follicular unit

ปลูกผม FUE แก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง ความมั่นใจกลับมา

ผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน สามารถสร้างความรู้สึกที่ไม่ดีต่อบุคลิกภาพของตัวเอง และทำให้หลายคนอาจขาดความมั่นใจ ปัญหาเหล่านี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเกิดจากกรรมพันธุ์ ผลข้างเคียงหลังคลอดบุตร การหลังผ่าตัด และอาจจะเกิดจากโรคบางชนิด เช่น ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ โรคผิวหนังบางชนิด รวมถึงความเครียดที่เกิดขึ้น

ทางแก้ไขคือ การปลูกผม FUE ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาบนศีรษะตามที่กล่าวมาแล้วได้อย่างถาวร เส้นผมดูสวยงามเป็นธรรมชาติ ส่งผลให้แลดูอ่อนวัย และที่สำคัญสามารถเรียกความมั่นใจให้กลับคืนมาได้อีกด้วย HDmall ได้รวบรวมข้อมูลโดยละเอียดก่อนตัดสินใจทำมาฝากกัน

การปลูกผม FUE คืออะไร

การปลูกผม FUE (Follicular Unit Extraction) เป็นการปลูกผมถาวรแบบไร้รอยต่อ หรือการปลูกผมไร้แผลเป็น (SFET) โดยใช้เครื่องมือพิเศษเป็นหัวเจาะทำจากโลหะไททาเนียม มีหัวขนาดเล็กมากแค่ 0.8-1.0 มิลลิเมตรเท่านั้น โดยเจาะเอาเซลล์รากผมที่แข็งแรงและสมบูรณ์ที่สุดจากบริเวณด้านหลังของศีรษะ จะเจาะทีละกอผม (1 กอ มีเซลล์รากผมประมาณ 1-4 เส้น) แล้วนำเซลล์รากผมที่ได้มาปลูกตรงตำแหน่งใหม่และตามทิศทางที่ต้องการ

เมื่อปลูกผมไปแล้วระยะหนึ่ง เซลล์รากผมจะยึดติดกับเนื้อเยื่อรอบๆ มองไม่เห็นรอยแผล วิธีนี้ทำให้เซลล์รากผมที่ปลูกขึ้นใหม่มีความแข็งแรง และเส้นผมที่งอกออกมาใหม่ก็จะอยู่อย่างถาวร ไม่หลุดร่วงจนเกิดปัญหาผมบาง ผมร่วง หรือ ศีรษะล้านอีก และเหตุผลที่ต้องใช้เซลล์รากผมจากบริเวณด้านหลังของศีรษะ ก็เพราะว่ามีจำนวนเพียงพอที่จะแบ่งไปใช้ได้มากกว่าที่บริเวณอื่น โดยก่อนที่จะตัดสินใจทำต้องปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

ข้อดีของการปลูกผม FUE

  • หลังปลูกผมหนังศีรษะไม่ตึง ไม่เจ็บ เลือดออกน้อย
  • เส้นผมที่ปลูกใหม่มีอัตราการเกิดขึ้นสูง
  • ไม่มีรอยแผลเป็นจากการผ่าตัด แผลเล็กมากขนาดเท่ารูขุมขนประมาณ 1 มิลลิเมตร เท่านั้น
  • แผลจะหายได้เอง และหายไว
  • หลังจากปลูกผมแล้วไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับบ้านไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
  • เส้นผมที่งอกใหม่จะแข็งแรงกว่าเดิมไม่หลุดร่วงง่าย
  • สามารถออกแบบการปลูกผมให้กับผู้ที่รับบริการแต่ละคนได้อย่างเหมาะสม
  • เส้นผมใหม่ที่ได้เป็นเส้นผมจริง ดูเป็นธรรมชาติ
  • ใบหน้าดูอ่อนวัย เพราะเส้นผมดูหนาขึ้น

ข้อเสียของการปลูกผม FUE

  • ได้จำนวนเซลล์รากผมมาในการเจาะแต่ละครั้งน้อย
  • เซลล์รากผมที่ดึงออกมาอาจจะขาดหรือเสียหายได้ เช่น ถ้าเจาะ 1000 กอ ก็อาจได้ไม่ครบ ขึ้นอยุ่กับความชำนาญของแพทย์
  • บริเวณที่มีการเจาะเซลล์รากผมไปใช้แล้ว จะไม่มีผมใหม่ขึ้นมาแทนที่
  • การปลูกเซลล์รากผม หากใช้จำนวนมาก จะทำให้เส้นผมที่ด้านหลังของศีรษะบางลง จึงต้องมีการจำกัดจำนวนกอผมในการทำแต่ละครั้ง

ปลูกผม FUE เหมาะกับใคร

การปลูกผมเป็นทั้งการแก้ปัญหาเกี่ยวกับผมและเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดี ทำให้เกิดความมั่นใจ ที่ต้องคำนึงถึงความเหมาะสม และความต้องการสูงสุดให้แก่ผู้ที่รับบริการ ผู้ที่เหมาะจะใช้วิธี FUE อาจมีดังนี้

  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมที่ร่วงเยอะผิดปกติ ผมบาง ศีรษะล้าน
  • ผู้ที่มีแนวผมที่ร่นขึ้นสูง หรือหน้าผากกว้างเกินไป
  • ผู้ที่ต้องการปรับโครงหน้าใหม่ เพื่อเสริมความงามให้กับใบหน้า
  • ผู้ที่ชอบตัดผมรองทรงสั้นแล้วดูดี มีผมที่หนา
  • ผู้ที่มีเวลาน้อย ไม่ต้องการพักฟื้นนาน
  • ผู้ที่มีผมบางตรงกลางศีรษะ
  • ผู้ที่ต้องการปกปิดรอยแผลเป็นที่ศีรษะ

การเตรียมตัวก่อนปลูกผม FUE

  • นอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่
  • ถ้ามีโรคประจำตัวที่ต้องทานยาเป็นประจำ หรือมีประวัติการแพ้ยา ให้ปรึกษาแพทย์ก่อน
  • งดทานยาหรืออาหารเสริมที่ทำให้เลือดไม่แข็งตัว เช่น พลาวิกซ์ (Plavix), แอสไพริน (Aspirin), วิตามินอี (Vitamin E), น้ำมันปลา (Fish oil), ยาแก้อักเสบอย่างน้อย 7 วัน
  • งดการใช้ Rogaine หรือ Minoxidil ที่เป็นสารช่วยให้เส้นผมดกขึ้นอย่างน้อย 7 วัน
  • ผู้ป่วยโรคความดันสูงที่มีการใช้ยา Beta Blocker ให้ปรึกษาแพทย์ก่อนจะต้องเปลี่ยนยา เพราะอาจมีผลกับยาที่ใช้ในการผ่าตัดได้อย่างน้อย 7 วัน
  • งดสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดทานอาหารหมักดอง ตามคำแนะนำของแพทย์ก่อนการปลูกผม
  • ควรทานอาหารมาก่อน เพราะการปลูกผมใช้เวลาค่อนข้างนาน
  • งดชา งดกาแฟ ตามคำแนะนำของแพทย์ก่อนการปลูกผม
  • ไม่ใส่เครื่องประดับ และนำของมีค่าติดตัวมาด้วย
  • ให้สวมเสื้อที่ติดกระดุมหน้า หรือเสื้อคอกว้างมา เพื่อง่ายในการเปลี่ยนเสื้อก่อนเข้ารับการปลูกผม จะได้ไม่โดนแผลเวลาใส่ตอนกลับบ้าน
  • งดการทำผมทุกชนิด และสระผมให้สะอาดก่อนมา
  • ควรมีผู้ติดตามมาด้วยในวันที่เข้ารับการปลูกผม เพราะมีการใช้ยาชาหรือให้ยานอนหลับในระหว่างการปลูกผม เมื่อทำเสร็จอาจยังคงมีอาการชาและมึนงงได้

ขั้นตอนการปลูกผม FUE

  1. แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะออกแบบและวาดแนวผมที่จะปลูก ตามที่ได้ผู้ที่รับบริการพึงพอใจแล้ว ก็จะมีการคำนวณจำนวนกอผมที่จะใช้สำหรับปลูกออกมาล่วงหน้า
  2. โกนผมบริเวณที่จะเจาะเอาเซลล์รากผมออกมา เพื่อความสะดวกในการปลูกผม จากนั้นแพทย์จะฉีดยาชาหรือให้ยานอนหลับอย่างอ่อน ทำความสะอาด ฆ่าเชื้อให้ทั่วบริเวณที่เลือกไว้
  3. หลังยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จะเริ่มใช้เครื่องมือพิเศษที่มีหัวเจาะขนาดเล็กประมาณ 0.8-1.0 มิลลิเมตร โดยจะเจาะด้านหลังของศีรษะ ตามแนวขนานไปกับเซลล์รากผม
  4. นำเอาเซลล์รากผมออกมา เพื่อจะนำไปปลูกต่อไป
  5. ระหว่างรอเซลล์รากผมให้ครบตามจำนวนที่ต้องการ จะต้องนำไปแช่ไว้ในน้ำยาเลี้ยงเซลล์ เพื่อให้รากผมมีคุณภาพสมบูรณ์ที่สุด
  6. หลังจากนั้นแพทย์จะมีการฉีดยาชาหรือให้ยานอนหลับอย่างอ่อน ฉีดยาห้ามเลือดก่อน และจะเจาะรูตรงบริเวณที่ต้องการปลูก เพื่อกำหนดตำแหน่ง ความหนาแน่น และทิศทางของแนวผมให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด จากนั้นจะนำเซลล์รากผมใส่ลงไปที่เจาะเตรียมไว้จนครบทั้งหมด แพทย์จะปิดผ้าพันแผลที่บริเวณปลูกผมอย่างน้อย 1-2 วัน หลังจากนั้นสามารถกลับบ้านได้เลย

การดูแลตัวเองหลังปลูกผม FUE

  • ไม่ควรจับ ซับเลือด แกะ เกา หรือทำให้แผลบริเวณที่ปลูกผมถูกกระทบกระเทือน หลังการผ่าตัด 24 ชั่วโมง เพราะเซลล์รากผมยังไม่เชื่อมติดกับเนื้อเยื่อโดยรอบรูที่ปลูกผมลงไป อาจทำให้หลุดออกได้
  • ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ สามารถอาบน้ำและล้างหน้าได้
  • สระผมตามปกติได้ในวันรุ่งขึ้น แต่ต้องทำอย่างเบามือ และให้ใช้ยาสระผมชนิดอ่อนประมาณ 2 สัปดาห์
  • ขณะสระผมห้ามนวดหรือถูบริเวณที่ปลูกผม ใช้น้ำอุณหภูมิปกติและไม่แรงจนเกินไป ทำให้ผมแห้งแค่ซับเบาๆ ก็พอ ห้ามใช้ลมร้อนจากเครื่องเปล่าผมประมาณ 1 เดือน
  • สามารถจัดแต่งทรงผมได้หลังจากปลูกผม 1 สัปดาห์ โดยไม่ให้โดนแผล
  • หลังจากการปลูกผม 1 เดือน สามารถทำสีผม ดัดผมได้ตามปกติ
  • ควรนอนหงายหรือนอนตะแคง เพื่อลดอาการบวมปวดที่แผล ใช้ผ้าที่คาดผมไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้กอผมที่ปลูกหลุดออก และใช้หมอนรองคอป้องกันการกดทับของแผลบริเวณด้านหลังศีรษะ และควรนอนหมอนที่หนุนศีรษะให้สูง เพื่อลดอาการบวม
  • งดออกกำลังกายอย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • งดว่ายน้ำอย่างน้อย 1 เดือน
  • หลีกเลี่ยงการตากแดด เพราะความร้อนมีผลต่อเซลล์รากผม ใส่หมวกป้องกันได้ แต่อย่าใส่ให้แน่นจนเกินไป
  • งดสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดทานอาหารหมักดอง ตามคำแนะนำของแพทย์
  • หลังจากปลูกผมแล้วอาจเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ ให้ทานอาหารอ่อนๆ และถ้ายังมีอาการอยู่ก็ให้งดอาหารไปก่อน
  • แพทย์อาจให้ยาปฏิชีวนะ เพื่อกันการติดเชื้อและลดอาการบวมกลับไปทานที่บ้าน
  • มาพบแพทย์ตามนัด เพื่อติดตามผลจากการปลูกผมจนเป็นที่พึงพอใจ
  • หากมีอาการผิดปกติ ให้รีบพบแพทย์ เช่น มีไข้สูง มีอาการปวดบวมและแดงมากผิดปกติ เลือดออกมากผิดปกติ มีแผลตกสะเก็ดหรือน้ำเหลืองที่บริเวณหนังศีรษะ เกิดอาการอักเสบหรือการติดเชื้อที่ต่อมขุมขน รู้สึกชาหรือ ไม่มีความรู้สึกบริเวณหนังศีรษะที่ทำการปลูกผม

ผลข้างเคียงของการปลูกผม FUE

  • อาจมีอาการบวมแต่จะหายไปเองภายใน 7 วัน ให้ใช้ที่ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมได้ และให้สวมผ้าคาดศีรษะเอาไว้ตลอด
  • ถ้ามีอาการคันจากสะเก็ดแผลที่ปลูกผม ไม่ควรเกาหรือถู ให้ลูบเบาๆ หรือทายาลดอาการคันก็พอ สะเก็ดแผลจะหลุดไปเอง
  • อาจมีอาการเส้นผมร่วงหลังจากปลูกผมได้ ในระยะแรกประมาณ 3-4 สัปดาห์ แต่เส้นผมที่หลุดร่วงไปไม่ได้มีเซลล์รากผมหลุดตามไปด้วย หลังนั้นจาก 3-4 เดือน ก็จะงอกขึ้นมาใหม่อย่างถาวร

การปลูกผม FUE เจ็บไหม

ไม่เจ็บ ผู้ที่รับบริการจะไม่รู้สึกเจ็บขณะทำการปลูกผม เพราะแพทย์จะฉีดยาชาหรือให้ยานอนหลับอย่างอ่อน จะเจ็บแค่ช่วงแรกที่มีการฉีดยาเท่านั้น หลังจากยาออกฤทธิ์จะไม่เจ็บแล้ว

การปลูกผม FUE อยู่ถาวรไหม

การปลูกผมวิธีนี้เป็นการปลูกผมถาวร เพราะใช้เซลล์รากผมของผู้ที่รับบริการเองมาทำการปลูกผม โดยเลือกเอาส่วนที่แข็งแรงหรือร่วงยากมาใช้ ทำให้เส้นผมที่ได้จะหลุดร่วงได้ยากเช่นเดียวกัน คุณภาพของเส้นผมยังคงเหมือนเดิมเพียงแค่ย้ายตำแหน่งเท่านั้น แต่ว่าเส้นผมจะหลุดร่วงไปตามวงจรปกติ ส่วนเซลล์รากผมที่แข็งแรงนั้น ไม่ได้หลุดออกมาด้วย ดังนั้นเส้นผมที่ขึ้นมาใหม่ก็จะเป็นเส้นผมที่แข็งแรงเหมือนเดิม สามารถอยู่กับเราไปได้ตลอดชีวิต

ปลูกผม FUE ใช้เวลานานไหม

เวลาที่ใช้ในการปลูกผมจะประมาณ 6-10 ชั่วโมง โดยขึ้นอยู่กับบริเวณที่ปลูกผมมีมากหรือน้อย และจำนวนกอผมที่ต้องการใช้

จะเห็นได้ว่า การปลูกผม FUE นั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาเส้นผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน เพื่อสร้างความมั่นใจ มีบุคลิกภาพที่ดี มีโครงหน้าชัดขึ้น ทำให้ใบหน้าดูดี แลดูอ่อนวัย แนวผมดูแน่นเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย หายเร็ว ใช้เวลาเพียง 1 วันเท่านั้น ก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยต้องทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น


ที่มาของข้อมูล

Scroll to Top