frequently asked questions hepatitis a vaccine hav disease faq

รวมข้อสงสัยวัคซีนตับอักเสบเอ จำเป็นแค่ไหน ต้องฉีดไหม ใครควรฉีด

ตับอักเสบเอหรือไวรัสตับอักเสบเอแม้จะไม่ใช่โรครุนแรง แต่ก็ติดต่อกันได้ง่าย การฉีดวัคซีนตับอักเสบเอป้องกันโรคไว้ก่อน จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและแพร่เชื้อโดยไม่รู้ตัว ไปรู้จักวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอให้มากขึ้นกัน จำเป็นแค่ไหน ใครควรฉีด และอีกหลายเรื่องที่อาจยังไม่รู้

Q: ตับอักเสบเอหรือไวรัสตับอักเสบเอ คือโรคอะไร

A: ตับอักเสบเอหรือไวรัสตับอักเสบเอเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดเอ (Hepatitis A virus: HAV) มักติดต่อกันได้ง่ายจากการอยู่ใกล้ชิดกับคนที่เป็นโรคตับอักเสบเอ กินอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสตับอักเสบเออยู่ 

ไวรัสตับอักเสบเอจะก่อให้เกิดการอักเสบแบบเฉียบพลันของตับ ไม่ได้ทำให้เกิดตับอักเสบเรื้อรัง อาการมีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง เช่น เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย เจ็บชายโครงขวา ตัวเหลือง ตาเหลือง และตับวาย

Q: วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ จำเป็นต้องฉีดไหม 

A: คนที่เคยติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอแล้วจะมีภูมิคุ้มกันตลอดชีวิต ไม่เป็นโรคนี้ซ้ำอีก จึงไม่ได้ก่อให้เกิดตับอักเสบเรื้อรัง เหมือนเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบีและซี แต่ความน่ากลัวคือ หากติดเชื้อแล้วอาการรุนแรงอาจทำให้ตับวาย นำไปสู่การเสียชีวิตได้ 

การฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอจะช่วยป้องกันการติดเชื้อชนิดนี้ เพราะไม่อาจรู้ได้ว่าหลังติดเชื้อแล้วจะเกิดอาการรุนแรงหรือไม่ โดยเฉพาะคนอายุมาก คนที่เป็นโรคตับอักเสบเรื้อรัง หรือตับแข็งจากสาเหตุอื่นอยู่เดิม มักมีแนวโน้มเกิดอาการรุนแรงหลังการติดเชื้อ

Q: วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอมีกี่แบบ ฉีดกี่เข็ม 

A: วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอ มีทั้งแบบวัคซีนเชื้อเป็น และวัคซีนเชื้อตาย ในประเทศไทยมักใช้วัคซีนเชื้อตายกันแพร่หลายมากกว่า แนะนำให้ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 6–12 เดือน โดยจะฉีดเข้าชั้นกล้ามเนื้อ

Q: วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอป้องกันได้นานกี่ปี

A: วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอมีประสิทธิภาพป้องกันโรคได้สูงถึง 94–100% หลังได้รับวัคซีน 2–4 สัปดาห์ เมื่อฉีดครบ 2 เข็มสามารถกระตุ้นภูมิในร่างกายได้นานราว 20–30 ปี 

Q: ใครบ้างควรฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ

A: วัคซีนไวรัสอับอักเสบเอเป็นวัคซีนเสริมที่แนะนำให้ฉีดในเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป ผู้ใหญ่ที่ยังไม่มีภูมิคุ้นกันต่อโรคนี้ เสี่ยงต่อโรคตับรุนแรงหรือตับอักเสบเรื้อรัง เช่น ผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบบี คนที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ คนที่จะเดินทางไปยังสถานที่ที่มีการระบาด

รวมไปถึงคนที่มีอาชีพเสี่ยงต่อการรับและแพร่กระจายของโรค ได้แก่ คนที่ประกอบอาหาร สถานเลี้ยงเด็ก บุคลากรทางการแพทย์

Q: ทำไมให้ตรวจเลือดก่อนฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ

A: การตรวจเลือดก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนในผู้ใหญ่อายุ 18 ปีขึ้นไปที่ไม่เคยฉีดวัคซีนไวรัสอับอักเสบเอมาก่อน จะช่วยให้รู้ได้ว่าตัวเองมีภูมิต้านทานต่อเชื้อหรือไม่ 

กรณีเคยติดเชื้อแล้ว ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันได้ตลอดชีวิต ไม่จำเป็นต้องได้รับวัคซีน สามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายค่าวัคซีนไปในตัว ส่วนคนอายุน้อยกว่า 18 ปี อาจฉีดวัคซีนโดยไม่จำเป็นต้องตรวจภูมิคุ้มกันโรค

Q: ใครไม่ควรฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอฉีดได้ทุกคนไหม

A: คนที่มีอาการแพ้รุนแรงต่อส่วนประกอบของวัคซีน หรือหลังจากได้รับวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอครั้งก่อน และผู้หญิงตั้งครรภ์ ไม่ควรฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ ส่วนคนที่มีอาการเจ็บป่วยเฉียบพลันในวันที่ฉีดวัคซีน ควรเลื่อนการฉีดวัคซีนออกไปก่อนจนกว่าจะหายป่วย

Q: หลังฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ ต้องตรวจภูมิคุ้มกันหรือไม่

A: วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโรคสูง จึงไม่มีความจําเป็นต้องตรวจระดับภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีน

Q: วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอปลอดภัยแค่ไหน

A: วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอทำมาจากเชื้อไวรัสตับอักเสบเอที่ตายแล้ว เป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย หลังจากฉีดวัคซีนอาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย และมักหายเองภายใน 1–2 วัน เช่น ไข้ต่ำ ๆ ปวด บวม แดงบริเวณที่ฉีดวัคซีน 

ส่วนอาการอื่นที่อาจพบได้ เช่น เบื่ออาหาร ปวดหัว เวียนหัว คลื่นไส้ ถ่ายเหลว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หงุดหงิด มีไข้สูง รวมถึงอาจทำให้เกิดอาการแพ้วัคซีนอย่างรุนแรง แต่พบได้น้อยคนมาก หากพบอาการผิดปกติใด ๆ หลังฉีดวัคซีน ควรรีบพบแพทย์ทันที

กินอาหาร น้ำ อาจปนเปื้อนเชื้อโดยไม่รู้ อย่าช้าฉีดวัคซีนป้องกันก่อนติด ดูโปรฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ ตรวจหาเชื้อหรือวัดภูมิคุ้มกัน HDmall.co.th รวมมาให้ครบ จองรับส่วนลดทันที

Scroll to Top