ไทรอยด์เป็นพิษ เป็นภาวะที่ต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป ส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานเร็วกว่าปกติ หลายคนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นไทรอยด์เป็นพิษมักมีคำถามว่า ไทรอยด์เป็นพิษรักษาให้หายขาดได้ไหม? บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการรักษา และโอกาสในการหายขาดจากไทรอยด์เป็นพิษ เพื่อให้คุณสามารถดูแลสุขภาพของตัวเองได้อย่างถูกต้องมากขึ้น
สารบัญ
ไทรอยด์เป็นพิษสาเหตุเกิดจากอะไร?
โรคไทรอยด์เป็นพิษ (Hyperthyroidism) เป็นภาวะที่ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินไป ส่งผลให้ระบบเผาผลาญของร่างกายทำงานเร็วขึ้นผิดปกติ ซึ่งสาเหตุของโรคไทรอยด์เป็นพิษสามารถเกิดได้หลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น
โรคเกรฟส์
โรคเกรฟส์เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งส่งผลให้ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนออกมามากเกินไป ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ตาโปน คอพอก ใจสั่น และน้ำหนักลด โรคนี้เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดของภาวะไทรอยด์ทำงานเกิน
โรคคอพอกเป็นพิษชนิดก้อน
โรคคอพอกเป็นพิษชนิดก้อน (Toxic Nodular Goiter) เป็นภาวะที่ก้อนเนื้อในต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินไปโดยไม่สามารถควบคุมได้ มักพบในผู้สูงอายุ โดยอาจเป็นก้อนเดี่ยว (Toxic Adenoma) หรือหลายก้อน (Multinodular Goiter)
ไทรอยด์อักเสบ
ไทรอยด์อักเสบคือภาวะที่ต่อมไทรอยด์เกิดการอักเสบ ทำให้ฮอร์โมนไทรอยด์รั่วออกมาในกระแสเลือดมากกว่าปกติ ภาวะนี้มักเกิดขึ้นชั่วคราวและมีสาเหตุเกิดขึ้นได้หลากหลาย เช่น การติดเชื้อไวรัส โรคภูมิต้านตนเอง หรือภาวะหลังคลอดบุตร (Postpartum Thyroiditis) ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการเจ็บคอ แต่บางรายก็อาจไม่มีอาการใดๆ เลยก็ได้
การได้รับไอโอดีนมากเกินไป
การได้รับไอโอดีนมากเกินไปสามารถส่งผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ เพราะไอโอดีนเป็นส่วนประกอบหลักในการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ หากได้รับมากเกินไปจะทำให้ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนผิดปกติและอาจนำไปสู่ภาวะไทรอยด์เป็นพิษหรือความผิดปกติอื่นๆ ของระบบไทรอยด์ได้
อาการของไทรอยด์เป็นพิษ (Hyperthyroidism)
อาการสามารถแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เนื่องจากร่างกายของแต่ละคนตอบสนองต่อภาวะนี้ไม่เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม อาการที่พบบ่อย ได้แก่
- น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ
- หัวใจเต้นเร็วหรือไม่สม่ำเสมอ
- มือสั่น
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ความวิตกกังวลและหงุดหงิดง่าย
- อ่อนเพลีย
- นอนไม่หลับ
- มีเหงื่อออกมากผิดปกติ
- ถ่ายอุจจาระบ่อยขึ้น
- คอพอก
- ผิวบาง
- ผมเปราะและขาดง่าย
- ประจำเดือนมาน้อยหรือมาผิดปกติ
โรคไทรอยด์เป็นพิษรักษาหายขาดได้ไหม?
โรคไทรอยด์เป็นพิษรักษาให้หายได้นะ ขึ้นอยู่กับวิธีที่เราเลือกใช้และการตอบสนองของแต่ละคน วิธีหลักๆ ที่ใช้กันก็มี 3 อย่าง คือ
- กินยา: ยาจะช่วยลดการสร้างฮอร์โมนไทรอยด์
- กลืนแร่ไอโอดีน: วิธีนี้จะใช้สารกัมมันตรังสีไอโอดีน เพื่อทำลายเซลล์ไทรอยด์บางส่วน ทำให้ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนได้น้อยลง
- ผ่าตัด: ในบางกรณีที่ต่อมไทรอยด์โตมาก หรือวิธีการอื่นไม่ได้ผล อาจต้องผ่าตัด
บางคนอาจจะหายขาดหลังการรักษา แต่บางคนก็อาจจะต้องกินยาฮอร์โมนไทรอยด์ไปตลอดชีวิต เพื่อรักษาระดับฮอร์โมนให้ปกติ แต่ไม่ต้องกังวลนะ ถ้าได้รับการรักษาและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด โอกาสที่จะควบคุมโรคให้ดีขึ้นก็มีสูงมาก
การดูแลตัวเองหลังการรักษา
การดูแลตัวเองหลังการรักษาไทรอยด์ขึ้นอยู่กับวิธีการรักษาที่ได้รับ เช่น การผ่าตัดไทรอยด์ การรักษาด้วยไอโอดีนกัมมันตรังสี หรือการใช้ยา ซึ่งแต่ละวิธีจะแนวทางการฟื้นฟูที่แตกต่างกันไปตามวิธีการรักษา แต่หลักๆ แล้วจะมีแนวทางที่ควรปฏิบัติ ดังนี้
หลังการผ่าตัดไทรอยด์
- พักผ่อนและหลีกเลี่ยงการใช้เสียงมากเกินไปโดยเฉพาะในช่วงแรกหลังการผ่าตัด
- ดูแลแผลผ่าตัดให้สะอาดและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เกี่ยวกับการเปลี่ยนผ้าปิดแผล
- หมั่นสังเกตอาการผิดปกติ เช่น บวมแดง ปวดมากผิดปกติ หรือมีไข้ ควรรีบพบแพทย์ทันที
- ติดตามระดับฮอร์โมนไทรอยด์อย่างเนื่องเพราะการผ่าตัดไทรอยด์บางส่วนหรือทั้งหมดออกอาจทำให้ต้องรับประทานฮอร์โมนไทรอยด์เสริม
หลังการรักษาด้วยไอโอดีนกัมมันตรังสี
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่น โดยเฉพาะเด็กและหญิงตั้งครรภ์ ประมาณ 5-7 วัน
- ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยขับไอโอดีนที่เหลือออกจากร่างกาย
- ใช้ห้องน้ำแยกจากผู้อื่น หากทำได้ และกดชักโครก 2-3 ครั้งหลังใช้
- ซักเสื้อผ้าและเครื่องนอนแยกจากผู้อื่น เพื่อลดการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสี
หลังการรักษาด้วยยา
- รับประทานยาให้ตรงเวลาตามที่แพทย์สั่ง ห้ามปรับลดหรือเพิ่มขนาดยาเอง
- หมั่นสังเกตอาการข้างเคียงของยา เช่น ใจสั่น น้ำหนักเปลี่ยนแปลงผิดปกติ หรืออ่อนเพลียมาก
- ตรวจติดตามระดับฮอร์โมนเป็นระยะ เพื่อให้แน่ใจว่าการรักษาได้ผลดี
ถ้าหากคุณกังวลเกี่ยวกับไทรอยด์เป็นพิษ รีบเช็กด้วยแพ็กเกจตรวจไทรอยด์ที่ HDmall.co.th กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ตรวจไว รักษาทัน! คลิกเลย!