Default fallback image

โรคแพ้แสงแดด ภูมิแพ้แสงแดด (Photodermatoses) เรื่องที่คนผิวไวต่อแสงต้องรู้

คนส่วนใหญ่เดินท่ามกลางแดดได้โดยไม่เป็นอันตราย อาจแค่รู้สึกร้อน หากแดดไม่แรงมาก หรือไม่ได้ตากแดดเป็นเวลานาน แต่คนที่เป็นโรคแพ้แสงแดด ผิวไวต่อแสงแดดมาก อาจเกิดผื่นแดงอักเสบ ไปจนถึงอาการรุนแรงอื่น ๆ หลังโดนแดดเพียงไม่นาน ไปรู้จักโรคนี้ให้มากขึ้นกัน

โรคแพ้แสงแดด (Photodermatoses) คืออะไร

โรคแพ้แสงแดด บางคนอาจเรียกภูมิแพ้แสงแดดหรือภาวะผิวไวต่อแสง เป็นกลุ่มโรคผิวหนังที่ตอบสนองต่อแสงแดดหรือรังสี UV มากเกินไป หลังผิวสัมผัสกับแสงแดด ร่างกายจะตอบสนองด้วยการกระตุ้นให้เกิดอาการอักเสบขึ้นตามผิวหนัง

โรคแพ้แสงแดดแบ่งได้เป็น 4 กลุ่ม และแบ่งย่อยได้อีกหลายชนิด ดังนี้

  • โรคแพ้แสงแดดที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน เช่น โรคผิวหนังแพ้แดดเรื้อรัง (Chronic actinic dermatitis) และโรคลมพิษจากแสงแดด (Solar urticaria)
  • โรคแพ้แสงแดดที่เป็นผลจากยาและสารเคมี เกิดจากการสะสมของสารบางอย่าง จากการใช้เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวบางชนิด หรือการกินยาบางอย่าง หากแพ้ยาหรือสารตัวใด แสงแดดจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ขึ้น เช่น ผลข้างเคียงของการใช้ยา หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวบางชนิด 
  • โรคแพ้แสงแดดที่เกิดจากความผิดปกติของยีน (Genophotodermatoses) มักพบในเด็ก เช่น โรคผิวหนังแห้งไวต่อแสงมากผิดปกติ (Xeroderma pigmentosum)
  • โรคแพ้แสงแดดจากโรคผิวหนังเดิมที่ถูกกระตุ้นจากแสงแดด เช่น โรคเอสแอลอีหรือโรคลูปัส (Systemic lupus erythematosus)

อาการโรคแพ้แสงแดด ผื่นลักษณะไหนเรียกแพ้แดด

อาการของโรคแพ้แสงแดดในภาพรวมจะเป็นการอักเสบบริเวณผิวหนัง ทำให้เกิดผื่นขึ้น อาจเป็นผื่นนูนหนา ตุ่มนูนแดง หรือตุ่มน้ำ ร่วมกับอาการคันและระคายเคือง โดยเฉพาะผิวนอกร่มผ้าที่โดนแสงแดดมาก คือ ใบหน้า หู ลำคอ แขน ขาส่วนที่อยู่นอกร่มผ้า

รายที่มีอาการแพ้แสงแดดรุนแรงอาจทำให้ผิวหนังอักเสบอย่างรุนแรงจนเกิดแผลเป็นถาวรได้ อีกทั้งส่งผลต่อการใช้ชีวิตนอกบ้าน อาจต้องสวมเสื้อผ้าปกปิดจากแสงแดดอย่างมิดชิด เพื่อเลี่ยงการสัมผัสแสงแดด 

รู้ได้อย่างไรเป็นโรคแพ้แสงแดด

การวินิจฉัยโรคแพ้แสงแดดเริ่มจากการสอบถามประวัติสุขภาพ ทั้งโรคประจำตัว ยาที่ใช้ อาการที่เกิดขึ้น ร่วมกับการตรวจร่างกาย และการทดสอบด้วยแสง (Phototesting) ซึ่งใช้แสงแดดเทียมในปริมาณต่างกันฉายไปยังผิวที่ยังไม่มีผื่น เพื่อดูการตอบสนองของผิวหนัง

หากไม่ปรากฏอาการ แพทย์อาจส่งตรวจหาสาเหตุอื่นต่อไป หรือบางคนไม่มีอาการหลังทดสอบ แต่มีความเป็นไปได้ที่จะแพ้แสงแดด แพทย์อาจนัดมาตรวจด้วยวิธีเดิมต่อเนื่อง 2–3 วัน เพื่อสังเกตอาการ หรือทดสอบผื่นแพ้สัมผัสร่วมด้วย (Photopatch test) เพื่อช่วยวินิจฉัยโรค

โรคแพ้แสงแดดรักษาได้ไหม

การรักษาหลักของโรคแพ้แสงแดด คือ การป้องกันผิวหนังจากการสัมผัสแดดให้ได้มากที่สุด หากเกิดผื่นหรือผิวหนังอักเสบขึ้นแล้ว การรักษาจะเป็นการใช้ยาหรือวิธีรักษาอื่น ตามชนิดของโรค เช่น

  • ยาทารักษาผื่นและผิวหนังอักเสบ อย่างยาทากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ ยาแก้คันตามผิวหนัง
  • ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดรับประทาน สำหรับคนที่ทายาแล้วอาการไม่ดีขึ้น
  • ยากดภูมิคุ้มกันในระยะยาว เพื่อลดความไวต่อแสงแดด
  • การเปลี่ยนยารักษาโรคประจำตัวที่ส่งผลให้ผิวไวต่อแสงแดด

การป้องกันโรคแพ้แสงแดด

หากเป็นโรคแพ้แสงแดดเป็นผลมาจากพันธุกรรมและปัจจัยทางสุขภาพ ยากที่จะป้องกันได้ การป้องกันหลักจะเน้นให้เลี่ยงหรือลดการสัมผัสแสงแดด รวมถึงปัจจัยกระตุ้นให้เกิดโรค ดังนี้

  • หลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงที่มีความเข้มข้นของรังสี UV สูง โดยเฉพาะในช่วง 9.00–15.00 น. 
  • เมื่อต้องตากแดด ควรสวมเสื้อผ้าให้มิดชิด เช่น เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว สวมหมวก และพกร่มเสมอ
  • ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงเพื่อป้องกันรังสี UV
  • ควรใช้วัสดุป้องกันหากจำเป็นต้องสัมผัสสารเคมีที่ระคายเคือง เช่น ถุงมือ รองเท้าบูต
  • หากใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หากเกิดผื่นหรือพบอาการผิดปกติ ควรหยุดใช้แล้วสังเกตอาการ 
  • คนที่ต้องใช้ยาชนิดใดชนิดหนึ่งเป็นประจำ สามารถปรึกษาแพทย์เพิ่มเติมถึงผลข้างเคียงและก่อนควรระวัง

โรคแพ้แสงแดดแม้ไม่รุนแรง แต่ส่งผลกระทบการใช้ชีวิตได้ หากมีความกังวล เกิดผื่นหลังโดนแสงแดด หรือความผิดปกติของผิวหนังอื่น ๆ เช่น สีผิวคล้ำมากขึ้น ผิวหนา หรือขรุขระมากขึ้น กดผิวแล้วเจ็บ ชาบริเวณผิว ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที 

ผื่นขึ้นบ่อย ๆ แพ้ไหม? ลองดู แพ็กเกจตรวจภาวะแพ้ ที่ HDmall.co.th ให้คุณเลือกจองสถานพยาบาลใกล้บ้าน เดินทางสะดวก พร้อมจ่ายในราคาโปร

Scroll to Top