ดูดไขมันหน้ากับหมอบอส ประสบการณ์มากกว่า 2,000 เคส ที่ Natchaya Clinic


HDcare สรุปให้

ขยาย

ปิด

  • การดูดไขมันหน้าขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละราย ส่วนมากจะดูดบริเวณเหนียงหรือกรอบหน้าเป็นหลัก โดยจะประเมินความหนาของชั้นไขมันและความกระชับหรือความหย่อนคล้อยก่อนดูดไขมัน
  • การดูดไขมันบริเวณใบหน้า สิ่งที่ต้องระวังและให้ความสำคัญ คือ เส้นประสาท จึงนิยมฉีดยาชามากกว่าการดมยาสลบ เนื่องจากสามารถทดสอบเส้นประสาทได้ตลอดเวลา จึงเป็นวิธีการที่มีความปลอดภัยมากกว่าการดมยาสลบ
  • ระยะเวลาในการดูดไขมันหน้าขึ้นอยู่กับบริเวณที่ดูด บริเวณเหนียงหรือบริเวณกรอบหน้า ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ถ้าเกิดเพิ่มขึ้นมาบริเวณแก้มด้วยอาจจะประมาณ 1-2 ชั่วโมง
  • หลังดูดไขมันต้องใส่ผ้ารัดหน้า เพื่อพยายามใช้การดันเข้าไปให้ตัวโพรงแนบเข้ากับตัวชั้นกล้ามเนื้อ หากไม่ใช้ผ้ารัดหน้าจะทำให้เกิดช่องว่างเกิดขึ้นซึ่งทำให้มีพังผืดเข้าไปแทรก ทำให้เกิดความไม่กระชับหรือหย่อนคล้อยขึ้นมาได้
  • บทความนี้ได้รับการสปอนเซอร์จาก HDcare ศูนย์รวมการผ่าตัดโดยทีมแพทย์ที่มี่ประสบการณ์ จาก HDmall.co.th แพทย์ผู้ให้ข้อมูลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโฆษณา

การดูดไขมันหน้า เหนียง กับ นายแพทย์ทรงพจน์ ชัยมณี หรือหมอบอส ศัลยแพทย์ประจำ Natchaya Clinic และหนึ่งในแพทย์จากบริการของ HDcare สำหรับใครที่อยากดูดไขมัน แต่ยังไม่รู้จะดูดไขมันที่ไหนดี แนะนำให้ทักเข้ามาปรึกษา HDcare เพื่อประสานนัดหมายทีมแพทย์และรับคำแนะนำแนวทางการดูดไขมันที่เหมาะสม

หมอบอส หรือ นายแพทย์ทรงพจน์ ชัยมณี มีประสบการณ์ด้านดูดไขมันมากกว่า 2,000 เคส และเป็นที่ไว้วางจากของเหล่าบรรดานักแสดง นางงาม รวมถึงคนดังจากหลายวงการ อ่านประวัติของหมอบอสได้ที่นี่ [รู้จัก “หมอบอส” ผู้ชำนาญการด้านการดูดไขมันประจํา Natchaya Clinic]

เลือกหัวข้อที่สนใจได้ที่นี่

ทำไมบางคนผอม แต่หน้ากลม?

แม้ว่าจะมีน้ำหนักตัวปกติ ก็มีไขมันสะสมเฉพาะที่เกิดขึ้นได้ บางคนอาจมีการสะสมเฉพาะตรงบริเวณใบหน้า บริเวณเหนียง บริเวณลำตัว บริเวณท้อง หรือบริเวณต้นขา ซึ่งคนที่มีไขมันส่วนเกิน การรักษาที่ได้ผลดีก็คือการดูดไขมันออกมา

คนที่มีน้ำหนักปกติ แต่มีไขมันสะสมถือว่าพบได้เยอะพอสมควร โดยเฉพาะคนที่มีอายุเพิ่มขึ้นหรือมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น มักมีไขมันสะสมบริเวณแก้ม บริเวณหน้าช่วงล่างและบริเวณเหนียง ทำให้ใบหน้าจะเริ่มหย่อนคล้อยและทำให้ใบหน้าโดยรวมดูไม่เรียว

การสลายไขมันที่หน้า มีวิธีอะไรบ้าง?

การสลายไขมันที่หน้ามีการใช้เครื่องมือหลายอย่าง เช่น เครื่องมือที่ทำให้เกิดความร้อน เครื่องมือที่ทำให้เกิดการหดกระชับของผิวหนังและไขมัน

แต่การหดกระชับจะไม่ถึงกับการสลายไขมันเลยทีเดียว ถ้ามีความร้อนมากขึ้นอาจจะมีการสลายไขมันได้บางส่วน แต่จะไม่ได้เห็นผลมากเท่ากับการดูดไขมันออก

การดูดไขมันหน้า ต่างจากวิธีอื่นอย่างไร?

การดูดไขมันบนใบหน้า เป็นวิธีการกำจัดไขมันที่เห็นผลชัดเจน ถึงแม้ว่าน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นหลังจากที่ดูดไขมันไปแล้วยังเห็นผลลัพธ์ในทางที่ดี

ส่วนใหญ่คนไข้ที่มาหาหมอ ก่อนจะทำการดูดไขมันเหนียงส่วนมากจะไปฉีดสลายไขมันมาก่อน ซึ่งการฉีดสลายไขมันจะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย การทำได้ง่ายไม่ต้องพักฟื้นเหมาะกับคนที่กลัวเจ็บ

แต่การฉีดสลายไขมันมักจะไม่ค่อยเห็นผลเท่ากับการดูดไขมันหน้า บางคนต้องฉีดหลายครั้ง มักจะไม่จบในครั้งเดียว

การตัดไขมันกระพุ้งแก้มกับดูดไขมัน ต่างกันยังไง?

สำหรับคนไข้บางกลุ่มที่มีแก้มแล้วเลือกไปตัดไขมันกับพุงแก้ม ซึ่งเป็นไขมันคนละส่วนกับที่ดูดออกได้ การดูดไขมันไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนของร่างกายจะเป็นการดูดไขมันชั้นตื้น คือชั้นที่อยู่ใต้ผิวหนัง

โดยร่างกายจะมีไขมันหลักอยู่ 2 ส่วนที่สามารถดูดออกได้ คือ ไขมันชั้นตื้น เป็นไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนังของเรา และไขมันใต้ผิวหนัง เป็นไขมันที่แทรกอยู่ตามกล้ามเนื้อ ซึ่งไม่สามารถดูดออกได้

ไขมันบริเวณแก้ม จะมีไขมันที่เรียกว่าไขมันกระพุ้งแก้ม ซึ่งสามารถตัดออกได้ผ่านทางช่องปาก โดยจะตัดไขมันกระพุ้งแก้มได้ประมาณ 3-5 cc ซึ่งมันจะซ้อนทับกับตัวไขมันใต้ผิวหนัง ซึ่งส่วนมากคนไข้ที่แก้มเยอะ มักจะมีปัญหาไขมันใต้ผิวหนังเป็นหลัก

การดูดไขมันแก้มมักจะเพียงพอในการทำให้บริเวณแก้มยุบลงไปในปริมาณที่เหมาะสม แต่การตัดไขมันกระพุ้งแก้ม ไขมันจะออกได้แค่บริเวณแก้ม ทำให้จุดอื่นเกิดอาการห้อยหรือหย่อนคล้อย หากดึงออกมากเกินไปจะส่งผลให้บริเวณแก้มเกิดการเว้าเกินไป

ดังนั้นคือคนที่มีปัญหาหน้าใหญ่ ควรมาประเมินก่อนว่าไขมันใต้ผิวหนังมีปริมาณมากแค่ไหน บางคนที่ดูดไขมันหน้าประมาณ 90% ก็ไม่จำเป็นต้องตัดไขมันกระพุ้งแก้ม

สำหรับข้อเสียของการตัดไขมันกระพุ้งแก้มเมื่อแก่ตัวไปจะทำให้ผิวหนังฝ่อลง แก้มจะยิ่งตอบลง ถ้าไม่จําเป็นจริงๆ ไม่แนะนําให้ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม เพราะจะส่งผลเมื่ออายุมากขึ้น

ไขมันแต่ละส่วนอยู่จุดไหน มีวิธีการกำจัดอย่างไร?

ไขมันเหนียง จะอยู่บริเวณใต้คางหรือใต้ขอบกราม วิธีการดูดไขมันหมอจะดูดออกไปด้วยกัน มักจะไม่นิยมแยกเฉพาะไขมันใต้คาง เพราะจะทำให้ใบหน้าดูไม่สมดุล อย่างน้อยการดูดไขมันหน้าใน 1 ครั้ง ควรจะดูดบริเวณเหนียงใต้คางและใต้ขอบกรามควบคู่กัน

วิธีการดูดไขมันที่กรอบหน้า จะดูดค่อมขอบกรามเพื่อให้ขอบกรามดูชัดขึ้น ส่วนไขมันบริเวณแก้ม จะดูดไขมันบริเวณแก้มด้านข้างมุมปาก และมีกระเปาะอยู่บริเวณนี้ที่ทำให้ดูหน้าใหญ่ หน้าช่วงล่างดูกว้าง และส่งผลให้ดูมีอายุ

ไขมันแต่ละส่วนอยู่ตรงไหน ดูดไขมันยังไง

ในส่วนของไขมันมิดเฟส (Mid Face) คือ ไขมันบริเวณแก้มข้างจมูก เป็นจุดที่เลือกทำเฉพาะเคส เนื่องจากไขมันบริเวณนี้มีหน้าที่ดันหลังให้ตึง ถ้าดูดไขมันออกเยอะเกินไปจะทำให้หน้าตอบ มีร่องแก้มชัดขึ้น ส่วนมากบริเวณนี้ถ้าดูดไขมันจะมีการดูดในปริมาณที่น้อย และทำตัวกระชับควบคู่ไปด้วย

การดูดไขมันใบหน้าจะมีเส้นประสาทบริเวณใบหน้าเข้ามาเกี่ยวข้อง มีความยากในการดูด เพื่อให้มั่นใจว่าเราดูดไขมันในชั้นไขมันจริงๆ ต้องทำกับแพทย์ที่มีความชำนาญจริงๆ และมีความแม่นยำในการดูดไขมันให้ถูกชั้น เพราะถ้าผิดพลาดก็มีโอกาสสร้างความบาดเจ็บให้เส้นประสาทได้

การดูดไขมันหน้าขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละราย ส่วนมากจะดูดบริเวณเหนียงหรือกรอบหน้าเป็นหลัก โดยสามารถดูไปในครั้งเดียวได้เลย

สำหรับเคสที่มีการดูดเพิ่มเข้ามาในบริเวณหน้าจะแนะนำให้มีการยกกระชับเพิ่มด้วย โดยจะมีเครื่องมือที่ปล่อยพลังงานความร้อนเพื่อให้เกิดการหดกระชับของตัวผิวหนังและไขมัน ทำให้หน้ากระชับเพิ่มขึ้น

เคยไปฉีดหน้ามา ดูดไขมันหน้าได้ไหม?

หากใครมีประวัติเคยไปฉีดหน้าหรือศัลยกรรมเกี่ยวกับหน้ามาก่อน จำเป็นอย่างมากที่ต้องให้หมอประเมินก่อนที่จะมีการดูดไขมัน เพราะจะเพิ่มความยากในการดูดไขมันมากขึ้น เนื่องจากอาจเกิดพังผืดและคอลลาเจนในชั้นไขมันที่จะต้องดูแลกันเป็นพิเศษ

วิธีการประเมินจุดสำหรับการดูดไขมันบนหน้า

การประเมินเพื่อดูดไขมันหน้าแบ่งออกเป็น 2 วิธี ดังนี้

1. ประเมินความหนาของชั้นไขมัน

สามารถประเมินได้ด้วยการใช้นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้บีบบริเวณจุด เช่น บริเวณใต้คาง โดยให้ก้มหน้าลง เวลาบีบดูจะหนาประมาณไม่เกินครึ่งเซนติเมตร ในกรณีที่มีความหนามากกว่านี้เราสามารถดูดไขมันออกมา จะทำให้หน้าเล็กลง

2. ประเมินความกระชับหรือความหย่อนคล้อย

สามารถประเมินได้ด้วยการบีบและดึง ถ้าหน้าสามารถยืดได้ง่าย แต่ว่ามีความไม่กระชับหรือความหย่อนคล้อย แนะนำให้ทำยกกระชับโดยจะใช้เครื่องมือเพิ่มเข้ามาในระหว่างทำ และผลลัพธ์หลังการดูดไขมันจะทำให้ผิวหนังกระชับ ไม่หย่อนคล้อย

Natchaya Clinic มีการดูดไขมันกี่วิธี?

การดูดไขมันหน้าที่ Natchaya Clinic จะมี 2 โปรแกรม คือ โปรแกรม Vaser และโปรแกรม Bodytite ดังนี้

โปรแกรม Vaser เหมาะกับคนที่มีผิวหนังที่มีความยืดหยุ่นดีอยู่แล้ว ต้องการเน้นกำจัดไขมันอย่างเดียว เหมาะกับคนที่อายุไม่เยอะมาก เนื่องจากผิวหนังหดตัวได้เป็นอย่างดีเมื่อมีการดูดไขมันออกไป แล้วมีราคาที่ถูกกว่าโปรแกรม Bodytite

ดูดไขมันมีกี่แบบ

ส่วนโปรแกรม Bodytite เหมาะกับคนที่ผิวหนังมีความยืดหยุ่นไม่ค่อยดีหรือว่าต้องการดูดไขมันออกไปในปริมาณมาก คนที่กังวลในเรื่องของความไม่กระชับ โดยโปรแกรม Bodytite มีการทำงานด้วยการปล่อยคลื่นวิทยุ ทำให้เกิดความร้อนในชั้นผิวหนังและไขมัน จึงทำให้ไขมันเกิดการหดกระชับเกิดขึ้น

การดูดไขมันทั้ง 2 โปรแกรม ไม่ว่าจะดูดออกในปริมาณมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ ไม่ได้เกี่ยวกับเครื่องมือที่ใช้

ขั้นตอนก่อนดูดไขมันหน้าที่ Natchaya Clinic มีอะไรบ้าง?

การดูดไขมัน แนะนำให้มาคุยกับหมอโดยตรงเพื่อประเมินและพูดคุยถึงผลลัพธ์หลังทำว่าคุ้มค่ากับคนไข้หรือไม่

สำหรับใครที่ไม่สะดวกเข้ามาปรึกษาที่คลินิก สามารถถ่ายรูปส่งมาให้ประเมินผ่านไลน์ @HDcare ก่อนได้ หลังจากประเมินแล้วหากตัดสินใจที่จะทำจึงค่อยนัดมาที่คลินิก

โดยก่อนที่จะมีการดูดไขมันจะมีการประเมินความเสี่ยงก่อนการผ่าตัดทุกเคส ไม่ว่าจะเป็นการซักประวัติ การตรวจร่างกาย โรคประจำตัว การแพ้ยา เช็กความดัน ชีพจร

หากอยู่ในเกณฑ์ปกติไม่มีความเสี่ยง ก็สามารถที่จะดูดไขมันได้ โดยไม่จำเป็นต้องตรวจเลือดหรือตรวจเช็กอะไรเพิ่มเติม

สำหรับขั้นตอนการดูดไขมัน แพทย์จะใช้การฉีดยาชาผสมน้ำเกลือ ซึ่งระดับความเจ็บ จะมีอาการเจ็บเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับมาก หากเป็นเคสปกติทั่วไปมักจะไม่ค่อยเจ็บเมื่อเทียบกับคนที่เคยผ่าตัดโครงหน้ามาก่อน

ระหว่างการเดินยาชาอาจจะมีความรู้สึกเจ็บเล็กน้อย เนื่องจากจะมีการดึงรั้งในบางจังหวะ เช่น เหนียงบริเวณกรอบหน้า หากคนไข้มีแก้มเยอะจะทำให้มีการดึงรั้งในปริมาณที่เยอะ จึงทำให้เกิดความอาการเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อ

โดยระยะเวลาของการดูดไขมันในคนไข้แต่ละรายขึ้นอยู่กับบริเวณที่ดูด ถ้าดูดไขมันบริเวณเหนียงหรือบริเวณกรอบหน้า จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ถ้าเกิดเพิ่มขึ้นมาบริเวณแก้มด้วยอาจจะประมาณ 1-2 ชั่วโมง

ระหว่างดูดไขมันจะรู้สึกอย่างไร?

ในขณะที่ทำการดูดไขมันคนไข้จะมีอาการตึงๆ แต่จะไม่ถึงกับเจ็บเนื่องจากมีการบล็อกยาชาแล้ว

อย่างไรก็ตาม การดูดไขมันบริเวณใบหน้า สิ่งที่ต้องระวังและให้ความสำคัญ คือ เส้นประสาท สาเหตุที่เลือกฉีดยาชามากกว่าการดมยาสลบ เพื่อให้ระหว่างการดูดไขมัน แพทย์สามารถทดสอบเส้นประสาทคนไข้ได้ตลอดเวลา

อีกประเด็นหนึ่งคือถ้าดมยาสลบ จะต้องใส่ท่อออกซิเจนซึ่งจะขวางการดูดไขมัน และเนื่องจากใบหน้ามีความโค้ง หากคนไข้สลบไปเลยอาจจะทำให้ระหว่างที่มีการเปลี่ยนท่าทางไปมาเกิดความลำบากขณะที่ดูดไขมัน

ไขมันที่ดูดออกมามีปริมาณเยอะไหม?

การดูดไขมันหน้าคนไข้โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 100 cc สำหรับเคสที่มีไขมันออกมาอย่างน้อย คือ 50 cc หรือมีบางเคสที่เคยดูดมากสุดประมาณ 250 cc คือเคสคนไข้ที่ตัวใหญ่

ไขมันที่ดูดออกมา นำไปทิ้งหรือฉีดเติมเต็มได้ไหม?

ถือว่าเป็นคำถามของคนไข้หลายคนที่เคยถามว่าหลังจากดูดออกมาแล้วสามารถนำไปเพิ่มตามจุดบริเวณอื่นของร่างกายได้ไหม อันดับแรกต้องเข้าใจก่อนว่าการเติมไขมัน เราต้องเติมไขมันที่มีชีวิตอยู่

แต่การดูดไขมันออกมาเซลล์ไขมันมักจะตายแล้ว จึงไม่สามารถนำไปฉีดบริเวณอื่นได้ ดังนั้นการดูดไขมันออกมามักจะทิ้งอย่างเดียว ไม่เหมาะในการนำมาใช้ประโยชน์อย่างอื่น

ค่า BMI มีผลต่อความยากง่ายในการดูดไขมันหรือไม่?

สำหรับคนที่มีค่า BMI เยอะ จะมีไขมันที่ค่อนข้างหนาจึงทำให้ใช้เวลาในการดูดไขมันนานกว่าปกติ และต้องมีการประเมินในเรื่องของความกระชับ เมื่อดูดไขมันไปแล้วผิวหนังจะอ่อนตัวประมาณไหน

หากดูดไขมันแล้วผิวหนังหดตัวไม่ดีหรือดูดไขมันเยอะเกินไปอาจจะทำให้เกิดการหย่อนคล้อยขึ้น ต้องมีการดูดไขมันในปริมาณที่เหมาะสม จึงมักจะแนะนำให้ทำโปรแกรม Bodytite เข้าไปด้วย

การเตรียมตัวก่อนดูดไขมันหน้า

  1. งดวิตามินหรืออาหารเสริม เนื่องจากวิตามินหรืออาหารเสริมบางตัวทำให้เลือดออกง่ายอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ ก่อนดูดไขมัน สำหรับใครที่จำเป็นต้องกินแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อน ถ้าไม่ได้กินวิตามินที่ทําให้เลือดออกง่ายก็สามารถกินได้ปกติ
  2. งดบุหรี่หรือแนะนำให้เลี่ยง เนื่องจากบุหรี่ทำให้คอลลาเจนหดตัวไม่ดี ทำให้เกิดความหย่อนคล้อยได้ง่ายคุณภาพผิวหนังไม่ดีผิวบาง และแผลหายช้า งดอย่างน้อย 1 สัปดาห์
  3. งดแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 3 วันก่อนดูดไขมัน
  4. งดเครื่องดื่มคาเฟอีน ก่อนวันที่มารับบริการดูดไขมัน เนื่องจากคนไข้ต้องมีการใช้ยานอนหลับหากได้รับคาเฟอีนเพิ่มเข้าไป ยกเว้นคนที่เลือกเป็นใช้ยาชา

การดูแลตัวเองหลังดูดไขมันหน้า

หลังการดูดไขมันบริเวณเหนียงและใบหน้า จะมีแผลอยู่ที่ใต้ติ่งหูและใต้คางขนาดแผลประมาณ 4 มล. จึงห้ามโดนน้ำประมาณ 1 สัปดาห์ กรณีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แนะนำให้ใช้วิธีการซับน้ำออกบริเวณแผล

ระยะเวลาในการตัดไหมประมาณ 7-10 วัน โดยหลังตัดไหมเสร็จควรงดโดนน้ำ 1-2 วันเพื่อให้แผลแห้งสนิทและดีขึ้น กรณีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แนะนำให้ใช้วิธีการซับบริเวณแผล

หลังดูดไขมัน ทําไมต้องใส่ผ้ารัดหน้า?

เนื่องจากหลังดูดไขมัน ไขมันชั้นลึกจะหายไปทำให้เกิดโพรงขึ้นมา จึงต้องใส่ผ้ารัดหน้าเพื่อพยายามใช้การดันเข้าไปให้โพรงแนบเข้ากับตัวชั้นกล้ามเนื้อ

หากไม่ใช้ผ้ารัดหน้าจะทำให้เกิดช่องว่างเกิดขึ้นซึ่งทำให้มีพังผืดเข้าไปแทรก ทำให้เกิดความไม่กระชับหรือหย่อนคล้อยได้

ระยะเวลาการใส่ผ้ารัดหน้าขึ้นอยู่กับสภาพผิวหนังของแต่ละคน ถ้าสภาพผิวหนังมีความยืดหยุ่นดี เช่น คนอายุน้อย การใส่ผ้ารัดหน้าก็จะน้อยกว่าคนที่อายุมาก หรือคนที่ผิวหนังหดตัวไม่ดี แนะนำให้ใส่ผ้ารัดหน้า ประมาณ 3 เดือน โดยในช่วงสัปดาห์แรกไปจนถึงหนึ่งเดือนควรจะใส่ให้ได้นานที่สุดต่อวัน

ตัวอย่างคนที่มีผิวหนังกระชับดีอายุ 20 ต้นๆ หลังดูดไขมัน แนะนำให้ใส่หลังทำ 24 ชั่วโมงแรก หลังจากนั้น 3 วันแรกให้ใส่ 22 ชั่วโมง/วัน และช่วง 4-7 วันให้ใส่ 12 ชั่วโมง/วัน หลังจากนั้นให้ใส่ 12 ชั่วโมงต่อวันเป็นระยะเวลา 1-2 เดือน ระยะเวลานี้ถือว่าเป็นขั้นต่ำของคนที่มีผิวหนังกระชับดี

สำหรับคนที่ผิวหนังไม่กระชับจำเป็นต้องใส่ในระยะเวลาที่นานมากขึ้นเช่นใส่ 22 ชั่วโมง/วันตลอดระยะเวลา 1 เดือน แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้หน้าในการทำงานสามารถถอดออกได้ เมื่อเสร็จภารกิจให้รีบกลับมาใส่ตามระยะเวลาที่กำหนด

การติดตามผลหลังดูดไขมัน

หลังการดูดไขมันแพทย์จะติดตามผลลัพธ์กับคนไข้ในช่วง 7-10 วันหรือ 14 วันขึ้นอยู่กับคนไข้แต่ละราย เพื่อนัดเข้ามาตัดไหม และจะมีการนัดมาติดตามผลในช่วงประมาณ 1-2 เดือน และ 3-4 เดือน หากไม่พบปัญหาใดถือว่าเรียบร้อยดี

โดยทั่วไปถ้าเป็นเคสที่ดูดไขมันแล้วไม่พบปัญหาอะไรทางคลินิกจะดูแลให้ถึง 1 ปี ระหว่างนี้ต้องดูแลไม่ให้น้ําหนักตัวเพิ่มขึ้นเยอะ

ผลงานจากหมอบอสกับการดูดไขมันให้คนดัง

เคสล่าสุด คือ น้องแอนนาเสือ Miss Universe Thailand ซึ่งหลังทำพบว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นใบหน้าเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก เนื่องจากก่อนทำใบหน้าจะค่อนข้างกว้าง มีไขมันสะสม และขอบกรามไม่ชัด

รีวิวดูดไขมันหน้าโดยแอนนาเสือ

เคสแอนนา ทีวีพูล สำหรับเคสนี้จะมีการดูดไขมันเหนียงกรอบหน้าและบริเวณแก้ม ใบหน้าเดิมก่อนทำจะมีขนาดกว้างหลังจากทำได้ผลลัพธ์ที่ดีน่าเข้ารูปมากยิ่งขึ้น

และน้องเฌอเบลล์ หลังจากที่มีการดูดไขมันหน้าพบว่าหน้าเรียวขึ้น และน้องมานิต้า นางสาวไทยปี 2565 สำหรับเคสนี้จะมีการดูดไขมันทั้งตัวและใบหน้า ถือว่าเป็นเคสที่มีการเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างเยอะ โดยมีการดูดไขมันรอบเอว ดูดไขมันแขนหลัง และบริเวณใบหน้า

รีวิวดูดไขมันโดยมานิต้า นางสาวไทย

โดยพื้นฐานเป็นคนที่มีสรีระดีอยู่แล้วเพียงแต่ว่ามีไขมันมาบดบังเมื่อมีการดูดไขมันออกทำให้หุ่นเปลี่ยนไปและใบหน้าดูคมขึ้นมาชัดเจน

ดูดไขมันที่ไหนดี?

การเลือกสถานพยาบาลสำหรับการผ่าตัด หรือการทําศัลยกรรมเสริมความงาม ควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้รับมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข ถ้าเราจะทําการผ่าตัดต้องดูว่าห้องผ่าตัดได้รับมาตรฐานหรือไม่ ห้องผ่าตัดในปัจจุบันจะมีทั้งห้องผ่าตัดเล็กและห้องผ่าตัดใหญ่

Natchaya Clinic เป็นคลินิกที่ได้รับมาตรฐานทั้งห้องผ่าตัดเล็กและห้องผ่าตัดใหญ่ที่ได้รองรับจากกระทรวงสาธารณสุข อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ได้รับมาตรฐาน จึงมั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย

ในเคสที่ต้องดมยาสลบจะมีวิสัญญีแพทย์คอยดูแล คนไข้ทุกรายจึงสามารถสบายใจได้

ก่อนจะตัดสินใจทำควรมีการคุยหรือปรึกษากับหมอที่เลือกทำก่อนว่าหลังทำผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นอย่างไรหรือประมาณไหน เนื่องจากโครงสร้างของแต่ละคนมีร่างกายที่ไม่เหมือนกัน ขั้นตอนการทำหรือผลลัพธ์ที่ออกมาก็อาจจะมีความแตกต่างกัน การสื่อสารกับหมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ

หมอและคลินิกถึงสนใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ HDcare เนื่องจากเป็นตัวกลางในการประสานหาข้อมูลระหว่างคนไข้ คลินิก และแพทย์ ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลคนไข้ตั้งแต่ต้น แม้ว่ายังไม่มีความรู้ในเรื่องของการทำศัลยกรรม จนถึงการดูแลหลังทำ ครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบ

สําหรับคนไข้ที่มีใบหน้ากลม มีเหนียง มีคางสั้น อย่าเพิ่งตัดสินใจทําศัลยกรรมประเภทอื่น เพราะอาจเกิดจากไขมันสะสมบริเวณเหนียงและใบหน้า ซึ่งสามารถกําจัดได้ด้วยการดูดไขมันเหนียงและใบหน้า

ใครที่มีปัญหาเรื่องรูปหน้า โดยเฉพาะหน้า ใบหน้าช่วงล่างที่มีไขมันสะสมอยู่บริเวณเหนียง หรือแก้ม แนะนําให้มาปรึกษาเรื่องการดูดไขมันกับทาง HDcare โดยสามารถส่งรูปมาประเมินผ่านทางไลน์ @HDcare จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำอย่าใกล้ชิดตั้งแต่ต้นจนจบ

บทความที่แนะนำ

@‌hdcoth line chat