แผลที่บริเวณอวัยวะเพศหญิง หมายถึง การพบตุ่มและแผลที่ภายใน หรือรอบๆ ช่องคลอด บางครั้งอาจมีอาการคัน เจ็บ หรือทำให้มีสารคัดหลั่งออกมาได้ แต่บางครั้งแผลเหล่านี้ก็อาจไม่มีอาการอะไรแสดงออกมาเลย
ตุ่ม หรือแผลที่บริเวณอวัยวะเพศหญิง บางครั้งก็อาจเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุได้และหายไปได้เองโดยไม่ต้องรักษา แต่บางครั้งก็อาจเกิดจากความผิดปกติของผิวหนัง อย่างไรก็ตาม ส่วนมากแผลที่บริเวณอวัยวะเพศหญิงมักเป็นอาการจากการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
สารบัญ
ทำไมควรรีบไปพบแพทย์ เมื่อมีแผลที่อวัยวะเพศ
ผู้ป่วยที่มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มักจะเขินอาย หรือกลัวที่จะไปพบแพทย์ แต่สำหรับโรคกลุ่มนี้ ผู้ป่วยทุกคนควรไปพบแพทย์เพื่อให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสม และแนะนำให้พาคู่นอนไปตรวจรักษาด้วย
เนื่องจากผู้หญิงที่อายุยังน้อยเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพในระยะยาวจากการติดเชื้อที่ไม่ได้รับการรักษาได้ และหากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันอย่างถูกต้องก็อาจมีการแพร่เชื้อไปถึงผู้อื่น หรือคู่นอนได้
ในการตรวจแผลที่บริเวณอวัยวะเพศนั้น แพทย์จะตรวจแผลที่เกิดขึ้นเพื่อหาสาเหตุ แนวทางการรักษา เพื่อรวบคุมโรค และป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายได้
นอกจากนี้การไปพบแพทย์ยังสามารถช่วยยืนยันได้ด้วยว่า “อาการทุกอย่างเป็นปกติ แผลนั้นอาจแค่เกิดจากการอุดตัน หรือเป็นตุ่มน้ำที่สามารถรักษาได้ง่าย” เพื่อความสบายใจของตัวผู้ป่วยเอง
อาการที่เกิดกับอวัยวะเพศหญิงเมื่อมีแผล
แผลที่บริเวณอวัยวะเพศนั้นอาจจะมีขนาดเล็ก แดง คัน เป็นตุ่ม หรือตุ่มน้ำก็ได้ แผลยังอาจมีการเปลี่ยนแปลง เช่น มีสะเก็ด มีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งอาจเกิดร่วมกับอาการเหล่านี้ก็ได้ เช่น
- คัน
- ปวดบริเวณตำแหน่งที่เป็นแผล
- ปวดที่อุ้งเชิงกราน
- ปวดเรื้อรัง
- มีเลือดออก
- ปัสสาวะแสบขัด
- ไข้
- ต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบโต
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยทั่วไปนั้นมักจะเกี่ยวข้องกับอาการต่างๆ เหล่านี้ด้วย เช่น เจ็บเวลาที่มีเพศสัมพันธ์ เจ็บเวลาที่ปัสสาวะ ตกขาวมีกลิ่นเหม็น หรือตกขาวมีปริมาณมากขึ้น
สาเหตุของการเกิดแผลที่อวัยวะเพศหญิง
แผลที่อวัยวะเพศนั้นไม่ได้เกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพียงอย่างเดียว แต่อาจเกิดจากผิวหนังอักเสบ ปฏิกิริยาที่มีต่อน้ำหอม หรือน้ำยาซักผ้า ถุงน้ำและแผลที่เกิดจากการเกาและการติดเชื้อ หรือเกิดจากขนคุดก็ได้
นอกจากนี้แผลที่อวัยวะเพศยังเกิดได้จากโรคเรื้อรังทางผิวหนังบางโรคที่อาจทำให้เกิดอาการคัน แสบ และเจ็บ ตามมาได้ เช่น
- การอักเสบที่แคมและช่องคลอด
- โรคผิวหนังอักเสบจากการสัมผัสสารเคมี น้ำยาซักผ้า และน้ำหอม
- โรคผิวหนังอักเสบจากการสัมผัสกับสารที่แพ้
- ถุงน้ำ
- ขนคุด
- มะเร็งผิวหนัง
สาเหตุที่พบบ่อยซึ่งทำให้เกิดแผลที่อวัยวะเพศหญิงก็คือ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งสามารถติดได้จาก
- การมีเพศสัมพันธ์ทางปาก
- ทางช่องคลอด
- ทางทวารหนัก
- การใช้อุปกรณ์ทางเพศร่วมกัน
ตัวอย่างโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ทำให้เกิดแผลที่อวัยวะเพศหญิงประกอบด้วย
- โรคเริมที่อวัยวะเพศ มีลักษณะเป็นแผลพุพองตื้นๆ มีตุ่มน้ำเล็กๆหลายแผลในบริเวณเดียวกัน
- หูดที่อวัยวะเพศ
- หูดข้าวสุก (Molluscum contagiosum) ซึ่งเป็นการติดเชื้อไวรัสที่ผิวหนังชั้นนอก มีลักษณะเริ่มจากเป็นจุดเล็กๆสีแดง และอาจมีตุ่มที่มีสีขาวด้านใน บางครั้งอาจมีรอยบุ๋มอยู่ตรงกลาง คล้ายสิวแต่ไม่มีการอักเสบ เมื่อบีบออกจะพบสารสีขาวคล้ายเมล็ดข้าวสุกอยู่ภายใน
- ฝีมะม่วง (Lymphogranuloma Venerum) ระยะแรกจะพบตุ่มนูนหรือแผลตื้น ร่วมกับมีการอักเสบของท่อปัสสาวะ ต่อมาในระยะที่สองจะพบต่อมน้ำเหลืองที่บริเวณขาหนีบโตอักเสบมากจนกลายเป็นฝีและแตกออกได้
- โรคแผลริมอ่อน(Chancroid) เริ่มแรกแผลมีลักษณะเป็นผื่นราบหรือมีตุ่มนูน จากนั้นเกิดเป็นแผลหนอง หลังจากตุ่มหนองแตกออกจะกลายเป็นแผลที่มีขอบแผลหนา ไม่เรียบ ก้นแผลลึกเซาะออกทางด้านข้าง
- โรคซิฟิลิส (Syphilis) ในระยะแรกแผลจะมีลักษณะเรียบสะอาด มีขอบแข็ง ไม่เจ็บ มักพบเป็นแผลเดี่ยวๆ หายได้เองใน 1-2 สัปดาห์ ในระยะที่สองมักเกิดหลังจากระยะแรก 6 สัปดาห์ ถึง 6 เดือน แผลที่อวัยวะเพศจะเป็นรอยนูนขึ้น อาจพบได้มากกว่าหนึ่งแผล ร่วมกับมีผื่นขึ้นตามตัว ฝ่ามือฝ่าเท้า มีไข้ อ่อนเพลีย ส่วนในระยะที่สามมักไม่พบรอยแผลบริเวณอวัยวะเพศแล้วแต่มีการติดเชื้อในกระเสเลือด
การวินิจฉัยแผลที่อวัยวะเพศหญิง
การตรวจร่างกายจะสามารถระบุสาเหตุที่ทำให้เกิดแผลได้ แพทย์อาจจะมีการตรวจภายในและซักประวัติอื่นๆ ก่อนที่จะส่งตรวจเพิ่มเติม เช่น ตรวจเลือด เพาะเชื้อจากแผลเพื่อหาสาเหตุ
ทั้งนี้การเพาะเชื้อนั้นจะเก็บตัวอย่างจากบริเวณที่เป็นแผลและนำไปตรวจเพื่อดูว่า มีเชื้อแบคทีเรียอยู่ที่แผลหรือไม่ เมื่อสามารถระบุสาเหตุได้แล้ว แพทย์จะสามารถวางแผนการรักษาต่อไปได้
อย่างไรก็ตาม หากมีความเขินอาย หรือยังไม่มีเวลาไปพบแพทย์ด้วยตนเอง ปัจจุบันมีบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์เกี่ยวกับสุขภาพผู้หญิง เช่น โรคเริมที่อวัยวะเพศ โรคหูดหงอนไก่ ซึ่งสามารถโทรคุยแบบไม่เห้นหน้า หรือจะเลือกเป็นแบบวิดีโอคอลก็ได้
การดูแลตนเองเมื่อเป็นแผลที่อวัยวะเพศหญิง
หากมีแผลเกิดขึ้นที่อวัยวะเพศ คุณควรรีบไปพบแพทย์ทันที นอกจากนี้ยังสามารถดูแลตนเองเบื้องต้นได้ด้วยการนั่งแช่น้ำอุ่นเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด โดยอาจจะเติมน้ำเกลือ หรือเบกกิ้งโซดาลงไปในน้ำเล็กน้อย
ทำความสะอาดแผล และบริเวณอวัยวะเพศอย่างเหมาะสม และงดมีเพศสัมพันธ์จนกว่าจะหายดี
การรักษาแผลที่อวัยวะเพศหญิง
รูปแบบการรักษาที่จำเพาะนั้นจะขึ้นกับสาเหตุที่ทำให้เกิดแผล อาจมีการใช้ยาทาและยากินเพื่อรักษาแผลและบรรเทาอาการปวด ส่วนมากแพทย์จะสั่งจ่ายยาดังต่อไปนี้
- ยาปฏิชีวนะ
- ยาต้านไวรัส
- ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) หรือยาสเตียรอยด์ (Steroid)
- ยาแก้ปวด
- ยาไฮโดรคอร์ติโซน (Hydrocortisone) หรือยาช่วยลดอาการคัน
แผลที่อวัยวะเพศซึ่งเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น ถุงน้ำที่ไม่ใช่มะเร็งนั้นไม่จำเป็นต้องรักษาก็ได้ แต่หากผู้ป่วยรู้สึกรำคาญก็อาจให้แพทย์ช่วยตัดออกได้
การป้องกันแผลที่อวัยวะเพศหญิง
การมีเพศสัมพันธ์แบบปลอดภัยโดยใช้ถุงยางอนามัยกับคู่นอนทุกคน จะสามารถหยุดการแพร่กระจายโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่อาจทำให้เกิดแผลที่อวัยวะเพศได้
ผู้หญิงที่ได้รับการวินิจฉัยว่า เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ควรบอกคู่นอนของตนเอง และแนะนำให้คู่นอนมาตรวจรักษาเพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำและแพร่กระจายเชื้อไปสู่คู่นอนคนอื่นๆ อีก
นอกจากนี้ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่า เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั้น ควรงดมีเพศสัมพันธ์จนกว่าจะรักษาเสร็จสิ้น
ส่วนแผลที่อวัยวะเพศที่เกิดจากโรคผิวหนัง หรืออาการแพ้นั้นมักจะป้องกันได้ยากกว่า นอกจากต้องงดมีเพศสัมพันธ์แล้ว ยังควรหลีกเลี่ยงสารที่ทำให้ระคายเคือง เช่น สบู่ น้ำหอมที่มีกลิ่นแรง
ส่วนการเกิดถุงน้ำและขนคุดนั้นสามารถทำให้อัตราการเกิดลดลงได้ด้วยการทำความสะอาดบริเวณดังกล่าวให้ดี หลีกเลี่ยงการโกนบริเวณที่บวม แดง หรือมีการติดเชื้อ
ผลลัพธ์ระยะยาวจากแผล
ผลลัพธ์ในระยะยาวของแผลที่อวัยวะเพศผู้หญิงนั้นจะขึ้นอยู่กับสาเหตุ แต่ส่วนใหญ่แล้วแผลนั้นมักจะรักษาให้หายได้ แต่แผลที่เกิดจากโรคเริม หรือโรคผิวหนังเรื้อรังอาจจะกลับมาเป็นซ้ำได้อีก หากร่างกายอ่อนแอ หรือได้รับปัจจัยกระตุ้น
ส่วนผลลัพธ์ในการรักษาแผลจะได้ผลดีขนาดไหนนั้น ยังขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและระยะของโรค
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้รักษานั้นสามารถทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงต่อผู้หญิงได้ เช่น อุ้งเชิงกรานอักเสบ มีบุตรยาก มีแผลเป็นที่ระบบอวัยวะสืบพันธุ์
นอกจากนี้แผลที่อวัยวะเพศหญิงยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการท้องนอกมดลูกซึ่งเป็นภาวะที่อันตรายถึงชีวิตได้
ด้วยเหตุนี้คุณจึงควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการรักษาโรคเหล่านี้ในระยะยาวเพื่อควบคุมอาการ ป้องกันภาวะแทรกซ้อน และหลีกเลี่ยงการเกิดอาการซ้ำขึ้นอีก หรือเพื่อป้องกันไม่ให้โรคเหล่านี้เกิดขึ้นตั้งแต่แรก
ทันทีที่รู้ว่า ตนเองมีแผลที่อวัยวะเพศ ถึงแม้จะเป็นแผลเล็กๆ ที่ไม่น่าลุกลามใหญ่โตได้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบว่า แผลเกิดจากอะไร มีการติดเชื้อหรือไม่ เพื่อที่จะได้หาทางรักษาต่อไปและไม่ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนที่รุนแรงขึ้น
คำถามที่พบบ่อย