ตะคริวที่นิ้วเท้า ดูแล รักษา แก้ไขอย่างไร

ตะคริว (Muscle cramp) เป็นอาการปวดเกร็งกล้ามเนื้อที่พบได้บ่อยในคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในนักกีฬาหรือคนที่ออกกำลังกายอย่างหนัก หนึ่งในกล้ามเนื้อที่มีอาการเป็นตะคริวบ่อย คงหนีไม่พ้น นิ้วเท้า โดย ตะคริวที่นิ้วเท้า อาจไม่ได้เจ็บปวดทรมานมากเท่ากับตะคริวที่น่องหรือกล้ามเนื้ออื่นๆ แต่หากเกิดตะคริวที่นิ้วเท้าบ่อยๆ ก็อาจรบกวนชีวิตประจำวัน และเป็นอันตรายขณะทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ว่ายน้ำ หรือขับรถ ได้เช่นกัน

มีคำถามเกี่ยวกับ ตะคริว? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

ตะคริวเกิดจากอะไร?

ตะคริว เกิดจากการที่กล้ามเนื้อหดเกร็งกะทันหัน ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดตะคริวนั้นมีมากมาย ยกตัวอย่างเช่น

  • กล้ามเนื้อมีความตึงเครียดมาก จากการถูกใช้งานหรือออกแรงมากเกินไป
  • กล้ามเนื้อขาดเลือดไปเลี้ยงอย่างฉับพลัน
  • มีของเสียหรือสารพิษสะสมในเซลล์กล้ามเนื้อ เช่น สารตะกั่ว
  • การทำงานของระบบประสาทผิดปกติ เช่น ปลายประสาทอักเสบ
  • ร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่บางชนิด เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม
  • มีการติดเชื้อบาดทะยัก ซึ่งสารพิษของเชื้อทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็ง
  • เป็นผลจากยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาสแตตินสำหรับลดไขมันในเลือด ยาโลซิฟีนสำหรับรักษาโรคกระดูกพรุน เป็นต้น

ใครที่เสี่ยงต่อการเกิดตะคริวที่นิ้วเท้า?

คนที่มีปัจจัยเสี่ยงจะเกิดตะคริวที่นิ้วเท้าได้บ่อยๆ ได้แก่

  • นักกีฬาหรือคนที่ออกกำลังกายอย่างหนัก โดยไม่มีการวอร์มและยืดกล้ามเนื้ออย่างถูกวิธีก่อนออกกำลังกาย ทำให้เกิดตะคริวได้ขณะพัก
  • ผู้สูงอายุ ซึ่งมวลกล้ามเนื้อลดลง ทำให้กล้ามเนื้อเกิดความตึงเครียดได้ง่าย
  • หญิงตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นผลมาจากระดับฮอร์โมนและแร่ธาตุในร่างกายแปรปรวน
  • คนที่มีความผิดปกติของระบบประสาท เช่น มีภาวะปลายประสาทอักเสบ ซึ่งพบบ่อยในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
  • ผู้ที่มีภาวะร่างกายขาดน้ำและแร่ธาตุ เช่น มีอาการท้องเสีย อาหารเป็นพิษ
  • ผู้ป่วยโรคไต ซึ่งมีสมดุลเกลือแร่ในร่างกายผิดปกติ
  • ผู้ป่วยโรคตับ ซึ่งตับไม่สามารถกำจัดสารพิษได้ ทำให้มีสารพิษสะสมและเกิดกล้ามเนื้อหดเกร็ง
  • คนที่ได้รับสารพิษในปริมาณมาก เช่น สารปรอท สารตะกั่ว
  • ผู้ที่มีฮอร์โมนพาราไทรอยด์ต่ำ ทำให้แคลเซียมในเลือดต่ำ
  • ผู้ที่ติดเชื้อบาดทะยัก
  • คนที่มีไขมันในเลือดสูง และต้องรักษาด้วยยา statin หรือ nicotinic acid
  • คนที่ทานยาขับปัสสาวะเป็นประจำ

ตะคริวที่นิ้วเท้าอันตรายหรือไม่?

ตะคริวมักทำให้รู้สึกเจ็บ ปวดเกร็ง โดยปกติจะไม่มีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงหรือเป็นอันตราย

อย่างไรก็ตาม การเกิดตะคริวกะทันหันขณะทำกิจกรรมต่างๆ ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ เช่น เป็นตะคริวขณะว่ายน้ำ ขับรถ เดิน หรือวิ่ง อาการตะคริวที่นิ้วเท้า จึงเป็นอาการที่ไม่ควรชะล่าใจ

การแก้ไข/รักษาตะคริวที่นิ้วเท้า

หากเกิดอาการตะคริวที่นิ้วเท้าขึ้น ขณะเคลื่อนไหวร่างกายหรือทำกิจกรรมต่างๆ เรามีวิธีรักษาตะคริวแบบเฉพาะหน้า ดังนี้

  • หยุดพักกิจกรรมที่ทำอยู่ หากตะคริวที่นิ้วเท้าเกิดขึ้นขณะเดิน วิ่ง หรือออกกำลังกาย ให้หยุดและนั่งพักเพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัว จะทำให้อาการปวดเกร็งค่อยๆ ดีขึ้นได้
  • ยืดกล้ามเนื้อปลายนิ้วเท้า ให้ยืดเหยียดนิ้วเท้าและกล้ามเนื้ออุ้งเท้า โดยนั่งลงและจับนิ้วเท้าดันเข้าหาตัวจนรู้สึกตึงๆ ยืดค้างไว้ประมาณ 30 วินาที จนอาการปวดเกร็งหายไป หรืออีกวิธีหนึ่ง คือให้ใช้ฝ่าเท้าเหยียบลูกเทนนิสและคลึงไปมา จะเป็นการนวดกล้ามเนื้อบริเวณเท้า และทำให้อาการหดเกร็งดีขึ้นได้
  • นวดนิ้วเท้าและฝ่าเท้า ให้เราถอดรองเท้าและถุงเท้าออก จากนั้นใช้มือคลำหากล้ามเนื้อที่แข็งและเป็นตะคริว ใช้นิ้วโป้งกดนวดเบาๆ จนกล้ามเนื้อคลายตัวและอ่อนลง ซึ่งอาจทำไปพร้อมกับการยืดกล้ามเนื้อโดยวิธีดันนิ้วเท้าก็ได้
  • ประคบร้อน-ประคบเย็น หากอาการตะคริวนั้นรุนแรง หรือเป็นนาน และมีอุปกรณ์สำหรับประคบอยู่ใกล้ตัว ให้เริ่มจากการประคบร้อนโดยใช้ถุงน้ำร้อนหรือแผ่นประคบสำเร็จรูปมาวางตรงกล้ามเนื้อที่เป็นตะคริว จนอาการตะคริวหาย แต่หากยังรู้สึกปวดอยู่ ให้ประคบเย็นต่อโดยใช้ผ้าห่อน้ำแข็งหรือขวดน้ำเย็นๆ มาวางบนกล้ามเนื้อประมาณ 10-15 นาที

การป้องกันตะคริวที่นิ้วเท้า

  • ออกกำลังกายเป็นประจำ การออกกำลังกายจะช่วยให้กล้ามเนื้อที่เท้าแข็งแรงและยืดหยุ่น ช่วยยึดกล้ามเนื้อและเอ็น ลดอาการกล้ามเนื้อหดเกร็งตัว และป้องกันไม่ให้เกิดตะคริวบ่อยๆ ได้ การออกกำลังกายที่แนะนำ ได้แก่ การว่ายน้ำ เล่นโยคะ และเต้นแอโรบิก เป็นต้น
  • ยืดและคลายกล้ามเนื้ออย่างเหมาะสม ก่อนและหลังออกกำลังกาย ควรวอร์มและยืดกล้ามเนื้อให้เข้าที่ก่อนประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้กล้ามเนื้อที่ตึงตัวเกิดความยืดหยุ่น โดยอาจใช้วิธีนั่งเหยียดขา เหยียดปลายเท้า หรือยืนเขย่งปลายเท้าติดต่อกัน 15-20 ครั้ง
  • ใส่รองเท้าที่เหมาะกับสรีระ ควรเลือกรองเท้าที่มีขนาดพอดี และรับกับรูปเท้า หากต้องเดินมากๆ ควรสวมรองเท้าที่นุ่มสบาย และหลีกเลี่ยงรองเท้าส้นสูง หรือรองเท้าที่หน้าเท้าแคบเกินไป รวมถึงไม่ควรสวมรองเท้าที่ชำรุด ส้นเท้าสึก เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อที่นิ้วเท้าและฝ่าเท้าหดเกร็งอย่างต่อเนื่อง
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ บางครั้งอาการตะคริวก็เกิดขึ้นจากร่างกายขาดน้ำ ดังนั้น เราจึงควรดื่มน้ำมากๆ โดยเฉพาะคนที่ออกกำลังกาย และในระหว่างวันก็ควรจิบน้ำบ่อยๆ ด้วย
  • ทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารประเภทโปรตีนที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และผักผลไม้ที่มีแร่ธาตุจำเป็นครบถ้วน เนื่องจากภาวะที่ร่างกายขาดแร่ธาตุบางชนิด ก็อาจนำไปสู่การเกิดตะคริวได้เช่นกัน

เปรียบเทียบราคาแพ็กเกจตรวจสุขภาพ

มีคำถามเกี่ยวกับ ตะคริว? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

หากคุณติดตั้ง LINE บนคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว ระบบจะเปิดบัญชีทางการ LINE ของ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ โดยอัตโนมัติ

หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง LINE บนเดสก์ท็อป โปรดสแกน QR โค้ดด้วย LINE บนโทรศัพท์มือถือของคุณเพื่อเริ่มแชทกับ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ