Default fallback image

เช็กสิทธิฉีดวัคซีน HPV สำหรับเด็ก ต้องทำยังไงบ้าง?

การป้องกันโรคร้ายตั้งแต่เด็กเป็นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรใส่ใจ และวัคซีน HPV ก็เป็นหนึ่งในวัคซีนที่ช่วยปกป้องเด็กไทยจากโรคร้ายได้ เช่น มะเร็งปากมดลูกที่มีอัตราการเสียชีวิตสูง มะเร็งช่องคลอดที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว หรือหูดหงอนไก่ที่อาจสร้างผลกระทบทางจิตใจ

ปัจจุบัน ประเทศไทยมีโครงการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV ให้สำหรับเด็กผู้หญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งมักจะอยู่ในช่วงอายุ 9-11 ปี โดยโครงการนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงในระยะยาวอีกด้วย

ในบทความนี้ จึงจะมาแนะนำวิธีตรวจสอบการเข้าถึงสิทธิการฉีดวัคซีน HPV สำหรับเด็ก รวมถึงคำแนะนำเกี่ยวกับวัคซีนที่เหมาะสมและข้อมูลสำคัญที่พ่อแม่ควรรู้

ทำไมเด็กถึงควรฉีดวัคซีน HPV

วัคซีน HPV เป็นวัคซีนที่สำคัญสำหรับการป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV หรือ Human Papillomavirus ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งส่วนอื่นๆ เช่น มะเร็งช่องคลอด, มะเร็งช่องปากและลำคอ มะเร็งทวารหนัก รวมถึงหูดหงอนไก่ 

ซึ่งเด็กอายุระหว่าง 9-12 ปี เป็นกลุ่มที่เหมาะสำหรับการฉีดวัคซีน HPV มากที่สุด เนื่องจากเด็กในช่วงวัยนี้เป็นช่วงที่ยังไม่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ทำให้การฉีดวัคซีน HPV จึงมีประสิทธิภาพในการป้องกันสูง

นอกจากนี้ การฉีดวัคซีน HPV ก่อนอายุ 15 ปี ยังฉีดเพียงแค่ 2 เข็มเท่านั้น โดยฉีดเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 6 เดือน ส่วนคนที่ฉีดหลังอายุ 15 ปีขึ้นไป จะต้องฉีดทั้งหมด 3 เข็ม โดยเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 1 เดือน และเข็มที่ 3 ห่างออกไปอีก 6 เดือน

วัคซีน HPV มีกี่ชนิด?

ปัจจุบันวัคซีน HPV มีอยู่ 3 ชนิด ได้แก่

  1. วัคซีน HPV 2 สายพันธุ์ ป้องกันสายพันธุ์ที่ 16 และ 18 ที่เป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก
  2. วัคซีน HPV 4 สายพันธุ์ ป้องกันสายพันธุ์ที่ 16, 18 และสายพันธุ์ที่ 6, 11 ซึ่งเป็นสาเหตุของหูดหงอนไก่
  3. วัคซีน HPV 9 สายพันธุ์ ป้องกันสายพันธุ์ที่ 6, 11, 16, 18, 31, 33, 45, 52 และ 58 สามารถป้องกันเชื้อไวรัส HPV ได้ครอบคลุมถึง 94% ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งปากมดลูก มะเร็งปากช่องคลอด มะเร็งช่องคลอด มะเร็งทวารหนัก มะเร็งช่องปากและลำคอ รวมถึงป้องกันหูดหงอนไก่ได้

โดยวัคซีน HPV แต่ละชนิดจะมีความเหมาะสมในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย แต่โดยทั่วไปแล้ว การฉีดวัคซีน HPV แบบ 9 สายพันธุ์ถือว่ามีความครอบคลุมมากที่สุดในปัจจุบัน สามารถป้องกันได้ทั้งสายพันธุ์ที่มีความรุนแรงสูง และสายพันธุ์ที่มีความรุนแรงต่ำ ทำให้เหมาะสำหรับการป้องกันที่ครอบคลุมในระยะยาว

สิทธิฉีดวัคซีน HPV สำหรับเด็ก

ปัจจุบัน กระทรวงสาธารณสุขได้จัดสรรการฉีดวัคซีนป้องกัน HPV ให้กับเด็กผู้หญิงที่อยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการสร้างภูมิคุ้มกัน

โดยสิทธิการฉีดวัคซีนนี้จะครอบคลุมในโครงการฉีดวัคซีนแห่งชาติ ซึ่งเด็กที่อยู่โรงเรียนในระบบการศึกษาของรัฐ ส่วนใหญ่จะสามารถรับวัคซีน HPV ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

การตรวจสอบสิทธิการฉีดวัคซีน HPV สำหรับเด็ก

การตรวจสอบสิทธิฉีดวัคซีน HPV สำหรับเด็กไทย สามารถทำได้ดังนี้

  1. สอบถามจากโรงเรียน: ตรวจสอบว่าโรงเรียนของเด็กมีโครงการฉีดวัคซีน HPV สำหรับเด็กหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หรือไม่
  2. ตรวจสอบจากหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่: ติดต่อสถานีอนามัยหรือโรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อสอบถามข้อมูลสิทธิ
  3. ตรวจสอบสิทธิผ่านแอปพลิเคชัน: ใช้แอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ของหน่วยงานสาธารณสุข เช่น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่เว็บไซต์ https://www.nhso.go.th เพื่อดูสิทธิที่เกี่ยวข้อง

ถ้าหากตรวจสอบสิทธิแล้วลูกสาวไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่ได้รับสิทธิฉีดวัคซีน HPV ผู้ปกครองสามารถตรวจสอบสิทธิได้จากหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ โดยการติดต่อเจ้าหน้าที่ที่สถานีอนามัย โรงพยาบาล หรือสาธารณสุขประจำเขต โดยแจ้งข้อมูลส่วนตัวของเด็ก เช่น ชื่อ นามสกุล และโรงเรียนที่สังกัด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสิทธิได้อย่างรวดเร็วและครบถ้วน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสิทธิการฉีดวัคซีน HPV

1. วัคซีน HPV ปลอดภัยสำหรับเด็กไหม?

วัคซีน HPV ผ่านการทดสอบในกลุ่มประชากรจำนวนมากทั่วโลก และได้รับการรับรองจากหน่วยงานด้านสุขภาพ เช่น องค์การอนามัยโลก (WHO) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของประเทศต่างๆ ซึ่งผลข้างเคียงที่พบบ่อยมีเพียงแค่อาการปวดบริเวณที่ฉีด มีไข้ต่ำ หรือมีอาการเมื่อยล้าชั่วคราวเท่านั้น โดยอาการเหล่านี้มักจะหายไปเองในเวลาไม่นาน

2. ถ้าเด็กเคยฉีดวัคซีน HPV ชนิด 2 หรือ 4 สายพันธุ์แล้ว ในอนาคตสามารถฉีดวัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ได้ไหม?

ถ้าเคยฉีดวัคซีน HPV ชนิด 2 หรือ 4 สายพันธุ์แล้ว สามารถฉีดวัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์เพิ่มเติมได้ และไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นการฉีดใหม่ทั้งหมด แค่ฉีดเพิ่มเติมเพียง 1 เข็มก็เพียงพอที่จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันที่ครอบคลุมมากขึ้น

การฉีดเสริมนี้จะช่วยเพิ่มการป้องกันโรคมะเร็งและหูดที่อวัยวะเพศในสายพันธุ์ที่ครอบคลุมมากขึ้น โดยวัคซีน HPV 9 สายพันธุ์มีประสิทธิภาพในการป้องกันสายพันธุ์ที่เป็นสาเหตุของมะเร็งได้สูงถึง 90% ทำให้เด็กได้รับการป้องกันที่ครอบคลุมและลดความเสี่ยงในระยะยาวอีกด้วย

สำหรับผู้ปกครองที่ไม่อยากรอสิทธิจากโครงการฉีดวัคซีน HPV จากกระทรวงสาธารณสุข สามารถดูรายละเอียดการฉีดวัคซีน HPV ได้ที่ HDmall.co.th เลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน แถมยังเปรียบเทียบราคาแต่ละที่ได้อย่างสะดวก สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ไลน์ @HDcoth

Scroll to Top