พออายุมากขึ้นก็เริ่มเป็นห่วงสุขภาพของตัวเองมากขึ้นตามไปด้วย และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในตอนนี้ก็คือ “โรคหัวใจและหลอดเลือด” เพราะจากผลสำรวจคนไทยส่วนใหญ่เสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดเฉลี่ยปีละ 7 หมื่นคนเลยค่ะ
ด้วยความที่ถือคติตรวจก่อน รู้ก่อน จะได้รักษาทัน เราเลยลองเสิร์ชหาข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดดู จนได้มาเจอกับโปรแกรมตรวจความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคตับ และโรคไต ที่ BT Laboratory System
ซึ่งโปรแกรมนี้ก็คุ้มค่าคุ้มราคามากๆ เพราะนอกจากจะได้ตรวจโรคหัวใจและหลอดเลือดแล้ว ยังได้ตรวจโรคตับ รวมถึงโรคไตด้วย แถมขั้นตอนการตรวจก็ไม่ยุ่งยาก ห้องแล็บมีมาตรฐาน น่าเชื่อถือ เราเลยตัดสินใจเลือกจองโปรแกรมนี้ทันทีค่ะ
สารบัญ
รีวิวตรวจความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคตับ และโรคไต ที่ BT Laboratory System
พอมาถึงที่ BT Laboratory System ก็แจ้งกับเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์ได้เลยค่ะว่ามาใช้บริการตรวจความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคตับ และโรคไต จากนั้นเจ้าหน้าที่จะให้ลงทะเบียนไข้ใหม่ก่อน
หลังจากลงทะเบียนเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะมาอธิบายให้ฟังว่าโปรแกรมที่จองมาจะได้ตรวจอะไรบ้าง ซึ่งรายการตรวจของโปรแกรมตรวจความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคตับ และโรคไต ก็จะได้ตรวจทั้งหมด 19 รายการ ดังนี้ค่ะ
- ตรวจการอักเสบ คัดกรองโรคหัวใจและหลอดเลือด C-Reactive Protein High Sens.
- ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด Glucose (Fasting)
- ตรวจระดับน้ำตาลสะสมในเลือด HbA1c
- ตรวจระดับไขมันในเลือด 4 รายการ (Chol , Tri , HDL , LDL)
- ตรวจการทำงานของไต 4 รายการ (BUN,Cre,eGFR,Uric acid)
- ตรวจการทำงานของตับ 5 รายการ (TP , ALB , AST , ALT , ALP)
- ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี HBs Ag
- ตรวจภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัสตับอักเสบบี HBs Ab
- ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบชี Anti HCV
- ตรวจปัสสาวะ
พอเจ้าหน้าที่อธิบายข้อมูลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อไปเราก็ไปพบนักเทคนิคการแพทย์เพื่อวัดความดัน ซักประวัติเบื้องต้น เช่น อาการแพ้ยา โรคประจำตัว และเริ่มเจาะเลือดกันเลยค่ะ
ขั้นตอนการเจาะเลือด
สำหรับขั้นตอนการเจาะเลือดก็ไม่มีอะไรมากค่ะ นักเทคนิคการแพทย์จะให้วางแขนขึ้นมาไว้บนเบาะรอง จากนั้นก็นำสายมารัดที่ต้นแขนเพื่อทำให้เห็นเส้นเลือดชัดขึ้น
หลังจากหาเส้นเลือดได้แล้วนักเทคนิคการแพทย์จะเริ่มทำการเจาะเลือดเลยทันที โดยรวมใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีก็เสร็จแล้วค่ะ รวดเร็วมากๆ แถมนักเทคนิคการแพทย์ยังมือเบาสุดๆ ไม่รู้สึกเจ็บเลย
ขั้นตอนการเก็บปัสสาวะ
ขั้นตอนถัดมาจะเป็นการเก็บปัสสาวะค่ะ โดยนักเทคนิคการแพทย์จะให้กระบอกเก็บตัวอย่างมาพร้อมกับแนะนำว่าให้เลือกเก็บปัสสาวะในช่วงกลางและปล่อยปัสสาวะช่วงแรกกับช่วงท้ายทิ้งไป
หลังจากได้รับคำแนะนำแล้ว เราก็เข้าไปเก็บปัสสาวะในห้องน้ำได้เลย พอเก็บตัวอย่างเสร็จก็นำกระบอกมาส่งคืนเจ้าหน้าที่ เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนการตรวจแล้วค่ะ
สำหรับผลตรวจเจ้าหน้าที่แจ้งว่าทาง BT Laboratory System จะส่งผลตรวจมาให้ทางอีเมล รอประมาณ 2-3 ชั่วโมงผลก็ออกแล้วค่ะ สะดวก รวดเร็วสุดๆ ไปเลย
ผลการตรวจสุขภาพ
หลังจากได้รับผลตรวจทางอีเมลแล้ว จะมีนักเทคนิคการแพทย์โทรมารายงานผลและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับผลตรวจอีกด้วย
สำหรับผลตรวจของเราที่ออกมา โดยรวมแล้วค่าทุกอย่างก็อยู่ในเกณฑ์ที่ปกติดีค่ะ ไม่มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือด โรคตับ และโรคไตแต่อย่างใด
พอรู้ผลตรวจแบบนี้แล้ว เราก็รู้สึกสบายใจขึ้นมากๆ ที่สุขภาพยังแข็งแรงดีอยู่ แต่ถึงยังไงเราก็ยังชะล่าใจไม่ได้และต้องดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดีแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ รวมถึงควรมาตรวจคัดกรองเป็นประจำทุกปีด้วยค่ะ
บรรยากาศของ BT Laboratory System
บรรยากาศของ BT Laboratory System พอได้เข้าไปใช้บริการแล้วเราก็รู้สึกประทับใจมากเลยค่ะ เพราะสถานที่ดูสะอาด มีความเป็นส่วนตัวสูง ตกแต่งโทนสีสบายตา โล่งโปร่งสบาย ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดเลย
ด้านการให้บริการก็ทำให้เรารู้สึกอุ่นใจไม่แพ้กัน เจ้าหน้าที่และนักเทคนิคการแพทย์ทุกคนให้การต้อนรับเป็นอย่างดี คอยดูแลทุกขั้นตอน ให้คำแนะนำละเอียด คิดไม่ผิดจริงๆ ค่ะที่เลือกมาใช้บริการที่นี่
สำหรับใครที่กำลังมองหาโปรแกรมตรวจความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคตับ และโรคไต ที่ราคาไม่แรง ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่นาน เราขอแนะนำให้มาตรวจ ที่ BT Laboratory System เลยค่ะ คุ้มค่าถูกใจแน่นอน
ที่สำคัญถ้าเพื่อนๆ ซื้อแพ็กเกจผ่าน HDmall.co.th ก็จะได้รับโปรโมชันที่ยิ่งคุ้มเข้าไปอีกค่ะ แถมขั้นตอนการจองก็ง่าย สะดวกสบาย มีแอดมินคอยให้บริการอยู่ตลอด ลองเข้าไปเลือกดูได้เลยค่า