เทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น (Cryolipolysis) เป็นนวัตกรรมกำจัดไขมันที่ไม่ต้องผ่าตัด เจาะ หรือดูดไขมัน จึงไม่ทำให้เกิดบาดแผล ไม่ต้องพักฟื้น ใช้เวลาทำเพียง 30-70 นาทีก็สามารถกลับบ้านได้เลย
เทคดนโลยีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันในร่างกาย แต่กลัวเจ็บ และไม่มีเวลา
สารบัญ
กลไกการสลายไขมันด้วยความเย็น เป็นอย่างไร?
กลไกการสลายไขมันด้วยความเย็น เริ่มจากวางแผ่นป้องกันความเย็นบริเวณที่ต้องการสลายไขมัน ก่อนที่จะใช้ Applicator หรือหัวเครื่องในการส่งความเย็นไปวางไว้ตรงบริเวณที่ต้องการกำจัดไขมัน
หลังจากนั้นตัวเครื่องจะส่งผ่านความเย็นอุณหภูมิติดลบไปแช่แข็งไขมันใต้ผิวหนัง ใช้ระยะเวลาประมาณ 30-70 นาที ขึ้นอยู่กับเครื่องและรุ่นที่ใช้
เมื่อเซลล์ไขมันถูกแช่แข็งด้วยอุณหภูมติดลบติดต่อกันในระยะเวลาหนึ่ง เซลล์ไขมันก็จะแข็งตัว หยุดการเจริญเติบโต และค่อยๆ ตายลงในที่สุด
หลังจากนั้นเซลล์เม็ดเลือดขาวในร่างกายจะทำหน้าที่ย่อยซากเซลล์ไขมันที่ตายลง และขับออกจากร่างกายผ่านทางระบบน้ำเหลือง เรียกกระบวนการนี้ว่า “อะพอปโทซิส (Apoptosis)”
กระบวนการดังกล่าวใช้ระยะเวลาประมาณ 4-8 สัปดาห์ ก็จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง ซึ่งการสลายไขมันด้วยความเย็นใน 1 ครั้ง สามารถกำจัดไขมันใต้ผิวหนังได้ประมาณ 20-50% ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของเครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นที่ใช้งาน
จากงานวิจัยพบว่า ประสิทธิภาพโดยเฉลี่ยของการสลายไขมันด้วยความเย็นในภาพรวมสามารถลดสัดส่วนได้โดยประมาณดังนี้
- ลดชั้นไขมันบริเวณหน้าท้องได้เฉลี่ย 6.86 ซม.
- ลดชั้นไขมันบริเวณต้นขาด้านในได้เฉลี่ย 5.78 ซม. โดยเฉพาะหากใช้ร่วมกับ Shock Wave
- ลดชั้นไขมันบริเวณต้นแขนได้เฉลี่ย 2.75 ซม.
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตัวผู้เข้ารับการรักษาทั้งด้านอายุ เพศ ลักษณะของผิวหนัง ความไวของผิว โรคประจำตัว และพฤติกรรมสุขภาพก่อนเข้ารับการรักษา
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าคุณจะมีหุ่นเฟิร์มกระชับทันที หากเป็นผู้ที่มีไขมันสะสมเป็นจำนวนมากก็อาจจะต้องทำอย่างต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง ถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็น มีอะไรบ้าง?
การเลือกใช้เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็น (Cryolipolysis machine) ให้เหมาะสมกับการกำจัดเซลล์ไขมันใต้ชั้นผิวเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากเซลล์ไขมันใต้ชั้นผิวหนังจะตายเมื่อถูกแช่แข็งในอุณหภูมิติดลบที่แตกต่างกัน เริ่มตั้งแต่ -1 องศาเซลเซียสเป็นต้นไป
หากเซลล์ไขมันอยู่ใต้ชั้นผิวที่ลึกมาก หรือสะสมเป็นจำนวนมากก็จำเป็นต้องใช้อุณหภูมิติดลบมากขึ้น ทำให้ต้องใช้เครื่องที่ทำอุณหภูมิติดลบได้มาก แต่หากเซลล์ไขมันสะสมไม่มาก การใช้เครื่องที่ทำอุณหภูมิติดลบได้ปานกลางก็เพียงพอแล้ว
เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นในปัจจุบันมีหลายรูปแบบ หลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละรูปแบบก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป เช่น
1. เครื่อง CoolSculpting
เป็นเครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นยอดนิยม ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า สามารถกำจัดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถทำอุณหภูมิติดลบได้ -11 ถึง -13 องศาเซลเซียส
2. เครื่อง LipoFreeze
เป็นเครื่องสลายไขมันความเย็นที่มีการจัดจำหน่ายหลายรุ่น ส่วนใหญ่สามารถทำอุณหภูมิติดลบได้ประมาณ -5 องศาเซลเซียส
3. เครื่อง Power Slim
เป็นเครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นจากประเทศเกาหลีใต้ สลายไขมันด้วย 4 ระบบคือ แช่แข็งไขมันด้วยความเย็น ใช้คลื่นเสียงเร่งการเผาผลาญ ใช้คลื่นความร้อนเพื่อยกกระชับผิวและกำจัดเซลลูไลท์ และใช้ไลโปเลเซอร์ (Lipo laser) เสริมประสิทธิภาพการสลายไขมัน และป้องกันผิวเป็นคลื่น
4. เครื่อง Cooltech define
เป็นเครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นจากประเทศสเปน มีจุดเด่นคือ สามารถทำพร้อมกันได้ถึง 4 หัว ทำให้สลายไขมันด้วยความเย็นพร้อมกันทั่วร่างกายได้ในครั้งเดียว ใช้อุณหภูมิ -10 องศาเซลเซียส และใช้ระยะเวลาในการทำ 70 นาทีต่อ 1 ครั้ง
นอกจากเครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นที่กล่าวไปในข้างต้นแล้ว ยังมีเครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นในรูปแบบอื่นๆ อีก เช่น เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นแบบคาดเอวที่สามารถใช้งานได้ที่บ้าน
การใช้เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม ข้อควรระวังคือ ประสิทธิภาพในการสลายไขมัน และความปลอดภัยในการใช้งาน
คุณควรตรวจสอบก่อนว่า เครื่องที่ใช้งานเป็นของแท้ หรือของปลอม และมีการรับรองมาตรฐานสากลหรือไม่
ข้อดีของการสลายไขมันด้วยความเย็น
การสลายไขมันด้วยความเย็นมีข้อดีดังนี้
- เป็นวิธีการกำจัดไขมันที่ปลอดภัย ใช้ระยะเวลาในการทำไม่นาน ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ไม่ต้องพักฟื้น และไม่ทำให้เกิดบาดแผล
- การสลายไขมันด้วยความเย็นโดยเครื่องที่ได้รับมาตรฐาน สามารถกำจัดไขมันได้ 20-50% ในครั้งเดียว เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ โดยใช้ระยะเวลาในการสลายไขมัน 4-8 สัปดาห์
- สามารถกำจัดเซลล์ไขมันได้แทบทุกส่วนในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้อง ต้นแขน หรือต้นขา
- การสลายไขมันด้วยความเย็น เป็นการกำจัดเฉพาะเซลล์ไขมัน ไม่ส่งผลกระทบต่อเซลล์เนื้อเยื่ออื่นๆ เพราะเซลล์ไขมันเป็นเซลล์ที่ไวต่อความเย็นที่สุด
ข้อเสียของการสลายไขมันด้วยความเย็น
แม้จะมีข้อดี แต่การสลายไขมันด้วยความเย็นก็มีข้อเสียเช่นกัน ดังนี้
- การสลายไขมันด้วยความเย็น เป็นวิธีกำจัดไขมันที่มีราคาค่อนข้างสูง และอาจต้องทำ 2-3 ครั้งถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน สำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมเป็นจำนวนมาก
- การสลายไขมันด้วยความเย็นไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคลมพิษแพ้ความเย็น โรคผิดปกติเกี่ยวกับหลอดเลือด ผู้ป่วยโรคผิวหนัง ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ฯลฯ เนื่องจากอาจเป็นอันตรายได้ ดังนั้นก่อนเข้าใช้บริการควรปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัย
- หลังเข้ารับการสลายไขมันด้วยความเย็น อาจเกิดอาการชา หรือบวมแดงได้ ซึ่งจะหายได้เองภายใน 2 สัปดาห์
ผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบได้
- ผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรง เช่น ผิวหนังแดง ก้อนนูนหลังทำ ผิวมีความรู้สึกไวต่อการสัมผัส เจ็บบริเวณที่ทำ ซึ่งมักจะหายไปใน 1-4 สัปดาห์หลังทำ
- ผลข้างเคียงที่รุนแรงปานกลางที่อาจพบได้ แต่ไม่บ่อย เช่น หน้ามืดเป็นลม ภาวะที่มีการสร้างเซลล์ไขมันเพิ่มขึ้นจากเดิมหลังการรักษาไปอย่างน้อย 6 เดือน พบได้ประมาณ 0.025% ของผู้ที่เข้ารับการรักษา (1 รายใน 4,000 ราย)
สลายไขมันด้วยความเย็น ราคาเท่าไร?
การสลายไขมันด้วยความเย็นที่คลินิก หรือโรงพยาบาล จะมีราคาแตกต่างกันไปตามชนิดของเครื่องที่ใช้ จำนวนจุดที่ต้องการกำจัดไขมัน หรือแพ็กเกจเสริมต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามา เช่น การนวดสลายไขมันหลังใช้เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดไขมัน
ราคาการสลายไขมันด้วยความเย็น 1 ครั้ง จะเริ่มตั้งแต่ 4,000-50,000 บาท
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า เทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น หรือ Cryolipolysis มีหลายรูปแบบ หลายยี่ห้อ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน และคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป ควรปรึกษาแพทย์ หรือสอบถามข้อมูลจากทางคลินิกเพื่อเลือกใช้เครื่องที่เหมาะสมกับตัวคุณมากที่สุด
ตรวจสอบความถูกต้องโดย พญ. รุจิรา เทียบเทียม