HDmall สรุปให้
- น้ำหนักตัวปกติ ก็สามารถมีไขมันสะสมเกิดขึ้นได้ เช่น ตรงบริเวณใบหน้า บริเวณเหนียง บริเวณลำตัว บริเวณท้อง หรือบริเวณต้นขา
- สำหรับคนที่มีไขมันส่วนเกิน การรักษาที่ได้ผลดีก็คือการดูดไขมันออก เป็นวิธีการกำจัดไขมันที่เห็นผลถาวร
- ไขมันเหนียง จะอยู่บริเวณใต้คางหรือใต้ขอบกราม ไขมันมิดเฟส (Mid Face) คือ ไขมันบริเวณแก้มข้างจมูก
- การดูดไขมันหน้าขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละราย ส่วนมากจะดูดบริเวณเหนียงหรือกรอบหน้าเป็นหลัก
- การประเมินจุดสำหรับการดูดไขมันบนหน้า จะมีการประเมินความหนาของชั้นไขมันและความกระชับหรือความหย่อนคล้อย
- การดูดไขมันหน้าที่ Natchaya Clinic จะมี 2 โปรแกรม คือ โปรแกรมเลเซอร์และโปรแกรม Body Type
- ก่อนดูดไขมันจะมีการประเมินความเสี่ยงก่อนการผ่าตัดทุกเคส หากอยู่ในเกณฑ์ปกติไม่มีความเสี่ยง สามารถที่จะดูดไขมันได้
- การดูดไขมันบริเวณใบหน้า สิ่งที่ต้องระวังและให้ความสำคัญ คือ เส้นประสาท จึงนิยมฉีดยาชามากกว่าการดมยาสลบ เนื่องจากสามารถทดสอบเส้นประสาทได้ตลอดเวลา จึงเป็นวิธีการที่มีความปลอดภัยมากกว่าการดมยาสลบ
- ระยะเวลาในการดูดไขมันหน้าขึ้นอยู่กับบริเวณที่ดูด บริเวณเหนียงหรือบริเวณกรอบหน้า ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ถ้าเกิดเพิ่มขึ้นมาบริเวณแก้มด้วยอาจจะประมาณ 1-2 ชั่วโมง
- ข้อแนะนำในการเตรียมตัวก่อนดูดไขมันหน้า งดวิตามินหรืออาหารเสริม งดบุหรี่ งดแอลกอฮอล์ และงดเครื่องดื่มคาเฟอีน
- อายุขั้นต่ำของการดูดไขมัน มากกว่า 18 ปีขึ้นไป หากอายุ 18-20 ปี จำเป็นต้องมีผู้ปกครองยินยอม
- หลังดูดไขมันต้องใส่ผ้ารัดหน้า เพื่อพยายามใช้การดันเข้าไปให้ตัวโพรงแนบเข้ากับตัวชั้นกล้ามเนื้อ หากไม่ใช้ผ้ารัดหน้าจะทำให้เกิดช่องว่างเกิดขึ้นซึ่งทำให้มีพังผืดเข้าไปแทรก ทำให้เกิดความไม่กระชับหรือหย่อนคล้อยขึ้นมาได้
- บทความนี้ได้รับการสปอนเซอร์จาก HDmall.co.th แพทย์ผู้ให้ข้อมูลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโฆษณา
นายแพททรงพจน์ ชัยมณี หรือหมอบอส ศัลยแพทย์ประจํา Natchaya Clinic และหนึ่งในแพทย์ จากบริการของ HDcare จะมาให้ข้อมูลเรื่องการดูดไขมันหน้า อย่างละเอียด
ประสบการณ์ดูดไขมันมากกว่า 2,000 เคสของหมอบอส
จุดเริ่มต้นของการดูดไขมันเริ่มมาจากรูปร่างตัวก่อน เรียกว่าเป็นพื้นฐานในการดูแลคนไข้ดูดไขมัน เช่น บริเวณหน้าท้อง ซึ่งไม่ได้มีอวัยวะสำคัญอะไรที่ต้องระวัง เมื่อได้ดูแลคนไข้เยอะจึงเริ่มมีประสบการณ์มากขึ้น
หลังจากนั้นเริ่มมีการดูดไขมันบริเวณแขน ขา หน้า และเหนียง โดยบริเวณเหนียงเริ่มมีข้อกังวลในเรื่องของเส้นประสาทที่จำเป็นต้องระวัง เมื่อเรามีประสบการณ์มากขึ้น เราก็สามารถดูดไขมันบริเวณที่ยากขึ้น
ทำไมบางคนผอมแต่หน้ากลม?
แม้ว่าจะมีน้ำหนักตัวปกติ ก็สามารถมีไขมันสะสมเฉพาะที่เกิดขึ้นได้ บางรายอาจจะมีการสะสมเฉพาะตรงบริเวณใบหน้า บริเวณเหนียง บริเวณลำตัว บริเวณท้อง หรือบริเวณต้นขา ซึ่งสำหรับคนที่มีไขมันส่วนเกิน การรักษาที่ได้ผลดีก็คือการดูดไขมันออกมา
เคสที่มีน้ำหนักปกติ แต่มีไขมันสะสมถือว่าพบได้เยอะพอสมควร โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีอายุเพิ่มขึ้นหรือมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น มักพบไขมันสะสมบริเวณแก้ม บริเวณหน้าช่วงล่างและบริเวณเหนียง ใบหน้าจะเริ่มหย่อนคล้อยขึ้น ซึ่งส่งผลต่อใบหน้าดูไม่เรียว
การดูดไขมันหน้า ต่างจากวิธีอื่นอย่างไร ?
การดูดไขมันบนใบหน้า เป็นวิธีการกำจัดไขมันที่เห็นผลถาวร ถึงแม้ว่าน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นหลังจากที่ดูดไขมันไปแล้วยังเห็นผลลัพธ์ในทางที่ดี
ส่วนใหญ่คนไข้ที่มาหาหมอ ก่อนจะทำการดูดไขมันเหนียงส่วนมากจะไปฉีดสลายไขมันมาก่อน ซึ่งการฉีดสลายไขมันจะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย การทำได้ง่ายไม่ต้องพักฟื้นเหมาะกับคนที่กลัวเจ็บ แต่การฉีดสลายไขมันมักจะไม่ค่อยเห็นผลเท่ากับการดูดไขมันหน้า บางรายต้องฉีดหลายครั้งมักจะไม่จบในครั้งเดียว เช่น 3 ครั้ง หรือ 6 ครั้งเป็นต้น
การดูดไขมันหน้าหรือการสลายไขมัน มีวิธีอื่นอีกไหม ?
มีการใช้เครื่องมือหลายอย่าง เช่น เครื่องมือที่ทำให้เกิดความร้อน เครื่องมือที่ทำให้เกิดการหดกระชับของผิวหนังและไขมัน แต่การหดกระชับจะไม่ถึงกับการสลายไขมันเลยทีเดียว ถ้ามีความร้อนมากขึ้นอาจจะมีการสลายไขมันได้บางส่วน แต่จะไม่ได้เห็นผลมากเท่ากับการดูดไขมันออก
การฉีดเมโสแฟต (Meso fat) ทำให้หน้าเหี่ยวย่นจริงไหม ?
สำหรับประเด็นนี้ต้องเข้าใจหลักการก่อนว่าตัวไขมันมีหน้าที่ดันผิวหนังไว้ให้มันตึง ถ้าเราสลายไขมันออกไป แล้วผิวหนังหดตัวได้ไม่ดีก็อาจจะมีความหย่อนคล้อยเกิดขึ้น
กรณีที่ผิวหนังกระชับ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหนังเดิมมีความยืดหยุ่นเมื่อสลายไขมันไปแล้วผิวหนังจะสามารถหดได้ดี อันนี้ก็จะไม่เกิดความหย่อนคล้อยหรือเหี่ยวย่นเกิดขึ้นเกิดขึ้น
ไขมันแต่ละส่วนอยู่จุดไหน มีวิธีการกำจัดอย่างไร ?
ไขมันเหนียง จะอยู่บริเวณใต้คางหรือใต้ขอบกราม วิธีการดูดไขมันเราจะดูดไปด้วยกัน มักจะไม่นิยมแยกเฉพาะไขมันใต้คาง เพราะจะทำให้ใบหน้าดูไม่สมดุลกัน อย่างน้อยการดูดไขมันหน้าใน 1 ครั้ง ควรจะดูดบริเวณเหนียงใต้คางและใต้ขอบกรามควบคู่กัน
ส่วนกรอบหน้า วิธีการดูดกรอบหน้าโดยการดูดค่อมขอบกรามเพื่อให้ขอบกรามดูชัดขึ้น ส่วนบริเวณแก้ม จะอยู่บริเวณแก้มด้านข้างมุมปาก เพราะจะมีกระเปาะอยู่บริเวณนี้ที่ทำให้ดูใหญ่ หน้าช่วงล่างดูกว้าง และส่งผลให้ดูมีอายุ
ในส่วนของไขมันมิดเฟส (Mid Face) คือ ไขมันบริเวณแก้มข้างจมูก เป็นจุดที่เลือกทำเฉพาะเคส เนื่องจากไขมันบริเวณนี้มีหน้าที่ดันหลังให้ตึง ถ้าดูดไขมันออกเยอะเกินไปจะทำให้หน้าตอบ มีร่องแก้มชัดขึ้น ส่วนมากบริเวณนี้ถ้าดูดไขมันจะมีการดูดในปริมาณที่น้อย และทำตัวกระชับควบคู่ไปด้วย
การดูดไขมันมิดเฟส (Mid Face) ยากจริงไหม ?
การดูดไขมันใบหน้าจะมีเส้นประสาทบริเวณใบหน้าเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงทำให้เกิดความยากในการดูด เพื่อให้มั่นใจว่าเราดูดในชั้นไขมันจริงๆ เส้นประสาทจะอยู่ลึกกว่าชั้นไขมันลงไป ดังนั้นเราต้องแม่นยำในการดูดให้ถูกชั้น ถ้าผิดพลาดมีโอกาสบาดเจ็บของเส้นประสาทได้
การดูดไขมันหน้าโดยปกติคนไข้จะดูดกี่จุด ?
การดูดไขมันหน้าขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละราย ส่วนมากจะดูดบริเวณเหนียงหรือกรอบหน้าเป็นหลัก โดยสามารถดูไปในครั้งเดียวได้เลย สำหรับเคสที่มีการดูดเพิ่มเข้ามาในบริเวณหน้าจะแนะนำให้มีการยกกระชับเพิ่มด้วย โดยจะมีเครื่องมือที่ปล่อยพลังงานความร้อนเพื่อให้เกิดการหดกระชับของตัวผิวหนังและไขมัน ทำให้หน้ากระชับเพิ่มขึ้น
เคสที่ดูดไขมันแล้วผอมจนทำให้หน้าตอบเกินไปมีไหม ?
หากเราดูดไขมันแล้ว ถ้าผอมลงเยอะมากๆ มีโอกาสหน้าตอบ เพราะน้ำหนักตัวลง ไขมันที่เหลืออยู่ชั้นตื้นเราดูดได้กับไขมันชั้นลึกมันจะฝ่อลงไป หน้าก็จะตอบจึงขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวว่าผอมหรือน้ำหนักลดลงมากแค่ไหน
วิธีการประเมินจุดสำหรับการดูดไขมันบนหน้า ?
1. ประเมินความหนาของชั้นไขมัน
สามารถประเมินได้ด้วยการใช้นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้บีบบริเวณจุด เช่น บริเวณใต้คาง โดยให้ก้มหน้าลง เวลาบีบดูจะหนาประมาณไม่เกินครึ่งเซนติเมตร ในกรณีที่มีความหนามากกว่านี้เราสามารถดูดไขมันออกมา จะทำให้หน้าเล็กลง
2. ประเมินความกระชับหรือความหย่อนคล้อย
สามารถประเมินได้ด้วยการบีบและดึง ถ้าหน้าสามารถยืดได้ง่าย แต่ว่ามีความไม่กระชับหรือความหย่อนคล้อย แนะนำให้ทำยกกระชับนะ คือการทำให้ตัวผิวหนังและไขมันหดตัว จะใช้เครื่องที่เพิ่มขึ้นมาในระหว่างทำ ให้หลังการดูดไขมันผิวหนังดีขึ้น
Natchaya Clinic มีการดูดไขมันกี่วิธี อย่างไรบ้าง ?
การดูดไขมันหน้าที่ Natchaya Clinic จะมี 2 โปรแกรม คือ โปรแกรมเลเซอร์และโปรแกรม Body Type ดังนี้
โปรแกรมเลเซอร์ เหมาะกับคนที่มีผิวหนังที่มีความยืดหยุ่นดีอยู่แล้ว ต้องการเน้นกำจัดไขมันอย่างเดียว เหมาะกับคนที่อายุไม่เยอะมาก เนื่องจากผิวหนังหดตัวได้เป็นอย่างดีเมื่อมีการดูดไขมันออกไป แล้วมีราคาที่ถูกกว่าโปรแกรม Body Type
โปรแกรม Body Type เหมาะกับคนที่ผิวหนังมีความยืดหยุ่นไม่ค่อยดีหรือว่าต้องการดูดไขมันออกไปในปริมาณมาก คนที่กังวลในเรื่องของความไม่กระชับ โปรแกรมนี้จะเหมาะอย่างมาก โดยมีการทำงานด้วยการปล่อยคลื่นวิทยุ ทำให้เกิดความร้อนในชั้นผิวหนังและไขมัน จึงทำให้ไขมันเกิดการหดกระชับเกิดขึ้น
การดูดไขมันทั้ง 2 โปรแกรม ไม่ว่าจะดูดออกในปริมาณมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ไม่ได้เกี่ยวกับเครื่องมือที่ใช้
หากเคยไปฉีดหน้ามา มีส่วนในการประเมินการดูดไขมันไหม ?
หากใครมีประวัติเคยไปฉีดหน้าหรือศัลยกรรมเกี่ยวกับหน้ามาก่อนจึงมีความจำเป็นอย่างมากที่ต้องให้หมอประเมินก่อนที่จะมีการดูดไข เช่น เคยผ่าตัดโครงหน้า เสริมคาง ร้อยไหม หรือฉีดสลายไขมันมาก่อนหน้านี้ไหม เพราะจะเพิ่มความยากในการดูดไขมันมากขึ้น เนื่องจากอาจเกิดพังผืดและคอลลาเจนในชั้นไขมัน
อยากดูดไขมันหน้าที่ Natchaya Clinic ต้องทำอย่างไรบ้าง ?
การดูดไขมันเพื่อการทําศัลยกรรม ขอแนะนำให้มาคุยกับหมอโดยตรงก่อน เพื่อที่จะมีการประเมินและพูดคุยถึงผลลัพธ์หลังทำว่าคุ้มค่ากับคนไข้หรือไม่ สำหรับใครที่ไม่สะดวกเข้ามาปรึกษาที่คลินิกสามารถถ่ายรูปส่งมาให้ประเมินก่อนได้ หลังจากประเมินแล้วหากตัดสินใจที่จะทำจึงค่อยนัดมาที่ที่คลินิก
ขั้นตอนก่อนดูดไขมันหน้าที่ Natchaya Clinic มีอะไรบ้าง ?
ก่อนที่จะมีการดูดไขมันจะมีการประเมินความเสี่ยงก่อนการผ่าตัดทุกเคส ไม่ว่าจะเป็นการซักประวัติ การตรวจร่างกาย โรคประจำตัว การแพ้ยา เช็คความดัน ชีพจร หากอยู่ในเกณฑ์ปกติไม่มีความเสี่ยง ก็สามารถที่จะดูดไขมันได้ โดยไม่จำเป็นต้องตรวจเลือดหรือตรวจเช็คอะไรเพิ่มเติม
เวลาดูดไขมันคนไข้จะเลือกกินยานอนหลับหรือจะไม่ก็ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละคน เนื่องจากความกังวลและความกลัวของคนไข้จะไม่เท่ากัน ก่อนที่จะเริ่มเราจะใช้การฉีดยาชาผสมน้ำเกลือ ซึ่งระดับความเจ็บ จะมีอาการเจ็บเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับมาก
หากเป็นเคสปกติทั่วไปมักจะไม่ค่อยเจ็บเมื่อเทียบกับเคสที่เคยผ่าตัดโครงหน้ามาก่อนหรือเคสที่มีพังผืดเกิดขึ้นเยอะ แต่เป็นความเจ็บที่อยู่ในระดับทนได้ ขณะตอนเดินยาชาอาจจะมีความรู้สึกเนื่องจากจะมีการดึงรั้งในบางจังหวะ เช่น เหนียงบริเวณกรอบหน้า หากคนไข้มีแก้มเยอะจะทำให้มีการดึงรั้งในปริมาณที่เยอะ จึงทำให้เกิดความอาการเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อ
ในระหว่างการดูดไขมันคนไข้จะมีความรู้สึกอย่างไรบ้างในแต่ละช่วง ?
ก่อนการดูดไขมันแพทย์จะฉีดยาชาให้คนไข้ก่อน ขณะฉีดยาชาจะมีอาการเจ็บบ้างแต่ไม่เยอะอยู่ในระดับที่ทนได้ ในขณะที่ทำการดูดไขมันคนไข้จะมีอาการตึงๆ แต่จะไม่ถึงกับเจ็บเนื่องจากเรามีการบล็อกยาชาแล้ว
การดูดไขมันบริเวณใบหน้า สิ่งที่ต้องระวังและให้ความสำคัญ คือ เส้นประสาท การที่เลือกฉีดยาชามากกว่าการดมยาสลบ เนื่องจากเราสามารถทดสอบเส้นประสาทคนไข้ได้ตลอดเวลา จึงเป็นวิธีการที่มีความปลอดภัยมากกว่าการดมยาสลบ
อีกประเด็นหนึ่งคือถ้าเราดมยาสลบ ก็จะมีการใส่ท่อออกซิเจน มาขวางการดูด แต่เนื่องจากใบหน้ามันมีความโค้ง หากคนไข้สลบไปเลยอาจจะทำให้ระหว่างที่มีการเปลี่ยนท่าทางไปมาเกิดความลำบากขณะที่ดูดไขมัน
ดูดไขมันหน้า ใช้ระยะเวลาในการดูดเท่าไร ?
ระยะเวลาของคนไข้แต่ละรายขึ้นอยู่กับบริเวณที่ดูด คือถ้าเราดูดแค่เหนียงหรือบริเวณกรอบหน้า ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ถ้าเกิดเพิ่มขึ้นมาบริเวณแก้มด้วยอาจจะประมาณ 1-2 ชั่วโมง
หลังดูดไขมันส่วนใหญ่โดยเฉลี่ยออกมามีปริมาณเยอะไหม ?
การดูดไขมันหน้าคนไข้โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 100 CC โดยเฉลี่ย สำหรับเคสที่มีไขมันออกมาอย่างน้อย คือ 50 CC โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 100 CC หรือมีบางเคสที่เคยดูดมากสุดประมาณ 250 CC คือเคสคนไข้ที่ตัวใหญ่
ไขมันที่ดูดออกมานำไปทิ้งหรือนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น ?
ถือว่าเป็นคำถามของคนไข้หลายคนที่เคยถามว่าหลังจากดูดออกมาแล้วสามารถนำไปเพิ่มตามจุดบริเวณอื่นของร่างกายได้ไหม อันดับแรกต้องเข้าใจก่อนว่าการเติมไขมัน เราต้องเติมไขมันที่มีชีวิตอยู่
แต่การดูดไขมันออกมาเซลล์ไขมันมักจะตายแล้ว จึงไม่สามารถนำไปฉีดบริเวณอื่นได้ ดังนั้นการดูดไขมันออกมามักจะทิ้งอย่างเดียว ไม่เหมาะในการนำมาใช้ประโยชน์อย่างอื่น
ค่า BMI มีผลต่อความยากง่ายในการดูดไขมันหรือไม่ ?
สำหรับคนที่มีค่า BMI เยอะ จะมีไขมันที่ค่อนข้างหนาจึงทำให้ใช้เวลาในการดูดไขมันนานกว่าปกติ และต้องมีการประเมินในเรื่องของความกระชับ เมื่อดูดไปแล้วผิวหนังจะอ่อนตัวประมาณไหน หากดูดแล้วหดตัวไม่ดีหรือดูดเยอะเกินไปอาจจะทำให้เกิดการหย่อนคล้อยขึ้น ต้องมีการดูดในปริมาณที่เหมาะสม จึงมักจะแนะนำให้ทำโปรแกรม Body Type เข้าไปด้วย
อะไรคือปัจจัยที่ทำให้คนเข้ามาดูดไขมันหน้ากับคุณหมอ ?
เมื่อก่อนหมอจะเน้นดูดไขมันทั้งตัว ปัจจุบันก็ยังทำอยู่ แต่เน้นการดูดไขมันใบหน้า คนไข้ส่วนใหญ่ที่เข้ามามักจะไปทำอย่างอื่นมาก่อนแล้วไม่เห็นผล เช่น ไปฉีดสลาย หรือไปทำหัตถการเครื่องมือต่างๆ แล้วเห็นผลน้อย หรือบางรายเห็นผลไม่ถาวรจึงต้องกลับมาทำใหม่
การดูดไขมันใบหน้ามันเหมือนเป็นการทําทีเดียวแล้วจบเลย คนไข้บางรายที่เคยทำอย่างอื่นมาหลังจากดูดไขมัน พบว่าเห็นผลชัดเจนกว่า สำหรับคนที่มีอายุ มักจะมีไขมันสะสมบริเวณแก้มด้านล่าง เมื่อไปฉีดหรือทำอะไรมามักจะไม่ค่อยได้ผล จำเป็นต้องมีการดูดไขมันออกไป
นอกจากนี้ยังมีในกรณีของคนไข้ที่กระชับ อาจจะมาทำ Body Type ซ้ำ สำหรับเคสที่หน้าดรอปลงมามีไขมันสะสมแต่เก็บไม่หมด การดูดไขมันจึงช่วยให้ได้ผลเกิน 95% เรียกได้ว่าจบในครั้งเดียว มีเพียงส่วนน้อยที่ดูดแล้วยังเหลือไขมันอยู่ ซึ่งคนไข้สามารถกลับมาดูดซ้ำได้
พฤติกรรมการกิน หรือการดูแลตัวเองมีส่วนในการที่ต้องกลับมาทําซ้ําไหม ?
สำหรับใครที่มีน้ำหนักตัวเกิน หากลดน้ำหนักลงจะทำให้การดูดไขมันออกมาสวย เพราะว่าการลดน้ำหนักจะทำให้ตัวไขมันชั้นตื้นที่เราดูดได้กับไขมันชั้นลึกฝ่อลงไป เช่น ถ้าเราน้ําหนักตัวเยอะ เส้นวงคอเราจะใหญ่ ถ้าน้ําหนักตัวเราน้อย เส้นวงคอเราจะเล็กลง ทำให้จะเห็นขอบกรามชัดขึ้นดังนั้นแนะนําว่าให้ลดน้ําหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติดีที่สุด
ข้อแนะนำในการเตรียมตัวก่อนดูดไขมันหน้า
1. งดวิตามินหรืออาหารเสริม เนื่องจากวิตามินหรืออาหารเสริมบางตัวทำให้เลือดออกง่ายอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ ก่อนดูดไขมัน สำหรับใครที่จำเป็นต้องกินแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อน ถ้าไม่ได้กินวิตามินที่ทําให้เลือดออกง่ายก็สามารถกินได้ปกติ
2. งดบุหรี่หรือแนะนำให้เลี่ยง เนื่องจากบุหรี่ทำให้คอลลาเจนหดตัวไม่ดี ทำให้เกิดความหย่อนคล้อยได้ง่ายคุณภาพผิวหนังไม่ดีผิวบาง และแผลหายช้า งดอย่างน้อย 1 สัปดาห์
3. งดแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 3 วันก่อนดูดไขมัน
4. งดเครื่องดื่มคาเฟอีน ก่อนวันที่มารับบริการดูดไขมัน เนื่องจากคนไข้ต้องมีการใช้ยานอนหลับหากได้รับคาเฟอีนเพิ่มเข้าไป ยกเว้นคนที่เลือกเป็นใช้ยาชา
อายุขั้นต่ําของการดูดไขมัน ?
แนะนำอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป แต่คนไข้บางกรณีที่จำเป็นจะต้องใช้ในการทำงาน หากอายุ 18-20 ปี จำเป็นต้องมีผู้ปกครองยินยอม
กลุ่มโรคที่ไม่เหมาะกับการดูดไขมัน
1. กลุ่มคนไข้ที่ป่วยเป็นโรคประจำตัวที่ส่งผลให้เลือดออกง่าย
2. โรคที่เสี่ยงต่อการผ่าตัด เช่น โรคหัวใจ
3. โรคที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกัน เช่น ภูมิคุ้มกันบกพร่อง
4. โรคติดต่อ เช่น HIV
วิธีการดูแลตัวเองหลังดูดไขมันหน้า ?
1. หลังการดูดไขมันบริเวณเหนียงและใบหน้า จะมีแผลอยู่ที่ใต้ติ่งหูและใต้คางขนาดแผลประมาณ 4 มล. จึงห้ามโดนน้ำประมาณ 1 สัปดาห์ กรณีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แนะนำให้ใช้วิธีการซับน้ำออกบริเวณแผล
2. ระยะเวลาในการตัดไหมประมาณ 7-10 วัน หลังตัดไหมเสร็จมดโดนน้ำ 1-2 วันเพื่อให้แผลแห้งสนิทและดีขึ้น กรณีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แนะนำให้ใช้วิธีการซับบริเวณแผล
หลังดูดไขมัน ทําไมต้องใส่ผ้ารัดหน้า ?
เนื่องจากหลังดูดไขมัน ไขมันชั้นลึกจะหายไปทำให้เกิดโพรงขึ้นมา เราจึงให้มีการใส่ผ้ารัดหน้าเพื่อพยายามใช้การดันเข้าไปให้ตัวโพรงแนบเข้ากับตัวชั้นกล้ามเนื้อ หากไม่ใช้ผ้ารัดหน้าจะทำให้เกิดช่องว่างเกิดขึ้นซึ่งทำให้มีพังผืดเข้าไปแทรก ทำให้เกิดความไม่กระชับหรือหย่อนคล้อยขึ้นมาได้
ระยะเวลาการใส่ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหนังของแต่ละราย ถ้าสภาพผิวหนังมีความยืดหยุ่นดี เช่น คนอายุน้อย การใส่ก็จะน้อยกว่าคนที่อายุมาก หรือคนที่ผิวหนังหดตัวไม่ดี แนะนำให้ใส่ชุดรัด ประมาณ 3 เดือน แต่สำคัญมากในช่วงเดือนแรกโดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรก
ตัวอย่างเคสคนที่มีผิวหนังกระชับดีอายุ 20 ต้นๆ หลังดูดไขมัน แนะนำให้ใส่หลังทำ 24 ชั่วโมงแรก หลังจากนั้น 3 วันแรกให้ใส่ 22 ชั่วโมง/วัน และช่วง 4-7 วันให้ใส่ 12 ชั่วโมง/วัน หลังจากนั้นให้ใส่ 12 ชั่วโมงต่อวันเป็นระยะเวลา 1-2 เดือน ระยะเวลานี้ถือว่าเป็นขั้นต่ำของคนที่มีผิวหนังกระชับดี
สำหรับคนที่ผิวหนังไม่กระชับจำเป็นต้องใส่ในระยะเวลาที่นานมากขึ้นเช่นใส่ 22 ชั่วโมง/วันตลอดระยะเวลา 1 เดือน แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้หน้าในการทำงานสามารถถอดออกได้ เมื่อเสร็จภารกิจให้รีบกลับมาใส่ตามระยะเวลาที่กำหนด
การติดตามคนไข้หลังดูดไขมัน ?
หลังการดูดไขมันแพทย์จะติดตามคนไข้ 7-10 วันหรือ 14 วันขึ้นอยู่กับคนไข้แต่ละราย เพื่อตัดไหม หลังจากนั้นจะมีการนัดมาดูเพื่อติดตามผลประมาณ 1-2 เดือน และ 3-4 เดือน หากไม่พบปัญหาใดถือว่าเรียบร้อยด้วยดี
ดูดไขมันหน้าที่ Natchaya Clinic รับประกัน 1 ปี ?
โดยทั่วไปถ้าเป็นเคสที่ดูดไขมันแล้วไม่พบปัญหาอะไรทางคลินิกจะดูแลให้ถึง 1 ปี ระหว่างนี้ก็คือน้ําหนักตัวไม่ได้เพิ่มขึ้นเยอะ แต่ถ้ามีอะไรที่ให้ดูแลต่อเนื่องก็สามารถเข้ามาปรึกษาได้
การดูดไขมันนี่ถือว่าเป็นการลดน้ําหนักไหม ?
ไม่ถือว่าเป็นการลดน้ำหนัก เนื่องจากไขมันเบามาก หลังดูดไขมันน้ำหนักตัวจะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงของบริเวณที่ดูดมากกว่า
หลังจากดูดไขมัน สามารถทําอย่างอื่นกับบนใบหน้าได้เหมือนเดิมไหม ?
สามารถทำได้ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการที่จะทำอะไรกลับบริเวณที่เราไม่ได้ดูดไขมัน เช่น ถ้าเราดูดเหนียงแล้วทำอะไรเพิ่มเติมต้องมีการระวัง หรือรอให้การดูดไขมันเข้าที่ หากมีการทำเร็วเกินไปอาจจะเป็นการเพิ่มปริมาตรหน้า เช่น การไปเติมฟิลเลอร์ อาจทำให้เกิดการเติมที่เยอะเกินไป
ยกเว้นการทำเลเซอร์สามารถทำได้ปกติ
เคสตัวอย่างที่เลือกทำศัลยกรรมอย่างอื่นก่อนดูดไขมัน
จะมีคนไข้อยู่กลุ่มนึงที่ได้มีการไปเสริมคางมาก่อนแต่ผลออกมาไม่สวยตามที่ตั้งใจไว้ เนื่องจากไม่ได้มีปัญหาอยู่ที่บริเวณคาง แต่มีปัญหาที่บริเวณหน้ากว้าง จึงทำให้คางดูสั้น ซึ่งการรักษาที่ถูกวิธีคือการแก้ปัญหาเรื่องหน้ากว้างก่อน
โดยหน้าช่วงล่างกว้างจะมี 2 ปัจจัยด้วยกันคือโครงสร้างกระดูกกรามใหญ่ ทำให้หน้าบานออก และ ไขมันสะสมบริเวณขอบกรามทำให้มีแก้มเยอะ และหน้ากว้าง หากคนไข้มีไขมันสะสมบริเวณแก้มหรือขอบกรามเยอะ การดูดไขมันจะช่วยให้หน้าเรียวขึ้นได้อย่างชัดเจน
ส่วนเรื่องคาง หลังจากที่เราดูดไขมัน บริเวณแก้มและเหนียงกรอบหน้าออกไปแล้วหากคางยังสั้นอยู่สามารถที่จะมาเสริมคางได้ จะช่วยให้คนไข้ได้ใบหน้าที่ละมุนและคางยาวสมส่วนมากขึ้น
แต่ถ้าใครมีไขมันบริเวณด้านข้างเยอะ ไปเสริมคางก่อน มันจะทำให้คางดูจมหรือดูแหลม คนไข้บางรายที่เสริมใหญ่เกินขนาดก็จะทำให้คางดูเป็นก้อน ผลออกมาไม่สวยงาม
การตัดไขมันกระพุ้งแก้ม กับ การดูดไขมัน เหมือนกันไหม ?
สำหรับคนไข้บางกลุ่มที่มีแก้มก็จะเลือกไปตัดไขมันกับพุงแก้ม ซึ่งเป็นไขมันคนละส่วนกับที่เราดูดออกได้ การดูดไขมันไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนของร่างกายจะเป็นการดูดไขมันชั้นตื้น คือชั้นที่อยู่ใต้ผิวหนัง
ร่างกายจะมีไขมันหลักอยู่ 2 ส่วน ที่สามารถดูดออกได้ คือ ไขมันชั้นตื้น คือไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนังของเรา และไขมันใต้ผิวหนัง คือไขมันที่แทรกอยู่ตามกล้ามเนื้อ ซึ่งไม่สามารถดูดออกได้
ไขมันในส่วนของบริเวณแก้ม จะมีไขมันที่เรียกว่าไขมันกระพุ้งแก้ม ซึ่งสามารถตัดออกได้ โดยการเข้าทางช่องปาก จะดึงออกประมาณ 3-5 CC ซึ่งมันจะซ้อนทับกับตัวไขมันใต้ผิวหนัง ส่วนมากคนไข้ที่แก้มเยอะ มักจะมีปัญหาไขมันใต้ผิวหนังเป็นหลัก
การดูดไขมันแก้มมักจะเพียงพอในการทำให้บริเวณแก้มยุบลงไปในปริมาณที่เหมาะสม แต่การตัดไขมันกระพุ้งแก้ม ไขมันจะออกได้แค่บริเวณแก้ม ทำให้จุดอื่นเกิดอาการห้อยหรือหย่อนคล้อย หากดึงออกมากเกินไปจะส่งผลให้บริเวณแก้มเกิดการเว้าเกินไป
ดังนั้นคือคนที่มีปัญหาหน้าใหญ่ ควรมาประเมินก่อนว่าไขมันใต้ผิวหนังมีปริมาณมากแค่ไหน บางคนที่มีการดูดไขมันหน้าประมาณ 90% ไม่จำเป็นต้องตัดไขมันกระพุ้งแก้ม
สำหรับข้อเสียของการตัดไขมันกระพุ้งแก้มเมื่อแก่ตัวไปจะทำให้ฝ่อลง แก้มจะยิ่งตอบลง ถ้าไม่จําเป็นจริง ๆ ไม่แนะนําให้ตัด เพราะจะส่งผลเมื่ออายุเยอะขึ้น หรือสามารถเอาออกง่ายนิดเดียวจึงเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุดเพราะไขมันใต้ผิวหนังเหมาะแก่การดูดออกมากกว่า
สําหรับคนที่มีหน้าใหญ่ มีวิธีการแก้ไขหรือดูดไขมันหน้าอย่างไร ?
สําหรับคนไข้ที่มีใบหน้าใหญ่ อันดับแรกต้องประเมินก่อนว่ามีสาเหตุเกิดจากอะไร บางคนเกิดจากโครงสร้างกระดูกใหญ่ แนะนำให้ทำการผ่าตัดลดขนาดกระดูกก่อน เช่น คนไข้ที่มีโหนกแก้มใหญ่หรือมีกรามใหญ่ ควรทำการยุบโหนก ตัดกราม หรือทำ V-line
หลังจากนั้นถ้ามีไขมันส่วนเกินจึงทำการดูดออก บางคนอาจจะมีไขมันบริเวณแก้มด้านข้างสะสมเพิ่มขึ้นนะ ก็อาจจะทำการผ่าตัดดึงหน้า ซึ่งวิธีนี้อาจจะต้องแลกมากับแผลบริเวณหน้าหูหรือบริเวณขมับ ส่วนใหญ่คนไข้ที่มาหาหมอหลังจากที่ทำการยุบโหนกตัดกรามแล้ว
หากมีไขมันสะสมเราจะทำการดูดไขมันส่วนเกินออกให้ เพื่อทำให้หดกระชับ หลังทำจะมีแผลบริเวณใต้ติ่งหูหรือใต้คางเท่านั้น ส่วนมากแผลจะหายและมักไม่ค่อยทิ้งรอยแผลไว้
มีเคสดารา เซเลบ นางงาม คนไหนบ้างที่ผ่านมือคุณหมอมาบ้าง ?
เคสล่าสุด คือ น้องแอนนาเสือ Miss Universe Thailand ซึ่งหลังทำพบว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นใบหน้าเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก เนื่องจากก่อนทำใบหน้าจะค่อนข้างกว้าง มีไขมันสะสม และขอบกรามไม่ชัด เราจึงได้มีการดูดไขมันออกไปเป็นการกำจัดที่ตรงจุด
เคสแอนนา ทีวีพูล สำหรับเคสนี้จะมีการดูดไขมันเหนียงกรอบหน้าและบริเวณแก้ม ใบหน้าเดิมก่อนทำจะมีขนาดกว้างหลังจากทำได้ผลลัพธ์ที่ดีน่าเข้ารูปมากยิ่งขึ้น
น้องเฌอเบลล์ หลังจากที่มีการดูดไขมันหน้าพบว่าหน้าเรียวขึ้น และน้องมานิต้า นางสาวไทยปี 2565 สำหรับเคสนี้จะมีการดูดไขมันทั้งตัวและใบหน้า ถือว่าเป็นเคสที่มีการเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างเยอะ โดยมีการดูดไขมันรอบเอว ดูดไขมันแขนหลัง และบริเวณใบหน้า
โดยพื้นฐานเป็นคนที่มีสรีระดีอยู่แล้วเพียงแต่ว่ามีไขมันมาบดบังเมื่อมีการดูดไขมันออกทำให้หุ่นเปลี่ยนไปและใบหน้าดูคมขึ้นมาชัดเจน
ในเมืองไทยมีหมอดูดไขมันใบหน้าจำนวนน้อยใช่ไหม ?
การดูดไขมันบริเวณหน้าและเหนียง ก่อนที่หมอจะเริ่มเข้ามาทำยังไม่ค่อยมีคนทำมากนักส่วนมากจะดูแลบริเวณเหนียงแต่ไม่ถึงกับขอบกราม เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเริ่มมีเส้นประสาทเข้ามาเกี่ยวข้อง หากไม่ชำนาญหรือดูดไม่ดีอาจเสี่ยงต่อปากเบี้ยวได้
การดูดไขมันหน้า โดยเริ่มจากเหนียงมาบริเวณใบหน้าจึงเลือกที่จะใช้ยาชา มากกว่ายานอนหลับเนื่องจากสามารถทดสอบเส้นประสาทได้ขณะที่ทำ ปัจจุบันจึงสามารถดูดไขมันมิดเฟส (Mid Face) ได้แต่ต้องระวังในเรื่องของแก้มตอบ
มุมมองของคุณหมอเกี่ยวกับเรื่องการทำศัลยกรรม ?
การทำศัลยกรรม ต้องเริ่มที่ความปลอดภัยเป็นอันดับแรก การทำศัลยกรรมความงามเหมือนเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น สามารถทำก็ได้หรือไม่ทำก็ได้สำหรับคนที่ต้องการทำศัลยกรรมความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญและควรมีการปรึกษาพูดคุยกับหมอถึงผลลัพธ์ในการทำ
แนะนําการเลือกสถานพยาบาลสำหรับคนไข้มือใหม่ ?
การเลือกสถานพยาบาลสำหรับการผ่าตัด หรือการทําศัลยกรรมเสริมความงาม ควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้รับมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข ถ้าเราจะทําการผ่าตัดต้องดูว่าห้องผ่าตัดได้รับมาตรฐานหรือไม่ ห้องผ่าตัดในปัจจุบันจะมีทั้งห้องผ่าตัดเล็กและห้องผ่าตัดใหญ่
Natchaya Clinic เป็นคลินิกที่ได้รับมาตรฐานทั้งห้องผ่าตัดเล็กและห้องผ่าตัดใหญ่ สามารถทำได้เคสดมยาสลบ โดยมีวิสัญญีแพทย์คอยดูแล ซึ่งทางเรามีห้องผ่าตัดใหญ่ที่ได้รองรับจากกระทรวงสาธารณสุขคนไข้ทุกรายจึงสามารถสบายใจได้ อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ได้รับมาตรฐาน จึงมั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย
การเลือกคลินิกศัลยกรรม และหมอที่ปรึกษาสำคัญไหม ?
ก่อนจะตัดสินใจทำควรมีการคุยหรือปรึกษากับหมอที่เลือกทำก่อนว่าหลังทำผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นอย่างไรหรือประมาณไหน เนื่องจากโครงสร้างของแต่ละคนมีร่างกายที่ไม่เหมือนกัน ขั้นตอนการทำหรือผลลัพธ์ที่ออกมาก็อาจจะมีความแตกต่างกัน การสื่อสารกับหมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ทำไมคุณหมอถึงสนใจร่วมงานกับทาง HDcare
หมอและคลินิกถึงสนใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ HDcare เนื่องจากเป็นตัวกลางในการประสานหาข้อมูลระหว่างคนไข้ คลินิก และแพทย์ ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลคนไข้ตั้งแต่ต้น แม้ว่ายังไม่มีความรู้ในเรื่องของการทำศัลยกรรม จนถึงการดูแลหลังทำ ครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบ
สําหรับคนไข้ที่มีใบหน้ากลม มีเหนียง มีคางสั้น อย่าเพิ่งตัดสินใจทําศัลยกรรมประเภทอื่น เพราะอาจเกิดจากไขมันสะสมบริเวณเหนียงและใบหน้า ซึ่งสามารถกําจัดได้ด้วยการดูดไขมันเหนียงและใบหน้า
ใครที่มีปัญหาเรื่องรูปหน้า โดยเฉพาะหน้า ใบหน้าช่วงล่างที่มีไขมันสะสมอยู่บริเวณเหนียง หรือแก้ม แนะนําให้มาปรึกษากับทาง HDcare โดยสามารถส่งรูปมาประเมินผ่านทาง HDcare จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำอย่าใกล้ชิดตั้งแต่ต้นจนจบ
HDcare เป็นบริการที่มีประโยชน์กับคนไข้ สามารถช่วยแก้ปัญหาไขมันสะสมบริเวณใบหน้าและเหนียงได้โดยตรง