โรคมะเร็งที่หัวนม Pagets disease of the nipple scaled

โรคมะเร็งที่หัวนม (Paget’s disease of the nipple)

หลายคนคงรู้จักโรคมะเร็งเต้านม แต่น้อยคนที่จะรู้จักโรคมะเร็งหัวนม เพราะเป็นโรคที่พบได้น้อยมากๆ เรามารู้จักโรคนี้พร้อมๆ กันว่า โรคนี้มีสาเหตุเกิดจากอะไร มีวิธีรักษาหรือไม่

ความหมายของโรคมะเร็งหัวนม

โรคมะเร็งที่หัวนม (Paget’s disease of the nippleหรือ Paget’s disease of the breast) เป็นโรคมะเร็งที่เกิดบริเวณหัวนม โดยจะเกิดที่ผิวหนังหัวนมข้างใดข้างหนึ่ง ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่หัวนมจะมีอาการหลักๆ ดังต่อไปนี้

  • ผิวหนังอักเสบเป็นขุย หรือตกสะเก็ดคล้ายกับโรคสะเก็ดเงิน
  • มีผื่นแดงที่หัวนม และค่อยๆ ขยายไปที่เนื้อเยื่อรอบๆ หรือที่เราเรียกกันว่า “ปานนม”
  • มีเลือดออกบริเวณหัวนม
  • รู้สึกคันที่หัวนม

ผู้หญิงหลายคนอาจมีอาการคัดตึง หรือคันเต้านม และหัวนมในบางช่วงเวลาได้ โดยอาจเป็นผลมาจากฮอร์โมน หรือช่วงใกล้มีประจำเดือน แต่อย่าเพิ่งตื่นตระหนกว่า ตนเองอาจมีอาการเป็นโรคมะเร็งหัวนม เพราะโอกาสเป็นโรคนี้มีได้น้อยมากๆ

อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงทุกคนก็ควรเข้าตรวจความเสี่ยงโรคมะเร็งสำหรับผู้หญิง และความเสี่ยงโรคมะเร็งอื่นๆ ตามอายุ หรือปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เพื่อความมั่นใจ และจะได้หาทางรักษาทันเวลา หากพบว่า มีโอกาสเป็นโรคมะเร็งชนิดใดๆ ก็ตาม

ชนิดของโรคมะเร็งหัวนม

โรคมะเร็งหัวนมสามารถแบ่งออกได้2ชนิด คือ

  • โรคมะเร็งหัวนมชนิดรุกราน (Invasive)เกิดจากเซลล์มะเร็งเติบโต และลุกลามแพร่กระจายไปรอบๆ เนื้อเยื่อเต้านม
  • โรคมะเร็งหัวนมชนิดไม่รุกราน (non-invasive)เกิดจากเซลล์มะเร็งอยู่ในบริเวณใดบริเวณหนึ่งของเต้านมอยู่แล้ว หรืออาจมากกว่า 1 บริเวณ แต่ไม่สามารถแพร่กระจายเชื้อลุกลามออกไปได้

จากชนิดของโรคมะเร็งหัวนมที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมบางส่วนอาจมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งหัวนมได้ แต่ก็ยังเป็นไปได้น้อยอยู่ดี

แต่หากถามว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมกลุ่มใดเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งหัวนมที่สุด ก็ต้องตอบว่า คือ ผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมชนิดลุกลาม (Invasive breast cancer)

ปัจจัยเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งหัวนม

มีปัจจัยเสี่ยงมากมายที่ทำให้เสี่ยงเป็นโรคมะเร็งหัวนมได้ เช่น

  • อายุที่มากขึ้น
  • มีน้ำหนักตัวน้อย
  • อยู่ในวัยหมดประจำเดือน
  • ประวัติมีคนในครอบครัวเป็นโรคมะเร็ง
  • เคยได้รับการวินิจฉัยว่า เป็นโรคมะเร็งเต้านมมาก่อน
  • มีพฤติกรรมบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำ

การวินิจฉัยโรคมะเร็งหัวนม

หากพบว่า หัวนม หรือปานนมมีความผิดปกติ เช่น ผิวหนังมีสีเข้มขึ้น มีผื่นแดง หรือผิวหนังหัวนมตกสะเก็ดอย่างที่ไม่เคยเป็น รู้สึกคันหัวนมมาก และรู้สึกกังวล ไม่สบายใจ ก็สามารถไปตรวจกับแพทย์ได้

โดยในเบื้องต้นแพทย์อาจสอบถามประวัติสุขภาพ โดยเฉพาะหากคุณมีประวัติเป็นโรคเกี่ยวกับผื่นผิวหนังอักเสบมาก่อน รวมถึงประวัติการใช้ยา ปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ น้ำหนักตัว

หลังจากนั้นแพทย์อาจทดสอบ หรือตรวจด้วยวิธีอื่นๆ เพิ่มเติมอีกเพื่อให้แน่ใจว่า “คุณมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งหัวนมหรือไม่” เช่น การทำแมมโมแกรม (Mammogram) การทำอัลตราซาวด์ (Ultrasound) การส่งตรวจชิ้นเนื้อ (Skin biopsy)

วิธีรักษาโรคมะเร็งหัวนม

โรคมะเร็งหัวนมมีความสัมพันธ์กับโรคมะเร็งเต้านม ดังนั้นวิธีรักษาจึงจะคล้ายกัน

การผ่าตัดเป็นทางเลือกแรกที่แพทย์จะแนะนำในการรักษา โดยมักจะใช้การผ่าตัดอยู่ 2 ชนิดหลักๆ ได้แก่

  • การผ่าตัดแบบตัดเต้านมออกทั้งหมด (mastectomy)
  • การผ่าตัดแบบสงวนเต้านมไว้ (Breast-conserving surgery)

และหลังจากนั้นแพทย์อาจใช้การรักษาอื่นๆ เข้ามารักษาให้โรคมะเร็งหัวนมหายขาดได้ เช่น

  • ยาเคมีบำบัด (Chemotherapy)เป็นการรักษาโดยการใช้ยาเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง
  • การให้รังสีรักษา (Radiotherapy)เป็นการรักษาโดยฉายรังสีพลังงานสูงเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง
  • การใช้ชีวบำบัด หรือฮอร์โมนบำบัด (Biological or Hormone therapy)

การป้องกันโรคมะเร็งหัวนม

การป้องกันโรคมะเร็งหัวนมจะคล้ายกับการป้องกันโรคมะเร็งเต้านม และโรคร้ายอื่นๆ เช่นกัน ได้แก่

  • ออกกำลังกายเป็นประจำ โดยควรออกกำลังกายอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ วันละ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม อย่าปล่อยให้ตนเองมีความเสี่ยงเป็นภาวะอ้วน หรือเป็นโรคเบาหวาน
  • หากเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ให้หมั่นไปตรวจร่างกาย และปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการดูแลตนเองด้วย โดยเฉพาะคุณต้องการเข้ารับฮอร์โมนบำบัดเพื่อรักษาอาการเกี่ยวกับวัยหมดประจำเดือน
  • รับประทานยา โดยยาที่มักถูกใช้เพื่อลดความเสี่ยงในผู้หญิงที่เป็นโรคมะเร็งเต้านม คือ ยาทาม็อกซ์ซีเฟน (Tamoxifen) และยาราโลซีฟีน (Raloxifene) แต่ควรใช้ยานี้ในการดูแลของแพทย์
  • เข้ารับการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านม เพราะโรคมะเร็งหัวนมมีความเกี่ยวพันกับโรคมะเร็งเต้านมอย่างมาก หากรักษาโรคนี้ได้ทันเวลา โอกาสเป็นโรคมะเร็งหัวนมก็จะน้อยลงไปด้วย

โรคมะเร็งหัวนมอาจเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่โรคนี้จะเกิดขึ้นได้ไม่ต่างจากโรคร้ายหลายๆ โรคที่ยากจะเกิดขึ้น แต่ก็ยังสร้างความสูญเสียให้กับผู้คนมากมายบนโลกใบนี้

เพื่อป้องกันการเกิดโรคมะเร็งหัวนมและโรคมะเร็งชนิดอื่นๆ คุณต้องหมั่นดูแลสุขภาพของตนเอง และไปตรวจสุขภาพกับแพทย์เป็นประจำทุกปี เพื่อจะได้รู้เท่าทันโรคภัยที่หลายคนคิดว่า เกิดขึ้นได้ยาก และคงไม่เกิดขึ้นกับตนเอง

หากตรวจพบความผิดปกติ จะได้รีบหาทางรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป


ตรวจสอบความถูกต้องโดย นพ. วรพันธ์ พุทธศักดา


ที่มาของข้อมูล

Scroll to Top