vancomycin

Vancomycin (แวนโคไมซิน)

แวนโคไมซิน (Vancomycin) เป็นยาในกลุ่มยาปฏิชีวนะที่ใช้ในการรักษากันเชื้อแบคทีเรียแกรมบวกหลายชนิด รวมถึงรักษาอาการติดเชื้อผิวหนังโดยมีภาวะแทรกซ้อน ซึ่งมักนิยมฉีดโดยใช้วิธีฉีดเข้าหลอดเลือดดำ รวมถึงเพื่อรักษาภาวะอื่นๆ ด้วย เนอกจากนี้ แพทย์ยังมักนิยมใช้ยาในรูปแบบรับประทานเพื่อรักษาโรคลำไส้อักเสบจากการติดเชื้อคลอสไทรเดียม ดิฟิฟายล์ (Clostridium difficile) ระดับรุนแรง แต่การใช้ยาโดยวิธีรับประทาน จะมีการดูดซึมยาเพื่อนำไปใช้ได้น้อยกว่า

สรรพคุณและข้อบ่งใช้ของยา Vancomycin

  • รักษาและป้องกันเยื่อบุหัวใจอักเสบ
  • รักษาการติดเชื้อ staphylococcus อย่างรุนแรง หรือเชื้อแกรมบวกอื่น
  • รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียที่เยื่อบุหัวใจ
  • รักษาลำไส้อักเสบจากการติดเชื้อ staphylococcus
  • รักษาอาการท้องเสียจากการติดเชื้อ และลำไส้อักเสบ

กลไกการออกฤทธิ์ของยา Vancomycin

กลไกการออกฤทธิ์ของยาคือ Vancomycin เป็นยากลุ่มยาต้านเชื้อแบคทีเรีย การออกฤทธิ์ของมันเกิดขึ้นโดยจับกับดี-อะลานิล-ดี-อะลานิน (D-alanyl-D-alanine) ซึ่งเป็นองค์ประกอบตั้งต้นสำคัญในการสร้างผนังเซลล์

เมื่อเกิดการจับตัวกัน จึงทำให้เกิดการยับยั้งกระบวนการพอลิเมอไรเซชัน (polymerization) ของไกลโคเพปไทด์ (glycopeptide) ซึ่งนำไปสู่การยับยั้งกระบวนการสังเคราะห์ผนังเซลล์ และยังแวนโคไมซินยังมีฤทธิ์ในการทำลายเยื่อหุ้มเซลล์ของแบคทีเรีย ทำให้เซลล์แบคทีเรียไม่สามารถเจริญเติบโตและแบ่งตัวได้ ส่งผลให้แบคทีเรียตายไปในที่สุด

ข้อบ่งใช้ของยา Vancomycin

ข้อบ่งใช้สำหรับป้องกันเยื่อบุหัวใจอักเสบ

  • ยาในรูปแบบยาฉีดเข้าหลอดเลือดดำ
    • ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ 1 กรัมก่อนดมยาสลบ และอาจให้ยาในขนาด 1 กรัม 12 ชั่วโมงหลังจากการผ่าตัด

ข้อบ่งใช้สำหรับการติดเชื้อ staphylococcus รุนแรง หรือเชื้อแกรมบวกอื่น

  • ยาในรูปแบบยาฉีดเข้าหลอดเลือดดำ
    • ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ บริหารแบบ infusion 500 มิลลิกรัม ทุก 6 ชั่วโมง ระยะเวลาที่ใช้ในการบริหารยาอย่างน้อย 60 นาที หรือขนาด 1 กรัม ทุก 12 ชั่วโมง ระยะเวลาที่ใช้ในการบริหารยาอย่างน้อย 100 นาที
    • ขนาดการใช้ยาในผู้สูงอายุ จำเป็นต้องมีการปรับขนาดยา

ข้อบ่งใช้สำหรับการติดเชื้อแบคทีเรียที่เยื่อบุหัวใจ

  • ยาในรูปแบบยาฉีดเข้าหลอดเลือดดำ
    • ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ 1 กรัม ทุก 12 ชั่วโมงเป็นเวลา 4 ถึง 6 สัปดาห์ อาจใช้เป็นยาเดี่ยว หรือร่วมกับยาปฏิชีวนะอื่น
    • ขนาดการใช้ยาในผู้สูงอายุ จำเป็นต้องมีการปรับขนาดยา

ข้อบ่งใช้สำหรับลำไส้อักเสบจากการติดเชื้อ staphylococcus

  • ยาในรูปแบบยารับประทาน
    • ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ 0.5 ถึง 2 กรัมต่อวันแบ่งให้ยาสามถึงสี่ครั้ง เป็นเวลา 7 ถึง 10 วัน
    • ขนาดการใช้ยาในเด็ก 40 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน แบ่งให้ยาสามถึงสี่ครั้ง เป็นเวลา 7 ถึง 10 วันขนาดยาสูงสุด 2 กรัมต่อวัน
    • ขนาดการใช้ยาในผู้สูงอายุ จำเป็นต้องมีการปรับขนาดยา

ข้อบ่งใช้สำหรับอาการท้องเสียจากการติดเชื้อ และลำไส้อักเสบ

  • ยาในรูปแบบยารับประทาน
    • ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ 125 มิลลิกรัม วันละสี่ครั้ง เป็นเวลา 7 ถึง 10 วัน
    • ขนาดการใช้ยาในเด็ก 40 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน แบ่งให้ยาสามถึงสี่ครั้ง เป็นเวลา 7 ถึง 10 วัน ขนาดยาสูงสุด 2 กรัมต่อวัน
    • ขนาดการใช้ยาในผู้สูงอายุ จำเป็นต้องมีการปรับขนาดยา

ข้อปฏิบัติเมื่อลืมรับประทานยา Vancomycin

  • ในกรณีลืมรับประทานยาตามเวลาปกติที่รับประทาน ถ้าปกติรับประทาน 1 เม็ด ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้จำนวน 1 เม็ดโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เม็ดแทนเม็ดที่ลืมรับประทาน
  • ในกรณีลืมรับประทานยาใกล้กับเวลารับประทานถัดไป ให้รับประทานยาในมื้อถัดไปในขนาด 1 เม็ด โดยข้ามยาในมื้อที่ลืมไป และไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เม็ด

ข้อควรระวังของการใช้ยา Vancomycin

  • ไม่ใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่แพ้ยาแวนโคไมซิน
  • ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่แพ้ยาไทโคพลานิน (teicoplanin)
  • ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีการสูญเสียการได้ยินมาก่อนหน้านี้
  • ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีภาวะลำไส้อักเสบ
  • ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคไต
  • ระวังการใช้ยานี้ในสตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร และในผู้ป่วยสูงอายุ
  • ติดตามการได้ยินเสียงในระหว่างการใช้ยานี้

ผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา Vancomycin

ยานี้อาจก่อให้เกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ ได้แก่

  • กลุ่มอาการ Red-man syndrome ซึ่งมีอาการ คือ ผิวหนังร้อนแดง เกิดทั่วบริเวณใบหน้า และบริเวณลำตัวส่วนบน อาจมีอาการร่วมกับภาวะความดันโลหิตต่ำ และเกิดกลุ่มอาการคล้ายอาการช็อก
  • อาการแพ้แบบ Steven Johnson syndrome
  • หลอดเลือดอักเสบ
  • อาการแพ้ยาแบบ DRESS
  • นิวโทรฟิลต่ำอีโอสิโนฟิลต่ำ
  • เกล็ดเลือดต่ำ
  • เป็นพิษต่อหู
  • เป็นพิษต่อไต
  • หลอดเลือดดำผิวอักเสบ
  • รบกวนการทำงานของระบบทางเดินอาหาร
  • เกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง ได้แก่ อาการติดเชื้อ Pseudomembrane Colitis (PMC) ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาปฏิชีวนะ

ข้อมูลการใช้ยา Vancomycin ในสตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร

สำหรับการใช้ยาในสตรีมีครรภ์ ตัวยาจัดอยู่ในกลุ่ม category B คือ ยาค่อนข้างมีความปลอดภัยในการใช้ยาในสตรีมีครรภ์ และยาฉีดจัดอยู่ในกลุ่ม Category C

ประเภทของยาตามองค์การอาหารและยาในประเทศไทย

ยาจัดอยู่ในกลุ่มยาอันตราย จำหน่ายเฉพาะในร้านขายยาแผนปัจจุบันที่มีเภสัชกรชั้นหนึ่งเป็นผู้จ่ายยาเท่านั้น

ข้อมูลการเก็บรักษายา Vancomycin

  • ยาในรูปแบบยาแคปซูล เก็บที่อุณหภูมิระหว่าง 15 ถึง 30 องศาเซลเซียส
  • ยาในรูปแบบยาผงสำหรับละลาย เก็บที่อุณหภูมิระหว่าง 2 ถึง 8 องศาเซลเซียส

สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์ เภสัชกร และพยาบาลในการสั่งใช้ยา

แพทย์ และเภสัชกรสามารถให้ข้อมูลการใช้ยาอย่างปลอดภัย ผู้ป่วยควรแจ้งข้อมูลเหล่านี้แก่แพทย์ หรือเภสัชกรเพื่อประโยชน์ต่อผู้ป่วย และลดความเสี่ยงในการเกิดอันตรายจากการใช้ยา

  • แจ้งข้อมูลการใช้ยารักษาโรคประจำตัว ยาที่เพิ่งรับประทานก่อนหน้านี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่รับประทาน (รวมถึงวิตามิน และสมุนไพร)
    ในกรณีมียาประจำตัวจำนวนมาก ให้พกยาเพื่อให้แพทย์หรือเภสัชกรช่วยตรวจสอบก่อนสั่งจ่ายยาใหม่ ไม่ให้เกิดอันตรกิริยาระหว่างยาที่จะได้รับใหม่ และยาที่เดิมที่ผู้ป่วยใช้อยู่
  • แจ้งประวัติการแพ้ยา หรืออาการแพ้ที่เกิดขึ้นเมื่อใช้ยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือแพ้อาหารชนิดใดอยู่ (เนื่องจากยาบางชนิดมีส่วนประกอบของไข่ขาว นม ยีสต์)
    โดยตัวอย่างอาการแพ้ยาที่เกิดขึ้น เช่น อาการบวม เกิดผื่น หายใจลำบาก หรือให้นำบัตรแพ้ยา พกติดตัว และแสดงบัตรนี้แก่แพทย์ หรือเภสัชกรก่อนเข้าใช้บริการสุขภาพทุกครั้ง
  • แจ้งข้อมูลในกรณีที่มีการตั้งครรภ์ หรือมีแผนที่จะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เนื่องจากยาบางชนิดส่งผลอันตรายต่อเด็กในครรภ์ หรือสามารถขับออกทางน้ำนมได้
  • แจ้งข้อมูลที่จะส่งผลต่อการรับประทานยา เช่น มีปัญหาการกลืนลำบาก มีปัญหาด้านการมองเห็น หรืออ่านฉลากยา วิธีการรับประทานยา เพื่อแพทย์หรือเภสัชกรจะได้ช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง
Scroll to Top