ear infection treatment

วิธีแก้อาการปวดหูอักเสบ ด้วยตนเอง

หูของเราแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ หูชั้นนอก หูชั้นกลาง และ หูชั้นใน ซึ่งการอักเสบนั้นสามารถเกิดได้กับหูทั้งสามส่วน โดยอาการและความรุนแรงก็อาจแตกต่างกันออกไป ใครที่มีอาการปวดในช่องหูอย่างรุนแรง หรือบางครั้งมีของเหลวแปลกๆ ไหลออกมาจากหู รู้หรือไม่ว่านั่นอาจเป็นสัญญาณของโรคช่องหูอักเสบก็ได้

หูชั้นนอกอักเสบ (Otitis externa)

หูชั้นนอกอักเสบ เป็นโรคที่พบได้บ่อย มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา น้ำเข้าหู หรือการแคะหูจนเกิดแผล ซึ่งการอักเสบมักเกิดขึ้นเฉพาะจุด แต่หากไม่รักษาการอักเสบอาจลุกลามไปที่หูชั้นกลางได้

อาการหูชั้นนอกอักเสบ

  • ปวดหู คัน ระคายเคืองหูส่วนนอก
  • ผิวหนังรอบใบหูและหูส่วนนอกบวม แดง มีแผลหรือหนอง
  • มีของเหลวไหลออกมาจากหู ซึ่งมักเป็นเลือดปนหนอง และมีกลิ่นเหม็น
  • อาจมีอาการหูอื้อ หรือได้ยินลดลงด้วย
  • อาจพบต่อมน้ำเหลืองที่หน้าและหลังหูโตได้

การรักษาหูชั้นนอกอักเสบ

  • ให้ทำความสะอาดใบหูและรูหูด้วยก้านพันสำลี โดยการเช็ดเบาๆ
  • หากมีการติดเชื้อแบคทีเรีย แพทย์จะให้ทานยาปฏิชีวนะ 1-2 สัปดาห์
  • หากมีการอักเสบมาก แพทย์จะใช้ผ้าก๊อซชุบยาสเตียรอยด์ใส่ไว้ในหู 24 ชั่วโมง หรือให้ยาหยอดหูเพื่อลดการอักเสบ
  • สามารถทานยาแก้ปวดได้ เช่น พาราเซตามอล
  • แพทย์จะใช้เครื่องมือทำการดูดหนองและของเหลวออกจากหู

otitis

หูชั้นกลางอักเสบ (Otitis Media)

หูชั้นกลางอักเสบ สาเหตุมักเกิดจากการติดเชื้อในทางเดินหายใจ เช่น โรคหวัด หรือการอักเสบที่หูชั้นนอก และเกิดการติดเชื้อลุกลามมาที่หูชั้นกลาง โรคนี้พบได้ทุกวัย โดยเฉพาะเด็กอายุ 6-12 ปี

อาการหูชั้นกลางอักเสบ

  • ปวดในหู และมีของเหลวไหลออกมาจากรูหู
  • มีไข้สูง ปวดวิงเวียนศีรษะ
  • มีปัญหาเรื่องการได้ยิน เนื่องจากมีของเหลวคั่งบริเวณหลังแก้วหู ผู้ป่วยจึงมักรู้สึกแน่นในหู และบางครั้งได้ยินเสียงวิ้งๆ รบกวนด้วย

โรคหูชั้นกลางอักเสบมักมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น แก้วหูฉีกขาด สูญเสียการได้ยิน และการอักเสบอาจลุกลามไปยังหูชั้นในจนไปถึงสมองได้

การรักษาหูชั้นกลางอักเสบ

  • ทานยาแก้ปวดลดไข้ เช่น พาราเซตามอล เพื่อลดอาการปวดหูและปวดศีรษะ
  • ใช้การประคบร้อนที่กกหู เพื่อลดอาการปวดหู
  • หากมีการติดเชื้อแบคทีเรีย ต้องทานยาปฏิชีวนะตามคำสั่งแพทย์
  • ระบายของเหลวที่คั่งในหู โดยแพทย์อาจใช้เครื่องดูด หรือผ่าตัดเจาะแก้วหูแล้วสอดท่อให้ของเหลวไหลออกมา

otitis media

หูชั้นในอักเสบ (Labyrinthitis)

หูชั้นในอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่หูชั้นในและเส้นประสาทที่เชื่อมไปยังสมอง ซึ่งเชื้อดังกล่าวมักลุกลามมาจากทางเดินหายใจหรือการอักเสบในหูชั้นกลาง

อาการหูชั้นในอักเสบ

  • ปวดหูและปวดศีรษะรุนแรง
  • รู้สึกวิงเวียนศีรษะ ทรงตัวไม่อยู่ โคลงเคลง หรือรู้สึกคล้ายบ้านหมุน
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • หูอื้อ หรือได้ยินเสียงรบกวนในหู
  • การได้ยินลดลง จนถึงขั้นสูญเสียการได้ยินในหูข้างที่อักเสบ
  • บางครั้งอาจมีปัญหาด้านสายตาด้วย เช่น ตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัด

labyrinthitis

การรักษาหูชั้นในอักเสบ

  • การดูแลตัวเอง ทำได้โดยพักทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวเร็วๆ และอยู่นิ่งๆ รวมถึงหลีกเลี่ยงการมองวัตถุที่มีแสงจ้าด้วย
  • ทานยาต้านไวรัส หรือยาปฏิชีวนะตามคำแนะนำของแพทย์
  • หากมีการอักเสบรุนแรง อาจต้องใช้ยาสเตียรอยด์เพื่อลดการอักเสบ
  • หากมีอาการวิงเวียนและทรงตัวไม่อยู่ แพทย์มักให้ยาบรรเทาอาการวิงเวียน ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน และยา antihistamines
  • ถ้ามีการอาเจียนหลายครั้ง อาจต้องให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดเพื่อชดเชยสารน้ำในร่างกายด้วย

การป้องกันโรคช่องหูอักเสบ

นอกจากการรักษาแล้ว การป้องกันกลับมาเป็นซ้ำก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อไม่ให้หูชั้นนอก หูชั้นกลาง และหูชั้นใน เกิดการอักเสบขึ้นมาอีกครั้ง

  • ไม่ควรแคะหูอย่างรุนแรง ด้วยวัตถุที่แข็งและแหลม เพราะอาจทำให้เกิดบาดแผลและติดเชื้อโรคได้ การทำความสะอาดหูควรใช้ก้านพันสำลีเช็ดเบาๆ เท่านั้น
  • หากป่วยเป็นโรคติดเชื้อในทางเดินหายใจ เช่น โรคหวัด ควรรีบรักษาให้หาย เพื่อป้องกันการติดเชื้อลุกลามไปยังช่องหู
  • หากมีน้ำเข้าหูและไม่สามารถเอาออกได้ ควรไปพบแพทย์เพื่อดูดออก ไม่ควรพยายามแคะหรือซื้อยามาหยอดหูเอง
  • หลีกเลี่ยงการลงว่ายน้ำในแหล่งน้ำที่สกปรก

ตรวจสอบความถูกต้องโดย ทีมแพทย์ HD

Scroll to Top