ผดร้อน หรือผื่นคันในหน้าร้อน เป็นอาการที่เกิดได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ มักพบในบริเวณข้อพับแขน ขา คอ รักแร้ เอว หรือใต้ราวนมที่มีการเสียดสี
มีคำถามเกี่ยวกับ ผดร้อน? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ
สารบัญ [show]
สาเหตุของผดร้อน
ผดร้อน เกิดจากรูขุมขนอุดตันและไม่สามารถขับเหงื่อออกมาได้จนทำให้รูขุมขนอักเสบ และเมื่อรูขุมขนอักเสบโดนเหงื่อก็จะเกิดการระคายเคือง และกลายเป็นตุ่มเม็ดเล็กๆ แดงๆ ตามมา
ผดร้อนนั้นมักพบในช่วงที่อากาศร้อนจัด เพราะเป็นช่วงที่ทำให้เกิดการขับเหงื่อออกมามากเป็นพิเศษ
ลักษณะอาการของผดร้อน
ลักษณะอาการของผดร้อน แบ่งตามระดับความรุนแรง ดังนี้
Miliaria crystallina
เป็นผดร้อนชนิดที่พบบ่อยในเด็ก แต่มีความรุนแรงน้อยที่สุด เกิดจากการอุดตันของท่อของต่อมเหงื่อที่ส่วนบนของชั้นหนังกำพร้า มีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใส หรือมีสีขาวขนาดเล็กที่มีสารน้ำอยู่ภายใน แตกง่ายเมื่อสัมผัสหรืออาบน้ำ ไม่ทำให้เกิดอาการคัน ไม่เจ็บ
Miliaria rubra
เป็นผดร้อนชนิดที่พบบ่อยที่สุด มักพบในผู้ใหญ่มากกว่าเด็กและทารก และมีอาการรุนแรงมากกว่าชนิด Miliaria crystallina เพราะเกิดจากการอุดตันของท่อของต่อมเหงื่อที่ส่วนล่างของชั้นหนังกำพร้า
ผดร้อนชนิด Miliaria rubra นั้นมักพบที่บริเวณต้นคอ หน้าผาก หน้าอก หลังและข้อพับ โดยจะทำให้เกิดอาการดังนี้
- อาการคัน และคันมากขึ้นเวลาเหงื่อออก
- เป็นตุ่มแดงที่ผิวหนัง
- ไม่มีเหงื่อในบริเวณที่เป็น
- มีการอักเสบและเจ็บที่ผิวหนัง เนื่องจากร่างกายไม่สามารถขับเหงื่อผ่านผิวหนังได้
- ผดร้อนชนิดนี้ หากเป็นมากและเป็นเวลานานเกินไปจะทำให้เกิดเป็นตุ่มหนอง หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนของเชื้อแบคทีเรียจากการเกา เรียกว่า Miliaria pustulosa
Miliaria profunda
เป็นผดร้อนชนิดที่พบได้น้อยสุด เกิดจากการเป็นผดเรื้อรัง เป็นแล้วเป็นอีกอยู่เรื่อยๆ จนทำให้การอุดตันของท่อระบายเหงื่อลึกลงไปในระดับลึกสุด ผู้ที่มีผดชนิดนี้จะสังเกตเห็นผื่นที่มีขนาดใหญ่ขึ้น แข็ง และมีสีเนื้อ
เนื่องจากผดร้อนนั้นจะทำให้ร่างกายไม่สามารถขับเหงื่อได้ อาจทำให้ผู้ที่เป็นผดร้อนมีอาการคลื่นไส้และมึนศีรษะได้
การป้องกันตัวเองเบื้องต้นจากอาการผดร้อน ผื่นคัน
- พยายามให้ร่างกายมีเหงื่อออกน้อยที่สุด โดยการลดความร้อนทั้งจากภายในและภายนอก
- อาบน้ำบ่อยๆ หรือหาผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดเหงื่อที่ออก
- เลือกใส่เสื้อผ้าเนื้อบาง และไม่รัดจนเสียดสีกับผิวหนัง เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดผดร้อน ผื่นคัน
- งดใส่เครื่องประดับสร้อยคอที่เสี่ยงต่อการระคายเคืองผิวหนัง
- หลีกเลี่ยงการเกา และดูแลเล็บให้สะอาดและสั้นเสมอ เพราะเล็บสกปรกเมื่อเกาลงบนผิวหนังอาจทำให้เกิดการระคายเคืองในผดร้อนได้
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสเผ็ดและร้อนจัดในช่วงที่มีอากาศร้อน เพราะจะยิ่งทำให้ขับเหงื่อมากยิ่งขึ้น
- ในบางรายผดร้อน หรือผื่นคันอาจเกิดจากสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้จะช่วยให้อาการดีขึ้นได้ หากเกิดผดร้อนหรือผื่นคันซ้ำๆ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจภูมิแพ้ ซึ่งอาจช่วยให้พบสาเหตุได้
การรักษาผดร้อนในเบื้องต้น
ปกติแล้ว ผดร้อนทั่วไปจะสามารถหายได้เองภายในไม่กี่วัน โดยในช่วงนั้นให้หลีกเลี่ยงสิ่งที่จะกระตุ้นให้อาการรุนแรงขึ้น เช่น อากาศร้อนอบอ้าว การออกกำลังกาย และสวมใส่เสื้อผ้าสบายๆ รวมถึงทำความสะอาดร่างกายอยู่เสมอ
มีคำถามเกี่ยวกับ ผดร้อน? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ
อย่างไรก็ตาม หากมีอาการรุนแรงแรงขึ้น มีไข้ หนาวสั่น มีหนองออกจากตุ่ม ปวดมากขึ้น คันหรือแดงอักเสบมาก เกิดผดร้อนซ้ำๆ เป็นๆ หายๆ ก็ควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการรักษาต่อไป ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้จนอาการรุนแรงขึ้น
การรักษาผดร้อนด้วยสมุนไพรไทย
มีสมุนไพรพื้นบ้านมากมายที่มีฤทธิ์เย็น ช่วยลดอาการของผดร้อน หรือผื่นคันในหน้าร้อนได้ ตัวอย่างเช่น
แตงกวา
แตงกวาเป็นผักที่มีสรรพคุณที่ช่วยรักษาอาการจากผดร้อน ผื่น ลดการลุกลาม ลดอาการแสบร้อนของผิวหนังที่เกิดการอักเสบได้ เพียงหั่นแตงกวาเป็นแว่นบางๆ แล้วนำมาแปะบริเวณที่มีอาการจะช่วยบรรเทาอาการให้ดีขึ้น
ใบพลู
การใช้ใบพลูในการรักษาโรคลมพิษเป็นภูมิปัญญาของไทยที่มีมานานตั้งแต่โบราณ โดยการนำใบพลูแก่และข่าแก่ 1 หัว ตำให้ละเอียด ผสมกับเหล้าขาวเล็กน้อย ก่อนจะนำมาพอกบริเวณที่เป็นลมพิษ จะช่วยบรรเทาอาการได้
ขมิ้นชัน
เป็นสมุนไพรที่นิยมใช้ในการรักษาโรคผิวหนังแทบทุกอาการ สำหรับการแก้ผดร้อน ให้นำรากเหง้าของขมิ้นชันมาตำให้แตกจนมีน้ำออกมา จากนั้นจึงนำมาทาบริเวณที่มีอาการ
ขมิ้นชันเหมาะมากสำหรับคนที่มีอาการคันจนเกาแล้วเป็นแผล เนื่องจากมีสรรพคุณช่วยในเรื่องการสมานแผลให้เร็วขึ้นด้วย
ว่านหางจระเข้
กาบใบของว่านหางจระเข้มีสารที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังได้ดีมาก โดยวิธีใช้คือ ปอกเปลือกสีเขียวของว่านหางจระเข้ออก และล้างยางสีเหลืองให้สะอาด เพราะยางของว่านหางจระเข้อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวและคันได้
หลังจากนั้นนำเอาเนื้อวุ้นข้างในมาฝานบางๆ แล้วทา หรือแปะผิวหนัง ทำเช้าและเย็นจนกว่าอาการจะดีขึ้น
กล้วย
เปลือกกล้วยสุกด้านในที่เป็นเนื้อนุ่มสามารถนำเอามาทาบริเวณที่เป็นผื่นคัน เพื่อให้ความชุ่มชื้น และลดอาการคันได้ดี
การบรรเทาอาการด้วยสมุนไพรพื้นบ้านนั้น ควรทดลองทำแต่น้อยเพื่อสังเกตก่อนว่ามีอาการแพ้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากการบรรเทาอาการด้วยตัวเองไม่ช่วยให้อาการดีขึ้น หรือมีอาการรุนแรงขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อทำการรักษาต่อไป
มีคำถามเกี่ยวกับ ผดร้อน? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ