เซ็กส์หรือการร่วมรักถือเป็นกิจกรรมที่ไม่เพียงแต่ทำให้เรารู้สึกพึงพอใจหรือมีความสุขเท่านั้น แต่ยังมีการค้นพบว่ามันแฝงไปด้วยประโยชน์ด้านสุขภาพมากมาย ซึ่ง Dr.Lan Kerner นักบำบัดด้านเซ็กส์ ให้ความเห็นว่า ความดึงดูดทางเพศ และความเข้ากันได้ในเรื่องเซ็กส์นับว่าเป็นรากฐานที่ทำให้ความสัมพันธ์ดำเนินไปได้ด้วยดี
ประโยชน์ของการร่วมรัก
มีงานวิจัยก่อนหน้านี้พบว่านอกจากร่วมรัก จะเป็นกิจกรรมที่สร้างความพึงพอใจขณะทำกิจกรรมแล้ว ยังอาจมีผลด้านสุขภาพด้วย ดังนี้
- การร่วมรักสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
- ทำให้การนอนหลับดีขึ้น
- กระตุ้นความต้องการทางเพศ
- ทำให้การควบคุมปัสสาวะในผู้หญิงดีขึ้น
- ลดความดันโลหิต
- ลดโอกาสในการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชาย
นอกจากนี้ ร่วมรักยังเป็นวิธีออกกำลังกายที่ดี ลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว ลดความเครียด ทำให้ใจไม่ว้าวุ่น และคลายความวิตกกังวล
โทษของการมีเซ็กส์ มากเกินไป
นอกจากเซ็กส์จะมีประโยชน์แล้ว ผู้เชี่ยวชาญบางคนได้เผยว่า การมีเซ็กส์มากเกินไปกลับไม่ดีต่อร่างกาย ผู้เชี่ยวชาญ และ New Health Advisor บอกว่า หากมีการร่วมรักมากเกินไป อาจประสบกับปัญหาต่อไปนี้
- ผู้ชายอาจเกิดอาการเจ็บอวัยวะเพศได้หากดำเนินกิจกรรมทางเพศต่อเนื่องนานๆ หลังจากเสร็จแล้ว เนื่องจากเกิดการเสียดสีเป็นเวลานาน
- ผู้หญิงอาจมีอาการเจ็บอวัยวะเพศจากการที่อวัยวะเพศชายชนกับผนังช่องคลอด
- อาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ เนื่องจากการร่วมรัก ถือเป็นการออกกำลังกายที่ใช้แรงมาก ดังนั้นจึงควรดื่มหลังจากเสร็จกิจกรรม
- อาจทำให้ปวดบริเวณหลังส่วนล่าง เนื่องจากกิจกรรมทางเพศมักต้องใช้หลังช่วงล่างในการสอดใส่ หากทำต่อเนื่องนานๆ อาทำให้เจ็บได้
- ทำให้เกิดรอยช้ำหรือเจ็บ
- ทำให้เส้นประสาทได้รับบาดเจ็บ
- กล้ามเนื้อตึง
- ทำให้เหนื่อย
- อาจทำให้หัวใจวายในกรณีที่เป็นโรคหรือมีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจตั้งแต่ต้น
ทั้งนี้ Dr. Michael Olamoyegun แนะนำว่า คนที่เป็นโรคหัวใจไม่ควรมีเซ็กส์บ่อยเกินไป เพราะมันอาจไม่ดีต่อสุขภาพ “คนที่ตกอยู่ในภาวะหัวใจวาย หรือโรคหลอดเลือดสมองไม่ควรมีเซ็กส์มากเกินไป เพราะมันเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงาน และการมีเซ็กส์ 1 รอบ ก็เทียบเท่ากับการวิ่งหลายนาที ดังนั้นการมีเซ็กส์เป็นประจำก็สามารถส่งผลต่อสุขภาพได้ ”
มี Sex กี่ครั้งถึงเรียกว่ามากไป?
โดยปกติแล้วไม่มีปริมาณที่แน่นอนว่ามีเพศสัมพันธ์กี่ครั้งถึงเรียกว่ามากไป เนื่องจากจะแตกต่างกันไปตามอายุ แต่หากดูค่าเฉลี่ยงานวิจัยจาก Indiana University พบว่าระดับความถี่การมีเพศสัมพันธ์แต่ละช่วงอายุ อาจมีดังนี้
- ผู้ที่อายุ 18-29 ปี มีเพศสัมพันธ์เฉลี่ย 112 ครั้งต่อปี
- ผู้ที่อายุ 30-39 ปี มีเพศสัมพันธ์เฉลี่ยปีละ 86 ครั้ง
การมีเซ็กส์สัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ทำให้เรื่องบนเตียงไม่มีปัญหา และการมีเซ็กส์ทุกวันไม่ได้บ่งบอกถึงการมีเซ็กส์มากเกินไป ตราบใดที่คู่รักยังคงเพลิดเพลินกับกิจกรรมดังกล่าว ดังนั้นสิ่งที่พอจะบอกได้ว่ามากเกินไปอาจสังเกตได้จากการรู้สึกไม่สบายใจหากต้องมีเพศสัมพันธ์อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม คู่รักที่อยากมีลูกมักจะได้รับคำแนะนำว่าควรมีเซ็กส์อย่างสม่ำเสมอ แต่มีงานวิจัยเมื่อปี ค.ศ. 2005 พบว่า สเปิร์มมีแนวโน้มที่จะมีจำนวนมากขึ้นถ้าผู้ชายไม่ได้หลั่งน้ำอสุจิหลายวัน และมันจะลดลงถ้ามีการหลั่งน้ำอสุจิบ่อยเกินไป ถ้าอยากมีโอกาสตั้งครรภ์มากขึ้น คุณผู้ชายก็ควรควบคุมตัวเองไม่ให้หลั่งน้ำอสุจิ 2-3 วันก่อนมีเซ็กส์
แม้ว่าเซ็กส์เป็นกิจกรรมที่ทำให้คู่รักผูกพัน หรือทำให้มีความสุขกับชีวิตคู่แล้ว มันก็ยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย แต่ทั้งนี้คุณก็ควรควบคุมปริมาณของการมีเซ็กส์ให้เหมาะสม มิเช่นนั้นมันอาจทำให้เกิดผลเสียตามที่เรากล่าวไป