things should know before treating keloid treatments faq

9 ข้อต้องรู้ก่อนฉีดคีลอยด์ รักษาแผลคีลอยด์

คีลอยด์เป็นแผลเป็นนูนที่มักขยายใหญ่ออกนอกขอบเขตบาดแผลเดิม มักก่อให้เกิดอาการคัน บางคนจะรู้สึกเจ็บ ผิวตึงรั้ง ปกติแล้วแผลคีลอยด์ไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ แต่ส่งผลต่อความสวยงาม และกระทบต่อสภาพจิตใจ โดยเฉพาะแผลคีลอยด์ขนาดใหญ่

อยากรักษาคีลอยด์ให้หาย แต่ยังสงสัยปนกังวลใจ รักษาวิธีไหนดี ฉีดคีลอยด์กี่ครั้งถึงหาย เจ็บไหมตอนฉีด แล้วเจ้าแผ่นแปะช่วยอะไร ทายาเองจะหายไหม รักษาแล้วจะกลับมาเป็นซ้ำหรือเปล่า จำเป็นต้องผ่าตัดเลยไหม ทุกข้อสงสัยมีคำตอบ เตรียมพร้อมหาข้อมูลก่อนไปหาคุณหมอผิวกัน!  

1. คีลอยด์หายเองได้ไหม

ตอบ: คีลอยด์ไม่สามารถหายได้เอง แต่จะยิ่งโตนูนขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ต่างจากแผลเป็นนูนอีกแบบที่คล้ายกัน เรียกว่า ไฮเปอร์โทรฟิก (Hypertrophic scar: HS) ซึ่งจะไม่โตจนเกินขอบแผล และค่อย ๆ ยุบลงได้เองหลังผ่าน 6–12 เดือนไปแล้ว   

2. รักษาคีลอยด์ด้วยตัวเองได้ไหม

ตอบ: คีลอยด์ขนาดเล็กที่เพิ่งนูนขึ้นมา ยังพอรักษาด้วยตัวเองได้ แต่อาจมีประสิทธิภาพต่ำกว่าการรักษาจากแพทย์ผิวหนัง หากเป็นคีลอยด์มานาน หรือคีลอยด์มีขนาดใหญ่แล้ว ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับแผล

ทั้งนี้ การดูแลคีลอยด์เบื้องต้นที่ทำได้เอง จะเป็นการดูแลไม่ให้แผลนูนโตมากขึ้น เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง หรือลดอาการอักเสบด้วยการนวด การใช้แผ่นแปะซิลิโคนเจล ยารักษาแผลเป็น รวมถึงทายาแก้คันตามคำแนะนำของเภสัชกร

3. แผลคีลอยด์ควรทายาอะไร

ตอบ: หากแผลคีลอยด์มีขนาดเล็กหรือเพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน สามารถทายาลดรอยแผลเป็น หรือยาซิลิโคนเจล จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหนังและสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ลดการขยายตัวของแผลเป็นใหม่ ซึ่งผลหลังการใช้ยาอาจต่างกันไปในแต่ละคน 

4. แผ่นแปะคีลอยด์ แผ่นแปะซิลิโคน ช่วยอะไรได้บ้าง

ตอบ: แผ่นแปะซิลิโคนเจลจะช่วยลดโอกาสเกิดคีลอยด์ ลดการขยายตัวของรอยแผลเป็น เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง และลดอาการอักเสบได้ แนะนำให้ปิดทับแผลคีลอยด์ไว้นาน 12–24 ชั่วโมงต่อวัน ใช้ติดต่อกันราว 4–6 เดือนหรือนานกว่านั้น จึงจะเห็นผลดี

อย่างไรก็ตาม แผนแปะคีลอยด์ก็มีข้อจำกัด โดยจะเหมาะกับแผลคีลอยด์เกิดใหม่เท่านั้น การแปะไว้นาน ๆ ตลอดหลายเดือนอาจทำให้ไม่สบายตัวหรือใช้ชีวิตไม่สะดวก อีกทั้งยังแปะผิวหนังตรงช่วงข้อต่อที่ขยับอยู่ตลอดไม่ได้

5. ฉีดคีลอยด์คืออะไร ฉีดกี่ครั้งหาย

ตอบ: การฉีดคีลอยด์คือ การฉีดยาสเตียรอยด์เข้าสู่แผลคีลอยด์โดยตรง เช่น ยาไตรแอมซิโนโลน (Triamcinolone) เพื่อลดอาการอักเสบ และยับยั้งการทำงานของเซลล์ผิวหนัง วิธีนี้จะช่วยให้แผลคีลอยด์ยุบตัว นุ่ม เรียบเนียนมากขึ้น ช่วยบรรเทาอาการปวดหรือคันได้

จำนวนครั้งการฉีดคีลอยด์จะขึ้นอยู่กับแผลคีลอยด์ และการตอบสนองต่อการรักษาของแต่ละคน จึงไม่สามารถบอกได้แน่ชัดว่าฉีดกี่ครั้งคีลอยด์ถึงหาย โดยทั่วไปแนะนำให้ฉีด 1 เข็มต่อเดือน หรือราว 4–6 สัปดาห์ หากฉีดติดต่อกัน 4–5 เข็มแล้วไม่ดีขึ้น อาจต้องใช้วิธีอื่นรักษาร่วมด้วย

กรณีที่ฉีดยาสเตียรอยด์แล้วผลการรักษาไม่ดีเท่าที่ควร แพทย์อาจฉีดยาระงับการเจริญเติบโตของก้อน (Anti-neoplastic drugs) แทน ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งของการรักษาคีลอยด์ที่ให้ผลการรักษาที่ดี และลดผลข้างเคียงจากยาฉีดสเตียรอยด์เพียงอย่างเดียว

6. ฉีดคีลอยด์เจ็บไหม

ตอบ: การฉีดคีลอยด์เป็นการฉีดยาสเตียรอยด์เข้าสู่แผลคีลอยด์โดยตรง จึงอาจรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย แพทย์อาจผสมยาชาเข้าไปกับตัวยาที่ใช้ฉีดด้วย เพื่อช่วยบรรเทาหรือลดอาการเจ็บปวด     

7. ฉีดคีลอยด์มีผลข้างเคียงไหม

ตอบ: การฉีดคีลอยด์ภายใต้การดูแลของแพทย์มีความปลอดภัย แต่ยาทุกชนิดย่อมมีผลข้างเคียงไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะการใช้ยาปริมาณความเข้มข้นสูง หรือฉีดเป็นเวลานาน ซึ่งจะแตกต่างกันตามแต่ละคน 

ผลข้างเคียงจากการฉีดยาสเตียรอยด์ที่อาจพบได้ เช่น ผิวบางลง ผิวเป็นรอยขาว เห็นเส้นเลือดชัดขึ้น ผิวแตกลาย หรือผิวเปลี่ยนสีไปจากเดิม 

หากพบผลข้างเคียงดังกล่าว หรือมีอาการผิดปกติใด ๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที เพื่อรับการรักษาเพิ่มเติม หรือปรับปริมาณและระยะเวลาการใช้ยาให้เหมาะสม 

8. เป็นแผลคีลอยด์ต้องผ่าตัดเท่านั้นจริงไหม

ตอบ: แผลคีลอยด์ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเสมอไป การรักษาคีลอยด์แบบไม่ผ่าตัดก็มีประสิทธิภาพสูงไม่แพ้กัน เช่น การฉีดคีลอยด์ การเลเซอร์ หรือการจี้เย็น 

การผ่าตัดนั้นจำเป็นต่อเมื่อแผลคีลอยด์มีขนาดใหญ่ หรือการรักษาอื่น ๆ ใช้ไม่ได้ผล แพทย์อาจแนะนำให้ผ่าตัดคีลอยด์ออก หรือผ่าตัดคีลอยด์ร่วมกับการรักษาวิธีอื่นด้วยนั่นเอง 

9. แผลคีลอยด์รักษาหายไหม กลับมาเป็นซ้ำไหม

ตอบ: คีลอยด์รักษาให้หายได้ แต่บางคนอาจไม่หายสนิท ยังคงทิ้งร่องรอยของแผลไว้อยู่บ้าง เช่น มีขนาดเล็กลง หรือสีจางลง ซึ่งผลการรักษาคีลอยด์จะขึ้นอยู่กับลักษณะของแผลคีลอยด์ สภาพผิว วิธีรักษาคีลอยด์ และการดูแลผิวหลังเกิดแผลร่วมด้วย

แผลคีลอยด์ขนาดเล็กหรือเกิดใหม่ไม่เกินปี มักจะรักษาด้วยการฉีดยาสเตียรอยด์ เดือนละ 1 ครั้ง เพื่อลดการอักเสบ ยับยั้งการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้แผลเป็นยุบ และเรียบเนียนไปกับผิวหนัง

ส่วนแผลคีลอยด์ขนาดใหญ่หรือเป็นมานานหลายปี อาจต้องใช้วิธีอื่น ๆ หรือหลายวิธีร่วมกัน เพื่อป้องกันคีลอยด์กลับมาเป็นซ้ำ เช่น 

  • การเลเซอร์คีลอยด์ (Laser) โดยยิงเลเซอร์พลังงานสูงกำจัดเนื้อเยื่อคีลอยด์ส่วนเกิน
  • การจี้แผลคีลอยด์ด้วยความเย็นจัด (Cryotherapy) 
  • การฉายรังสีเอกซเรย์พลังงานต่ำ (X-ray) อาจทำร่วมกับการผ่าตัด โดยเฉพาะแผลเป็นที่มีขนาดใหญ่ เพื่อลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำให้ได้มากที่สุด
  • การผ่าตัดคีลอยด์ร่วมกับการฉีดคีลอยด์ โดยจะผ่าตัดคีลอยด์ส่วนเกินออกก่อน แล้วค่อยฉีดยาสเตียรอยด์ ช่วยป้องกันการเกิดคีลอยด์ซ้ำจากการผ่าตัด

คำถามเกี่ยวกับการรักษาคีลอยด์ทั้ง 9 ข้อที่หยิบยกมาฝากกัน อาจยังคลายข้อสงสัยได้ไม่ทั้งหมด แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ถึงการรักษาแต่ละวิธีอย่างละเอียด รวมถึงข้อดี และข้อจำกัด เพื่อให้ได้วิธีรักษาที่เหมาะสม ลดโอกาสการเกิดซ้ำ และผลข้างเคียงจากการรักษาได้

อย่าคิดว่าเป็นคีลอยด์แล้วไม่หาย ลองปรึกษาคุณหมอก่อน คลิกเลย! แพ็กเกจรักษาคีลอยด์ ราคาดีที่ HDmall.co.th โปรดีทบแล้วทบอีก ช้าหมดอดนะ

Scroll to Top