ไอ

สีของเสมหะ บอกโรคอะไรบ้าง

เสมหะ คือเยื่อเมือก ที่ปกติจะอยู่ในลำคอ ปอด จมูก และโพรงอากาศในกะโหลกศีรษะอยู่แล้ว แต่เมื่อมีอาการเจ็บป่วย เช่น เป็นหวัด ร่างกายก็จะยิ่งผลิตเสมหะออกมามากขึ้น  เวลาที่ไม่สบาย เสมหะจะยังแยกออกมาได้หลายสีตามอาการป่วยด้วย หากเข้าใจจะทำให้ทราบว่ากำลังเป็นโรคอะไรอยู่และควรไปพบแพทย์หรือไม่

มีคำถามเกี่ยวกับ เสมหะ? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

สีของเสมหะ ช่วยบอกโรคอะไรได้บ้าง 

1. เสมหะสีใส

เสมหะสีใสเป็นเสมหะที่ร่างกายผลิตออกมาทุกวันอยู่แล้ว ประกอบไปด้วยโปรตีน น้ำ และสารภูมิคุ้มกัน คอยหล่อลื่นและช่วยให้ระบบทางเดินหายใจชุ่มชื้น

ถ้ามีเสมหะสีใสเยอะขึ้น ร่างกายอาจบอกเราว่ากำลังชะล้างหรือกำจัดสิ่งสกปรกให้อยู่ เช่น สารระคายเคือง สารก่อภูมิแพ้ หรือเชื้อไวรัส   

โรคที่ทำให้เสมหะสีใสเพิ่มขึ้น ได้แก่ โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ โรคหลอดลมอักเสบ หรือโรคปอดอักเสบ 

2. เสมหะสีเขียวหรือสีเหลือง

บางครั้ง การมีเสมหะค้างในลำคอเป็นเวลานานก็ทำให้เสมหะกลายเป็นสีเขียวหรือเหลืองได้ เช่น เสมหะหลังตื่นนอนตอนเช้า แล้วกลับมาเป็นสีใสในช่วงเวลาอื่นของวัน ซึ่งไม่ถือเป็นอาการผิดปกติ

แต่บางครั้ง การมีเสมหะสีเขียวหรือสีเหลือง อาจร่างกายกำลังต่อสู้กับเชื้อโรคอยู่ ซึ่งสีเขียวกับสีเหลืองนี้มาจากเซลล์เม็ดเลือดขาวที่คอยป้องกันไม่ให้เชื้อโรคทำอันตรายต่อร่างกายเรานั่นเอง  

อาจสังเกตได้ว่า ช่วงแรก ๆ ที่มีเสมหะ เสมหะจะเป็นสีเหลืองก่อน แล้วค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเขียว ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคที่อาจจะเพิ่มขึ้น หรืออาจเป็นระยะเวลาในการขับเชื้อโรคที่ยาวนานขึ้นก็ได้   

โรคที่มักทำให้เกิดเสมหะสีเขียวหรือสีเหลือง ได้แก่ โรคหลอดลมอักเสบ โรคทางพันธุกรรมอย่างโรคซิสติก ไฟโบรซิส (Cystic fibrosis) อาการปอดบวม หรือภาวะไซนัสอักเสบ

3. เสมหะสีแดงหรือสีชมพู

เมื่อเลือดปนมากับเสมหะ เสมหะจะกลายเป็นสีแดงหรือสีชมพู อาจเกิดจากหลายสาเหตุ ได้แก่

  • การระคายเคืองจากสารต่าง ๆ 
  • การบาดเจ็บบริเวณจมูก ลำคอ และทางเดินหายใจ 
  • โรคหรือภาวะต่าง ๆ เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลว โรคฝีในปอด โรคมะเร็งปอด โรคปอดอักเสบ โรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด (Pulmonary Embolism) หรือการติดเชื้อวัณโรค 

4. เสมหะสีน้ำตาล

เสมหะสีน้ำตาลมักมาจากเลือดเก่าที่ยังคั่งอยู่ในลำคอ จะเกิดขึ้นหลังจากมีเสมหะสีแดงหรือสีชมพู 

มีคำถามเกี่ยวกับ เสมหะ? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

โรคที่มักทำให้เกิดเสมหะสีน้ำตาล ได้แก่ อาการปอดบวม โรคหลอดลมอักเสบ โรคซิสติก ไฟโบรซิส (Cystic fibrosis) โรคฝีในปอด หรือโรคฝุ่นจับปอด (Pneumoconiosis) 

5. เสมหะสีขาว

เสมหะสีขาวอาจเกิดได้จากร่างกายกำลังกำจัดเชื้อแบคทีเรีย พยายามรับออกซิเจนให้เพียงพอ หรือเป็นของเหลวจากอาการบวมน้ำ โดยเป็นผลมาจากโรคหลอดลมอักเสบ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคกรดไหลย้อน หรือภาวะหัวใจล้มเหลว 

ถ้ามีเสมหะสีขาวร่วมกับอาการหายใจลำบาก ควรรีบไปพบแพทย์ทันที 

นอกจากนี้ การกินผลิตภัณฑ์จากนมเยอะ ๆ ก็จะทำให้น้ำมูกไหลลงคอเป็นสีขาวออกขุ่นได้เหมือนกัน เพราะในนมมีไขมันที่จะทำให้น้ำมูกเหนียวข้นนั่นเอง 

6. เสมหะสีดำ

เสมหะสีดำ (Melanoptysis) มักเกิดจากการที่ร่างกายเผลอรับสารสีดำบางอย่างเข้าไปเป็นจำนวนมาก เช่น ควันดำ หรืออาจเป็นสัญญาณบอกว่าร่างกายกำลังติดเชื้อรา (Fungal infection) อยู่ 

เสมหะสีดำเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งโรค อาการเจ็บป่วย หรือพฤติกรรมในการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม  

โรคหรือสภาวะที่มักทำให้เกิดเสมหะสีดำ เช่น โรคติดเชื้อรา ฝีในปอด โรคฝุ่นจับปอด โรคหอบหืด โรคไซนัสอักเสบ การติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในลำคอ อย่างซิฟิลิส การมีพังผืดหรือก้อนเนื้องอกในลำคอ รวมถึงการอาเจียนบ่อย ๆ ก็มีส่วนเหมือนกัน 

พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสมบางอย่างก็ทำให้เกิดเสมหะได้ เช่น

  • อยู่ในที่ที่อากาศร้อนหรือแห้งเกินไป 
  • ใช้เสียงพูดมาก หรือใช้เสียงผิดวิธี ทำให้จมูกกรองสารระคายเคือง และปรับอากาศที่หายใจเข้าไปให้อุ่นชื้นขึ้นไม่ได้
  • ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บ่อย ๆ
  • ดื่มน้ำน้อย
  • ดื่มเครื่องดื่มประเภทที่มีคาเฟอีนมากเกินจำเป็น
  • สูบบุหรี่ 

มีเสมหะ รักษายังไงดี 

  • ยาแก้คัดจมูก ทำให้หลอดเลือดในทางเดินหายใจหดตัว เลือดจึงไหลเวียนน้อยลง ช่วยลดปริมาณการผลิตเสมหะในจุด ๆ นั้นลงได้ ถ้าใช้ยาเกินขนาด ก็จะส่งผลให้เยื่อเมือกแห้งจนผลิตเสมหะออกมาเหนียวข้น และอาจเจอผลข้างเคียงได้ เช่น เวียนศีรษะยู่ไม่สุข กระวนกระวาย หรือความดันโลหิตสูง 
  • ยาแก้แพ้ จะขัดขวางหรือลดการทำงานของฮิสตามีน ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายผลิตขึ้นขณะมีอาการแพ้ มักมีผลข้างเคียง เช่น ง่วงซึม เวียนศีรษะ ปากแห้ง หรือปวดศีรษะ
  • การล้างจมูก คือการใช้หลอดฉีดยาหรือขวดบีบผสมน้ำเกลือฉีดเข้าไปในรูจมูกเพื่อล้างเมือกส่วนเกินออก โดยทำให้เมือกในโพรงจมูกขยายตัว พอขับออกมา ปริมาณเมือกก็จะลดลง และจะช่วยกำจัดสารภูมิแพ้ออกจากจมูกด้วย 

ถ้าไม่อยากล้างจมูกหรือใช้ยาบ่อย ๆ การลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างก็ช่วยรักษาและป้องกันการเกิดเสมหะได้เหมือนกัน เช่น  

  • งดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มคาเฟอีนชั่วคราว
  • อาบน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน เพราะไอความอุ่นชื้นจากน้ำจะเข้าไปช่วยเปิดทางเดินหายใจในลำคอ ช่วยให้หายใจได้สะดวกขึ้น
  • จิบน้ำอุ่นบ่อย ๆ
  • งดดื่มน้ำเย็นชั่วคราว
  • กินผลไม้ที่มีใยอาหาร รวมถึงอาหารที่มีถั่วเหลืองเป็นส่วนประกอบ จะช่วยให้เสมหะลดลง
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีมลพิษทางอากาศมาก ร่างกายจะได้ไม่รับสิ่งสกปรกและเชื้อโรคเข้าไปเพิ่ม 

การมีเสมหะเยอะ แปลว่าร่างกายกำลังบอกว่าคุณดูแลเขาได้ไม่ดีพอ การรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดเสมหะมากขึ้น ก็เป็นการดูแลตัวเองง่าย ๆ ที่คุณทำได้ เพื่อไม่ให้เสมหะมากวนใจ 


ตรวจสอบความถูกต้องโดย พญ. ภกญ. เพ็ญพิไล สุตันทวงษ์

มีคำถามเกี่ยวกับ เสมหะ? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

หากคุณติดตั้ง LINE บนคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว ระบบจะเปิดบัญชีทางการ LINE ของ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ โดยอัตโนมัติ

หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง LINE บนเดสก์ท็อป โปรดสแกน QR โค้ดด้วย LINE บนโทรศัพท์มือถือของคุณเพื่อเริ่มแชทกับ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ