโดยเฉพาะเมื่อใช้ในระยะยาว จึงควรใช้ prednisone และสเตียรอยด์อื่น ๆ เป็นเวลาสั้นที่สุด แต่ภาวะโรคบางอย่างอาจต้องใช้ในระยะยาว ผลข้างเคียงของ prednisone ได้แก่ ความอยากอาหารและน้ำหนักเพิ่ม การใช้งานในระยะยาวอาจทำให้เกิดกระดูกหัก และโรคกระดูกพรุน (osteoporosis) การใช้ prednisone ระยะยาวสามารถทำให้เกิดโรคต้อหินหรือต้อกระจก. ผู้ป่วยที่ต้องใช้สเตียรอยด์รักษาในระยะยาวต้อง ได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ เพื่อตรวจผลข้างเคียงร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นได้. ปรึกษาแพทย์และเภสัชกรเกี่ยวกับข้อมูลเพิ่มเติมของprednisone

คำถาม: prednisone ทำให้ตื่นนอนง่ายในเวลากลางคืนใช่ไหม?

A: Prednisone เป็นยาในกลุ่ม corticosteroids ซึ่งจะช่วยป้องกันการปลดปล่อยสารในร่างกายที่ทำให้เกิดการอักเสบ Prednisone สามารถใช้รักษาสภาพผิวแพ้ที่ผิดปกติ และการหายใจที่ผิดปกติผลข้างเคียงของ prednisone อาจรวมถึงอาการปวดหัว วิงเวียน เหงื่อออกง่าย ปวดท้องและปัญหาการนอนหลับ โดยปกติแล้วควรกิน prednisone พร้อมอาหารในตอนเช้าเพราะอาจทำให้เกิดภาวะนอนไม่หลับ


เปรียบเทียบราคาแพ็กเกจตรวจระดับฮอร์โมน


ที่มาข้อมูล

Scroll to Top