ซูชิ ถือเป็นอาหารญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย สำหรับคนรักสุขภาพ HD ขอแนะนำ 5 เมนูซูชิที่อุดมด้วสารอาหารหลากหลาย พร้อมคำอธิบายถึงประโยชน์ในทุกคำ
5 เมนูซูชิเพื่อสุขภาพ
เมนูซูชิแนะนำ พร้อมส่วนประกอบและประโยชน์อย่างละเอียด มีดังนี้
1. ซูชิโรลปลาซาบะย่างกับเนื้อปลาตาเดียว
ปลาซาบะ (Saba mackerel) ส่วนประกอบสำคัญของซูชิเมนูนี้เป็นแหล่งรวมของแร่ธาตุโพแทสเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำหรับในการบำรุงระบบการทำงานของหัวใจ ควบคุมระดับความดันโลหิต
เมื่อไรก็ตามที่โซเดียมในร่างกายผลักดันให้ความดันโลหิตสูงขึ้น แร่ธาตุโพแทสเซียมก็จะเข้ามาช่วยลดให้ระดับความดันโลหิตกลับมาอยู่ในเกณฑ์คงที่
นอกจากแร่ธาตุโพแทสเซียมแล้ว ปลาซาบะยังอุดมไปด้วยวิตามินบี 12 ซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบประสาท ทำให้คุณสามารถสามารถควบคุมภาวะอารมณ์ได้ดี ช่วยเสริมสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ป้องกันภาวะโลหิตจางได้
ส่วนปลาตาเดียว (Halibut) นั้นก็อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมกา 3 ซึ่งมีส่วนป้องกันหัวใจเต้นผิดปกติ ลดโอกาสการเกิดลิ่มเลือดหรือภาวะเลือดแข็งตัวในหลอดเลือด
อีกทั้งปลาตาเดียวยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับระบบกล้ามเนื้อ ป้องกันไม่ให้เกิดโรคกล้ามเนื้อเสื่อม ป้องกันอาการตาแห้ง และบำรุงระบบการทำงานของสมอง
นอกจากนี้ ปลาตาเดียวยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุเซเลเนียม (Selenium) ซึ่งช่วยเสริมสร้างสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นประโยชน์ต่อตับ ทำให้สามารถทำงานขับของเสียออกไปจากร่างกายได้มากขึ้น
2. ซูชิหน้าหอยเชลล์
หอยเชลล์อุดมไปด้วยโปรตีน และยังให้แคลอรีน้อยด้วย โดยหอยเชลล์ 85 กรัม ให้โปรตีนมากถึง 20 กรัมและให้พลังงานเพียง 95 แคลอรีเท่านั้น
นอกจากโปรตีน หอยเชลล์ยังมีธาตุสังกะสี (Zinc) ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญในการป้องกันโรคเบาหวาน ช่วยบำรุงการทำงานของสมอง ทำให้สามารถสามรถจำจดสิ่งต่างๆ ได้ดี รวมถึงลดความเสี่ยงเกิดโรคอัลไซเมอร์
อีกทั้งหอยเชลล์ยังมีแร่ธาตุแมกนีเซียม และเซเลเนียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญต่อระบบภูมิต้านทาน ทั้งยังช่วยลดระดับความดันโลหิต ป้องกันโรคหัวใจ รวมถึงภาวะอื่นๆ เกี่ยวกับโรคหัวใจได้
ความจริงแล้วนอกจากเมนูซูชิหน้าหอยเชลล์ ยังมีเมนูอาหารญี่ปุ่นอื่นๆ ที่สามารถนำหอยเชลล์มาปรุงได้อีก ไม่ว่าจะเป็นหอยเชลล์ชุบแป้งทอด หอยเชลล์ซาซิมิ หอยเชลล์ย่างเนย
3. ทูน่าโรลม้วนกับอะโวคาโดและไข่ม้วน
ปลาทูน่าคือหนึ่งในชนิดของปลาที่ขาดไม่ได้เลยในเมนูอาหารญี่ปุ่น ซึ่งนอกจากความอร่อยของมันแล้ว เนื้อปลาทูน่ายังอุดมทั้งแมงกานีส (Manganese) วิตามินซี เซเลเนียม ธาตุสังกะสี
ซึ่งสารอาหารเหล่านี้มีประโยชน์ในเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ทั้งยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้
เนื้อปลาทูน่ายังอุดมไปด้วยวิตามินบี ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กระดูก และถือเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับการลดน้ำหนักด้วย เพราะเนื้อทูน่ามีโปรตีนสูง แต่ให้พลังงานแคลอรีต่ำ
ส่วนอะโวคาโด ก็ถือเป็นอีกส่วนประกอบในการทำซูชิที่ขาดไม่ได้ ซึ่งประโยชน์ของอะโวคาโดนั้นมีอยู่หลายด้าน ทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระ สารลูทีน (Lutein) สารซีแซนทิน (Zeaxanthin) ที่ช่วยดูแลสุขภาพตา ป้องกันการเกิดโรคต้อกระจก
นอกจากนี้ อะโวคาโดยังมีส่วนสำคัญในการควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย ซึ่งอาจนำไปการเป็นโรคหัวใจได้ รวมจำกัดสารไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) และไขมันไม่ดี (LDL) ในร่างกายให้ลดน้อยลง
อีกส่วนประกอบในซูชิเมนูนี้คือ ไข่หวาน ก็ถือเป็นอีกอาหารที่ช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับดวงตา เพราะมีทั้งสารลูทีน และสารซีแซนทีนเช่นเดียวกับอะโวคาโด
อีกทั้งอาหารประเภทไข่ยังมีสารโคลีน (Choline) ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ช่วยให้การสื่อสารของเซลล์ในสมองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
4. ซูชิปู
ซูชิปูเป็นอีกเมนูอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมอีกอย่าง อีกทั้งเนื้อปูยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยเฉพาะในด้านระบบภูมิต้านทาน
เพราะเนื้อปูอุดมไปด้วยแร่ธาตุสังกะสี วิตามินบี 12 โปรตีนซึ่งช่วยให้สมานแผลตามร่างกายให้หายไวขึ้น อีกทั้งแร่ธาตุเซเลเนียมกับทองแดงในเนื้อปูยังมีส่วนช่วยลดลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้
นอกจากนี้ เนื้อปูยังมีวิตามินเอสูง ช่วยบำรุงสุขภาพดวงตาของคุณและยังเต็มไปด้วยกรดไขมันโอเมกา 3 ซึ่งมีส่วนช่วยลดอาการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย บำรุงระบบภูมิต้านทาน ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง อีกทั้งช่วยบำรุงสุขภาพผม และผิวหนังให้แข็งแรง
สำหรับหญิงตั้งครรภ์ การรับประทานเนื้อปูก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะเนื้อปูมีส่วนช่วยในการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ในสมองของทารกด้วย
และเนื้อปูยังสามารถเข้าไปบำรุงกระบวนการเมตาบอลิซึมในร่างกายของคุณ ทำให้ร่างกายสามารถซ่อมแซมส่วนต่างๆ ที่สึกหรอ หรืออักเสบให้ดีขึ้น และทำให้ระบบต่างๆ ของทุกอวัยวะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. ซูชิไข่ปลาแซลมอน
ไข่ปลาแซลมอนเต็มไปด้วยสารแอสตาแซนธิน (Astaxantin) ซึ่งเป็นสารเคโรเทนอยด์ (Carotenoids) ที่มีประโยชน์ทำให้ผิวของคุณคงทนต่อการสัมผัสแสงยูวีจากดวงอาทิตย์ได้มากขึ้น
อีกทั้งกรดไขมันโอเมกา 3 จากไข่ปลาแซลมอน ยังมีประโยชน์ในการบำรุงระบบกล้ามเนื้อและระบบกล้ามเนื้อหัวใจให้แข็งแรง
นอกจากนี้ ไข่ปลาแซลมอนยังมีวิตามินดี ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ลดโอกาสการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ
นอกจากวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ทำ 5 เมนูซูชิแนะนำที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังมีวัตถุดิบยอดนิยมอื่นๆ สำหรับทำซูชิ ซึ่งให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น
- ปลาไหล บำรุงสุขภาพผิว ระบบย่อยอาหาร ลดโอกาสเกิดโรคมะเร็งเต้านม เสริมสร้างการไหลเวียนของโลหิตไปเลี้ยงสมอง บำรุงระบบความจำ ลดอาการปวดประจำเดือน
- ปลาแซมอน ให้วิตามินบีหลายชนิดซึ่งช่วยเปลี่ยนสารอาหารให้เป็นพลังงานเพื่อนำไปใช้ ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ลดโอกาสเกิดความดันโลหิตสูง มีคอลลาเจนบำรุงผิวให้ยืดหยุ่นและชุ่มชื้น
- สาหร่ายวากาเมะ มีสารไอโอดีนช่วยบำรุงการทำงานของต่อมไทรอยด์ ป้องกันโอกาสการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยในการลดน้ำหนัก ลดโอกาสเกิดภาวนะน้ำตาลในเลือดสูงและช่วยผลิตอินซูลินในร่างกายให้เพียงพอ
ข้อควรระวังในการรับประทานซูชิ
ถึงแม้ซูชิจะเป็นอาหารยอดนิยม ซึ่งให้ประโยชน์มากมายต่อร่างกาย แต่ก็มีข้อควรระวังด้วย ดังนี้
1. กินซูชิ อาจทำให้เกิดภาวะภูมิแพ้อาหาร
วัตถุดิบที่ใช้ทำเป็นซูชิเกือบทั้งหมดเป็นอาหารทะเล ซึ่งจัดเป็นอาหารที่มักเสี่ยงทำให้เกิดอาการแพ้ได้
ผู้ที่มีอาหารแพ้อาหารทะเลชนิดใดชนิดหนึ่งต้องระมัดระวังส่วนประกอบของซูชิให้ดี เพราะคุณอาจเกิดอาการแพ้อาหารประเภทอื่นไปด้วยได้ และภาวะแพ้อาหารทะเลก็มักรุนแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้
หากคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่อาจแพ้อาหารในซูชิ ให้สังเกตอาการตนเองขณะรับประทาน หรือเข้ารับการตรวจภูมิแพ้อาหาร เพื่อให้รู้ข้อมูลว่าตนเองแพ้อาหารชนิดใดบ้าง
2. ซูชิหลายเมนูมีคอเลสเตอรอลสูง
วัตถุดิบหลายอย่างในซูชิ เช่น ไข่ ปู หรือข้าวญี่ปุ่นที่นำมาปั้นเป็นซูชิ ให้พลังงานและมีคอเลสเตอรอลค่อนข้างสูง ดังนั้นแม้จะมีคุณค่าทางอาหาร แต่คุณก็ควรจำกัดปริมาณรับประทานไม่ให้มากเกินไป
3. เสี่ยงที่จะท้องเสีย
คุณอาจเคยได้ยินข่าวคนท้องเสีย ท้องร่วง พบตัวพยาธิในปลาดิบที่อยู่ในซูชิ หรือพบว่าวัตถุดิบซึ่งใช้ทำซูชินั้นมีกลิ่น สี และสัมผัสผิดเพี้ยน
นั่นก็เพราะหลายเมนูของซูชิทำจากปลาดิบ ซึ่งจะให้ปลอดภัยก็ต้องเป็นปลาสด มาจากแหล่งน้ำสะอาด ผ่านกระบวนการขนส่งที่มีการรักษาคุณภาพของอาหารอย่างดี ไม่เช่นนั้นแล้วปลาดิบก็จะเน่าเสียได้ง่าย เมื่อรับประทานเข้าไปก็อาจก่อให้เกิดภาวะท้องร่วงหรืออาหารเป็นพิษ
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะรับประทานอาหารเมนูไหน ก็ควรเลือกที่ทำจากวัตถุดิบสด สะอาด
นอกจากนี้ คุณควรรับประทานอาหารครบห้าหมู่ ไม่รับประทานอาหารประเภทใดประเภทหนึ่ง หรือเมนูใดเมนูหนึ่งต่อเนื่องซ้ำๆ นานเกินไป เพราะอาจทำให้สารอาหารที่ได้รับสู่ร่างกายไม่สมดุล นำไปสู่การขาดสารอาหารบางชนิด หรือก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้
บทความแนะนำ
- รวมเรื่องควรรู้ก่อน ขูดมดลูก
- เด็กหลอดแก้ว (IVF) การเตรียมตัว ขั้นตอน ความเสี่ยง
- IVF คืออะไร วิธีการทำงาน ข้อดี ข้อเสีย ข้อควรระวัง ราคา
- ACL Injury/ACL Tear ข้อมูลโรค อาการ รักษา
- ความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ทันทีหลังเพิ่งแท้งบุตร
ที่มาของข้อมูล
ปิด
ปิด
- Lifestyle Lounge, Benefits Of Halibut (http://lifestyle.iloveindia.com/lounge/benefits-of-halibut-6296.html).
- Seafood World, Health Benefits Of Crab Legs (https://www.seafoodworld.net/health-benefits-of-crab-legs/).
- Umami Insider, Unagi: The Taste & Health Benefits of the Japanese Eel (https://www.umami-insider.com/unagi-japanese-eel-health-benefits/), 18 June 2018.