ปานแดงแต่กำเนิด มีอันตรายหรือไม่

ปานแดงแต่กำเนิด มีอันตรายหรือไม่

โดยทั่วไป ปานแดงมักจะเห็นตั้งแต่กำเนิดหรือในขวบปีแรก ลักษณะเป็นเนื้อนูนสีแดงสด บางรายถ้าเกิดการกระแทก เกา หรือขัดถูบริเวณปานแดง อาจทำให้มีเลือดออกมากได้ ปานแดงมีรูปร่างและขนาดที่หลากหลาย สามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลักๆ ได้แก่ เนื้องอกหลอดเลือด (Hemangioma) และปานแดงชนิดพอร์ตไวน์สเตน (Port-wine Stain)

ปานแดงทั้งสองชนิดนี้มีลักษณะ อันตราย และวิธีการรักษาแตกต่างกัน ดังนี้

1. ปานแดงชนิดเนื้องอกหลอดเลือด (Hemangioma)

ปานแดงแบบนี้เป็นชนิดที่พบได้บ่อย ประมาณ 5-10% ของเด็กในขวบปีแรก พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย เริ่มแรกอาจพบแค่เป็นปื้นสีแดง ต่อมาจะค่อยๆ นูนขึ้นในช่วง 5 เดือนถึงขวบปีแรก และพบว่า 50% ของปานแดงชนิดนี้สามารถบยุบลงเองได้ภายในระยะเวลาประมาณ 5 ปี

ลักษณะของปานแดงชนิดเนื้องอกหลอดเลือดจะเป็นก้อนนูน สีแดงเข้มสด ผิวขรุขระ เกิดในตำแหน่งใดของร่างกายก็ได้

สาเหตุของปานแดงเนื้องอกหลอดเลือดเกิดจากการมีเส้นเลือดใต้ผิวหนังขยายขนาดและเพิ่มจำนวนมากผิดปกติ ต่อมาจะค่อยๆ เป็นสีออกเทา แล้วแดงจางลง จากนั้นปานจะค่อยๆ นิ่มแบน และยุบตัวลง

หลังจากยุบตัวลงอาจเหลือทิ้งร่องรอยเป็นเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนัง เนื้อย่นๆ เนื้อเป็นหลุม หรือบางรายอาจเป็นแผลเป็น

อันตรายของปานแดงชนิดเนื้องอกหลอดเลือด

ปานแดงชนิดนี้ ถ้ามีมากกว่า 5 ตำแหน่ง ต้องรับการตรวจเพิ่มเติม เพราะมีความเสี่ยงที่จะมีปานเนื้องอกหลอดเลือดเกิดขึ้นที่อวัยวะอื่นภายในร่างกาย นอกเหนือจากที่ผิวหนังด้วย

หรือถ้ามีปานชนิดนี้ขึ้นบริเวณใบหน้าขนาดใหญ่กว่า 5 เซนติเมตร อาจพบร่วมกับกลุ่มอาการทางระบบประสาทที่เรียกว่า PHACE syndrome ซึ่งผู้ป่วยโรคนี้จะมีความผิดปกติของ ตา หัวใจ และหลอดเลือดอื่นๆในร่างกาย

การรักษาปานแดงชนิดเนื้องอกหลอดเลือด

เริ่มแรกแพทย์ตรวจหาภาวะร่วมอื่นๆ เช่น อาการทาง ตา หู และตำแหน่งของปานแดงว่าปิดกันทางเดินอาหารหรือทางเดินหายใจหรือไม่ รวมถึงจำนวนปานและอายุของผู้ป่วย ที่เริ่มเข้ามาทำการรักษา

แนวทางการรักษาปานแดงชนิดเนื้องอกหลอดเลือด เช่น

  • รักษาด้วยยากิน เช่น ยาสเตียรอยด์ ยาโพรพาโนลอล
  • รักษาด้วยยาทา เช่น ยากลุ่มเบต้าบล็อกเกอร์
  • รักษาด้วยเลเซอร์ที่มีความจำเพาะ พัลส์ดายเลเซอร์ (Pulsed-dye laser)
  • รักษาด้วยการผ่าตัด

2. ปานแดงชนิดพอร์ตไวน์สเตน (Port-wine Stain)

ปานแดงชนิดนี้เกิดจากเส้นเลือดใต้ผิวหนังเรียงตัวผิดปกติ ทำให้เกิดผื่นลักษณะนูนแดง ผิวขรุขระ สิ่งที่แตกต่างจากปานแดงชนิดเนื้องอกหลอดเลือดคือ ปานชนิดนี้จะนูนหนาขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น สามารถขึ้นได้ทุกตำแหน่งของร่างกาย

ปานแดงชนิดพอร์ตไวน์สเตน Port wine Stain

อันตรายของปานแดงชนิดพอร์ตไวน์สเตน

ถ้าพบปานแดงชนิดพอร์ตไวน์สเตนตามริมฝีปาก รอบรูจมูก อาจบดบังทางดินหายใจได้ อาจพบปานชนิดนี้ร่วมกับความผิดปกติอื่นๆ เช่น

  • ความผิดปกติของกระดูก ถ้ามีปานแดงชนิดนี้ขึ้นที่บริเวณแขน ขา อาจพบความผิดปกติของกระดูกร่วมด้วยในข้างเดียวกัน ผู้ป่วยมักจะมีแขนขาโต เท้าโตผิดรูป มีปัญหาด้านการเดิน บางรายอาจพบปานชนิดอื่นๆ เช่น ปานดำ ปานสีน้ำตาล ปนมาด้วย
  • อาการทางระบบประสาท ผู้ป่วยที่มีปานแดงชนิดนี้ขึ้นที่บริเวณซีกนึงของใบหน้า อาจพบอาการทางระบบประสาทร่วมด้วย เช่น ลมชัก สติปัญญาต่ำ
  • อาการทางสายตา ในผู้ป่วยที่มีผื่นบริเวณรอบตา เปลือกตา นอกจากปานนี้จะนูนหนาบดบังการมองเห็นแล้ว ยังสามารถมีอาการร่วมที่เป็นปัญหาจากกระบอกตา จอประสาทตา ทำให้มีต้อหิน หรือรุนแรงถึงขั้นมองไม่เห็นได้

การรักษาปานแดงชนิดพอร์ตไวน์สเตน

เนื่องจากโรคนี้ไม่สามารถยุบตัวเองได้ ปล่อยไว้นานมีแต่จะขยายขนาด สีเข้มชัด และนูนหนามากขึ้น จึงควรรีบทำการรักษา โดยแพทย์ตรวจหาภาวะร่วมอื่นๆ ขึ้นกับตำแหน่งที่เกิดปาน และทำการรักษาด้วยเลเซอร์ที่มีความจำเพาะ พัลส์ดายเลเซอร์ (Pulsed-dye laser)


เขียนบทความโดย พญ. สุเนตรา นิตยวรรธนะ


ที่มาของข้อมูล

  • ศ. นพ. วรพงษ์ มนัสเกียรติ, ปานแดงแต่กำเนิดมาทำความรู้จักกัน (www.si.mahidol.ac.th).
  • Lowel A. Goldsmith et al. Fitspatick’s Dermatology in General Medicine 8th ed.
  • Jean L. Bolognia, Dermatology 4th ed.
Scroll to Top