เด็ก ๆ มีโอกาสเจ็บป่วยหรือติดเชื้อโรคได้ง่าย การได้รับวัคซีนตามช่วงวัยจะสร้างภูมิต้านทานต่อโรคต่าง ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และช่วยส่งเสริมให้เด็กมีสุขภาพแข็งแรงสมวัย สำหรับเด็กแรกเกิด ไปจนถึงอายุ 12 จะมีวัคซีนแตกต่างกันออกไปตามวัย
บทความนี้ ได้รวบรวมลิสต์วัคซีนพื้นฐาน และวัคซีนเสริมปี มาฝาก เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่วางแผนการรับวัคซีนของลูกได้อย่างเหมาะสม
วัคซีนเด็กจำเป็นอย่างไร
การฉีดวัคซีนจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเด็กสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรคต่าง ๆ ตามชนิดของวัคซีนนั้น ๆ จึงช่วยป้องกันการติดเชื้อที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ หากเกิดการติดเชื้อแล้ว ยังช่วยลดความรุนแรงของอาการ ภาวะแทรกซ้อน และการเสียชีวิตที่อาจเกิดจากการติดเชื้อได้
วัคซีนพื้นฐานของเด็ก แรกเกิด–12 ปี
ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดให้เด็กทุกคนควรได้รับวัคซีนจำเป็นขั้นพื้นฐาน (วัคซีนหลัก) เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันตามช่วงวัย ดังนี้
อายุ |
วัคซีนพื้นฐาน |
แรกเกิด |
- วัคซีนบีซีจี ป้องกันวัณโรค เข็มที่ 1 (BCG1)
- วัคซีนตับอักเสบบี เข็มที่ 1 (HBV1)
|
1 เดือน |
- วัคซีนตับอักเสบบี เข็มที่ 2 (HBV2) เฉพาะเด็กที่เกิดจากแม่ที่เป็นพาหะไวรัสตับอักเสบบี
|
2 เดือน |
- วัคซีนรวม 5 โรค* หรือวัคซีนรวมป้องกันคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน ไวรัสตับอักเสบบี และฮิบ เข็มที่ 1 (DTP-HB-Hib1)
- วัคซีนโปลิโอ ชนิดฉีด ครั้งที่ 1 (IPV1)
- วัคซีนโรต้า ครั้งที่ 1 (Rota1)
|
4 เดือน |
- วัคซีนรวม 5 โรค หรือวัคซีนรวมป้องกันคอตีบ บาดทะยัก ไอกรนชนิดทั้งเซลล์ ไวรัสตับอักเสบบี และฮิบ เข็มที่ 2 (DTwP-HB-Hib2)
- วัคซีนโปลิโอ ชนิดฉีด ครั้งที่ 2 (IPV2)
- วัคซีนโรต้า ครั้งที่ 2 (Rota2)
|
6 เดือน |
- วัคซีนรวม 5 โรค หรือวัคซีนรวมป้องกันคอตีบ บาดทะยัก ไอกรนชนิดทั้งเซลล์ ไวรัสตับอักเสบบี และฮิบ เข็มที่ 3 (DTwP-HB-Hib3)
- วัคซีนโปลิโอ ชนิดรับประทาน ครั้งที่ 3 (OPV3)
- วัคซีนโรต้า ครั้งที่ 3 (Rota3) เฉพาะชนิดให้ 3 ครั้ง
|
9–12 เดือน |
- วัคซีนรวมป้องกันหัด คางทูม หัดเยอรมัน เข็มที่ 1 (MMR1)
- วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี ชนิดเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ เข็มที่ 1 (LAJE1)
|
1 ปี 6 เดือน |
- วัคซีนรวมป้องกันหัด คางทูม หัดเยอรมัน เข็มที่ 2 (MMR2)
- วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอ ชนิดรับประทาน กระตุ้นครั้งที่ 1 (OPV)
- วัคซีนรวมป้องกันคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน กระตุ้นครั้งที่ 1 (DTaP หรือ DTwP กระตุ้น1)
|
2–2 ปี 6 เดือน |
- วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี ชนิดเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ เข็มที่ 1 (LAJE2)
|
4–6 ปี |
- วัคซีนรวมป้องกันคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน กระตุ้นครั้งที่ 2 (DTaP หรือ DTwP กระตุ้น2)
- วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอ ชนิดรับประทาน กระตุ้นครั้งที่ 2 (OPV2)
|
8–12 ปี |
- วัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ–บาดทะยัก (Td) ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้เด็กในช่วงวัยรุ่น และควรได้รับทุก ๆ 10 ปี
- วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) แนะนำให้ฉีดในช่วงอายุ 11–12 ปี ทั้งเพศหญิงและเพศชาย จำนวน 2 เข็ม โดยเว้นระยะห่าง 6–12 เดือน แต่สามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9–26 ปี
|
*หมายเหตุ: ตามแผนการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่กลางปี 2562 จะใช้วัคซีนรวม 5 โรค ประกอบด้วยโรคคอตีบ–บาดทะยัก–ไอกรน–ไวรัสตับอักเสบบี–ฮิบ แทนวัคซีนรวมคอตีบ–บาดทะยัก–ไอกรน–ไวรัสตับอักเสบบี
หากลูกน้อยได้รับวัคซีนไม่ครบ หรือยังไม่เคยได้รับวัคซีนกลุ่มนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อวางแผนการฉีดวัคซีนพื้นฐานให้ครบ
วัคซีนเสริมของเด็ก แรกเกิด–12 ปี
นอกจากวัคซีนพื้นฐานแล้ว ยังมีวัคซีนเสริม (วัคซีนทางเลือก) ที่แนะนำให้ฉีดเสริมตามความเหมาะสม หรือความเสี่ยงของเด็กแต่ละคน เพื่อป้องกันโรคอื่น ๆ ได้อย่างครอบคลุม บางวัคซีนเสริมสามารถใช้ทดแทนวัคซีนพื้นฐานได้ คุณพ่อคุณแม่ที่สนใจ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพิ่มเติม
ตัวอย่างวัคซีนเสริมที่อาจพิจารณาให้ลูกฉีดเพิ่มเติม เช่น
อายุ |
วัคซีนเสริม |
6 สัปดาห์–5 ปี |
- วัคซีนป้องกันโรคจากเชื้อนิวโมคอคคัส หรือวัคซีนไอพีดี (IPD) วัคซีนเด็กเล็กมี 2 ชนิด ขึ้นอยู่กับจำนวนสายพันธุ์ของเชื้อที่ป้องกันได้ เริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 สัปดาห์–5 ปี จำนวน 1–4 ครั้ง ขึ้นอยู่กับช่วงอายุที่เริ่มฉีด
|
2, 4, 6 เดือน |
- วัคซีนรวม 6 โรค หรือวัคซีนรวมป้องกันคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน โปลิโอ ไวรัสตับอักเสบบี และฮิบ (DTP-HB-Hib) ฉีดได้ที่อายุ 2, 4 และ 6 เดือน
|
6 เดือนขึ้นไป |
- วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป ปีละ 1 ครั้ง จำนวน 1 เข็ม หากเด็กอายุต่ำกว่า 9 ปี ให้ฉีด 2 เข็ม แต่ละเข็มห่างกัน 1 เดือน
- วัคซีนป้องกันโรคมือ เท้า ปาก หรือวัคซีนอีวี 71 (EV71) เริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน ไปจนถึงอายุไม่เกิน 6 ปี ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน
- วัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบ เจ อี ชนิดเชื้อตาย ฉีด 3 เข็ม เริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน เข็มถัดไปฉีดห่าง 1–4 สัปดาห์ และ 1 ปี ตามลำดับ
|
1 ปี ขึ้นไป |
- วัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส เริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 1 ปีขึ้นไป เข็มแรกแนะนำให้ฉีดในช่วงอายุ 1 ปี–1 ปี 6 เดือน และเข็มที่ 2 ฉีดห่างกัน 1–3 เดือน ขึ้นอยู่กับช่วงอายุ
- วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด–คางทูม–หัดเยอรมัน–อีสุกอีใส (MMRV) เป็นวัคซีนเข็มรวมที่ทดแทนการฉีดวัคซีนรวมโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน กับวัคซีนอีสุกอีใส แบบเข็มแยก ฉีดได้ในเด็กอายุ 1–12 ปี
|
1 ปี 6 เดือน ขึ้นไป |
- วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอ ชนิดเชื้อเป็น ฉีด 1 เข็ม เมื่ออายุ 1 ปี 6 เดือนขึ้นไป หรือชนิดเชื้อตาย ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 6–12 เดือน
|
4–6 ปี ขึ้นไป |
- วัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก ชนิด 3 เข็ม สำหรับคนที่เคยเป็นไข้เลือดออกแล้ว อายุ 6–45 ปี และชนิด 2 เข็ม สำหรับคนที่เคยและไม่เคยเป็นไข้เลือดออกมาก่อน อายุ 4–60 ปี ห่างกัน 3–6 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดวัคซีน
|
7 ปี ขึ้นไป |
- วัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ–บาดทะยัก–ไอกรน (Tdap) ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้เด็กในช่วงวัยรุ่น และควรได้รับทุก ๆ 10 ปีถัดไป
|
ทุกช่วงวัย |
- วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ฉีดได้ทุกช่วงวัย จำนวน 2 เข็ม แต่ละเข็มห่างกัน 7 วัน แนะนำให้ฉีดก่อนได้รับเชื้อ
|
นอกจากวัคซีนเหล่านี้ อาจมีวัคซีนเสริมอื่น ๆ ที่แพทย์แนะนำให้เด็กได้รับตามความเหมาะสม หรือความเสี่ยงของเด็กแต่ละคน
วิธีดูแลเด็กหลังฉีดวัคซีน
หลังฉีดวัคซีนอาจเกิดอาการข้างเคียงเล็กน้อย เช่น มีไข้ต่ำ ๆ มีอาการปวด บวม แดงบริเวณที่ฉีด ง่วงนอน อ่อนเพลีย ซึ่งเป็นอาการปกติที่พบได้ และมักดีขึ้นเองภายใน 1–2 วัน
ผู้ปกครองควรให้ลูกพักผ่อนเพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ ประคบเย็นบริเวณที่ปวดบวม หากมีไข้ให้เช็ดตัว และอาจให้ยาลดไข้ตามคำแนะนำของแพทย์ อย่างไรก็ตาม หากลูกมีไข้สูง หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ เช่น บวมอย่างรุนแรง หายใจลำบาก หรือเกิดผื่นทั่วตัว ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
ลืมพาลูกไปฉีดวัคซีนตามกำหนด ทำอย่างไร
กรณีวัคซีนที่ต้องให้มากกว่า 1 ครั้ง หากลืมหรือไม่สามารถพาลูกไปฉีดวัคซีนตามนัดหมายได้ แต่ยังไม่เลยกำหนดนัดหมายครั้งที่ 2 โดนยทั่วไปยังสามารถรับวัคซีนชนิดนั้น ๆ ต่อได้ทันทีโดยไม่ต้องเริ่มเข็มแรกใหม่
ทั้งนี้ วัคซีนแต่ละชนิดอาจมีเงื่อนไขในการฉีดแตกต่างกันได้ เบื้องต้นให้โทรสอบถามทางสถานพยาบาลอีกครั้ง หากกำลังวางแผนให้ลูกฉีดวัคซีน HDmall.co.th มัดรวมแพ็กเกจวัคซีนเด็ก จากสถานพยาบาลใกล้บ้าน เลือกเปรียบเทียบราคาได้ก่อน พร้อมจองราคาพิเศษได้ทันที