ตอนนี้เรามีแพลนกำลังจะแต่งงานค่ะ หลังจากแต่งงานแล้วเราทั้งคู่ก็อยากจะมีลูกกันทันที หลายคนอาจจะคิดว่าคนที่อายุยังน้อย เข้าสู่วัย 30 ต้นๆ อย่างเรา การตรวจสุขภาพยังถือเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นมากใช่มั้ยคะ แต่ก่อนที่จะมีลูก เราก็ควรตรวจเช็กร่างกายของตัวเองก่อนว่าพร้อมที่จะมีลูกรึเปล่า
เราเลยตัดสินใจชวนแฟนไปตรวจเช็กสุขภาพกันสักหน่อย เพื่อดูว่าร่างกายของเราเป็นยังไงบ้าง มีอะไรน่ากังวลรึเปล่า จะได้วางแผนสร้างครอบครัวให้เหมาะยิ่งขึ้นค่ะ
โดยหลักๆ เราเลยมองหาโปรแกรมตรวจสุขภาพที่มีรายการตรวจทั้งโรคที่สามารถส่งต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคที่สามารถส่งต่อให้ลูกของเราได้ในอนาคต
หลังจากลองค้นหาโปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานจากหลายๆ ที่ สุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกโปรแกรมตรวจสุขภาพคู่รัก ที่ Bangkok Anti-Aging Center บน HDmall.co.th
ลองอ่านรายละเอียดดูแล้วก็รู้สึกตอบโจทย์สำหรับคู่รักมากๆ ตรวจครอบคลุมหลายอย่างเลยค่ะ ทั้งการตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ตรวจหาหมู่เลือด ABO และ Rh ตรวจหาไวรัสตับอักเสบบี เชื้อซิฟิลิส ไวรัสเอชไอวี โรคธาลัสซีเมีย รวมถึงตรวจภูมิคุ้มกันโรคหัดเยอรมันด้วยค่ะ
สาเหตุที่ผู้หญิงจำเป็นต้องตรวจภูมิคุ้มกันโรคหัดเยอรมันก่อนวางแผนมีลูก เพราะถ้าตรวจพบว่าเราไม่มีภูมิกันนี้อยู่ ก็ต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อย 3 เดือนก่อนที่จะตั้งครรภ์ ไม่อย่างนั้นหากมีการติดเชื้อระหว่างตั้งครรภ์ ก็จะมีความเสี่ยงที่ทำให้ลูกพิการ หรือเกิดภาวะแท้งได้
ที่สำคัญคือ Bangkok Anti-Aging Center ยังมีให้เลือกหลายสาขา ใช้เวลาตรวจไม่นาน และราคาก็ดีมากด้วย เราจึงมั่นใจและเลือกใช้บริการที่นี่ทันทีกันค่ะ
สารบัญ
รีวิวตรวจสุขภาพคู่รัก ที่ Bangkok Anti-Aging Center
ครั้งนี้เราเลือกมาตรวจสุขภาพที่ Bangkok Anti-Aging Center สาขาบางนาค่ะ พอมาถึงก็ติดต่อเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์พร้อมกับลงทะเบียนทำประวัติลูกค้าใหม่ก่อน
หลังจากลงทะเบียนเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไป เจ้าหน้าที่ก็จะพาไปวัดความดัน ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง เสร็จแล้วก็เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสุขภาพกันเลย
ขั้นตอนที่ 1 เจาะเลือด
ขั้นตอนแรก จะเริ่มด้วยการเจาะเลือดก่อนเลยค่ะ เจ้าหน้าที่จะพาเราทั้งคู่ไปยังห้องเจาะเลือด ในห้องเจาะเลือด จะเป็นพยาบาลอีกคนคอยดูแลเราค่ะ
โดยพี่พยาบาลจะให้เราเอาแขนขึ้นมาวางไว้บนเบาะรอง จากนั้นก็นำสายมารัดที่ต้นแขนพร้อมกับให้ลูกบอลมาบีบเพื่อหาเส้นเลือดได้ง่ายขึ้น
หลังจากเจอเส้นเลือดแล้ว พี่พยาบาลจะเริ่มทำการเจาะเลือดเลยค่ะ เราจะบอกว่าพี่พยาบาลที่นี่มือเบามากๆ ตอนเจาะเลือดไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด แถมใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีก็เสร็จแล้วค่ะ
ขั้นตอนที่ 2 ตรวจสแกนร่างกาย 8 ระบบ
ขั้นตอนต่อมาจะเป็นการตรวจสแกนร่างกาย 8 ระบบค่ะ ซึ่งขั้นตอนนี้จะเป็นการสแกนตรวจสุขภาพแบบเชิงลึกเพื่อดูความเสื่อมถอยและปัญหาการทำงานของระบบต่างๆ ภายในร่างกายได้ทั้งหมด 8 อย่าง ดังนี้
- ระบบหัวใจและหลอดเลือด
- ระบบต่อมไร้ท่อ
- ระบบขับถ่ายและระบบสืบพันธุ์
- ระบบสั่งการของประสาทและกล้ามเนื้อ
- ระบบทางเดินหายใจ
- ระบบการย่อยอาหาร
- ระบบประสาทและสมอง
- ระบบการเผาผลาญอาหาร
ขั้นตอนการตรวจก็ไม่ยุ่งยากเลยค่ะ เจ้าหน้าที่จะให้ถอดเครื่องประดับและนำอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ออกจากตัวทั้งหมดก่อน
จากนั้นก็ให้มานั่งที่โซฟาพร้อมกับให้วางมือและเท้านาบลงบนเครื่องสแกน เสร็จแล้วเจ้าหน้าที่จะทำการติดตั้งอุปกรณ์ที่บริเวณขมับทั้งสองข้างและเริ่มให้เครื่องสแกนระบบร่างกายเลยค่ะ
โดยรวมแล้วใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อมาก็ไปตรวจวัดมวลกระดูกและตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) กันต่อค่ะ
ขั้นตอนที่ 3 ตรวจวัดมวลกระดูก
ขั้นตอนการตรวจวัดมวลกระดูก จะเป็นการตรวจดูค่าความหนาแน่นของกระดูกตามส่วนต่าง ๆ ด้วยวิธีการเอกซเรย์พลังงานต่ำ เพื่อตรวจเช็กสุขภาพของกระดูกมีความแข็งแรงระดับไหน หรือมีภาวะกระดูกพรุนหรือไม่
โดยขั้นตอนนี้เจ้าหน้าที่จะให้วางเท้าลงในเครื่องสแกน จากนั้นตัวเครื่องจะค่อยๆ บีบเข้าหากันให้พอดีกับขนาดของเท้าและปล่อยคลื่นไปตรวจวัดความหนาแน่นของมวลกระดูก พร้อมกับแสดงผลตรวจของค่าต่างๆ บนหน้าจอให้เห็นทันทีเลยค่ะ
ขั้นตอนที่ 4 ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG
ขั้นตอนการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG จะเป็นการตรวจดูอัตราการเต้นของหัวใจและจังหวะการเต้นของหัวใจ เพื่อตรวจหาความผิดปกติค่ะ
โดยขั้นตอนนี้พี่พยาบาลจะให้เราขึ้นไปนอนบนเตียง จากนั้นก็ติดตั้งอุปกรณ์การตรวจที่บริเวณข้อมือ ข้อเท้า และหน้าอก
พอติดอุปกรณ์เสร็จแล้ว เราก็แค่นอนนิ่งๆ ให้เครื่องทำการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้เลย โดยรวมใช้เวลาประมาณ 5 นาทีก็เสร็จแล้วค่ะ รวดเร็วสุดๆ ไปเลย
ผลตรวจสุขภาพ
สำหรับผลการตรวจสุขภาพ เรารอประมาณ 7 วันเองค่ะ ก่อนจะเข้าไปฟังผลตรวจกับคุณหมอ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะให้เราทั้งคู่เลือกก่อนว่า อยากฟังผลแยกทีละคน หรือฟังพร้อมกันก็ได้ค่ะ
คุณหมอจะเริ่มจากอ่านค่าผลตรวจแต่ละรายการให้ฟังก่อน ซึ่งผลตรวจของเราก็ออกมาปกติดีทุกอย่างเลยค่ะ โดยรวมแล้วสุขภาพแข็งแรงดี ไม่มีพาหะโรคธาลัสซีเมีย และก็ไม่ได้เสี่ยงเป็นโรคหัดเยอรมันแต่อย่างใดค่ะ
แต่ผลตรวจของแฟนดันพบว่ามีพาหะโรคธาลัสซีเมียชนิด E คุณหมอบอกว่าถ้าหากคุณพ่อมีพาหะโรคธาลัสซีเมีย ตัวลูกเองก็อาจจะได้รับพาหะนี้จากคุณพ่อได้ แต่แค่จะไม่แสดงอาการออกมา
ทั้งนี้ จากผลตรวจดูค่าเฉลี่ยแล้วความเสี่ยงเป็นศูนย์ หากแพลนจะมีลูกกันจริงๆ น้องก็จะไม่มีความเสี่ยงเป็นโรคธาลัสซีเมีย หลังจากนี้ก็สามารถวางแผนสร้างครอบครัว มีน้องตัวน้อยกันได้เลย
และด้วยอายุเข้าเลข 3 อย่างเราก็อาจจะมีตัวน้อยอยากขึ้น คุณหมอแนะนำให้เราทั้งคู่ไปตรวจความแข็งแรงของสเปิร์มและตรวจเช็กความสมบูรณ์ของมดลูกก่อนที่จะมีน้องด้วยค่ะ
บรรยากาศของ Bangkok Anti-Aging Center
บรรยากาศของ Bangkok Anti-Aging Center สาขาบางนา ด้านในก็ทั้งสะอาด กว้างขวาง บริเวณที่นั่งรอคิวก็มีน้ำดื่ม กาแฟ และขนมให้บริการฟรีด้วย
นอกจากนี้ห้องตรวจจะมีการแบ่งโซนชัดเจนแล้ว ที่นี่เค้าก็มีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำจุดตรวจต่างๆ ตลอด ไม่ต้องกังวลว่าเข้าไปแล้วจะงงเดินไม่ถูกเลยค่ะ
ด้านการให้บริการ เราทั้งคู่ก็รู้สึกอุ่นใจไม่แพ้กันเลยค่ะ เจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี คุณหมอก็น่ารักเป็นกันเองมากๆ แถมยังให้คำแนะนำและให้คำปรึกษาละเอียดครบถ้วนมาก รู้สึกได้เลยว่าคุณหมอเป็นห่วงสุขภาพของเราจริงๆ
สำหรับคู่รักที่กำลังวางแผนจะแต่งงาน อยากตรวจเช็กสุขภาพเตรียมพร้อมสำหรับการมีลูกน้อยแบบคู่เรา เราแนะนำให้มาตรวจสุขภาพคู่รัก ที่ Bangkok Anti-Aging Center เลยค่ะ
Bangkok Anti-Aging Center เค้ามี 3 สาขาให้เลือกใช้บริการด้วยกัน คือ สาขาบางนา, สาขาสยาม และสาขาสุทธิสาร ใครใกล้ที่ไหน เลือกไปที่นั่นได้เลยนะคะ
ถ้าใครที่สนใจก็แนะนำให้เข้าไปจองแพ็กเกจผ่าน HDmall.co.th เลยนะคะ เพราะในนี้เค้ามีโปรโมชั่นร่วมกับ Bangkok Anti-Aging Center อยู่เพียบ รับรองราคาดีถูกใจแน่นอนค่ะ พลาดไม่ได้จริงๆ ค่ะ